สืบเนื่องจาก ผมได้วางแผนจะส่งลูกชาย ไปเรียนภาษา ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 เดือน
ติดต่อโรงเรียน จ่ายเงิน ทำวีซ่า เรียบร้อยหมดแล้ว กำหนดเดินทางต้นเดือนหน้า
ทางโรงเรียนก็ได้ส่งที่อยู่ และ อีเมล์ของโฮสต์มาให้
ด้วยความที่ผมอยากจะแนะนำตัว และ เขียนเล่าลักษณะนิสัยของลูก เพื่อที่ทางโฮสต์จะรับทราบเอาไว้เป็นไกด์ไลน์
เพราะลูกผม ต้องอาศัยอยู่กับเขา 2 เดือนเต็ม ตามข้อตกลง โฮสต์จะทำอาหารเช้า และ เย็น ให้ในวันจันทร์ ถึง ศุกร์ และ 3 มื้อในวันเสาร์ อาทิตย์
ก็เลยเมล์ไปหา พร้อมส่งรูปลูกชาย และ ลักษณะนิสัยเขา เช่น เป็นลูกคนเดียว เป็นคนนอนดึก ตื่นสาย (แต่ตอนมีเรียนหนังสือ จะตื่นเช้า)
ชอบอาหารอะไร ไม่ชอบอะไร (ซึ่งตอนส่งใบสมัคร ทางโรงเรียนเขาก็ถามในใบสมัครแล้ว)
แต่ด้วยความที่ ผมเองก็ภาษาไม่แข็งแรง ก็คงจะสื่อสารผิดไปจากที่ตั้งใจไว้ ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ครับ
ทางโฮสต์ ขอยกเลิกข้อตกลงที่จะรับลูกชายของผม โดยเขาไม่ตอบเมล์ผม แต่ไปบอกกับทางโรงเรียนแทน และทางโรงเรียนได้เมล์มาบอกกับผมอีกที
ตอนนี้ ผมคงต้องรอให้ทางโรงเรียนจัดหาโฮสต์ใหม่มาให้
แต่หลายวันมานี้ ผมไม่สบายใจมากที่ยังค้างคาใจอยู่ อยากจะอธิบายให้ โฮสต์เก่าได้รับทราบเอาไว้ว่า เราเอง มิได้มีเจตนาแบบนั้น ที่เมล์ไปนั้นก็เพราะแค่ให้เขารับทราบข้อมูลเฉย ๆ ไม่ได้มีเจตนาต้องการให้เขามาดูแลลูกของเราเป็นพิเศษ (เขาเอง คงจะเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ ของเด็กในอดีตมาก่อน ก็เลยเข็ดขยาด ซึ่งผมเองก็ไม่อยากคิดว่า เป็นเด็กไทย)
เลยต้องขอรบกวนให้ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ในพันทิพ ช่วยร่างจดหมาย อธิบาย และ ขอโทษเขาด้วยครับ เพราะที่ผ่านมา เป็นความผิดของผมเองที่เมล์ไปโดยไม่ได้สอบถามผู้รู้ภาษา และ ผู้รู้วัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นมาก่อน ก็เลยทำให้เกิดข้อผิดพลาดนี้
ผมไม่อยากให้เขาค้างคาใจ ว่าคนไทยเป็นคนแบบนี้ จริง ๆ แล้ว ผมแค่อยากจะบอกว่า ลูกผมเป็นคนกินยาก ผมเกรงใจเขา ถ้าเขาทำอาหารให้แล้วลูกผมทานไม่ได้ ก็จะเสียดาย ผมกำชับลูกแล้วว่า อยู่บ้านเขาต้องพยายามกินให้ได้ และ ให้ซื้อของกินเข้าบ้านด้วย ถ้ากินอาหารที่เขาทำไม่ได้ก็กินของที่ตัวเองซื้อตุนเอาไว้ อย่าออกจากบ้านดึก ๆ และถ้าเป็นวันที่มีเรียนก็ต้องตื่นเช้า ๆ เพราะคนญี่ปุ่นเป็นคนที่ตรงต่อเวลามาก อย่านอนดึกตื่นสาย (ที่เมืองไทย ลูกผมจะนอนดึก ตื่นสายในวันที่ไม่มีเรียนหนังสือ)
อันนี้คือเมล์ที่ผมส่งไปครับ (ยอมรับเลยว่า พลาดมากจริง ๆ )
Dear Mr. ........ - San,
こんにちは。
はじめまして。
My name is Vittaya.
I'm Thitipong's father.
My son nickname Mammoth, He's 15 years old and He is the only child.
He is a fussy eater, He love shrimp Tempura but don't like shrimp.
He love Udon Ramen Curry Rice and don't like Beef, Salmon, Crab, Fish and Raw Fish.
He always go to bed stay up until late and get up late.
