กระทู้ต้นเรื่องค่ะ
https://ppantip.com/topic/36329348

         เที่ยวกันต่อนะคะ  วันถัดมาจากการไปเยือน Oxford ดิฉันก็บอกลูกว่า วันรุ่งขึ้น เราจะไปเที่ยวที่เมือง Bath กัน
จบจาก Bath เรากลับมาที่พัก ค้างอีกคืน แล้ววันรุ่งขึ้น เราจะเข้ากรุงกันแล้วนะคะ  ... กรุงลอนดอนค่ะ

    เมืองบาธ เป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของอังกฤษค่ะ ดังเรื่องอะไรเหรอคะ ? ก็ดังตามชื่อเมืองแหละค่ะ  
คือ ดังเรื่องบ่ออาบน้ำ ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนเก่าแก่ที่มีตั้งแต่สมัยโรมัน เพราะงั้นจุดท่องเที่ยวหลัก ๆ ถึงเรียกว่า Roman Bath ไงคะ  

         เมืองนี้ สวยมาก ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก เท่าที่ขับ ๆ รอบ ๆ เมืองดูคร่าว ๆ เหมือนจะเห็นร้านอาหารไทย 2-3 ร้านด้วยค่ะ

    อ้อ...พูดถึงคำว่า Bath แล้วนึกได้  ขอโม้แทรกมานิดนึง

        ตอนเด็ก ๆ เวลาพวกเราเรียนภาษาอังกฤษ มักจะถูกสอนว่า อาบน้ำ ภาษาอังกฤษคือ take a bath
         แต่คุณแสงชัย สุนทรวัฒน์ เจ้าของคอลัมน์สอนภาษาอังกฤษยอดฮิตตลอดกาล เคยตอบคำถามที่มีคนถามว่า
อาบน้ำแบบไทย ๆ ควรใช้ว่า take a bath หรือ take a shower

    ท่านตอบว่า ควรใช้ว่า take a shower เพราะอาบน้ำแบบไทย ๆ ใช้ขันตักน้ำรดลงมาเหมือนฝักบัว
ถ้าใช้ว่า take a bath มันจะให้อารมณ์เหมือนอาบน้ำในอ่างมากกว่า
    เคยอ่านสัมภาษณ์ คนอังกฤษท่านหนึ่งที่มาเมืองไทยสมัยสี่ห้าสิบปีที่แล้ว  
เขาเล่าให้ฟังว่า เห็นโอ่งน้ำในห้องอาบน้ำของคนไทย ก็คิดว่า อ่างอาบน้ำคนไทยนี่รูปทรงแปลก ๆ
ว่าแล้ว ก็พยายามยัดตัวเองลงไปอาบแช่ในตุ่มแบบเดียวกับลงอ่างอาบน้ำ
กว่าจะอาบเสร็จทุลักทุเลพอสมควร
    
    อะ...กลับมาที่บาธต่อ
    เราขับวน ๆ หาที่จอดรถอยู่พักหนึ่ง พอจอดได้แล้ว หยอดเงินค่าตั๋วจอดรถแล้ว เราก็เดินมุ่งหน้าไปที่บ่อน้ำร้อนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทันทีค่ะ
    ข้อดีอย่างหนึ่งของ GPS คือ เราสามารถใช้มันสำหรับหาพิกัดของสถานที่ต่าง ๆ ที่เราต้องการใช้บริการได้ด้วยเช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร หรือ ที่จอดรถ ก็หมุนๆ กด ๆ ไปที่ gas station, restaurant, car park
        อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าจอดตามที่ว่างที่ไม่แน่ใจว่าจอดได้หรือไม่ดีกว่าค่ะ  

