ผมมีอาคาร4ชั้น ซอยห้องเป็นห้องเช่า
ตึกรับมรดกมาจากพ่อที่เสียไป
ทำให้ผมขี้เกียจทำงาน และ เกษียรตอนอายุ30 ปัจจุบันเกือบ40
มีรายได้อยู่ที่ 3-5หมื่นต่อเดือน (แล้วแต่เดือน คนอยู่มากอยู่น้อย)
ผมชอบปั่นจักรยานเที่ยว ออกอาทิตย์ละ2-3วัน
เที่ยว ทำvlog และ เฟส
แล้วก็เล่นเกมส์ ดูหนัง ซีรีย์ออกใหม่
บางทีดุรวดเดียว2วัน จนจบก็มี
เพื่อนๆทำงานหมด มีครอบครัวหมด ไม่ได้เจอ
ผมโสด ไม่มีลูกเมีย ชีวิต ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย
พ่อแม่ก็ไม่มีให้เลี้ยงดูแล้ว ลูกเมียก็ไม่มี เพราะผมคิดว่าเป็นภาระ
คือเงินรายเดือน เข้ามา ผมรับเต็มๆ
งานที่มี คือ ทุก2-3วัน ผมแค่กวาด ถูชั้น1ถึงชั้น4
ดูตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ
เงินเก็บส่วนหนึ่งเอาไว้ ก๊อกๆแก๊กๆ เช่น ทำก๊อกน้ำ น้ำรั่ว ทำปลั๊กไฟ
ชีวิตผมหลั่นล้า ปั่นจักรยานไป ปั่นจักรยานมาทั่วกทม.
บางวันอยากไปต่างจังหวัด ก็นั่งรถไฟ เอารถพับไป แล้วไปปั่น
ช่วงหนาวจัด2-3วันก่อน
นี่เพิ่งกลับมาจากลพบุรี ไปปั่นไปเขาจีนแล และ ปั่นรอบอ่างซับเหล็ก
ชมดอกทานตะวันนี่เอง
ชีวิตไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่น ไร้ภาระโดยสิ้นเชิง แค่รับผิดชอบชีวิตตัวเองพอ
ถึงเวลามีเงินเข้ามีเงินใช้ แต่ ก็มักจะมีคนพูดว่า
ถ้าสักวันตึกโดนไฟไหม้ล่ะ ถ้าสักวันโดนเวนคืนที่ล่ะ ถ้าสักวันบ้านเก่า ตึกเก่า ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ซีเรียส
ผมหอพักคนทำงาน นักศึกษา ทั่วๆไป ไม่ใช่ระดับ luxury ซะหน่อย ตึกผมไม่เคยไม่มีคนเช่า
เพราะอยู่กลางเมือง
และผมถามกลับ คนที่ห่วงผม
ถ้าคุณทำงานอายุ 45แล้วโดนไล่ออก เชิญออก ลดคน เพราะพิษเศรษฐกิจล่ะ
ถ้าคุณโดนAI หรือคนรุ่นใหม่แย่งงาน เพราะมีสกิลที่ไม่ได้ดีเด่อะไร หาคนหรือเครื่องจักรมาแทนคุณได้ล่ะ
ถ้าบริษัทโดนปิด เพราะขาดทุนไม่เหลือกำไร ล่ะ ยุคนี้อะไรก็ล้มได้ ต่อให้ใหญ่แค่ไหน ใครจะคิดครั้งนึงเมื่อ20ปีก่อน
Nokiaเคยครองโลก ปัจจุบันเหลือแต่ชื่อ ใช่มั้ย
เขาบอกถ้าตึกผมโดนไฟไหม้ แล้วถ้าบ้านเขาโดนไฟไหม้ล่ะ จะไปอยู่ไหน
มีแต่ ถ้า ถ้า ถ้า ติสิ่งที่คนอื่นทำว่ามันจะมีปัญหา
ว่าแต่งานคนอื่นมีปัญหา งานตัวเองก็มีสิทธิ์เจ๊ง
ตัวเองก็มีสิทธิ์ตกงานได้ จริงมั้ยครับ
