สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่อจากที่ผมได้ไปลงพื้นที่สำรวจชุมชนซึ่งเป็นโครงการจากมหาวิทยาลัยของผม ผมจึงเอามาเล่าให้พ่อแม่พี่น้อง ชาวพันทิปได้ฟังกัน
ชุมชนที่ผมไปลงมาคือ ชุมชนหนองแสง จังหวัดนครนายก อยู่ใกล้ๆกับเขื่อนขุนด่านปราการชล โดยเส้นทางที่ใช้ปั่นเข้าไปสามารถเข้าไปง่ายๆโดยใช้ เส้นทางลัด ที่เป็นเส้นทางจากเขื่อนขุนด่านสู่เขาใหญ่
หมู่บ้านหนองแสงนี้ เป็นหมู่บ้านของชาวไทยพวน ที่มาจากประเทศลาวได้มาตั้งรกรากกันในจังหวัดนครนายก
โดยผมจะเล่าในวันนี้จะเล่าในชื่อเรื่องว่า NongSaeng Cycling ปั่นมาลอง ณ หนองแสงงงงงงงงง !! เพื่อให้เข้าใจกันได้ง่าย คืออยากให้เพื่อนๆ มาลองปั่นจักรยานกันที่หนองแสงเพราะที่นี้มีทั้งธรรมชาติ
ประเพณีวัฒนธรรม
และการดำเนินวิถีชีวิตในแบบคนพวนแท้ๆ 100%
พอเข้ามาภายในหมู่บ้านบรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยทุ่งข้าวเขียวขจีที่สามารถสัมผัสได้ตั้งแต่เข้าหมู่บ้านมา
แอบเอาจักรยานหล่อๆมาถ่ายซักนิด
ปั่นจักรยานที่นี้ต้องระวังไก่ตัดหน้านะฮะ 55555
นอกจากธรรมชาติแล้วยังสามารถแวะทำบุญกับวัดภายในหมู่บ้านได้อีกด้วย เพราะหมู่บ้านนี้มีวัดถึง 11 วัด แต่วัดที่ผมชอบมากที่สุดคือวัดป่าศรีถาวรนิมิต แห่งนี้เลยครับ ชาวบ้านที่นั้นเค้าเล่าให้ฟังว่าวัดแห่งนี้มีเนื้อที่มากกว่า 300 ไร่ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นป่าไปซะเยอะ
เจดีย์สีขาวที่สวยงามตั้งอยู่บริเวณใจกลางของวัด
บรรยากาศภายในวัดเย็นมากก เพราะมีต้นไม้ตามทางตลอด
หลังจากที่ได้อิ่มบุญอิ่มใจกันแล้วพวกผมก็ได้ปั่นกันขึ้นไปที่อ่างเก็บน้ำคลองสีเสียดซึ่งปันต่อไปจากวัดป่าศรีถาวรนิมิตมานิดหน่อย
แต่ทางขึ้น
ไม่นิดหน่อย 5555555 (อันนี้ผมถ่ายลงมา ในรูปอาจจะดูเด็กๆ แต่ของจริง หึหึหึ ปั่นขาแทบขาด 5555)
ขึ้นมาก็ได้เจอกับธรรมชาติแบบสุดๆ
ได้ Group shot สวยๆมา1รูป
ด้านบนมีพระพุทธรูปด้านบนเขาอีกด้วย
ลงมาจากคลองก็เจอกับธรรมชาติกันต่อเลยร่มเย็นกันทั้งหมู่บ้านเลย
พอลงมาข้างล่างเซอร์ไพรส์สุดๆ เพราะหมู่บ้านนี้มีร้านบิงซูด้วย เป็นบิงซูเมล่อน จากฟาร์มสดๆ บิงซูนี้ชักจะหาง่ายเกิดไปแล้ว
ร้านชื่อว่า P.P. Farm
นี้เป็นตัวอย่างเมนูที่ทางร้านมาขาย
ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยที่ไม่มีรูปบิงซูเพราะถ่ายไม่ทันจริงๆ เรียกว่าแร้งลง
