ตอนที่2 มาแล้วครับ
จากตอนที่1 ติดตามอ่านได้นะครับ
https://ppantip.com/topic/37253810
จากสโตเฮน จากตอนที่แล้ว มาต่อกันที่ SALISBURY CATHEDRAL ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Salisbury
วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1220-1258 เป็นวิหารที่มีหอคอยปลายแหลมสูงที่สุดในอังกฤษ คือ 123 เมตร สถาปัตยกรรมเป็นแนว Early English Gothic ด้านหน้าของวิหารมีสนามหญ้า เรียกว่า The close และถือเป็นสนามหญ้าหน้าวิหารที่กว้างใหญ่ที่สุดในอังกฤษภายในวิหารเก็บรักษา Magna Carta ฉบับจริงอยู่ 1 ฉบับ (Original Magna Carta มี 4 copies ด้วยกัน และ copy ที่อยู่ที่ Salisbury Cathedral นี้ ถือว่าเป็น copy ที่มีความสมบูรณ์ที่สุด) Magna Carta เป็นเอกสารทางกฎหมายที่สำคัญมากของ
อังกฤษลงนามโดย King John ในปี ค.ศ. 1215เพื่อพระราชทานสิทธิเสรีภาพแก่พลเมืองอังกฤษ
เมื่อไปเที่ยว Salisbury สโตนเฮน เสร็จก็รีบต่อรถไฟไปเมืองบาธ กันเลยไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงเมืองเก่าแก่อีกเมืองลงที่สถานนีรถไฟบาส สปา
BATH
บาธ เป็นเมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน เรื่องของเรื่องก็คือชาวโรมันเคยเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองบาธตั้งแต่ยุคต้นคริสต์ศักราช และก็นำวัฒนธรรมการอาบน้ำพุร้อนเข้ามาในอังกฤษ แหล่งท่องเที่ยวหลักของเมืองนี้จึงอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนเนี่ยแหละ แต่บาธก็มีสถานที่อื่นที่เจ๋งๆเยอะเลยนะ มีถนนช๊อปปิ้งมีร้านค้าร้านอาหารมากมาย
นั่งรถไฟมาลงสถานี Bath Spa ปุ๊ปก็เดินเล่นในเมืองได้เลย มีแผนที่ด้านล่างก็เดินได้ทั่วแต่ละที่ไม่ห่างกันมากจากเมือง Salisbury นั่งรถไฟ National Rail ลงที่สถานี Bath Spa ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น ...
เวลารถไฟมีหลายรอบเลย สะดวกรอบไหนจัดเลย
บาส บ่อน้ำพุร้อนROMAN BATHS
โรมัน บาธ ในอดีตเคยเป็นโรงอาบน้ำแร่ เป็นสถานที่เจรจาธุรกิจและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแต่ก่อนมีบ่อน้ำร้อนหลายแห่งที่เมืองบาธเลย แต่ปัจจุบันก็เหลือที่นี่ที่เดียวและตอนนี้ก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว ภายในโรมันบาธ รอบๆบ่อน้ำมีรูปปั้นนักต่อสู้ เทพยดา ประดับอย่างสวยงาม น้ำในบ่อเป็นสีเขียวจากแร่ธาตุในน้ำ เค้าว่ากันว่าน้ำแร่ที่นี่สามารถรักษาโรคปวดข้อและกล้ามเนื้อได้ด้วยนะแต่ถ้าใครอยากจะแช่คงแช่ที่นี่ไม่ได้ต้องเดินไปแช่ที่ Thermae Bath Spaเป็นบ่ออาบน้ำแร่สมัยใหม่ที่สร้างขึ้น.การท่องเที่ยวที่นี่เสียเงินค่าเข้า13.50 ปอนด์ จะได้รับ Audio guideแพงพอสมควร เดินชมที่ละส่วนไปบริเวณก็ใหญ่อยู่นะ จะได้เห็นทั้งตัวบ่อน้ำพุร้อน สถานที่เกิดน้ำพุร้อน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ขุดค้นพบที่นี่
BATH ABBEY