ผมมีห้องเช่าแบบ Passive Income ทำไมชอบมีคนพูดว่า ถ้าไฟไหม้จะทำยังไง
ตึกรับมรดกมาจากพ่อที่เสียไป
ทำให้ผมขี้เกียจทำงาน และ เกษียรตอนอายุ30 ปัจจุบันเกือบ40
มีรายได้อยู่ที่ 3-5หมื่นต่อเดือน (แล้วแต่เดือน คนอยู่มากอยู่น้อย)
ผมชอบปั่นจักรยานเที่ยว ออกอาทิตย์ละ2-3วัน
เที่ยว ทำvlog และ เฟส
แล้วก็เล่นเกมส์ ดูหนัง ซีรีย์ออกใหม่
บางทีดุรวดเดียว2วัน จนจบก็มี
เพื่อนๆทำงานหมด มีครอบครัวหมด ไม่ได้เจอ
ผมโสด ไม่มีลูกเมีย ชีวิต ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย
พ่อแม่ก็ไม่มีให้เลี้ยงดูแล้ว ลูกเมียก็ไม่มี เพราะผมคิดว่าเป็นภาระ
คือเงินรายเดือน เข้ามา ผมรับเต็มๆ
งานที่มี คือ ทุก2-3วัน ผมแค่กวาด ถูชั้น1ถึงชั้น4
ดูตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ
เงินเก็บส่วนหนึ่งเอาไว้ ก๊อกๆแก๊กๆ เช่น ทำก๊อกน้ำ น้ำรั่ว ทำปลั๊กไฟ
ชีวิตผมหลั่นล้า ปั่นจักรยานไป ปั่นจักรยานมาทั่วกทม.
บางวันอยากไปต่างจังหวัด ก็นั่งรถไฟ เอารถพับไป แล้วไปปั่น
ช่วงหนาวจัด2-3วันก่อน
นี่เพิ่งกลับมาจากลพบุรี ไปปั่นไปเขาจีนแล และ ปั่นรอบอ่างซับเหล็ก
ชมดอกทานตะวันนี่เอง
ชีวิตไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่น ไร้ภาระโดยสิ้นเชิง แค่รับผิดชอบชีวิตตัวเองพอ
ถึงเวลามีเงินเข้ามีเงินใช้ แต่ ก็มักจะมีคนพูดว่า
ถ้าสักวันตึกโดนไฟไหม้ล่ะ ถ้าสักวันโดนเวนคืนที่ล่ะ ถ้าสักวันบ้านเก่า ตึกเก่า ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ซีเรียส
ผมหอพักคนทำงาน นักศึกษา ทั่วๆไป ไม่ใช่ระดับ luxury ซะหน่อย ตึกผมไม่เคยไม่มีคนเช่า
เพราะอยู่กลางเมือง
และผมถามกลับ คนที่ห่วงผม
ถ้าคุณทำงานอายุ 45แล้วโดนไล่ออก เชิญออก ลดคน เพราะพิษเศรษฐกิจล่ะ
ถ้าคุณโดนAI หรือคนรุ่นใหม่แย่งงาน เพราะมีสกิลที่ไม่ได้ดีเด่อะไร หาคนหรือเครื่องจักรมาแทนคุณได้ล่ะ
ถ้าบริษัทโดนปิด เพราะขาดทุนไม่เหลือกำไร ล่ะ ยุคนี้อะไรก็ล้มได้ ต่อให้ใหญ่แค่ไหน ใครจะคิดครั้งนึงเมื่อ20ปีก่อน
Nokiaเคยครองโลก ปัจจุบันเหลือแต่ชื่อ ใช่มั้ย
เขาบอกถ้าตึกผมโดนไฟไหม้ แล้วถ้าบ้านเขาโดนไฟไหม้ล่ะ จะไปอยู่ไหน
มีแต่ ถ้า ถ้า ถ้า ติสิ่งที่คนอื่นทำว่ามันจะมีปัญหา
ว่าแต่งานคนอื่นมีปัญหา งานตัวเองก็มีสิทธิ์เจ๊ง
ตัวเองก็มีสิทธิ์ตกงานได้ จริงมั้ยครับ