เบื่อและเกลียดครอบครัวตัวเอง ควรทำอย่างไรดี

ตั้งแต่เริ่มรู้ความได้ เรารู้สึกไม่เคยมีความสุขกับครอบครัวตัวเองเลย ยิ่งโตยิ่งรู้สึกว่า ครอบครัว คือ แหล่งรวมเจ้ากรรมนายเวร คนที่เกลียด ที่จะต้องทนอยู่

เราเกิดในครอบครัวเชื้อสายจีน มีพี่น้อง แต่ละคนอายุห่างกันไม่มาก 2-4 ปี  แต่เป็นลูกผู้หญิงคนเดียวในบ้าน

เราเริ่มรู้สึกว่า ครอบครัวเริ่มมีปัญหาก็ตอนธุรกิจที่บ้านเริ่มมีปัญหาช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ และต่อมา พ่อก็ล้มป่วย แม่ต้องเป็นเสาหลักหาเงินเลี้ยงดูทุกคนในบ้าน ตลอดจนพยุงธุรกิจให้อยู่ต่อ

ด้วยความที่ตอนนั้นเรายังเด็ก เราก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่เราตั้งใจช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด ตั้งแต่หัดทำงานบ้านต่างๆ ตั้งใจเรียน เพื่อไม่ให้เป็นภาระ และพ่อแม่ต้องเป็นห่วง...แต่สิ่งดีๆที่เราคิด ที่เราทำ กลับไม่มีคนเห็น และที่เราทำ มันไม่ดีพอ พี่น้องทุกคนในบ้านเกลียดเรา....
โดยเฉพาะพี่ชายคนที่เกิดไล่เลี่ยกับเรา เรารู้สึกว่า พี่คนนี้เป็นคนขี้อิจฉาค่ะ เช่น เราเรียนดีกว่า อยู่สบายกว่าเขา

พื้นฐานนิสัย ตั้งแต่เด็กเราเป็นคนชอบเรียน ชอบหาหนังสือนู่นนี่มาอ่าน แต่พี่คนนี้ จะไม่ชอบค่ะ ชอบเล่นเกม อ่านหนังสือการ์ตูน ช่วงสอบนี่ไม่เคยอ่านหนังสือเลยืเล่นเกมข้ามคืนอีกต่างหาก พ่อก็พยายามเขี้ยวเข็ญให้เรียน ส่งไปเรียนโรงเรียนกวดวิชาดีๆให้ด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็บอกกับพ่อแม่เองเลยว่า ไม่อยากเรียน ให้ไปทำงานกรรมกรดีกว่า)

และปัญหามันอยู่ที่ พี่น้องทุกคนคิดว่า เราไม่ช่วยงานที่บ้าน แต่จริงๆเราช่วยค่ะ เช่น ดูแล ช่วยเหลืองานบ้าน เช่น ปัดกวาด เช็ดถู ล้างจาน ทั้งๆที่งานบ้านพี่น้องคนอื่นๆไม่เคยแตะเลย ส่วนที่ช่วยน้อย คือ งานในส่วนที่เป็นธุรกิจครอบครัว แต่เราก็พยายามช่วยแล้ว อาจจะไม่มากเท่าเขา เช่น งานที่ต้องยกของหนักๆ(มากกว่า 10 โล) เราก็ไม่ทำ ช่วงสอบก็จะช่วยน้อยหน่อย เพราะต้องแบ่งเวลาไปอ่านหนังสือ

พี่คนนี้ก็ชอบพูดเป่าหูพ่อแม่เราบ่อยๆว่า เราไม่ช่วยงานนู่นนั่นนี่ แถมยังช่วยผลาญเงินไปเรียนพิเศษ พ่อแม่บางทีหงุดหงิดมา ก็จะมาด่าเราเสริม ตอนนั้นเราเครียดมากจนล้มป่วย และหมอวินิจฉัยว่า เราป่วยหนักเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เราเครียดหนักกว่าเดิม จนเคยคิดฆ่าตัวตาย ต้องพักการเรียน รักษาตัวอยู่ระยะนึง....เราป่วยพี่น้องก็ยังไม่วายมาซ้ำเติม หาเรื่องด่าอีก ว่างานไม่ช่วย เงินไม่ได้หา แล้วยังช่วยผลาญเงินอีก

แต่ถึงกระนั้น เราก็ยังทนกับสภาพครอบครัวแบบนี้ เราพยายามเรียน และช่วยงานทุกอย่างตามหน้าที่ และงานที่เราช่วยได้ และไม่ทิ้งการเรียน(บางครั้งขอพ่อแม่ไปเรียนพิเศษไม่ได้ ก็จะเก็บเงินค่าขนมตัวเองเอาไปเรียน ขนาดออกเงินเอง พี่ยังมาด่า เราอีกว่า งานไม่ช่วย เอาแต่เป็นหนอนหนังสือ)