ออกมาจาก โรมันบาธ ก็จะพบวิหารใหญ่ประจำเมืองบาธ เข้าไปชมกันได้ ภายในสวยน่าดู สงบเงียบแตกต่างจากความวุ่นวายภายนอก Bath Abbey ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1611 และในช่วงปี ค.ศ. 1864 – 1874 ได้รับการบูรณะเป็นแนวสไตล์ Victorian Gothic จากเพดานเดิมที่เป็นเพดานไม้..การเข้าชมเสียค่าบริจาค 2.50 ปอนด์
อยู่ติดกับ Roman Baths เลยไม่มีเวลามากรีบดูๆก็ต้องรีบกลับเพราะเย็มมากแล้ว
UNION STREET
ถนนสายสำคัญของเมืองปกติ ระหว่างทางเต็มไปด้วยร้านขายของกระจุกกระจิกรถเข็นขายของ นักดนตรีเปิดหมวก วันนั้นที่ไปก็เดือนมีนาคม อากาศหนาวแถมมีฝนนี่ขนาดเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ แอบเซ็งนิดๆทั้งหนาวทั้งฝน แถมร้านรวงแผงลอยข้างถนนเก็บเกือบหมด เดินดูตึกรามบ้านช่องที่บาธพบว่ามีสถาปัตยกรรมที่คล้ายๆกัน คือทำจากหินปูนสีออกน้ำผึ้ง การวางผังเมืองก็เป็นระเบียบมาก ภูมิประเทศของบาธเป็นแนวโค้งลดหลั่นกันไปตามเนินสูงต่ำทำให้ความสวยเพิ่มเข้าไปอีก
เนื่องจากฝนและหนาววงดนตรีเปิดหมวก โดยเด็กวัยรุ่นน่ารักๆไม่มีให้เห็น😭😭
[CR] คิดถึง อังกฤษ จึงกลับมาอีกครั้งทริป 19 วัน อังกฤษ สก๊อตแลนด์ ตอนที่2
จากตอนที่1 ติดตามอ่านได้นะครับ
https://ppantip.com/topic/37253810
จากสโตเฮน จากตอนที่แล้ว มาต่อกันที่ SALISBURY CATHEDRAL ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Salisbury
วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1220-1258 เป็นวิหารที่มีหอคอยปลายแหลมสูงที่สุดในอังกฤษ คือ 123 เมตร สถาปัตยกรรมเป็นแนว Early English Gothic ด้านหน้าของวิหารมีสนามหญ้า เรียกว่า The close และถือเป็นสนามหญ้าหน้าวิหารที่กว้างใหญ่ที่สุดในอังกฤษภายในวิหารเก็บรักษา Magna Carta ฉบับจริงอยู่ 1 ฉบับ (Original Magna Carta มี 4 copies ด้วยกัน และ copy ที่อยู่ที่ Salisbury Cathedral นี้ ถือว่าเป็น copy ที่มีความสมบูรณ์ที่สุด) Magna Carta เป็นเอกสารทางกฎหมายที่สำคัญมากของ
อังกฤษลงนามโดย King John ในปี ค.ศ. 1215เพื่อพระราชทานสิทธิเสรีภาพแก่พลเมืองอังกฤษ
เมื่อไปเที่ยว Salisbury สโตนเฮน เสร็จก็รีบต่อรถไฟไปเมืองบาธ กันเลยไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงเมืองเก่าแก่อีกเมืองลงที่สถานนีรถไฟบาส สปา
BATH
บาธ เป็นเมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน เรื่องของเรื่องก็คือชาวโรมันเคยเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองบาธตั้งแต่ยุคต้นคริสต์ศักราช และก็นำวัฒนธรรมการอาบน้ำพุร้อนเข้ามาในอังกฤษ แหล่งท่องเที่ยวหลักของเมืองนี้จึงอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนเนี่ยแหละ แต่บาธก็มีสถานที่อื่นที่เจ๋งๆเยอะเลยนะ มีถนนช๊อปปิ้งมีร้านค้าร้านอาหารมากมาย
นั่งรถไฟมาลงสถานี Bath Spa ปุ๊ปก็เดินเล่นในเมืองได้เลย มีแผนที่ด้านล่างก็เดินได้ทั่วแต่ละที่ไม่ห่างกันมากจากเมือง Salisbury นั่งรถไฟ National Rail ลงที่สถานี Bath Spa ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น ...
