เปิดเรื่องมาที่สำนักงานฮีโร่ของ Sir Nighteye
ทั้งอิสึคุและโทกาตะต่างตั้งมั่นว่าครั้งนี้พวกเขาจะต้องช่วยเหลือ "เอริ" เด็กหญิงที่พวกเขาเคยปล่อยให้ต้องกลับไปอยู่ในเงื้อมมือของ Overhaul อีกครั้งให้จงได้!
แต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่ายๆ...
นายฮีโร่กุญแจได้วิเคราะห์ว่าในเมื่อเด็กคนนั้นเป็นส่วนสำคัญของแผนการของมัน Overhaul ย่อมต้องการที่จะซ่อนตัวหล่อนไว้จากทุกคนอยู่แล้ว แต่เด็กคนนั้นก็หนีออกมาได้ แถมยังถูกพบเห็นโดยฮีโร่ฝึกหัดอย่างพวกอิสึคุด้วย...
พวกมันคงไม่มีทางเก็บเธอไว้ที่เดิมอีกแล้วแน่นอน แถมต่อให้พวกเขาจู่โจมฐานที่มั่นของพวกมันได้ แต่ถ้าเด็กคนนั้นยังอยู่ในมือของ Overhaul มันก็สามารถเริ่มปฏิบัติการของมันขึ้นมาใหม่ได้เสมอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหาที่อยู่ที่แน่ชัดของเด็กคนนั้นเสียก่อน
Nighteye ก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ถ้าพวกเขาไม่สามารถจัดการพวกมันให้จบลงไปในครั้งเดียว ก็อาจเป็นการเปิดช่องให้พวกมันโต้กลับในภายหลังได้
ดังนั้นเขาจึงค้นรายชื่อขององค์การอาชญากรรมทีเกี่ยวข้องกับกลุ่ม "สัจธรรมแห่งความตายทั้งแปด" รวมถึงสถานที่ตั้งที่อยู่ในการควบคุมของพวกมันจากทั่วประเทศมาไว้แล้ว
และนั่นก็เป็นหน้าที่ของบรรดาฮีโร่ระดับท้องถิ่นที่ Nighteye เรียกตัวมา เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบสถานที่ที่อยู่ในเขตดูแลของพวกเขา
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับวิธีที่ดูจะระมัดระวังสุดๆของ Nighteye…
Fatgum รู้สึกว่าวิธีการของ Nighteye นั้นอ้อมค้อมและใช้เวลามากเกินไป ทั้งที่ตอนนี้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งกำลังตกอยู่ในอันตรายแท้ๆ! ทั้งที่เขาเองก็เคยเป็นผู้ช่วยของ All Might มาก่อนด้วย!
Nighteye ก็โต้ว่าพวกเขาไม่มีทางทำแบบออลไมท์ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องตรวจสอบและคาดเดาทุกความเป็นไปได้ให้ถี่ถ้วนเพื่อให้เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในการช่วยเหลือเด็กคนนั้นใกล้เคียง 100% ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ซึ่ง Gran Torino ก็เห็นด้วยกับ Nighteye เพราะหากว่าพวกเขาทำอะไรผิดพลาดไปในตอนที่จับกุมพวก Overhaul มันอาจจะยิ่งทำให้เรื่องราวลุกลามขึ้นไปได้ เหมือนเมื่อครั้งที่การจับกุม Hero Killer Stain กลับทำให้พวก Villian Alliance ได้รับชื่อเสียงและขยายกองกำลังมากขึ้นไปอีก แถมการที่มันแจกจ่ายยาที่ทำลายอัตลักษณ์ได้นี้ก็อาจจะมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่อีกก็ได้
ในตอนที่ทุกคนต่างก็โต้เถียงกันอยู๋นั้น อ.ไอซาว่าก็ยกมือขอถามคำถาม Nighteye สักข้อ
ถึงแม้อ.ไอซาว่าจะไม่รู้เรื่องของอัตลักษณ์ของ Nighteye ดีนัก แต่ถ้าเขาสามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ล่ะก็ เขาก็น่าจะลองใช้มันคาดเดาผลของการปฏิบัติงานครั้งนี้ดู เพราะถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็คงจะมีแต่เถียงกันไม่จบไม่สิ้นเท่านั้นเอง...
