ป่านี้ไม่เคยลืม

สวัสดีครับ
วันนี้ผมมีเรื่องสยองขวัญมาเล่าให้ฟัง
เป็นเรื่องที่ผมฟังมาจากลุงโต้ง แกเป็นเจ้าของสวนยางแถวบ้านผมครับ
พอมีเวลาว่าง ผมก็ชอบไปนั่งคุยกับแก และขอให้แกเล่าเรื่องผีให้ฟัง
และนี่คือหนึ่งในเรื่องที่แกเล่าครับ

แกเล่าว่า สมัยหนุ่มๆ พอแต่งเมีย ก็ย้ายมาอยู่บ้านเมีย มาช่วยพ่อตาเลี้ยงวัว
บริเวณที่เลี้ยงวัว เป็นทุ่งหญ้ากว้าง อยู่ติดกับป่าใหญ่

มีครั้งนึง แกเอาวัวไปปล่อยกินหญ้า พอตกเย็นก็จะไปต้อนวัวกลับเข้าคอก
ที่นี้พอต้อนกลับมา ก็ลองนับดู นับไปนับมา หายไปตัวนึง ตอนนั้นเย็นมากแล้ว
แสงอาทิตย์เหลือน้อยเต็มที แกเลยหยิบมีดขอคู่ใจ เดินไปตามหาวัวแก

ทุ่งที่แกเลี้ยงวัวเป็นทุ่งโล่ง มองไปถ้ามีวัวต้องเห็นแน่ๆ เพราะตัวไม่ใช่เล็กๆ
แกเลยเดาว่า มันคงเข้าไปในป่าที่อยู่ข้างๆ ที่แกเอาวัวไปปล่อย ตอนนั้นแกบอกว่า
กลัวเดินเข้าไปแล้วจะเจอโจร ถ้ามีโจรมาลักวัว กลัวมันดักตีหัวเอา

พอแกเดินเข้าไปในเขตป่า ลึกเข้าไปซักหน่อยนึง และแล้ว แกก็เห็นวัวแกอยู่ห่างไม่มาก
แกตะโกนว่า แหล่งง่ะ แหล่งง่ะ ผมก็งงว่า แหล่งง่ะ มันคืออะไร
แกบอกว่า เป็นสัญญาณที่แกใช้เรียกวัว ให้รู้ว่าได้เวลากลับเข้าคอกแล้ว
เป็นเหมือนภาษาที่แกกับวัวเข้าใจกันเอง

พอแกเรียก แทนที่วัวจะมาหาแก มันกลับเดินเข้าไปในป่า ลึกขึ้น ลึกขึ้น
จนแกบอกว่า มันมืด จนเริ่มมองอะไรไม่ค่อยเห็น
และที่สำคัญ ยิ่งเข้ายิ่งรก แกเลยเอะใจว่า เอ๊ะ ถ้าวัวมันเดินผ่านไป
ทำไมกิ่งไม้ข้างๆที่มันเดินผ่าน ไม่หักหรืองอเลย
เหมือนกับไม่มีอะไรเดินผ่านไป แต่มองไป ก็ยังเห็นวัวอยู่
แกเลยเดินตามเข้าไปอีก ปรากฎว่าไม่ทันไร วัวหาย ไม่มีแม้แต่เงา

ตอนนี้ ระยะที่พอมองเห็นสั้นลงทุกที รอบตัวเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่
และที่แปลกที่สุดคือ มันเงียบมาก ไม่มีแม้แต่เสียงนกร้อง ซึ่งผิดปกติอย่างมาก
เหมือนกับแกอยู่อีกโลกนึง โลกที่มีแกเพียงคนเดียว ในป่าที่กำลังจะมืดมิด

แกเล่าต่อว่า วัวก็เป็นห่วง แต่ห่วงตัวเองมากกว่า ตัดสินใจเดินออกจากป่า
แต่มันไม่ง่ายอย่างที่แกคิด ตอนแกเข้ามา แกฟันกิ่งไม้ที่ขวางทางแก
แต่ตอนแกกลับ เหมือนไม่ใช่ทางที่เคยผ่านมา

ในใจแกคิดว่า ถ้าเรากลัวมันก็จะยิ่งกลัว แกเลยข่มความกลัวด้วยการเอามีดฟันต้นไม้ข้างแก
แล้วตะโกนว่า ไม่กลัวหรอกโว้ย พร้อมกับหัวเราะลั่นป่า
แกฟันไปสองที แต่ทีที่สองดันพลาด มีดขอหลุดมือ กระเด็นไปข้างต้นไม้ใหญ่
แกเลยเดินเข้าไปเก็บ ถึงมองไม่ค่อยเห็น แต่ก็หาจนเจอ

พอแกเก็บมีดได้ ทันใดนั้น กิ่งต้นไม้ก็สั่นไหว เสียงดัง ซ่าๆ
ลุงโต้งตกใจ ง้างมีดทำท่าจะฟัน สายตามองขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่
พอแกมองดีๆ ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นคือลิง ตัวไม่ใหญ่ มันกระโดดไปกระโดดมา กิ่งต่อกิ่ง
พร้อมเสียงร้องเจี๊ยกๆ ดังก้องไปทั่วป่า ไม่ทันไร ลิงก็กระโดดหายไป
เหลือไว้แต่ความเงียบ และความวังเวง

แกหาทางออกจากป่าต่อ ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกิน ยอมรับว่า ตัวเองเริ่มกลัวแล้ว
แกเล่าว่า ขณะที่แกกำลังดั้นด้น เพื่อหาทางออกจากจากป่า ก็มีเสียงเหมือนอะไรบางอย่าง แหวกป่าตามแกมา
ลูงโต้งบอกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่แกรู้ว่า อาการขนลุก ตั้งแต่หัวจรดเท้ามันเป็นยังไง
แต่แกก็พยายามตั้งสติ หาทางออก แต่เหมือนจะสับสน ว่าทางออกมันอยู่ตรงไหน
เพราะหันไปทางไหนมันก็เหมือนกันหมด แต่แล้วก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝัน

