เปิดเรื่องมาที่สำนักงานฮีโร่ของ Sir Nighteye
Nighteye ได้เชิญฮีโร่จำนวนมากมารวมกัน ซึ่งอิสึคุก็คิดในใจว่าคนที่มาร่วมประชุมนั้นมีตั้งแต่ฮีโร่ชั้นแนวหน้าไปจนถึงฮีโร่ระดับท้องถิ่นเลย
ส่วนอาจารย์ไอซาว่านั้นบอกว่าจู่ๆ Nighteye ก็ติดต่อมาหาเพื่อขอให้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งเมื่ออ.ไอซาว่าได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างคร่าวๆแล้วเขาก็ตัดสินใจมาเข้าร่วมประชุมด้วยทันที
ทางด้าน Fatgum ก็บอกว่าที่เขามาที่นี่ก็เพราะเหตุที่ตัวเขาและพวกคิริชิมะและอามาจิคิไปเจอมาคราวก่อนนั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
แล้วก็เริ่มการประชุม
ตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ก่อน Nighteye Hero Office ได้เริ่มทำการสืบสวนกลุ่มยากูซ่าที่ใช้ชื่อว่า "สัจธรรมแห่งความตายทั้งแปด"
โดยมีจุดเริ่มจากเหตุที่กลุ่มวายร้ายกระจอกกลุ่มหนึ่งประสบอุบัติเหตุขึ้นขณะที่ก่ออาชญากรรม ซึ่งทางตำรวจลงความเห็นว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา แต่ Nighteye เห็นว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล จึงเริ่มการสอบสวนขึ้น
Nighteye ได้มอบหมายให้ผู้ช่วยของเขา Centipeder ทำหน้าที่เฝ้าจับตาดู ซึ่งเขาก็พบว่ามีการติดต่อกับสมาชิกขององค์กรใต้ดินและคนนอกกลุ่มหลายครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่ากลุ่มนี้กำลังดำเนินการเพื่อขยายอิทธิพลและรวบรวมเงินทุนอยู่
และเมื่อไม่นานมานี้ Overhaul ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มได้ติดต่อกับ บุบะกาวาระ จิน หรือชี่อในวงการวายร้ายว่า "Twice" สมาชิกของ Villian Alliance ซึ่งเนื่องจากพวกมันระมัดระวังมากทำให้ Centipeder ไม่สามารถติดตามไปได้ แต่ก็เขาก็ได้ติดต่อให้ทางตำรวจรับทราบไว้ ซึ่งภายหลังจากนั้นก็พบว่าเกิดการขัดแย้งกันขึ้นในสถานที่ที่คาดว่าเป็นจุดนัดพบ
ซึ่งด้วยเหตุว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ Villian Alliance ด้วย ทาง Nighteye จึงได้ติดต่อไปยัง Gran Torino และสารวัตรทสึคาอุจิที่กำลังตามสืบเรืองนี้อยู่
(สารวัตรทสึคาอุจิติดงานต้องสัมภาษณ์พยานอยู่จึงไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย)
ถึงตรงนี้ Gran Torino ก็หันไปหาอิสึคุ
Gran Torino : นี่เจ้าหนู ฉันไม่นึกว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้...แกโดนดึงเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องน่ารำคาญเข้าซะแล้ว...
อิสึคุ : ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้มัน "น่ารำคาญ" หรอกครับ
โทกาตะ : นายรู้จักเขารึ?!