แต่ Nighteye ก็บอกว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้
อัตลักษณ์ "Foresight" ของเขานั้นหากใช้ไปครั้งหนึ่งแล้วจะต้องรออีก 24 ชั่วโมงจึงจะสามารถใช้ใหม่ได้ แถมแต่ละครั้งก็ใช้ได้เพียง 1 ชั่วโมง กับเป้าหมายเพียงคนเดียวเท่านั้นด้วย
และเมื่อเขาใช้อัตลักษณ์ เขาจะเห็นภาพเหตุการณ์ในชีวิตของเป้าหมายเหมือนกับชมดูภาพยนต์เป็นเวลา 1 ชั่วโมง แต่มุมมองของภาพยนต์นั้นจะเป็นเพียงภาพของบุคคลนั้น, สิ่งที่เขาทำ และสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเขาในเวลานั้นๆเท่านั้นเอง
อ.ไอซาว่าก็บอกว่านั่นมันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ? เพราะแค่นั้นก็สามารถใช้หาเบาะแสได้มากมายเลยนี่? แล้วทำไม Nighteye กลับบอกว่า "ทำไม่ได้"?
Nighteye จึงยกตัวอย่างว่าถ้าหากว่าเขาไปเห็นว่าในอนาคตอันใกล้ บุคคลที่เป็นเป้าหมายจะต้องพบกับความตายที่โหดร้ายเข้าล่ะก็ จะให้เขาทำอย่างไรกันล่ะ?
ถึงตรงนี้อิสึคุที่นั่งฟังอยู่ก็รู้ว่า Nighteye กำลังพูดถึง All Might อยู่!!
Nighteye อธิบายต่อว่าอัตลักษณ์ของเขาควรจะถูกใช้เมื่อโอกาสสำเร็จถูกเตรียมการให้อยู่ในระดับสูงสุดแล้วเพื่อใช้เป็นหลักประกันความสำเร็จเท่านั้น ถ้าหากว่ายังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนอยู่ก็ไม่ยังควรที่จะใช้มัน
นายกุญแจก็พูดขึ้นบ้างว่าต่อให้เป็นภาพของความตายก็ยังเป็นข้อมูลที่สำคัญไม่ใช่หรือ? ถ้าสามารถเอามาใช้วางแผนเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้ล่ะก็!
แต่ Nighteye ก็ยังไม่ต้องการจะทำอยู่ดี เพราะมันไม่มีหลักฐานใดๆจะยืนยันว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงเหตุการที่เขาเห็นได้!
นายกุญแจที่ชักของขึ้นก็ท้าให้ Nighteye ใช้อัตลักษณ์คาดเดาอนาคตกับตัวเขาได้เลย! ไม่ว่าผลการคาดเดาจะออกมายังไงเขาก็จะเปลี่ยนแปลงมันให้ได้ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม!
ทว่า...สุดท้ายแล้ว Nighteye ก็ไม่สามารถทำได้...
(ท่าทางเรื่องของ All Might จะกลายเป็นแผลใจใหญ่หลวงของ Nighteye ไปซะแล้วแฮะ...)
เพื่อไม่ให้ออกนอกเรื่องมากไปกว่านี้ จึงเป็นอันตกลงว่าจะทำตามแผนการที่ Nighteye เสนอมา เพื่อเป้าหมายในการระบุที่อยู่ของเด็กผู้หญิงคนนั้นและช่วยเหลือเธอออกมา อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด!
หลังจากนั้น บรรดานักเรียนยูเอย์ก็มาพูดคุยกัน และพวกอิสึคุและโทกาตะก็เล่าเหตุการที่พวกเขาไปเจอกับ "เอริ" และ Overhaul ให้พวกคิริชิมะได้ฟัง
ซึ่งทั้งสองคนก็ยังคงเครียดจัดกับสิ่งที่เกิดขึ้น...
(อามาจิคิยังคิดในใจว่าไม่เคยเห็นโทกาตะซึมขนาดนี้มาก่อนเลย...)
ตอนนั้นเองอ.ไอซาว่าก็เดินมาหาพวกเขา
แล้วอ.ไอซาว่าก็ทิ้งระเบิดออกมาว่า จริงๆแล้วเขากะจะสั่งยกเลิกการทดลองงานของทุกคนที่อยู่ตรงนี้ไปเลย เพราะเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ Villian Alliance ที่จู่โจมทำร้ายนักเรียนของยูเอย์หลายครั้ง มันก็ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป
โดยเฉพาะอิสึคุที่นอกจากจะยังไม่สามารถทำให้ตัวอ.ไอซาว่าเชื่อใจเขาได้แล้ว ยังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับบาคุโกอีกต่างหาก...