อีกเรื่องที่อยากบอกคือวิธีทำบิงซูของที่นี้เรียกว่า อเมซิ่งมากๆอยากให้ลองมาสัมผัส 555555
และทางหมู่บ้านมีแปลงเกษตรอินทรี แบบพอเพียง ของพี่นฤมล เป็นคนที่เรียนจบแล้ว แล้วเกิดไอเดียที่อยากจะพัฒนาหมู่บ้านของตนเอง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อโครงการว่า บัณฑิตคืนถิ่น
ที่นี้มีการปลูกหม่อนเอาไว้ด้วยหรืออีกชื่อ เรียกว่า มัลเบอร์รี่
เสร็จแล้วก็ไปนอนพักที่อนามัยชุมชนมีบริการนวดสมุนไพรเปิดบริการทุกวันด้วย
แล้วผมก็ได้ปั่นจักรยานแวะผ่านเจอกับบ้านสุ่มไก่ เขายังพร้อมที่จะสอนทำด้วยและขายในราคาถูกด้วย ตอนแรกก็ว่าซื้อแต่ผมไม่รู้จะเอากลับยังไง555555
พอตกเย็นจะกลับบ้านกันก็แวะซื้อของฝากกัน ที่บ้านกะลา ที่เป็นสินค้า otop ของหมู่บ้านนี้ด้วยราคาก็จัดว่าน่ารักเลย มีตั้งแต่หลักสิบ เรียกว่าถูกมากกกก
หากใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนี้นานๆ ทางหมู่บ้านก็มี home stay รอให้บริการเพื่อนๆได้พักกัน ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทเท่านั้นเองครับบ
กระทู้นี้ก็ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับขอตัวไปปั่นโปรเจคต่อก่อน ขอลาไปด้วยภาพระหว่างตอนที่พวกผมปั่นจักรยานกันนะครับ และขอบอกเลยชาวบ้านที่นี้น่ารักมาก สามารถพูดคุยได้ทุกคนเลย
[CR] NongSaeng Cycling ปั่นมาลอง ณ หนองแสง
ชุมชนที่ผมไปลงมาคือ ชุมชนหนองแสง จังหวัดนครนายก อยู่ใกล้ๆกับเขื่อนขุนด่านปราการชล โดยเส้นทางที่ใช้ปั่นเข้าไปสามารถเข้าไปง่ายๆโดยใช้ เส้นทางลัด ที่เป็นเส้นทางจากเขื่อนขุนด่านสู่เขาใหญ่
หมู่บ้านหนองแสงนี้ เป็นหมู่บ้านของชาวไทยพวน ที่มาจากประเทศลาวได้มาตั้งรกรากกันในจังหวัดนครนายก
โดยผมจะเล่าในวันนี้จะเล่าในชื่อเรื่องว่า NongSaeng Cycling ปั่นมาลอง ณ หนองแสงงงงงงงงง !! เพื่อให้เข้าใจกันได้ง่าย คืออยากให้เพื่อนๆ มาลองปั่นจักรยานกันที่หนองแสงเพราะที่นี้มีทั้งธรรมชาติ
ประเพณีวัฒนธรรม
และการดำเนินวิถีชีวิตในแบบคนพวนแท้ๆ 100%
พอเข้ามาภายในหมู่บ้านบรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยทุ่งข้าวเขียวขจีที่สามารถสัมผัสได้ตั้งแต่เข้าหมู่บ้านมา
แอบเอาจักรยานหล่อๆมาถ่ายซักนิด
ปั่นจักรยานที่นี้ต้องระวังไก่ตัดหน้านะฮะ 55555
นอกจากธรรมชาติแล้วยังสามารถแวะทำบุญกับวัดภายในหมู่บ้านได้อีกด้วย เพราะหมู่บ้านนี้มีวัดถึง 11 วัด แต่วัดที่ผมชอบมากที่สุดคือวัดป่าศรีถาวรนิมิต แห่งนี้เลยครับ ชาวบ้านที่นั้นเค้าเล่าให้ฟังว่าวัดแห่งนี้มีเนื้อที่มากกว่า 300 ไร่ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นป่าไปซะเยอะ