どうぞ よろしく おねがいします。
Best Regards,
Vittaya.
......................................................................................................................................................................
ส่วนอันนี้ ทางโรงเรียนตอบกลับมาครับ
Dear Patraras
This is ........ Japanese Institute. His family can not accept Mr Thitipong this time.
So, we need to find another family for him.
The reason is…
The family contacted us by e-mail today after the family saw and read the e-mail from Mr Thitipong’s father.
According to the family, they lost their confidence after reading his father’s e-mail saying ‘ His food diets ‘ and ‘ His habit < Sleeping late and can not get up early,
Therefore よろしくおねがいします > ‘
Therefore, the family declared that they could not accept him after second thought.
They also had a hard time to take care of another student in the past ( he also could not control his basic life style )
All families accept foreign students as part of international cultural exchange. It does not mean the family can change the student’ s habit to match to Japanese life style, and also it is not possible for foreign students’ parents to expect each family to do some basic daily things such as waking them up early in the morning to not to be late for school.
We will try to find another new family for him. But please tell him and his father not to expect somebody to help waking him up in the morning.
He needs to wake up by himself and it is better not to ask to take care of very basic things.
Of course, we can help him if something happens..but getting up in the morning is a very basic thing in our daily life.
Nobody can help such a thing.
We are sorry to force the situation we must change to another family.
Please also advise them to understand this although it is inconvenience for them
Thank you so much.
Sincerely
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
อยากรบกวนให้ช่วยร่างจดหมายเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยครับ เพื่อที่ว่า ผมจะส่งไปขอโทษ และ อธิบายให้เขาได้เข้าใจ แม้ว่า เขาจะไม่รับลูกชายผมเข้าพักแล้ว แต่ผมไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด และ พิพากษาไปว่า คนไทยจะเป็นแบบนี้ทุก ๆ คน
นี่เป็นบทเรียนบทสำคัญที่ผมได้บอกลูกไปว่า การจะไปอยู่ในประเทศไหน ต้องเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ด้วย สิ่งที่เราคิดว่า แค่บอกเล่าให้เขารับทราบ อาจจะเป็นเรื่องที่ใหญ่โตในสายตาของเขาก็ได้ และ การได้ไปเรียนในต่างประเทศ ก็อย่าทำอะไรๆ สบาย ๆ ง่าย ๆ เหมือนอยู่ที่บ้าน
ขอบคุณมากครับ
วิทยา
รบกวนช่วยเขียนจดหมายทำความเข้าใจกับคนญี่ปุ่นด้วยครับ
ติดต่อโรงเรียน จ่ายเงิน ทำวีซ่า เรียบร้อยหมดแล้ว กำหนดเดินทางต้นเดือนหน้า
ทางโรงเรียนก็ได้ส่งที่อยู่ และ อีเมล์ของโฮสต์มาให้
ด้วยความที่ผมอยากจะแนะนำตัว และ เขียนเล่าลักษณะนิสัยของลูก เพื่อที่ทางโฮสต์จะรับทราบเอาไว้เป็นไกด์ไลน์
เพราะลูกผม ต้องอาศัยอยู่กับเขา 2 เดือนเต็ม ตามข้อตกลง โฮสต์จะทำอาหารเช้า และ เย็น ให้ในวันจันทร์ ถึง ศุกร์ และ 3 มื้อในวันเสาร์ อาทิตย์
ก็เลยเมล์ไปหา พร้อมส่งรูปลูกชาย และ ลักษณะนิสัยเขา เช่น เป็นลูกคนเดียว เป็นคนนอนดึก ตื่นสาย (แต่ตอนมีเรียนหนังสือ จะตื่นเช้า)
ชอบอาหารอะไร ไม่ชอบอะไร (ซึ่งตอนส่งใบสมัคร ทางโรงเรียนเขาก็ถามในใบสมัครแล้ว)
แต่ด้วยความที่ ผมเองก็ภาษาไม่แข็งแรง ก็คงจะสื่อสารผิดไปจากที่ตั้งใจไว้ ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ครับ
ทางโฮสต์ ขอยกเลิกข้อตกลงที่จะรับลูกชายของผม โดยเขาไม่ตอบเมล์ผม แต่ไปบอกกับทางโรงเรียนแทน และทางโรงเรียนได้เมล์มาบอกกับผมอีกที
ตอนนี้ ผมคงต้องรอให้ทางโรงเรียนจัดหาโฮสต์ใหม่มาให้
แต่หลายวันมานี้ ผมไม่สบายใจมากที่ยังค้างคาใจอยู่ อยากจะอธิบายให้ โฮสต์เก่าได้รับทราบเอาไว้ว่า เราเอง มิได้มีเจตนาแบบนั้น ที่เมล์ไปนั้นก็เพราะแค่ให้เขารับทราบข้อมูลเฉย ๆ ไม่ได้มีเจตนาต้องการให้เขามาดูแลลูกของเราเป็นพิเศษ (เขาเอง คงจะเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ ของเด็กในอดีตมาก่อน ก็เลยเข็ดขยาด ซึ่งผมเองก็ไม่อยากคิดว่า เป็นเด็กไทย)