เวลารถไฟมีหลายรอบเลย สะดวกรอบไหนจัดเลย
บาส บ่อน้ำพุร้อนROMAN BATHS
โรมัน บาธ ในอดีตเคยเป็นโรงอาบน้ำแร่ เป็นสถานที่เจรจาธุรกิจและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแต่ก่อนมีบ่อน้ำร้อนหลายแห่งที่เมืองบาธเลย แต่ปัจจุบันก็เหลือที่นี่ที่เดียวและตอนนี้ก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว ภายในโรมันบาธ รอบๆบ่อน้ำมีรูปปั้นนักต่อสู้ เทพยดา ประดับอย่างสวยงาม น้ำในบ่อเป็นสีเขียวจากแร่ธาตุในน้ำ เค้าว่ากันว่าน้ำแร่ที่นี่สามารถรักษาโรคปวดข้อและกล้ามเนื้อได้ด้วยนะแต่ถ้าใครอยากจะแช่คงแช่ที่นี่ไม่ได้ต้องเดินไปแช่ที่ Thermae Bath Spaเป็นบ่ออาบน้ำแร่สมัยใหม่ที่สร้างขึ้น.การท่องเที่ยวที่นี่เสียเงินค่าเข้า13.50 ปอนด์ จะได้รับ Audio guideแพงพอสมควร เดินชมที่ละส่วนไปบริเวณก็ใหญ่อยู่นะ จะได้เห็นทั้งตัวบ่อน้ำพุร้อน สถานที่เกิดน้ำพุร้อน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ขุดค้นพบที่นี่
BATH ABBEY
ออกมาจาก โรมันบาธ ก็จะพบวิหารใหญ่ประจำเมืองบาธ เข้าไปชมกันได้ ภายในสวยน่าดู สงบเงียบแตกต่างจากความวุ่นวายภายนอก Bath Abbey ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1611 และในช่วงปี ค.ศ. 1864 – 1874 ได้รับการบูรณะเป็นแนวสไตล์ Victorian Gothic จากเพดานเดิมที่เป็นเพดานไม้..การเข้าชมเสียค่าบริจาค 2.50 ปอนด์
อยู่ติดกับ Roman Baths เลยไม่มีเวลามากรีบดูๆก็ต้องรีบกลับเพราะเย็มมากแล้ว
UNION STREET
ถนนสายสำคัญของเมืองปกติ ระหว่างทางเต็มไปด้วยร้านขายของกระจุกกระจิกรถเข็นขายของ นักดนตรีเปิดหมวก วันนั้นที่ไปก็เดือนมีนาคม อากาศหนาวแถมมีฝนนี่ขนาดเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ แอบเซ็งนิดๆทั้งหนาวทั้งฝน แถมร้านรวงแผงลอยข้างถนนเก็บเกือบหมด เดินดูตึกรามบ้านช่องที่บาธพบว่ามีสถาปัตยกรรมที่คล้ายๆกัน คือทำจากหินปูนสีออกน้ำผึ้ง การวางผังเมืองก็เป็นระเบียบมาก ภูมิประเทศของบาธเป็นแนวโค้งลดหลั่นกันไปตามเนินสูงต่ำทำให้ความสวยเพิ่มเข้าไปอีก
เนื่องจากฝนและหนาววงดนตรีเปิดหมวก โดยเด็กวัยรุ่นน่ารักๆไม่มีให้เห็น😭😭