ทว่า...มันแย่หน่อยตรงที่ว่าตัวอ.ไอซาว่าก็รู้อยู่ว่าถ้าหากว่าเขาสั่งห้ามไม่ให้อิสึคุเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ เขาก็คงจะเข้ามาเอี่ยวกับเรื่องนี้เองอยู่ดี...
ดังนั้นครั้งนี้เขาจะเฝ้าดูอิสึคุอย่างใกล้ชิด และถ้าหากว่าเขาก่อเรื่องอีกก็จะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้วแน่นอน!
อ.ไอซาว่า : ขอบอกอะไรเธอไว้อย่างนะ...มือของเธอที่พลาดจากเด็กคนนั้นไปนิดเดียวนั่น...
อ.ไอซาว่า : ฉันเชื่อว่าเด็กคนนั้นต้องรู้สึกบางอย่างมากกว่าแค่ความสิ้นหวังแน่นอน
อ.ไอซาว่า : ดังนั้นขอให้เธอจงมองไปข้างหน้าแล้วก้าวเดินต่อไปซะ
อิสึคุ : ครับผม!
ในขณะเดียวกัน ฮาโดะกับอามาจิคิก็พูดให้กำลังใจโทกาตะว่าเขาเองก็ควรจะเลิกเอาแต่ก้มหน้าด้วยความแค้นใจได้แล้ว เพราะต่อให้เอาแต่เสียใจภายหลังแบบนี้นมันก็ไม่สามารถช่วยให้อะไรๆมันดีขึ้น
ซึ่งโทกาตะก็รับคำของเพื่อนทั้งสองคน
ตัดไปที่ภายในสำนักงาน
Gran Torino : อย่างนี้เอง...เรื่องมันเป็นอย่างนี้เองสินะ...
Nighteye : ว่าแต่ที่คุณส่งมิโดริยะมาหาผมนี่...มันเป็นเพราะคุณต้องการให้ผมฟื้นฟูความสัมพันธ์กับออลไมท์งั้นหรือครับ...
Gran Torino : เปล่าหรอก...มันก็แค่ความคิดที่แล่นขึ้นมาในหัวฉันเท่านั้นแหละ…! คนเราเมื่อแก่ตัวลงมันก็ทำเรื่องไร้สาระอยู่เรื่อย...
Gran Torino : ว่าแต่...แกมีความเห็นว่ายังไงบ้างล่ะ?
Nighteye : พวกเขาสองคนนั้นคล้ายกันมาก...
Nighteye : รวมถึงความบ้าคลั่งที่ซ่อนอยู่ลึกๆในจิตใจของออลไมท์นั่น เขาเองก็มีอยู่เช่นกัน
ตัดไปยังที่ซ่อนของ Overhaul
ที่ห้องของเอริที่เต็มไปด้วยของเล่นที่ไม่ถูกแตะต้องเลย...
ผู้ดูแลคนใหม่พยายามจะผูกมิตรกับเด็กน้อยด้วยของเล่น แต่ก็ไม่ได้ผลเอาเสียเลย ซึ่งแน่นอนว่าที่หมอนี่มารับหน้าที่นี้ก็เพราะว่าถ้าขึนไม่ทำหรือทำไม่สำเร็จล่ะมันก็จะโดน Overhaul ฆ่าเอาน่ะสิ!!
เมื่อผู้ดูแลออกจากห้องไปแล้ว เอริก็คิดถึงเด็กหนุ่มที่เธอได้เจอก่อนหน้านี้ คนที่พยายามปกป้องและช่วยเหลือเธอจาก Overhaul….
"มันต่างกัน..."
"ต่างกันมาก"
"จนถึงตอนนี้"
"ไม่เคยมีใคร...ที่สัมผัสเราแบบนั้นมาก่อนเลย"
"มือของเขา...ช่างอ่อนโยนเหลือเกิน"
ที่อีกด้านหนึ่ง อิสึคุก็กำลังเตรียมพร้อม…
"ครั้งนี้ฉันจะไม่ปล่อยมือเธออีกแน่"
Spoil Boku no Hero Academia 136 : มือคู่นั้น
ทั้งอิสึคุและโทกาตะต่างตั้งมั่นว่าครั้งนี้พวกเขาจะต้องช่วยเหลือ "เอริ" เด็กหญิงที่พวกเขาเคยปล่อยให้ต้องกลับไปอยู่ในเงื้อมมือของ Overhaul อีกครั้งให้จงได้!
