สวัสดีค่ะ วันนี้ร็อคจะมาเล่าประสบการณ์ การเที่ยวคนเดียวที่ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณค่ะ

พอดีร็อคกำลังย้ายงาน ย้ายที่อยู่ใหม่ มาอยู่แถวบางพลี สมุทรปราการค่ะ
วันนี้มาทำธุระ ก่อนกลับเลยนั่งรถแทกซี่มาที่นี่ค่ะ

ขึ้นจากโรงพยายาล บางนา 5 – พิพิธพัณฑ์ฯ [120 บาท]

มาถึงประตูก็เดินเข้ามาข้างใน ห้องขายตั๋วจะอยู่ทางซ้ายมือ
ราคาตั๋วจะระบุอยู่ที่หน้าประตู ต่างชาติ 400.- คนไทย 250.-

(แอบแพงอยู่นะ ถ้าสมมุติ ครอบครัวนึงจะมาเที่ยว พ่อ-แม่-ลูก คงต้องเตรียมเงินอย่างน้อย 750 บาทเลย เข้าใจได้นะคะ ถ้าเก็บราคาหลักสิบ ความสะอาดหรือการดูแลรักษาอาจจะไม่ดีเท่านี้ ที่นี่สะอาดมากค่ะ และก็มีการซ่อมบำรุงให้เห็นในบางจุด)

ได้ตั๋วมาแล้ว ก็เดินเข้ามาเลยค่ะ



ขวามือ คือ ห้องบริการเครื่องบูชา สามารถหยิบไปไหว้ได้เลย ไม่เสียเงินเพิ่มนะคะ
ประกอบด้วย
-ธูป 3 ดอก
-พวงมาลัยดาวเรือง 1 พวง
-ดอกบัวสำหรับลอยน้ำ 1 ดอก

วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไร อาจเป็นเพราะวันนี้ เป็นวันศุกร์ หรือ เป็นเพราะอากาศร้อน ก็ไม่ทราบนะคะ
สิ่งที่อยากจะเล่า คือ นอกจากพี่ๆ พนักงาน ร็อคไม่เห็นคนไทยเลยค่ะ
ส่วนใหญ่จะเป็นทัวร์จีน กับ ฝรั่งอีกไม่กี่คน

หยิบเครื่องบูชาแล้วก็มามูกันค่ะ
จุดธูป ถือพวงมาลัย แล้วท่องคาถาเลย

ป้ายทุกอย่างที่นี่จะมีภาษาอังกฤษกำกับอยู่นะคะ
ยกเว้น คาถาบูชาค่ะ (ถ้ามีภาษาคาราโอเกะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสวดนี่ก็จะแปลกเกินไป 555+)
ที่คาถาบูชา จะมีบทแปลจากภาษาบาลี เป็นภาษาไทยค่ะ
ร็อคชอบนะคะ ทำให้เรารู้ว่าที่สวดไปเนี่ย หมายถึงอะไรบ้าง
ในบทสวดก็จะเล่าถึงความเชื่อ ที่มาขององค์เทพ ความสำคัญ และการขอพรให้ผู้สวดอยู่ในนั้นครบเลยค่ะ

ไหนๆ ก็ย้ายที่อยู่ที่ทำงานใหม่ ก็ขอบูชาเพื่อความสบายใจหน่อยนะคะ^^

ไหว้เสร็จ ปักธูป วางดอกไม้ แล้วไปลอยดอกบัวกันค่ะ

จุดลอยดอกบัวจะอยู่ตรงฐานอาคารพิพิธภัณฑ์ มีป้ายบอกอยู่ค่ะ ลอยเสร็จ วางถ้วยตรงป้ายได้เลย จะมีตะกร้าวางถ้วยอยู่

จากนั้น ก็เข้าชมด้านในอาคารกันค่ะ


สวยนะคะ ด้านในที่นี่ เพดานเป็นลายเหมือนแผนที่โลก ด้านซ้าย-ขวา เป็นบันไดทางขึ้นก็สวยดีค่ะ
พื้นบันไดเป็นไม้ และดูเหมือนจะเป็นไม้สัก เวลาเดินขึ้น ถ้าลงส้นเท้าจะมีเสียงดัง
(อันนี้นึกถึงตอนเด็กๆเลยค่ะ ตอนอยู่กับคุณย่า ถ้าพื้นไม้เดินลงส้นเสียงดัง จะโดนคุณย่าดุ แต่ที่นี่นักท่องเที่ยวจีนเดินเป็นไททันเลยค่ะ แอบตกใจนิดนึง ถ้าย่าได้เห็นคงช็อคน่าดู 555+)