อิสึคุ : จากเมื่อช่วงที่ผมไปฝึกงานน่ะครับ
คิริชิมะ : {นั่นมันคุณปู่คนที่สู้ร่วมกับออลไมท์ที่คามิโนะนี่นา! มิโดริยะรู้จักคนสุดยอดเลยแฮะ}
จากนั้นก็มาร่วมประชุมกันต่อ
เมื่อทางสำนักงาน Nighteye รวบรวมข้อมูลมาได้ระดับหนึ่งแล้ว ก็ได้ขอความร่วมมือจากฮีโร่อื่นๆผ่านทาง HN (Hero Network)
(เป็นเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ตที่มีเฉพาะฮีโร่อาชีพเท่านั้นที่ใช้ได้ โดยฮีโร่จะสามารถดูรายงานและติดต่อขอความช่วยเหลือจากฮีโร่คนอื่นๆที่มีอัตลักษณ์ที่เหมาะสมกับกรณีนั้นๆได้)
ถึงตรงนี้ฮีโร่ที่แต่งตัวธีมกุญแจที่ร่วมประชุมด้วยก็สงสัยว่าแล้วพวกเด็กนักเรียนยูเอย์พวกนี้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย?
Fatgum จึงบอกว่าทั้งคิริชิมะและอามาจิคิคือพยานสำคัญของคดีนี้!
เนื่องจากกลุ่มสัจธรรมแห่งความตายทั้งแปดนั้นหาเงินด้วยการขายของผิดกฎหมาย ดังนั้น Nighteye จึงขอความช่วยเหลือจากฮีโร่ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้อย่าง Fatgum
และก็พอดีกับที่ Fatgum และคิริชิมะกับอามาจิคิ ได้เผชิญหน้ากับวายร้ายกระจอกที่ใช้ยาที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน...มันคือยาทื่ทำให้อัตลักษณ์ใช้การไม่ได้
ซึ่งก็นับว่าเป็นเคราะห์ดีที่อามาจิคิกลับมาใช้งานอัตลักษณ์ได้ในวันต่อมา
ตรงนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องขอความร่วมมือจากอาจารย์ไอซาว่า ที่มีอัตลักษณ์ที่สามารถลบล้างอัตลักษณ์ของคนที่ถูกจ้องมองได้
อ.ไอซาว่าจึงวิเคราะห์ว่ามันต่างจากอัตลักษณ์ของเขา เพราะเขาไม่ได้เล่นงานที่ตัวอัตลักษณ์โดยตรง
ในตัวของมนุษย์ที่มีอัตลักษณ์นั้นจะมีสารพิเศษที่เรียกว่า "Plus Alpha" อยู่ ซึ่งสารตัวนี้คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์คนนั้นมีและใช้งานอัตลักษณ์ได้ ซึ่งอัตลักษณ์ของอ.ไอซาว่าจะไปรบกวนการทำงานของ Plus Alpha ทำให้เป้าหมายไม่สามารถใช้งานอัตลักษณ์ได้ชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถทำให้ใช้งานไม่ได้เป็นระยะเวลานานๆได้
แต่ในกรณีของอามาจิคินั้น เมื่อทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้วก็พบว่า Plus Alpha ของเขาได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่มันฟื้นฟูกลับมาเองตามธรรมชาติได้ รวมทั้งร่างกายของเขาก็ไม่มีอาการผิดปกติอื่นใดอีก
แม้จะน่าเสียดายที่ทั้งปืนและกระสุนนั้นถูกทำลายในการต่อสู้กับวายร้ายที่ใช้มันไปแล้ว แต่ก็เป็นโชคดีที่มีนัดหนึ่งที่ถูกยิงใส่คิริชิมะแต่กระดอนออกด้วยอัตลักษณ์ผิวเกราะของเขา ทำให้สามารถเก็บกู้กระสุนที่ยังมียาอยู่ข้างในนัดนั้นกลับมาได้!
และเมื่อทำการตรวจสอบสิ่งที่อยู่ภายใน ก็พบว่ามันมีเลือดและเซลของมนุษย์บรรจุอยู่ภายใน...
นั่นจึงสรุปได้ว่าผลของตัวยานั้นมาจากอัตลักษณ์ของคนๆหนึ่ง คนที่มีอัตลักษณ์ที่สามารถทำลายอัตลักษณ์อื่นๆได้!
เมื่อถึงตรงนี้ทั้งอิสึคุและโทกาตะก็สะดุดใจ….และมีทีท่าเครียดสุดๆขึ้นมา…?!