เลยต้องขอรบกวนให้ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ในพันทิพ ช่วยร่างจดหมาย อธิบาย และ ขอโทษเขาด้วยครับ เพราะที่ผ่านมา เป็นความผิดของผมเองที่เมล์ไปโดยไม่ได้สอบถามผู้รู้ภาษา และ ผู้รู้วัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นมาก่อน ก็เลยทำให้เกิดข้อผิดพลาดนี้
ผมไม่อยากให้เขาค้างคาใจ ว่าคนไทยเป็นคนแบบนี้ จริง ๆ แล้ว ผมแค่อยากจะบอกว่า ลูกผมเป็นคนกินยาก ผมเกรงใจเขา ถ้าเขาทำอาหารให้แล้วลูกผมทานไม่ได้ ก็จะเสียดาย ผมกำชับลูกแล้วว่า อยู่บ้านเขาต้องพยายามกินให้ได้ และ ให้ซื้อของกินเข้าบ้านด้วย ถ้ากินอาหารที่เขาทำไม่ได้ก็กินของที่ตัวเองซื้อตุนเอาไว้ อย่าออกจากบ้านดึก ๆ และถ้าเป็นวันที่มีเรียนก็ต้องตื่นเช้า ๆ เพราะคนญี่ปุ่นเป็นคนที่ตรงต่อเวลามาก อย่านอนดึกตื่นสาย (ที่เมืองไทย ลูกผมจะนอนดึก ตื่นสายในวันที่ไม่มีเรียนหนังสือ)
อันนี้คือเมล์ที่ผมส่งไปครับ (ยอมรับเลยว่า พลาดมากจริง ๆ )
Dear Mr. ........ - San,
こんにちは。
はじめまして。
My name is Vittaya.
I'm Thitipong's father.
My son nickname Mammoth, He's 15 years old and He is the only child.
He is a fussy eater, He love shrimp Tempura but don't like shrimp.
He love Udon Ramen Curry Rice and don't like Beef, Salmon, Crab, Fish and Raw Fish.
He always go to bed stay up until late and get up late.
どうぞ よろしく おねがいします。
Best Regards,
Vittaya.
......................................................................................................................................................................
ส่วนอันนี้ ทางโรงเรียนตอบกลับมาครับ
Dear Patraras
This is ........ Japanese Institute. His family can not accept Mr Thitipong this time.
So, we need to find another family for him.
The reason is…
The family contacted us by e-mail today after the family saw and read the e-mail from Mr Thitipong’s father.
According to the family, they lost their confidence after reading his father’s e-mail saying ‘ His food diets ‘ and ‘ His habit < Sleeping late and can not get up early,
Therefore よろしくおねがいします > ‘
Therefore, the family declared that they could not accept him after second thought.
They also had a hard time to take care of another student in the past ( he also could not control his basic life style )
All families accept foreign students as part of international cultural exchange. It does not mean the family can change the student’ s habit to match to Japanese life style, and also it is not possible for foreign students’ parents to expect each family to do some basic daily things such as waking them up early in the morning to not to be late for school.
We will try to find another new family for him. But please tell him and his father not to expect somebody to help waking him up in the morning.
He needs to wake up by himself and it is better not to ask to take care of very basic things.
Of course, we can help him if something happens..but getting up in the morning is a very basic thing in our daily life.
Nobody can help such a thing.
We are sorry to force the situation we must change to another family.
Please also advise them to understand this although it is inconvenience for them
Thank you so much.
Sincerely
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
อยากรบกวนให้ช่วยร่างจดหมายเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยครับ เพื่อที่ว่า ผมจะส่งไปขอโทษ และ อธิบายให้เขาได้เข้าใจ แม้ว่า เขาจะไม่รับลูกชายผมเข้าพักแล้ว แต่ผมไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด และ พิพากษาไปว่า คนไทยจะเป็นแบบนี้ทุก ๆ คน
นี่เป็นบทเรียนบทสำคัญที่ผมได้บอกลูกไปว่า การจะไปอยู่ในประเทศไหน ต้องเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ด้วย สิ่งที่เราคิดว่า แค่บอกเล่าให้เขารับทราบ อาจจะเป็นเรื่องที่ใหญ่โตในสายตาของเขาก็ได้ และ การได้ไปเรียนในต่างประเทศ ก็อย่าทำอะไรๆ สบาย ๆ ง่าย ๆ เหมือนอยู่ที่บ้าน
ขอบคุณมากครับ
วิทยา