เรียนทั้งที British English หรือ American English ?


ตอนแรก ทำไมต้องเสียเวลาเรียนแกรมม่าร์? https://ppantip.com/topic/36341451

ประเภทของผู้ใช้ภาษาอังกฤษแบ่งได้ดังนี้
1.    English as the first language ประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ เช่นอังกฤษ อเมริกา แคนาดา ไอร์แลนด์
2.    English as the second language ประเทศที่ประชาชนทั่วไปพอจะเข้าใจภาษาอังกฤษ เช่น ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาในการติดต่อราชการ (Official Language) เช่น อินเดีย สิงคโปร์ เนื่องจากมีกลุ่มคนหลายชาติพันธุ์ และแต่ละกลุ่มก็มีภาษาถิ่นของตนเองเพื่อกำหนดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้เทื่อมาติดต่อกับส่วนราชการ
3.    English as a foreign language ประเทศที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างชาติ และมีการสอนภาษาในโรงเรียน ประเทศเราก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ค่ะ

ในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่หนึ่ง ได้แก่ประเทศต้นกำเนิดของภาษาอังกฤษ คือ บริเตนใหญ่ (Great Britain) ใช้ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ (British English) และประเทศที่มีการพัฒนาทางอุตสาหกรรมหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างอเมริกา ใช้ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (American English) ซึ่งทั้ง 2 อย่างถือเป็น International English

British English และ American English มีข้อแตกต่างกันในเรื่องของ

1.การออกเสียง
2. การสะกดคำ
3. ความหมายของคำศัพท์
4.หลักภาษา
ภายหลังการสะกดคำต่างๆนิยมสะกดแบบ American English แม้กระทั่งคนอังกฤษส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนวิธีใช้ไปสะกดตามแบบอเมริกันก็มี

ส่วนเรื่องของสำเนียง เนื่องจากจุดประสงค์แรกที่ครูต้องการแชร์วิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่เหมาะกับคนไทย วิธีการเรียนไวยากรณ์เพื่อรู้หลักภาษา ไม่ใช่เรียนแค่ใช้ทำข้อสอบ และครูไม่ใช่เจ้าของภาษา รวมถึงไม่เคยใช้ชีวิตที่แวดล้อมด้วยภาษาอังกฤษจึงไม่สามารถชี้แนะวิธีการออกเสียงได้ถูกต้อง

สมัยก่อนเพื่อนครูเคยอธิบายถึงพันธุ์ปลาที่เลี้ยงในบ่อน้ำที่ที่ทำงานว่ามาจากแม่น้ำอะเมซอน
The Fish are from Amazon. เธอออกเสียง Amazon ตรงตัว ว่า อะเมซอน ถึงจะเปลี่ยนการ Stress เป็น อ่ะเม๊ซ่อน ฝรั่งก็ไม่เก็ทค่ะ ทั้งๆที่ชื่อแม่น้ำก็เป็นชื่อเฉพาะและคิดว่าเดาได้ไม่ยาก เมื่อการออกเสียงไม่ได้ผล พอบอกว่าเป็น The river in south America. เท่านั้นฝรั่งอ๋อ แล้วแกให้เป็น แอ๊เมอะเซิ่น.   

สำหรับครูคิดว่าเรื่องการออกเสียงนั้น ถ้าเราออกเสียงถูกต้องตามหลักการสัทศาสตร์ต่อให้เป็นสำเนียงไทยก็เข้าใจค่ะ อย่างไรก็ตามนักเรียนควรมีดิกชั่นนารี อังกฤษ-อังกฤษ ดีๆสักเล่ม ครูแนะนำของสำนักพิมพ์ Longman ประมาณ 1000 กว่าบาทภายในจะมี CD และลงโปรแกรมได้ จะมีเสียงทั้งสำเนียง American และ British

ครูมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝึกกันได้ หากผู้เรียนต้องการฝึกสำเนียงแบบอเมริกัน ครูขอแนะนำเพจของอาจารย์อดัม ชาวอเมริกันที่พูดภาษาไทยชัดมากๆและมีเทคนิคการสอนที่มาจากประสบการณ์ในการเรียนภาษาไทยของอาจารย์เอง เอามาปรับใช้สอนคนไทยให้พูดสำเนียงอเมริกันชัดๆ
https://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw/
https://www.facebook.com/AdamBreakdown/

ที่ครูไม่ซีเรียสเรื่องสำเนียงจะต้องเป๊ะ เพราะมีอยู่ตอนหนึ่งที่อาจารย์อดัม (ชาวอเมริกัน) คุยกับแขกรับเชิญ โรซี่ (ชาวอังกฤษ)  ชาวอังกฤษยังมีแอบขำสำเนียงอเมริกันของอาจารย์เลยค่ะ  ครูจึงคิดว่าเราเป็นคนไทย เราไม่ต้องซีเรียสเรื่องออกเสียงให้เป๊ะเหมือนเจ้าของภาษาเพราะผู้ใช้ หลายประเทศในที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง เช่น ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย ก็มีสำเนียงเป็นของตัวเอง และก็เป็นมาตรฐานที่คนในประเทศนั้นๆยอมรับ ซึ่งอนาคตถ้าจะมี Thai Standard ขึ้นมาก็ไม่แปลก และคงเป็นเรื่องดีที่ประเทศเราใช้ภาษาอังกฤษกันถ้วนหน้า

ดังนั้นเรียนภาษาอังกฤษแบบอังกฤษดั้งเดิม หรือแบบอเมริกันก็ได้ แต่ในการสอนครูจะเลือกจากสะกดคำ ความหมายของศัพท์ตามกระแสโลกาภิวัฒน์ คือแบบอเมริกัน มาสอนค่ะ

ใกล้จะได้เข้าเนื้อหาแล้ว เพี้ยนปูเสื่อรอ
ยินดีรับฟังคำแนะนำ คำติชม หรือถ้ามีจุดตกบกพร่องอะไร โปรดคอมเม้นต์ด้วยความสุภาพ เพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนบทต่อๆไป
อมยิ้ม17
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่