วายร้ายที่คิริชิมะจับมาได้นั้นเป็นพวกค้าขายยาผิดกฎหมาย ซึ่งเครือข่ายการค้ายานั้นซับซ้อนมาก ถึงแม้ในช่วงนี้พวกมันจะลดน้อยลงไปบ้าง แต่มันก็ยังกระจายไปทั่วผ่านทางคน, กลุ่มคน และองค์กรหลากหลายระดับ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าพวกสัจธรรมแห่งความตายทั้งแปดจะเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายค้ายาผิดกฎหมายนี้ด้วย แต่พวกมันก็มีการติดต่อกับพ่อค้ายาคนกลางรายหนึ่งอยู่ ซึ่งมันก็คือวายร้ายที่กลุ่มของ Ryukyuu จับกุมมาได้เมื่อวันก่อนนั่นเอง
แต่ทั้งหมดนี้มันก็เป็นเพียงการคาดเดา แต่จุดสำคัญที่จะเชื่อมโยงทั้งหมดนั้นมายังกลุ่มสัจธรรมแห่งความตายทั้งแปดก็คือตัวหัวโจกของพวกมัน ชายที่ชื่อว่าชิซากิ หรือที่เรียกตัวเองว่า Overhaul
อัตลักษณ์ของมันคือการแยกอนุภาคของเป้าหมายออกจากกัน และสามารถประกอบกลับเข้ามาใหม่ได้ ซึ่งนั่นทำให้มันสามารถระเบิดร่างกายของมนุษย์ให้กระจุยได้ด้วยการสัมผัส และยังสามารถใช้มันรักษาบาดแผลของเป้าหมายได้อีกด้วย
และจากการที่อิสึคุและโทกาตะไปรู้มาว่า Overhaul มีลูกสาวอยู่ แม้จะไม่สามารถยืนยันได้ว่าจริงหรือไม่เพราะไม่มีในทะเบียนเลยก็ตาม แต่แขนขาของเด็กคนนั้นมีผ้าพันแผลพันอยู่เต็มไปหมด...
ถึงตรงนี้ทั้งอิสึคุและโทกาตะก็หน้าซีดสนิท เพราะพวกเขาปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว...และมันก็เลวร้ายเหลือเกิน...
ยาที่ใช้ลบล้างอัตลักษณ์นั้นคือเลือดและเซลของคนที่มีอัตลักษณ์ลบล้างนั้น...และในเมื่อ Overhaul ที่เป็นคนแพร่ยาไม่ใช่ผู้ที่มีอัตลักษณ์ที่ว่านั่น...ก็หมายความว่ามันสูบเลือดเนื้อของเด็กคนนั้น…คนที่มันอ้างว่าเป็นลูกสาวของมันมาใช้ในการสร้างยานั่นเอง!!
ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าพวกมันขายยานี้เพื่อหาเงินทุนหรือเปล่า? แต่ดูจากผลของยาที่อามาจิคิโดนยิงก็พอจะสรุปได้ว่ามันยังไม่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นจึงอาจคิดได้ว่าพวกมันแจกจ่ายยานี้เพื่อเป็นการทดสอบไปในตัว รวมถึงใช้โฆษณาและรวบรวมคนมาเข้าร่วมกับพวกมันด้วย ซึ่งถ้าพวกมันสามารถดึงคนมาเข้าร่วมกับพวกมันจากที่ต่างๆทั่วประเทศ และรวบรวมเงินทุนมาได้มากพอล่ะก็...พวกมันอาจสามารถสร้างกระสุนที่สามารถลบล้างอัตลักษณ์ได้อย่างฐาวรล่ะก็...? มันมีวิธีใช้ได้มากมายเลยทีเดียว...
Fatgum : แค่คิดฉันก็โกรธจนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดแล้ว!! เราต้องไปค้นรังของพวกมันให้เร็วที่สุด!!!