         รุ่นน้องที่รักคนหนึ่งอยู่อังกฤษมาหลายปี ทั้งเคยเรียน และเคยได้โพสต์ของสถานทูตมาประจำอยู่ที่นี่ เล่าให้ฟังว่า
ครั้งหนึ่งจอดรถไว้ กลับมาอีกทีไม่เจอรถแล้ว ใจหายวาบนึกว่ารถหาย ที่ไหนได้ เจอคุณตำรวจยกไปเก็บค่ะ  เสียค่าปรับไป 200 ปอนด์
(ก็เหยียบ ๆ หมื่นล่ะค่ะ) ตัวเบาไปเลย

    รูปทางเข้านะคะ

เดินตามผู้คนไปเรื่อย ๆ ค่ะ Roman Bath จะอยู่ตรงข้ามโบสถ์ ออกมามีร้านขายของที่ระลึกคอยดักเงินเราอีก
    


     จากนั้นก็ซื้อตั๋วเลยค่ะ ทางเข้าอยู่ตรงหน้านี้เอง


     บ้านเราซื้อตั๋วแบบแถมพ่วงตั๋วพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของเมือง Bath ไปด้วย   
ปกติ ก็ไม่ค่อยนิยมซื้อตั๋วพ่วงนะคะ เพราะมันจะกดดันว่า เราต้องไปให้ครบถึงจะคุ้ม
ซึ่งจะทำให้เราเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพในการเดินทอดหุ่ย ค่อย ๆ พิศ ค่อย ๆเพลินกับวิว  ผิดคอนเซปต์ทัวร์ชิลล์ในทริปนี้ค่ะ
แต่นี่เห็นว่า พิพิธภัณฑ์ก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มาก เดินไปไม่สู้กระไรนัก ก็เลยซื้อตั๋วพ่วงซึ่งจะถูกและคุ้มกว่าการซื้อแยกแต่ละที่

     เดินไปตามทางเข้า พร้อมรับหูฟังการบรรยายและรายละเอียดโบรชัวร์
(มีภาษาไทยด้วยนะ เท่มั้ยคะ แสดงว่าพี่น้องร่วมชาติเราต้องไปกันมากพอสมควรทีเดียว)
จะเจอมุมตัวละครที่ทางพิพิธภัณฑ์ทำเพื่อดึงดูดใจเด็ก จะมีรูปการ์ตูนในชุดโรมันแสดงความเป็นอยู่ของชาวโรมันสมัยนั้น มีชื่อเรียก พร้อมอาชีพและสถานะทางสังคมเสร็จสรรพ ทำให้เด็ก ๆ เข้าใจง่ายว่า แต่งตัวแบบนี้ทำอาชีพอะไร
   

    เราเดินตามทางโดยเริ่มจากชั้นบนของบ่อน้ำ วน ๆ ไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางก็จะมีบอร์ด คำอธิบาย ไปทีละจุด ทีละจุด
มีรูปสลักของผู้ปกครองชาวโรมันที่ปกครองอังกฤษหรือ Britannia ในสมัยนั้น
และจักรพรรดิ์องค์สำคัญของชาวโรมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ที่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอังกฤษ

    มีภาพจำลองให้เห็นว่า บ่อน้ำพุร้อนที่น้ำมีอุณหภูมิถึง 46 องศาเซลเซียส และ พุ่งขึ้นมาในปริมาณ 1.17 ล้านลิตรต่อวันนี้มาจากไหนถึงได้โผล่ขึ้นมาที่โรงอาบน้ำ Roman Bath แห่งนี้  

    มีคำอธิบายง่าย ๆ สั้น ๆ ให้เข้าใจได้ถึงระบบวิศวกรรมชลประทานเมื่อเกือบสองพันปีก่อน ว่าพวกโรมันออกแบบระบบชลประทานเพื่อจ่ายน้ำอย่างไร

      มีภาพ hologram จำลองไลฟ์สไตล์การอาบน้ำแบบโรมันของยุคเก่าให้เราดู

และมีคนแต่งตัวเป็นชาวโรมันโบราณมานั่งสร้างบรรยากาศให้ดูโรมั้น โรมันด้วยนะคะ