มีเสียงหล่นของอะไรบ้างอย่าง ดังตุ๊บ ห่างจากแกไม่มาก
แกสะดุ้งสุดตัว ในใจก็คิดว่า อะไรมันหล่นลงมาจากต้นไม้
แกหยุดเดิน หยุดเคลื่อนไหว มีดขอในมือเริ่มสั่น
แกนิ่ง ฟังเสียง มันคืออะไรกันแน่  บรรยากาศตอนนี้เงียบสงัด
ในใจก็คิดว่า หรือจะเป็นไอ้ลิงตัวนั้น

แต่ก็ไม่น่าใช่ เพราะเสียงมันดังเกินไป ลิงตัวไม่ใหญ่ขนาดนั้น
และแล้ว สิ่งนั้นมันก็เริ่มเคลื่อนไหว มันลุกและยืนขึ้น
เสียงมันกำลังเดินเข้ามา เสียงที่มันเหยียบกิ่งไม้ใบไม้แห้ง เมื่อรอบด้านเงียบสงัด ทำให้ได้ยินอย่างชัดเจน
และแล้วลุงโต้งก็เห็น แกบอกว่าเป็นเงารางๆ ลักษณะเหมือนคน ตัวสูงใหญ่ เดินกางแขนยืดยาว ขายาวมาก แน่ใจเลยว่าไม่ใช่คน  

แกข่มความกลัว ตะโกนถาม ใครว่ะ
เงานั้นก็ยังไม่หยุดเดิน ทำเหมือนไม่ได้ยิน แกถามซ้ำ ใคร ใครว่ะ เข้ามากูฟันนะเว้ย

พูดยังไม่ทันขาดคำ ไอ้เงาที่ว่า จากเดินช้าๆ ก็วิ่งกระโจนมาทางแก อย่างกับหมายจะเอาชีวิต
ตอนนั้นแกตกใจสุดขีด เหวี่ยงมีดขอสุดแรงเกิด รู้เลยว่าฟันโดนอะไรซักอย่าง
มันไม่ได้ทำอะไรลุง มันปีนขึ้นต้นไม้ กระโดดกิ่งนี้กิ่งนั้น เหมือนลิงไม่มีผิด

ตอนนี้แกไม่ฟังอะไรแล้ว วิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว พยายามเอาตัวเองออกมาที่ทุ่งโล่งให้ได้
แต่ไอ้สิ่งนั้นก็กระโดดอยู่บนกัวแก เหมือนมันสนุกที่เห็นแกกลัว  
ต่างจากแกที่ตะโกนร้องโวยวาย ตะเกียกตะกายออกจากป่า

และแล้ว แกก็เจอทุ่งโล่งที่แกเลี้ยงวัว แกวิ่งสุดชีวิต ลัดทุ่งโล่งกว้าง ระยะทางพอสมควร
แกวิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน หน้าตาตื่นกลัว จนคนที่บ้านสงสัย ว่าไปเจออะไรมา
พอแกเล่าเหตุการณ์ที่เจอให้คนที่บ้านฟัง
บางคนบอกว่า เป็นผีค่างป่า มันชอบกินเลือดคน แต่เฉพาะตอนที่นอนหลับ เพิ่งได้ยินครั้งแรก
ว่ามันหลอกในลักษณะนี้ได้ด้วย เพราะปกติ มันจะไม่ลงมาหลอกกันบนพื้นแบบนี้
บางคนก็บอกว่าเป็นเจ้าป่าเจ้าเขา เพราะลุงโต้งไม่เคยไหว้เจ้าที่เจ้าทางเลย
บางก็ว่า ที่นี่เคยมีคนแก่มาเก็บของป่าแล้วเป็นลม ชักตาตั้งตายคาป่า วิญญาณเลยยังไม่ไปไหน

แต่ลุงโต้งคิดว่า น่าจะเป็นเจ้าป่าเจ้าเขามากกว่า เพราะเวลาจะปลดทุกข์หนัก ก็จะวิ่งไปที่ชายป่า
ไม่เคยบอกหรือขอขมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

พอตอนเช้า ลุงโต้งกับคนที่บ้านก็พากันไปตามหาวัว
ผมถามลุงว่า ยังกล้าไปอีกหรอ ลุงบอกว่า ถ้าตอนกลางวัน มันไม่น่ากลัวหรอก มีเพื่อนไปก็กล้าอยู่
และแล้วก็เจอวัว มันอยู่ข้างป่านี่เอง ไม่ได้เข้าไปในป่าเลย กำลังเล็มหญ้ากินตามประสาของมัน
ลุงบอกว่า พอเห็นอย่างนั้นก็เข่าอ่อนอีกรอบ
เพราะจำได้ว่าเข้าไปลึกพอสมควร เพื่อตามหาวัว แต่มันไม่ได้เข้าไปในป่าเลยด้วยซ้ำ
หรือมันเดินออกมาตอนกลางคืน แต่ก็ไม่น่าใช่ เพราะตามนิสัยวัว ตอนกลางคืน มันจะอยู่กับที่ มันไม่เดินเพ่นพ่านอยู่แล้ว

และนั่นก็คือหนึ่งในเรื่องเล่าของลุงโต้ง ที่ผมได้ฟังมาครับ

อ่านเพื่อความบันเทิงนะครับ
ขอบคุณครับ

เพิ่มเติม ความคิดเห็นที่ 3 นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่