โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ปีที่๕

เจริญพรญาติโยมทุกท่าน เรื่องราวที่ข้าพเจ้าจะได้นำมาเรียบเรียงสื่อสารให้ทุกๆท่านได้อ่านกัน เป็นเรื่องราวที่ข้าพเจ้าพร้อมกับคณะพระภิกษุสงฆ์ 123 รูป ได้ไปจาริกธรรมตามรอยพระบาทพระศาสดา ในโครงการ..ปลุกเสกพระให้เป็นพระจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ปีนี้เป็นปีที่ 5  โดยมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อสำเริง พระครูธีรธรรมปราโมทย์เป็นประธานหัวหน้าโครงการ ได้นำพระภิกษุสงห์ทั้ง 4 ทิศของประเทศไทย และพระสงฆ์จากประเทศลาว ไปจาริกธรรม ที่ประเทศอินเดีย-เนปาล ตั้งแต่วันที่ 8ก.พ.-31มี.ค. 2560 ระยะเวลาที่ร่วมกันสร้างบุญสร้างบารมี 52 วัน โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อมีวัตถุประสงค์คือ
-ต้องการปลุกเสกพระเป็นๆให้เป็นพระจริงๆ
-ต้องการปลุกศรัทธาของพระภิกษุในดินแดนพุทธภูมิ
-ต้องการให้พระภิกษุมีความเข้าใจ เข้าถึงประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นี่เป็นวัตถุประสงค์คราวๆ เรื่องราวต่อไปนี้ที่ข้าพเจ้าจะได้นำมาเผยแผ่ นำมาสื่อสารให้ทุกท่านได้อ่านกัน เป็นเรื่องราวชีวิตและเรื่องราวของสังเวชนียสถาน ทั้ง 4 ตำบล คือ สถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงพระธรรมเทศนา สถานที่ปรินิพพาน
ข้าพเจ้าต้องขอออกตัวก่อนว่าข้าพเจ้าเป็นพระบวชใหม่ บวชได้ 2 พรรษา แต่ได้มีโอกาส ได้มีบุญวาสนาได้มาจาริกธรรมที่ประเทศอินเดียโดยการเดินเท้า นับได้ว่าเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตขอเข้าพเจ้าเลยก็ว่าได้ ข้าพเจ้าจะค่อยๆเล่าเรื่องไปทีละเมืองที่ได้เดินผ่าน และขอใช้คำธรรมดาๆที่มนุษย์โลกได้ใช้กัน เพื่อความเข้าใจและเข้าถึงกันได้ง่าย อาจจะได้ธรรมะบ้าง ไม่ได้บ้าง มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ก็ว่ากันไป เพื่อเป็นอรรถรสในการอ่าน หากข้าพเจ้ากล่าวผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย เจตนาของข้าพเจ้าที่นำเรื่องราวต่างๆมาเล่าก็คือ อยากให้คนรุ่นใหม่ได้ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนามากขึ้น อยากให้ชาวพุทธเราได้นับถือศาสนาพุทธคือนับถือและศรัทธากันจริงๆ ไม่ได้นับถือกันตามทะเบียนบ้านหรือตามพ่อแม่ ซึ่งข้าพเจ้าเองก่อนบวชก็นับถือตามพ่อแม่ แต่พอมาบวชและได้เข้ามาศึกษาและกระทั่ง ได้มาจาริกตามรอยบาทในครั้งนี้ เกิดศรัทธาในพระพุทธองค์มากขึ้น จึงแสดงตนและพูดได้เต็มปากเลยว่า "ข้าพเจ้ามีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งสุดท้าย"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่