นายกุญแจ : นี่ก็หมายความว่าถ้าสองคนนั้นสามารถเอาเด็กคนนั้นมาอยู่ในความดูแลได้ตั้งแต่ตอนนั้นล่ะก็ เรื่องทั้งหมดนี่มันก็จบไปแล้วงั้นสิ?!
Nighteye : เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นผมขอรับผิดชอบเอง ดังนั้นผมขอให้คุณอย่าได้กล่าวโทษพวกเขาเลยนะครับ
Nighteye : ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สถานการณ์ของเด็กคนนั้น...
Nighteye : พวกเขาก็พยายามช่วยเธออย่างเต็มที่แล้ว
"มิโดริยะยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อพยายามจะปกป้องเธอในตอนนั้น"
"ส่วนมิริโอก็พยายามจะคิดอย่างรอบคอบ...เพื่อที่หาวิธีที่จะเอาตัวเธอมาอย่างปลอดภัยที่สุดเท่าที่ทำได้..."
Nighteye : ในตอนนี้คนที่เจ็บใจที่สุดในบรรดาคนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด
Nighteye : ก็คือสองคนนี้เองนั้นแหละครับ
ขณะเดียวกันในหัวของทั้งอิสึคุและโทกาตะก็....
อิสึคุ : {ฉัน....ฮีโร่ที่ดีที่สุดภาษาอะไรกัน…!!? งี่เง่าที่สุด!!}
โทกาตะ : {ฉัน...จะช่วยคนให้ได้นับล้านอะไรกัน…!!? บ้าที่สุด!!}
แล้วทั้งสองคนก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน!!
อิสึคุ : ครั้งนี้เราจะไม่ยอมพลาดอีกแล้วล่ะเอริ…!
โทกาตะ : เราจะปกป้องเธอให้ได้!!
Nighteye : ใช้แล้ว และนั่นก็คือเป้าหมายของเรา
การต่อสู้เปิดฉากขึ้นแล้ว!!
Spoil Boku no Hero Academia 135 : เรื่องราวอันน่าชิงชัง
Nighteye ได้เชิญฮีโร่จำนวนมากมารวมกัน ซึ่งอิสึคุก็คิดในใจว่าคนที่มาร่วมประชุมนั้นมีตั้งแต่ฮีโร่ชั้นแนวหน้าไปจนถึงฮีโร่ระดับท้องถิ่นเลย
ส่วนอาจารย์ไอซาว่านั้นบอกว่าจู่ๆ Nighteye ก็ติดต่อมาหาเพื่อขอให้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งเมื่ออ.ไอซาว่าได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างคร่าวๆแล้วเขาก็ตัดสินใจมาเข้าร่วมประชุมด้วยทันที
ทางด้าน Fatgum ก็บอกว่าที่เขามาที่นี่ก็เพราะเหตุที่ตัวเขาและพวกคิริชิมะและอามาจิคิไปเจอมาคราวก่อนนั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
แล้วก็เริ่มการประชุม
ตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ก่อน Nighteye Hero Office ได้เริ่มทำการสืบสวนกลุ่มยากูซ่าที่ใช้ชื่อว่า "สัจธรรมแห่งความตายทั้งแปด"
โดยมีจุดเริ่มจากเหตุที่กลุ่มวายร้ายกระจอกกลุ่มหนึ่งประสบอุบัติเหตุขึ้นขณะที่ก่ออาชญากรรม ซึ่งทางตำรวจลงความเห็นว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา แต่ Nighteye เห็นว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล จึงเริ่มการสอบสวนขึ้น
