สวัสดีชาวพันทิปค่ะ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเรา
ถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยนะคะ

"จะปั่นจักรยานทั้งที  ต้องเป็นที่ไม่เหมือนใคร"
            หลังจากที่อ่านรีวิวของคนอื่น ที่มาแชร์ๆกันเกี่ยวกับทริปปั่นจักรยาน เราเลยอยากจะลองไปปั่นจักรยานบ้าง แต่จะไปปั่นทั้งทีก็ต้องเป็นที่ที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก แล้วเราก็มาเจอกับที่ๆนึงที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก นั่นก็คือ “ตำบลหนองแสง” จังหวัดนครนายก คนส่วนมากมักจะผ่านเส้นทางนี้ เพราะเป็นทางผ่านขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่คนส่วนมากไม่รู้จักและไม่ค่อยแวะเข้ามาปั่นจักรยานที่หนองแสง ทั้งๆที่ ที่แห่งนี้ก็สวยไม่แพ้กับที่อื่น และยังเป็นเส้นทางที่ผ่านขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อีกด้วย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราจะพาไปชมกันค่ะ
            ตำบลหนองแสง แห่งนี้มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูง โอบล้อมด้วยป่าไม้ ประชากรในหมู่บ้านแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวไทย-พวน โดยชาวไทย-พวนนั้น เป็นกลุ่มชนที่มีถิ่นฐานดั้งเดิม อยู่ที่เมืองพวน ซึ่งอยู่ทางด้านเหนือของเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยปัจจุบันในชุมชนหนองแสงยังคงรักษาวัฒนธรรมของชาวพวนได้เป็นอย่างดี ยังคงหลงเหลือเสน่ห์พวน ที่รอให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาสัมผัส
จากที่เราได้ไปปั่นจักรยานมา หนองแสงมีสถานที่ ที่น่าสนใจอยู่หลายที่มากๆ ถ้าเรารีวิวหมดทุกที่คงไม่ไหวแน่ๆ  เราเลยเลือกสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คของหนองแสง มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง..

อ่างเก็บน้ำคลองสีเสียด
เป็นที่ๆทุกคนของต้องมา เพราะที่นี่เรียกได้ว่าเป็นแลนมาร์คของนักปั่นจักรยานเลยก็ว่าได้  เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมากๆ โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ 100% เลย และที่นี่ยังมีพระพุทธรูปบนหุบเขาด้วย ซึ่งสวยมากๆ แต่ทางขึ้นค่อนข้างจะชัน ถ้าใครชอบปั่นแบบเอ๊กตรีมน่าจะชอบ แต่ขอบอกว่า คุ้มค่าในการปั่นขึ้นมามากจริงๆ

พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวให้ขึ้นมาสัมผัสเสมอ
พื้นที่บนเขื่อนมีความสงบร่มรื่นเหมาะแก่การชมทิวทัศน์และพักผ่อนหย่อนใจ
ต้องบอกเลยว่าความสวยงามของที่นี้ มันคุ้นค่าจริงๆกับการปั่นขึ้นจักยานขึ้นมา ถึงแม้ว่าเส้นทางขึ้นอ่างเก็บน้ำจะเป็นทางชันก็ตาม

ปั่นต่อมาเรื่อยๆ ก็เจอวัดป่าศรีถาวรนิมิตร

    วัดแห่งนี้ถือว่าเป็นสถานปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนครนายกแห่งที่ 1 เป็นสาขาของวัดปทุมวนาราม
หรือวัดปทุมที่อยู่ข้างๆพารากอนอีกด้วย
บริเวณรอบๆวัด เต็มไปด้วยต้มไม้ตลอดทางบรรยากาศดีมากๆ ร่มรื่น ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลายมาก

อีกทั้งยังมีศาลาสำหรับให้นักท่องเที่ยวแวะพัก ให้อาหารปลา และมีน้ำดื่มเย็นๆ ไว้บริการสำหรับนักปั่นจักรยานด้วย