เจดีย์สีขาวที่สวยงามตั้งอยู่บริเวณใจกลางของวัด
บรรยากาศภายในวัดเย็นมากก เพราะมีต้นไม้ตามทางตลอด
หลังจากที่ได้อิ่มบุญอิ่มใจกันแล้วพวกผมก็ได้ปั่นกันขึ้นไปที่อ่างเก็บน้ำคลองสีเสียดซึ่งปันต่อไปจากวัดป่าศรีถาวรนิมิตมานิดหน่อย
แต่ทางขึ้น
ไม่นิดหน่อย 5555555 (อันนี้ผมถ่ายลงมา ในรูปอาจจะดูเด็กๆ แต่ของจริง หึหึหึ ปั่นขาแทบขาด 5555)
ขึ้นมาก็ได้เจอกับธรรมชาติแบบสุดๆ
ได้ Group shot สวยๆมา1รูป
ด้านบนมีพระพุทธรูปด้านบนเขาอีกด้วย
ลงมาจากคลองก็เจอกับธรรมชาติกันต่อเลยร่มเย็นกันทั้งหมู่บ้านเลย
พอลงมาข้างล่างเซอร์ไพรส์สุดๆ เพราะหมู่บ้านนี้มีร้านบิงซูด้วย เป็นบิงซูเมล่อน จากฟาร์มสดๆ บิงซูนี้ชักจะหาง่ายเกิดไปแล้ว
ร้านชื่อว่า P.P. Farm
นี้เป็นตัวอย่างเมนูที่ทางร้านมาขาย
ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยที่ไม่มีรูปบิงซูเพราะถ่ายไม่ทันจริงๆ เรียกว่าแร้งลง
อีกเรื่องที่อยากบอกคือวิธีทำบิงซูของที่นี้เรียกว่า อเมซิ่งมากๆอยากให้ลองมาสัมผัส 555555
และทางหมู่บ้านมีแปลงเกษตรอินทรี แบบพอเพียง ของพี่นฤมล เป็นคนที่เรียนจบแล้ว แล้วเกิดไอเดียที่อยากจะพัฒนาหมู่บ้านของตนเอง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อโครงการว่า บัณฑิตคืนถิ่น
ที่นี้มีการปลูกหม่อนเอาไว้ด้วยหรืออีกชื่อ เรียกว่า มัลเบอร์รี่
เสร็จแล้วก็ไปนอนพักที่อนามัยชุมชนมีบริการนวดสมุนไพรเปิดบริการทุกวันด้วย
แล้วผมก็ได้ปั่นจักรยานแวะผ่านเจอกับบ้านสุ่มไก่ เขายังพร้อมที่จะสอนทำด้วยและขายในราคาถูกด้วย ตอนแรกก็ว่าซื้อแต่ผมไม่รู้จะเอากลับยังไง555555
พอตกเย็นจะกลับบ้านกันก็แวะซื้อของฝากกัน ที่บ้านกะลา ที่เป็นสินค้า otop ของหมู่บ้านนี้ด้วยราคาก็จัดว่าน่ารักเลย มีตั้งแต่หลักสิบ เรียกว่าถูกมากกกก
หากใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนี้นานๆ ทางหมู่บ้านก็มี home stay รอให้บริการเพื่อนๆได้พักกัน ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทเท่านั้นเองครับบ
กระทู้นี้ก็ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับขอตัวไปปั่นโปรเจคต่อก่อน ขอลาไปด้วยภาพระหว่างตอนที่พวกผมปั่นจักรยานกันนะครับ และขอบอกเลยชาวบ้านที่นี้น่ารักมาก สามารถพูดคุยได้ทุกคนเลย