Nighteye ได้มอบหมายให้ผู้ช่วยของเขา Centipeder ทำหน้าที่เฝ้าจับตาดู ซึ่งเขาก็พบว่ามีการติดต่อกับสมาชิกขององค์กรใต้ดินและคนนอกกลุ่มหลายครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่ากลุ่มนี้กำลังดำเนินการเพื่อขยายอิทธิพลและรวบรวมเงินทุนอยู่
และเมื่อไม่นานมานี้ Overhaul ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มได้ติดต่อกับ บุบะกาวาระ จิน หรือชี่อในวงการวายร้ายว่า "Twice" สมาชิกของ Villian Alliance ซึ่งเนื่องจากพวกมันระมัดระวังมากทำให้ Centipeder ไม่สามารถติดตามไปได้ แต่ก็เขาก็ได้ติดต่อให้ทางตำรวจรับทราบไว้ ซึ่งภายหลังจากนั้นก็พบว่าเกิดการขัดแย้งกันขึ้นในสถานที่ที่คาดว่าเป็นจุดนัดพบ
ซึ่งด้วยเหตุว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ Villian Alliance ด้วย ทาง Nighteye จึงได้ติดต่อไปยัง Gran Torino และสารวัตรทสึคาอุจิที่กำลังตามสืบเรืองนี้อยู่
(สารวัตรทสึคาอุจิติดงานต้องสัมภาษณ์พยานอยู่จึงไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย)
ถึงตรงนี้ Gran Torino ก็หันไปหาอิสึคุ
Gran Torino : นี่เจ้าหนู ฉันไม่นึกว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้...แกโดนดึงเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องน่ารำคาญเข้าซะแล้ว...
อิสึคุ : ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้มัน "น่ารำคาญ" หรอกครับ
โทกาตะ : นายรู้จักเขารึ?!
อิสึคุ : จากเมื่อช่วงที่ผมไปฝึกงานน่ะครับ
คิริชิมะ : {นั่นมันคุณปู่คนที่สู้ร่วมกับออลไมท์ที่คามิโนะนี่นา! มิโดริยะรู้จักคนสุดยอดเลยแฮะ}
จากนั้นก็มาร่วมประชุมกันต่อ
เมื่อทางสำนักงาน Nighteye รวบรวมข้อมูลมาได้ระดับหนึ่งแล้ว ก็ได้ขอความร่วมมือจากฮีโร่อื่นๆผ่านทาง HN (Hero Network)
(เป็นเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ตที่มีเฉพาะฮีโร่อาชีพเท่านั้นที่ใช้ได้ โดยฮีโร่จะสามารถดูรายงานและติดต่อขอความช่วยเหลือจากฮีโร่คนอื่นๆที่มีอัตลักษณ์ที่เหมาะสมกับกรณีนั้นๆได้)
ถึงตรงนี้ฮีโร่ที่แต่งตัวธีมกุญแจที่ร่วมประชุมด้วยก็สงสัยว่าแล้วพวกเด็กนักเรียนยูเอย์พวกนี้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย?
Fatgum จึงบอกว่าทั้งคิริชิมะและอามาจิคิคือพยานสำคัญของคดีนี้!
