กายทิพย์
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
วันนี้เป็นวันสำคัญ หลวงพ่อกับท้าวมหาราชทั้ง ๔ และพระยายมราช ได้ไปยังพระจุฬามณี ก่อนจะเข้าประตูก็มีพระอรหันต์ออกมาองค์หนึ่ง ไม่ใช่ใคร หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ
พูดกับท่านว่า : “แหม ไม่เคยเจอหน้ากันเลย หลวงพ่ออยู่ที่ไหนครับ”
ท่านบอกว่า : “แก
บอกเขาแล้วว่า ข้าไปอยู่นิพพาน แกมาถามข้าทำไม”
ก็ถามท่านอีกว่า : “หลวงพ่อไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไปผมก็โกหกเขานะ”
ท่านตอบว่า : “ไม่โกหกหรอก ข้าไปนิพพานแน่ เรื่องที่เขาหาว่าข้าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ ที่ตั้งฐานกำหนดลมไว้ ๗ ฐาน มันเกินพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่าน ๓ ฐาน มันเลยหาว่าข้าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ แข่งบารมีกับพระพุทธเจ้า แต่ความจริงเจตนาข้าน่ะ มันเป็นอย่างนี้ ไอ้คนที่จิตมันฟุ้งซ่าน ถ้ามีอารมณ์จะต้องจับหลายๆ แห่ง มันจะต้องระวังมาก อารมณ์จึงจะทรงอยู่ นี่เขาไม่สนใจ มีแกคนเดียวเข้าใจดี แล้วไอ้ กายเทพ กายพรหม กายธรรม กายนิพพาน ก็เหมือนกัน มีแกคนเดียวที่เข้าใจข้า นอกนั้นเขาหาว่าข้าบ้า เขาหาว่าอย่างนั้น เขาหาว่าข้าบ้า เอาเรื่องที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนมาสอน”
ไอ้ กายทิพย์ นี่ ก็หมายความว่า ได้อุปจารฌานเล็กน้อย จัดเป็น กายทิพย์ ตานี้ กายเทพ ก็เข้าถึงจุดอุปจารฌาน จะเกิดเป็นเทวดาชั้นยามาได้เหมือนกัน ถ้าพูดถึงกายภายในเหมือนกันหมด ตานี้พอถึง กายพรหม ผู้ที่ทรงฌานได้ครบองค์ฌาน พอตายแล้วก็ไปเป็นพรหม ก็เลยเรียกว่า กายพรหม ตานี้ กายธรรม ก็หมายถึงว่าเป็นพระอริยะเจ้า ถ้า กายนิพพาน ก็หมายถึงว่า คนนั้นได้อรหันต์แล้ว
ท่านบอกว่า : “มีแกคนเดียว ที่พอพูดให้ชาวบ้านเขาฟัง มันตรงกับความประสงค์ของข้า นอกนั้นเขาหาว่าบ้าๆ บอๆ บางคนหาว่าอวดอุตริมนุสสธรรม ข้าก็ไม่ว่าอะไรเขาหรอก”
หลังจากนั้นก็ลาท่านเข้าไปในพระจุฬามณี แหม วันนี้พระอรหันต์เต็มเอี๊ยด ตอนที่เข้าไปนี่พรหมออกมาหมดแล้ว เทวดาก็ยังไม่กลับ ในนั้นเต็มไปหมดเลย พระอรหันต์เหมือนเอาดาวไปวางไว้สวยสะพรั่ง ร่างกายเป็นเหมือนแก้ว พระอรหันต์นิพพานแล้วบ้าง พระอรหันต์คนบ้าง ก็เหมือนกันแหละ
เรื่อง ความเข้าใจผิดเรื่องธรรมกายของหลววปู่สด. ไม่ใช่ธรรกายของพระเดชพระคุณหลวงเจ๊
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
วันนี้เป็นวันสำคัญ หลวงพ่อกับท้าวมหาราชทั้ง ๔ และพระยายมราช ได้ไปยังพระจุฬามณี ก่อนจะเข้าประตูก็มีพระอรหันต์ออกมาองค์หนึ่ง ไม่ใช่ใคร หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ
พูดกับท่านว่า : “แหม ไม่เคยเจอหน้ากันเลย หลวงพ่ออยู่ที่ไหนครับ”
ท่านบอกว่า : “แกบอกเขาแล้วว่า ข้าไปอยู่นิพพาน แกมาถามข้าทำไม”
ก็ถามท่านอีกว่า : “หลวงพ่อไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไปผมก็โกหกเขานะ”
ท่านตอบว่า : “ไม่โกหกหรอก ข้าไปนิพพานแน่ เรื่องที่เขาหาว่าข้าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ ที่ตั้งฐานกำหนดลมไว้ ๗ ฐาน มันเกินพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่าน ๓ ฐาน มันเลยหาว่าข้าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ แข่งบารมีกับพระพุทธเจ้า แต่ความจริงเจตนาข้าน่ะ มันเป็นอย่างนี้ ไอ้คนที่จิตมันฟุ้งซ่าน ถ้ามีอารมณ์จะต้องจับหลายๆ แห่ง มันจะต้องระวังมาก อารมณ์จึงจะทรงอยู่ นี่เขาไม่สนใจ มีแกคนเดียวเข้าใจดี แล้วไอ้ กายเทพ กายพรหม กายธรรม กายนิพพาน ก็เหมือนกัน มีแกคนเดียวที่เข้าใจข้า นอกนั้นเขาหาว่าข้าบ้า เขาหาว่าอย่างนั้น เขาหาว่าข้าบ้า เอาเรื่องที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนมาสอน”
ไอ้ กายทิพย์ นี่ ก็หมายความว่า ได้อุปจารฌานเล็กน้อย จัดเป็น กายทิพย์ ตานี้ กายเทพ ก็เข้าถึงจุดอุปจารฌาน จะเกิดเป็นเทวดาชั้นยามาได้เหมือนกัน ถ้าพูดถึงกายภายในเหมือนกันหมด ตานี้พอถึง กายพรหม ผู้ที่ทรงฌานได้ครบองค์ฌาน พอตายแล้วก็ไปเป็นพรหม ก็เลยเรียกว่า กายพรหม ตานี้ กายธรรม ก็หมายถึงว่าเป็นพระอริยะเจ้า ถ้า กายนิพพาน ก็หมายถึงว่า คนนั้นได้อรหันต์แล้ว
ท่านบอกว่า : “มีแกคนเดียว ที่พอพูดให้ชาวบ้านเขาฟัง มันตรงกับความประสงค์ของข้า นอกนั้นเขาหาว่าบ้าๆ บอๆ บางคนหาว่าอวดอุตริมนุสสธรรม ข้าก็ไม่ว่าอะไรเขาหรอก”
หลังจากนั้นก็ลาท่านเข้าไปในพระจุฬามณี แหม วันนี้พระอรหันต์เต็มเอี๊ยด ตอนที่เข้าไปนี่พรหมออกมาหมดแล้ว เทวดาก็ยังไม่กลับ ในนั้นเต็มไปหมดเลย พระอรหันต์เหมือนเอาดาวไปวางไว้สวยสะพรั่ง ร่างกายเป็นเหมือนแก้ว พระอรหันต์นิพพานแล้วบ้าง พระอรหันต์คนบ้าง ก็เหมือนกันแหละ