แต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่ายๆ...
นายฮีโร่กุญแจได้วิเคราะห์ว่าในเมื่อเด็กคนนั้นเป็นส่วนสำคัญของแผนการของมัน Overhaul ย่อมต้องการที่จะซ่อนตัวหล่อนไว้จากทุกคนอยู่แล้ว แต่เด็กคนนั้นก็หนีออกมาได้ แถมยังถูกพบเห็นโดยฮีโร่ฝึกหัดอย่างพวกอิสึคุด้วย...
พวกมันคงไม่มีทางเก็บเธอไว้ที่เดิมอีกแล้วแน่นอน แถมต่อให้พวกเขาจู่โจมฐานที่มั่นของพวกมันได้ แต่ถ้าเด็กคนนั้นยังอยู่ในมือของ Overhaul มันก็สามารถเริ่มปฏิบัติการของมันขึ้นมาใหม่ได้เสมอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหาที่อยู่ที่แน่ชัดของเด็กคนนั้นเสียก่อน
Nighteye ก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ถ้าพวกเขาไม่สามารถจัดการพวกมันให้จบลงไปในครั้งเดียว ก็อาจเป็นการเปิดช่องให้พวกมันโต้กลับในภายหลังได้
ดังนั้นเขาจึงค้นรายชื่อขององค์การอาชญากรรมทีเกี่ยวข้องกับกลุ่ม "สัจธรรมแห่งความตายทั้งแปด" รวมถึงสถานที่ตั้งที่อยู่ในการควบคุมของพวกมันจากทั่วประเทศมาไว้แล้ว
และนั่นก็เป็นหน้าที่ของบรรดาฮีโร่ระดับท้องถิ่นที่ Nighteye เรียกตัวมา เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบสถานที่ที่อยู่ในเขตดูแลของพวกเขา
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับวิธีที่ดูจะระมัดระวังสุดๆของ Nighteye…
Fatgum รู้สึกว่าวิธีการของ Nighteye นั้นอ้อมค้อมและใช้เวลามากเกินไป ทั้งที่ตอนนี้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งกำลังตกอยู่ในอันตรายแท้ๆ! ทั้งที่เขาเองก็เคยเป็นผู้ช่วยของ All Might มาก่อนด้วย!
Nighteye ก็โต้ว่าพวกเขาไม่มีทางทำแบบออลไมท์ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องตรวจสอบและคาดเดาทุกความเป็นไปได้ให้ถี่ถ้วนเพื่อให้เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในการช่วยเหลือเด็กคนนั้นใกล้เคียง 100% ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ซึ่ง Gran Torino ก็เห็นด้วยกับ Nighteye เพราะหากว่าพวกเขาทำอะไรผิดพลาดไปในตอนที่จับกุมพวก Overhaul มันอาจจะยิ่งทำให้เรื่องราวลุกลามขึ้นไปได้ เหมือนเมื่อครั้งที่การจับกุม Hero Killer Stain กลับทำให้พวก Villian Alliance ได้รับชื่อเสียงและขยายกองกำลังมากขึ้นไปอีก แถมการที่มันแจกจ่ายยาที่ทำลายอัตลักษณ์ได้นี้ก็อาจจะมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่อีกก็ได้
ในตอนที่ทุกคนต่างก็โต้เถียงกันอยู๋นั้น อ.ไอซาว่าก็ยกมือขอถามคำถาม Nighteye สักข้อ
ถึงแม้อ.ไอซาว่าจะไม่รู้เรื่องของอัตลักษณ์ของ Nighteye ดีนัก แต่ถ้าเขาสามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ล่ะก็ เขาก็น่าจะลองใช้มันคาดเดาผลของการปฏิบัติงานครั้งนี้ดู เพราะถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็คงจะมีแต่เถียงกันไม่จบไม่สิ้นเท่านั้นเอง...