มันผิดหรอ เราคิดว่า การเรียนเป็นสมบัติสิ่งเดียวที่เราสามารถขวนขวาย และพ่อแม่สามารถให้ได้ เราจึงชอบเรียน เวลาเสาร์-อาทิตย์ ก็จะขอพ่อแม่ไปเรียนพิเศษ พี่ก็จะหาว่าเรา งานการไม่ค่อยช่วยทำ

พอจบม.ปลาย ผล คือ เราสอบเข้ามหาลัยรัฐติดคะ ค่าเทอมก็ถูกกว่า บรรดาพี่น้องทุกคน ส่วนพี่น้องทุกคนเรียนเอกชน (ยกเว้นพี่คนโต) ส่วนพี่จอมขี้อิจฉา ตอนแรก จะไปสายอาชีวะ แต่แม่ห้ามไว้ (แม่เห็นว่า พื้นฐานเป็นคนอารมณ์ร้อน ไปเรียนที่ไหนก็มีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนในห้อง จนครูต้องเชิญไปที่ รร.) เพราะ กลัวจะไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทรุนแรงเหมือนตามหน้าข่าวนสพ. ....เลยส่งให้เรียน ม.เอกชน

พอเรียนจบ...เราหางานออฟฟิสทำ แล้วแบ่งเงินให้แม่ใช้จ่ายบ้าง ส่วนพี่จอมขี้อิจฉา แรกๆก็ทำงานข้างนอก แต่ไปไม่รอด ทำไม่กี่เดือนก็ทะเลาะกับเขาจนต้องออก สุดท้าย แม่ให้ดูแลงานที่บ้าน โดยที่ทำงานทุกอย่าง คิดเงินทุกบาททุกสตางค์กับแม่ ค่าที่อยู่ที่พัก ค่าข้าวทุกมื้อ แม่เป็นคนออกหมด ลงทุนแต่แรง (แรงอย่างเดียวจริงๆ....เงินหมุน เงินลงทุน ประสานงานติดต่อลูกค้า  แม่ทำหมด)....
ทำได้สักพัก ก็ยกตัวเองว่า เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว คนเดียว หาว่าพี่น้องคนอื่น เราไม่ช่วยงานที่บ้าน หาเรื่องพาลด่าพ่อด่าแม่ว่าตามใจเราแต่เด็กจนเสียคน
...(จริงๆเราคิดไว้แต่แรกแล้วว่า ไม่อยากทำงานที่บ้าน เพราะ ส่วนนึงเหม็นขี้หน้าพี่จอมขึ้อิจฉา ไม่อยากทะเลาะด้วย แค่อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน ก็สุดทนละ)


ล่าสุด เพิ่งทะเลาะใหญ่โตกับพี่จอมขี้อิจฉา เพราะ เราเห็นชอบหาเรื่องด่าแม่เราบ่อยๆ ด่าพ่อเราด้วย พูดจาข่มขู่ เสียงดังลั่นบ้านหลายๆครั้ง เราทนฟังโดยที่ไม่ได้พูดอะไร คิดว่า เป็นเขาเป็นอากาศธาตุ เสียงหมาเห่า แต่ครั้งนี้ เราเห็นแม่ไม่สบายใจ ก็เลยบอกกับแม่ว่า ไปนอนดีกว่า อย่าไปเสียเวลาคุย นางก็มาพาล ด่าใส่ว่าเราอย่าไปยิ้มเรื่องเขา แล้วนางก็โยงประเด็นอื่นๆมาด่าเสริมอีก แล้วของทุกอย่างในบ้านที่เขาซื้อ(เขาซื้อ แต่ก็ให้แม่มาบอกเรา ช่วยออกหาร) ห้ามไปใช้ของนาง แล้วก็เอาเงินมาโยนคืนใส่หน้าเรา...ครั้งนึ้ เราทำให้เรารู้สึกเกลียด ขยะแขยงนางมาก แต่ไม่รู้ทำไม เรารู้สึกโกรธแม่ด้วย เราบอกแม่ไปว่า ให้จ้างคนมาช่วยทำงานที่บ้าน ไม่ต้องไปจ้างมัน ให้เลือกละกันว่า จะอยู่กับใคร ถ้าเลือกเขาก็ เราก็จะไปหาที่อยู่เองข้างนอก ไม่อยากอยู่ร่วมชายคาให้เป็นเสนียด แต่แม่ก็ยังเลือกที่จะให้เขาทำต่อ

ตอนนั้นเราเครียดมาก ไม่มีความสุข ซึมเศร้า....เราควรแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดีคะ

กลัวไปอยู่เองข้างนอกก็จะไม่ไหว เพราะสุขภาพไม่ดีด้วย เงินเดือนก็ไม่ได้มากพอที่จะไปหาที่อยู่ที่พัก กลัวจัไปเป็นปัญหาให้คนอื่นข้างนอก ถ้าเราเป็นอะไรไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่