ไปต่อกันที่ ฟาร์มครูคำรน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดป่าศรีถาวรนิมิตร
ส่วนมากคนที่รู้จักที่นี่จะเป็นคนต่างชาติ และนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เสน่ห์ของฟาร์มครูคำรนที่น่าสนใจก็คือ
ความเป็นวิถีชาวบ้าน ชนบท อยู่ท่ามกลางป่า สัตว์มีวัว ม้า ไม่มีอะไรปรุงแต่ง แม้กระทั่งไฟฟ้าก็ไม่มี กลางคืนก็จะจุดเทียนเอา ลมก็เป็นลมธรรมชาติ ส่วนเรื่องห้องน้ำลุงก็ทำเป็นโอ่ง แบบตัดน้ำ ให้ความรู้สึกถึงความเป็นชนบท วิถีชาวบ้านที่แท้จริงๆ ซึ่งลุงได้บอกว่าลุงจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร อยากให้คงความเป็นวิถีชาวบ้านแบบนี้ต่อไป และที่นี่ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือ กิจการมนั่งเกวียนชมธรรมชาติ เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน ขอบอกว่า ลุงกำลังจะพัฒนาที่นี่ให้เป็น homestay ด้วย ถ้าใครสนใจก็สามารถมาเยี่ยมชมได้ แถมลุงยังน่ารักเป็นกันเองมากๆ


          และตลอดทางปั่นจักรยาน เราจะได้เยอกับกลุ่มอาชีพต่างๆของหมู่บ้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสานสุ่มไก่ ที่เราสามารถเข้าไปลองทำเองได้ด้วย
ต่อมาเป็นกลุ่มกะลามะพร้าว ซึ้งผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวของที่นี้ทำส่งขายให้กับตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา
ใครที่แวะมาก็สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้อีกด้วย


ปั่นจักรยานต่อมาเรื่อยๆเราจะเจอวัดด้วยกันสี่วัด
วัดแรกคือ วัดโพธิ์ศรี ซึ่งเป็นวัดที่มีของเก่าแก่โบราณสะสมไว้มากที่สุดก็ว่าได้



ถัดไปเป็น วัดขุมข้าว ซึ่งอยู่ติดกับ วัดโพธิ์ศรี
มีวิหารธรรมสัจจะ ประดิษฐานสรีระสังขารของพระอภิการบุญเถิง อุตฺฐาโน (หลวงพ่อบุญเถิง) ในโรงแก้ว ซึ่งบรรจุสรีระหลังมรณะภาพที่ไม่เน่าเปื่อย คนที่นี่เชื่อว่า ใครที่ได้มาสักการะบูชาแล้ว จะประสบแต่ความโชคดี
ตรงข้ามวัดขุมข้าว มีร้านน้ำแข็งใสเล็กๆ ถ้าใครเหนื่อยก็แวะมาพักทานน้ำ ทานขนมได้ ขอบอกว่าราคาถูกมากๆคะ

หลังจากแวะพักเราก็มุ่นหน้ามาที่วัดกลางโสภา
ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของปู่ตาการะเกดที่เคารพของชาวพวนและคนในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีพระมหาเจดีย์ทอง ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางวัด
อีกวัดที่อยู่ใกล้กันคือ วัดตะเคียนทอง
เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปไม้ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าพระยิ้มซึ่งเป็น พระพุทธรูปไม้แกะสลัก ทาสีทอง ชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่า โบสถ์ที่เป็นที่ประดิษฐานของพระยิ้มเคยถูกไฟไหม้โดยมีสาเหตุมาจากการไม่ดับเทียนในช่วงวันเข้าพรรษา จึงเป็นผลทำให้โบสถ์ไหม้ทั้งหลัง แต่เหตุการที่น่าอัศจรรย์ใจของคนในหมู่บ้านนั้นคือโบสถ์ไหม้แต่พระยิ้มไม่ไหม้ แต่ยุบเพียงเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้พระยิ้มจึงเป็นที่สักการะของชาวบ้านตลอดมา
นอกจากสถานที่เที่ยวแล้ว ที่นี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านซ่อมจักรยาน โรงพยาบาล รวมไปถึง ใครที่สนใจจะนอนค้างคืน ที่นี้ก็มีบริการที่พักแบบโฮมสเตย์ด้วยค่ะ
หลังจากที่ได้ลองเข้ามาปั่นจักรยานที่นี้ สิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดคือ ที่นี้ไม่เพียงแต่มีสถานที่เที่ยวเท่านั้น แต่การที่แวะเข้ามาที่นี้ ทำได้ให้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านชาวไทยพวนที่แท้จริง และธรรมชาติที่สวยงามไม่มีการปรุงแต่งใดๆ

ถ้าใครชอบธรรมชาติและมีเวลาว่าง เราขอแนะนำให้มาลองสัมผัสการปั่นจักรยานที่ตำบลหนองแสง รับรองว่าจะหลงรักที่นี่แน่นอนค่ะ

--------------------------------------------------------------------