เนื่องจากกลุ่มสัจธรรมแห่งความตายทั้งแปดนั้นหาเงินด้วยการขายของผิดกฎหมาย ดังนั้น Nighteye จึงขอความช่วยเหลือจากฮีโร่ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้อย่าง Fatgum
และก็พอดีกับที่ Fatgum และคิริชิมะกับอามาจิคิ ได้เผชิญหน้ากับวายร้ายกระจอกที่ใช้ยาที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน...มันคือยาทื่ทำให้อัตลักษณ์ใช้การไม่ได้
ซึ่งก็นับว่าเป็นเคราะห์ดีที่อามาจิคิกลับมาใช้งานอัตลักษณ์ได้ในวันต่อมา
ตรงนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องขอความร่วมมือจากอาจารย์ไอซาว่า ที่มีอัตลักษณ์ที่สามารถลบล้างอัตลักษณ์ของคนที่ถูกจ้องมองได้
อ.ไอซาว่าจึงวิเคราะห์ว่ามันต่างจากอัตลักษณ์ของเขา เพราะเขาไม่ได้เล่นงานที่ตัวอัตลักษณ์โดยตรง
ในตัวของมนุษย์ที่มีอัตลักษณ์นั้นจะมีสารพิเศษที่เรียกว่า "Plus Alpha" อยู่ ซึ่งสารตัวนี้คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์คนนั้นมีและใช้งานอัตลักษณ์ได้ ซึ่งอัตลักษณ์ของอ.ไอซาว่าจะไปรบกวนการทำงานของ Plus Alpha ทำให้เป้าหมายไม่สามารถใช้งานอัตลักษณ์ได้ชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถทำให้ใช้งานไม่ได้เป็นระยะเวลานานๆได้
แต่ในกรณีของอามาจิคินั้น เมื่อทำการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้วก็พบว่า Plus Alpha ของเขาได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่มันฟื้นฟูกลับมาเองตามธรรมชาติได้ รวมทั้งร่างกายของเขาก็ไม่มีอาการผิดปกติอื่นใดอีก
แม้จะน่าเสียดายที่ทั้งปืนและกระสุนนั้นถูกทำลายในการต่อสู้กับวายร้ายที่ใช้มันไปแล้ว แต่ก็เป็นโชคดีที่มีนัดหนึ่งที่ถูกยิงใส่คิริชิมะแต่กระดอนออกด้วยอัตลักษณ์ผิวเกราะของเขา ทำให้สามารถเก็บกู้กระสุนที่ยังมียาอยู่ข้างในนัดนั้นกลับมาได้!
และเมื่อทำการตรวจสอบสิ่งที่อยู่ภายใน ก็พบว่ามันมีเลือดและเซลของมนุษย์บรรจุอยู่ภายใน...
นั่นจึงสรุปได้ว่าผลของตัวยานั้นมาจากอัตลักษณ์ของคนๆหนึ่ง คนที่มีอัตลักษณ์ที่สามารถทำลายอัตลักษณ์อื่นๆได้!
เมื่อถึงตรงนี้ทั้งอิสึคุและโทกาตะก็สะดุดใจ….และมีทีท่าเครียดสุดๆขึ้นมา…?!
วายร้ายที่คิริชิมะจับมาได้นั้นเป็นพวกค้าขายยาผิดกฎหมาย ซึ่งเครือข่ายการค้ายานั้นซับซ้อนมาก ถึงแม้ในช่วงนี้พวกมันจะลดน้อยลงไปบ้าง แต่มันก็ยังกระจายไปทั่วผ่านทางคน, กลุ่มคน และองค์กรหลากหลายระดับ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าพวกสัจธรรมแห่งความตายทั้งแปดจะเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายค้ายาผิดกฎหมายนี้ด้วย แต่พวกมันก็มีการติดต่อกับพ่อค้ายาคนกลางรายหนึ่งอยู่ ซึ่งมันก็คือวายร้ายที่กลุ่มของ Ryukyuu จับกุมมาได้เมื่อวันก่อนนั่นเอง
แต่ทั้งหมดนี้มันก็เป็นเพียงการคาดเดา แต่จุดสำคัญที่จะเชื่อมโยงทั้งหมดนั้นมายังกลุ่มสัจธรรมแห่งความตายทั้งแปดก็คือตัวหัวโจกของพวกมัน ชายที่ชื่อว่าชิซากิ หรือที่เรียกตัวเองว่า Overhaul
อัตลักษณ์ของมันคือการแยกอนุภาคของเป้าหมายออกจากกัน และสามารถประกอบกลับเข้ามาใหม่ได้ ซึ่งนั่นทำให้มันสามารถระเบิดร่างกายของมนุษย์ให้กระจุยได้ด้วยการสัมผัส และยังสามารถใช้มันรักษาบาดแผลของเป้าหมายได้อีกด้วย
และจากการที่อิสึคุและโทกาตะไปรู้มาว่า Overhaul มีลูกสาวอยู่ แม้จะไม่สามารถยืนยันได้ว่าจริงหรือไม่เพราะไม่มีในทะเบียนเลยก็ตาม แต่แขนขาของเด็กคนนั้นมีผ้าพันแผลพันอยู่เต็มไปหมด...