แต่ Nighteye ก็บอกว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้
อัตลักษณ์ "Foresight" ของเขานั้นหากใช้ไปครั้งหนึ่งแล้วจะต้องรออีก 24 ชั่วโมงจึงจะสามารถใช้ใหม่ได้ แถมแต่ละครั้งก็ใช้ได้เพียง 1 ชั่วโมง กับเป้าหมายเพียงคนเดียวเท่านั้นด้วย
และเมื่อเขาใช้อัตลักษณ์ เขาจะเห็นภาพเหตุการณ์ในชีวิตของเป้าหมายเหมือนกับชมดูภาพยนต์เป็นเวลา 1 ชั่วโมง แต่มุมมองของภาพยนต์นั้นจะเป็นเพียงภาพของบุคคลนั้น, สิ่งที่เขาทำ และสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเขาในเวลานั้นๆเท่านั้นเอง
อ.ไอซาว่าก็บอกว่านั่นมันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ? เพราะแค่นั้นก็สามารถใช้หาเบาะแสได้มากมายเลยนี่? แล้วทำไม Nighteye กลับบอกว่า "ทำไม่ได้"?
Nighteye จึงยกตัวอย่างว่าถ้าหากว่าเขาไปเห็นว่าในอนาคตอันใกล้ บุคคลที่เป็นเป้าหมายจะต้องพบกับความตายที่โหดร้ายเข้าล่ะก็ จะให้เขาทำอย่างไรกันล่ะ?
ถึงตรงนี้อิสึคุที่นั่งฟังอยู่ก็รู้ว่า Nighteye กำลังพูดถึง All Might อยู่!!
Nighteye อธิบายต่อว่าอัตลักษณ์ของเขาควรจะถูกใช้เมื่อโอกาสสำเร็จถูกเตรียมการให้อยู่ในระดับสูงสุดแล้วเพื่อใช้เป็นหลักประกันความสำเร็จเท่านั้น ถ้าหากว่ายังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนอยู่ก็ไม่ยังควรที่จะใช้มัน
นายกุญแจก็พูดขึ้นบ้างว่าต่อให้เป็นภาพของความตายก็ยังเป็นข้อมูลที่สำคัญไม่ใช่หรือ? ถ้าสามารถเอามาใช้วางแผนเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้ล่ะก็!
แต่ Nighteye ก็ยังไม่ต้องการจะทำอยู่ดี เพราะมันไม่มีหลักฐานใดๆจะยืนยันว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงเหตุการที่เขาเห็นได้!
นายกุญแจที่ชักของขึ้นก็ท้าให้ Nighteye ใช้อัตลักษณ์คาดเดาอนาคตกับตัวเขาได้เลย! ไม่ว่าผลการคาดเดาจะออกมายังไงเขาก็จะเปลี่ยนแปลงมันให้ได้ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม!
ทว่า...สุดท้ายแล้ว Nighteye ก็ไม่สามารถทำได้...
(ท่าทางเรื่องของ All Might จะกลายเป็นแผลใจใหญ่หลวงของ Nighteye ไปซะแล้วแฮะ...)
เพื่อไม่ให้ออกนอกเรื่องมากไปกว่านี้ จึงเป็นอันตกลงว่าจะทำตามแผนการที่ Nighteye เสนอมา เพื่อเป้าหมายในการระบุที่อยู่ของเด็กผู้หญิงคนนั้นและช่วยเหลือเธอออกมา อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด!
หลังจากนั้น บรรดานักเรียนยูเอย์ก็มาพูดคุยกัน และพวกอิสึคุและโทกาตะก็เล่าเหตุการที่พวกเขาไปเจอกับ "เอริ" และ Overhaul ให้พวกคิริชิมะได้ฟัง
ซึ่งทั้งสองคนก็ยังคงเครียดจัดกับสิ่งที่เกิดขึ้น...
(อามาจิคิยังคิดในใจว่าไม่เคยเห็นโทกาตะซึมขนาดนี้มาก่อนเลย...)
ตอนนั้นเองอ.ไอซาว่าก็เดินมาหาพวกเขา
แล้วอ.ไอซาว่าก็ทิ้งระเบิดออกมาว่า จริงๆแล้วเขากะจะสั่งยกเลิกการทดลองงานของทุกคนที่อยู่ตรงนี้ไปเลย เพราะเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ Villian Alliance ที่จู่โจมทำร้ายนักเรียนของยูเอย์หลายครั้ง มันก็ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป
โดยเฉพาะอิสึคุที่นอกจากจะยังไม่สามารถทำให้ตัวอ.ไอซาว่าเชื่อใจเขาได้แล้ว ยังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับบาคุโกอีกต่างหาก...