ขี้นมาด้านบน จะมีบันไดวนค่ะ แคบๆ (มีลิฟต์ด้วยนะคะ แต่ร็อคไม่ขึ้นค่ะ ร็อคอยากสำรวจ ให้คุ้มกับค่าเข้าชม)

ขึ้นมาจะมีชั้นพักค่ะ
ชั้นนี้มีพระบรมรูป รัชกาลที่5 ตรงข้ามพระบรมมรูปจะเป็นที่นั่งชมวิวผ่านช่องกระจก (นั่งได้ 1 คน สองคนได้แบบเบียดๆหน่อย)

ภาพวิวนั้น เป็นภาพถนน และสาย bts สบายๆค่ะ นั่งเพลินๆ แอร์เย็นๆ



พักเสร็จก็ขึ้นด้านบนต่อ ทีนี้เริ่มได้ยินเสียงสวดมนต์แล้วค่ะ ชั้นบนสุดห้ามถายรูปนะคะ
ขอบรรยายว่า คล้ายๆวิหารค่ะ พระล้อมรอบ สวยงามค่ะ โทนฟ้าขาว สงบดี มีเสียงสวดมนต์คลอๆ

ด้วยความอยากรู้ ร็อคเดินไปด้านหน้าสุดค่ะ มีตู้ทำบุญบริจาคอยู่ ได้น้ำมนมต์มา 1 หลอด (มีป้ายเขียนเชิญหยิบเอง)



ไหว้พระเสร็จ เดินลงจากอาคาร ไปดูสวนรอบๆค่ะ
อ่อ ที่นี่มีรูปปั้นช้างเยอะมากนะคะ เราก็ลอดท้องช้างไปค่ะ แต่ละรูปปั้นจะมีชื่อ และสักษณะช้างติดอยู่ ให้อ่านเล่นๆ
เวลาเราลอดท้องช้าง จะมีเสียงช้างร้องออกมาจากลำโพงใต้ท้องช้างด้วยค่ะ

สวนที่นี่สวยค่ะ มีรูปปั้นสัตว์ประหลาด (สัตว์ในวรรณคดี เช่น กินรี,กิเลน ฯลฯ) ในสวนร่มรื่นดีค่ะ
นั่งสักพัก ก็ไปเขียนชื่อบนผ้าห่มองค์เจดีย์)


หิวแล้วค่ะ ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ทานอะไรเลย
ทางออกจะอยู่ที่ shop ของฝากนะคะ คือ ต้องเดินเข้า shop ก่อนประตูนึง แล้วออกอีกประตูนนึงค่ะ
ออกไปก็เจอกับร้านอาหารของทางพิพิธภัณฑ์ มีอยู่ไม่กี่ร้าน ราคาพอจับต้องได้ 60-80 บาท

ร็อคเลือกยำวุ้นเส้นไม่เผ็ดค่ะ [70 บาท]
รสชาติดีนะคะ จัดจ้านดี ถ้าเทียบกับราคาแล้ว ก็ค่อนข้างแพง แต่ก็เข้าใจได้ค่ะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว ราคานี้ถือว่า ปกติอยู่
ขากลับค่ะ ร็อคอยากเซฟค่าเดินทาง ด้วยการไม่เรียกแทกซี่ ขึ้นรถเมล์แทน
ป้ายรถเมล์จะอยู่ตรงประตูทางออก ถัดไปหน่อย มองออกไปทางซ้ายมือค่ะ

แต่ร็อคไม่เคยขึ้น รถเมล์ 555+ ไม่มีคันไหนจอดเลย ไม่รู้ว่าต้องโบกด้วย
ก็ลองโบกดูค่ะ ได้ขึ้นเป็นรถสองแถวแทน 10 บาทตลอดสาย
ไปลงสถานี BTS ช้างเอราวัณ นั่ง BTS กลับบ้านค่ะ

ประสบการณ์วันนี้ สนุกดีค่ะ

ค่าใช้จ่าย
ค่าแทกซี่ รพ.บางนา 5 – พิพิธภัณฑ์ฯ 120 .-
ค่าตั๋ว 250.-
ทำบุญ 20.-
ยำวุ้นเส้น 70.-
น้ำดื่ม 15.-
ค่ารถสองแถว 10.-
ค่า BTS กลับบ้าน 62.-
รวม 547.-

รูปอาจจะไม่เยอะ เพราะแบตเตอรี่เหลือน้อยแล้ว

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ
อวยพรให้การเปลี่ยนแปลงการทำงานของร็อคในครั้งนี้ เป็นไปด้วยดีด้วยเทอญฯ
ร็อคขอให้ทุกคนมีความสุขกับการใช้ชีวิตนะคะ 😁😁😁