ถึงตรงนี้ทั้งอิสึคุและโทกาตะก็หน้าซีดสนิท เพราะพวกเขาปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว...และมันก็เลวร้ายเหลือเกิน...
ยาที่ใช้ลบล้างอัตลักษณ์นั้นคือเลือดและเซลของคนที่มีอัตลักษณ์ลบล้างนั้น...และในเมื่อ Overhaul ที่เป็นคนแพร่ยาไม่ใช่ผู้ที่มีอัตลักษณ์ที่ว่านั่น...ก็หมายความว่ามันสูบเลือดเนื้อของเด็กคนนั้น…คนที่มันอ้างว่าเป็นลูกสาวของมันมาใช้ในการสร้างยานั่นเอง!!
ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าพวกมันขายยานี้เพื่อหาเงินทุนหรือเปล่า? แต่ดูจากผลของยาที่อามาจิคิโดนยิงก็พอจะสรุปได้ว่ามันยังไม่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นจึงอาจคิดได้ว่าพวกมันแจกจ่ายยานี้เพื่อเป็นการทดสอบไปในตัว รวมถึงใช้โฆษณาและรวบรวมคนมาเข้าร่วมกับพวกมันด้วย ซึ่งถ้าพวกมันสามารถดึงคนมาเข้าร่วมกับพวกมันจากที่ต่างๆทั่วประเทศ และรวบรวมเงินทุนมาได้มากพอล่ะก็...พวกมันอาจสามารถสร้างกระสุนที่สามารถลบล้างอัตลักษณ์ได้อย่างฐาวรล่ะก็...? มันมีวิธีใช้ได้มากมายเลยทีเดียว...
Fatgum : แค่คิดฉันก็โกรธจนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดแล้ว!! เราต้องไปค้นรังของพวกมันให้เร็วที่สุด!!!
นายกุญแจ : นี่ก็หมายความว่าถ้าสองคนนั้นสามารถเอาเด็กคนนั้นมาอยู่ในความดูแลได้ตั้งแต่ตอนนั้นล่ะก็ เรื่องทั้งหมดนี่มันก็จบไปแล้วงั้นสิ?!
Nighteye : เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นผมขอรับผิดชอบเอง ดังนั้นผมขอให้คุณอย่าได้กล่าวโทษพวกเขาเลยนะครับ
Nighteye : ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สถานการณ์ของเด็กคนนั้น...
Nighteye : พวกเขาก็พยายามช่วยเธออย่างเต็มที่แล้ว
"มิโดริยะยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อพยายามจะปกป้องเธอในตอนนั้น"
"ส่วนมิริโอก็พยายามจะคิดอย่างรอบคอบ...เพื่อที่หาวิธีที่จะเอาตัวเธอมาอย่างปลอดภัยที่สุดเท่าที่ทำได้..."
Nighteye : ในตอนนี้คนที่เจ็บใจที่สุดในบรรดาคนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด
Nighteye : ก็คือสองคนนี้เองนั้นแหละครับ
ขณะเดียวกันในหัวของทั้งอิสึคุและโทกาตะก็....
อิสึคุ : {ฉัน....ฮีโร่ที่ดีที่สุดภาษาอะไรกัน…!!? งี่เง่าที่สุด!!}
โทกาตะ : {ฉัน...จะช่วยคนให้ได้นับล้านอะไรกัน…!!? บ้าที่สุด!!}
แล้วทั้งสองคนก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน!!
อิสึคุ : ครั้งนี้เราจะไม่ยอมพลาดอีกแล้วล่ะเอริ…!
โทกาตะ : เราจะปกป้องเธอให้ได้!!
Nighteye : ใช้แล้ว และนั่นก็คือเป้าหมายของเรา
การต่อสู้เปิดฉากขึ้นแล้ว!!