ทว่า...มันแย่หน่อยตรงที่ว่าตัวอ.ไอซาว่าก็รู้อยู่ว่าถ้าหากว่าเขาสั่งห้ามไม่ให้อิสึคุเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ เขาก็คงจะเข้ามาเอี่ยวกับเรื่องนี้เองอยู่ดี...
ดังนั้นครั้งนี้เขาจะเฝ้าดูอิสึคุอย่างใกล้ชิด และถ้าหากว่าเขาก่อเรื่องอีกก็จะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้วแน่นอน!
อ.ไอซาว่า : ขอบอกอะไรเธอไว้อย่างนะ...มือของเธอที่พลาดจากเด็กคนนั้นไปนิดเดียวนั่น...
อ.ไอซาว่า : ฉันเชื่อว่าเด็กคนนั้นต้องรู้สึกบางอย่างมากกว่าแค่ความสิ้นหวังแน่นอน
อ.ไอซาว่า : ดังนั้นขอให้เธอจงมองไปข้างหน้าแล้วก้าวเดินต่อไปซะ
อิสึคุ : ครับผม!
ในขณะเดียวกัน ฮาโดะกับอามาจิคิก็พูดให้กำลังใจโทกาตะว่าเขาเองก็ควรจะเลิกเอาแต่ก้มหน้าด้วยความแค้นใจได้แล้ว เพราะต่อให้เอาแต่เสียใจภายหลังแบบนี้นมันก็ไม่สามารถช่วยให้อะไรๆมันดีขึ้น
ซึ่งโทกาตะก็รับคำของเพื่อนทั้งสองคน
ตัดไปที่ภายในสำนักงาน
Gran Torino : อย่างนี้เอง...เรื่องมันเป็นอย่างนี้เองสินะ...
Nighteye : ว่าแต่ที่คุณส่งมิโดริยะมาหาผมนี่...มันเป็นเพราะคุณต้องการให้ผมฟื้นฟูความสัมพันธ์กับออลไมท์งั้นหรือครับ...
Gran Torino : เปล่าหรอก...มันก็แค่ความคิดที่แล่นขึ้นมาในหัวฉันเท่านั้นแหละ…! คนเราเมื่อแก่ตัวลงมันก็ทำเรื่องไร้สาระอยู่เรื่อย...
Gran Torino : ว่าแต่...แกมีความเห็นว่ายังไงบ้างล่ะ?
Nighteye : พวกเขาสองคนนั้นคล้ายกันมาก...
Nighteye : รวมถึงความบ้าคลั่งที่ซ่อนอยู่ลึกๆในจิตใจของออลไมท์นั่น เขาเองก็มีอยู่เช่นกัน
ตัดไปยังที่ซ่อนของ Overhaul
ที่ห้องของเอริที่เต็มไปด้วยของเล่นที่ไม่ถูกแตะต้องเลย...
ผู้ดูแลคนใหม่พยายามจะผูกมิตรกับเด็กน้อยด้วยของเล่น แต่ก็ไม่ได้ผลเอาเสียเลย ซึ่งแน่นอนว่าที่หมอนี่มารับหน้าที่นี้ก็เพราะว่าถ้าขึนไม่ทำหรือทำไม่สำเร็จล่ะมันก็จะโดน Overhaul ฆ่าเอาน่ะสิ!!
เมื่อผู้ดูแลออกจากห้องไปแล้ว เอริก็คิดถึงเด็กหนุ่มที่เธอได้เจอก่อนหน้านี้ คนที่พยายามปกป้องและช่วยเหลือเธอจาก Overhaul….
"มันต่างกัน..."
"ต่างกันมาก"
"จนถึงตอนนี้"
"ไม่เคยมีใคร...ที่สัมผัสเราแบบนั้นมาก่อนเลย"
"มือของเขา...ช่างอ่อนโยนเหลือเกิน"
ที่อีกด้านหนึ่ง อิสึคุก็กำลังเตรียมพร้อม…
"ครั้งนี้ฉันจะไม่ปล่อยมือเธออีกแน่"