สาวน้อยพลังจิต ตอน 25 “ทรายหายไปไหน”

กระทู้สนทนา
สาวน้อยพลังจิต ตอน 25  “ทรายหายไปไหน”

รถตู้สีดำเคลื่อนกลับมาจอดที่ไซท์ก่อสร้างอีกครั้ง ภายในนั้นพันตรีพิชัยกับทรายนั่งคู่กันอยู่ตอนกลางของรถ มีชายชุดซาฟารีใส่แว่นดำนั่งทั้งด้านหน้าและด้านหลังเต็มอัตราศึก
“เส้นทางมันยาวไกลมาก ขอเป็นอย่างนี้นะ เดี๋ยวทรายจะหลับตา เพื่อให้เห็นภาพเหมือนอย่างพวกโจร”
พูดจบทรายเอนศีรษะลงกับเบาะแล้วหลับตาพริ้ม ทุกคนในรถหันมองมาที่เธอคนเดียว สังเกตได้ว่าสายตาหลายคู่พยายามมองสำรวจความสวยของดวงหน้า จมูก ปาก คาง คอ ใบหู มีพันตรีพิชัยคนเดียวที่สังเกตสิ่งที่ว่านี้จากคนอื่นๆ

“นี่พวกหันไปทางอื่นกันได้ละ อย่าแม้แต่จะคิด ไอ่พวกห่า”
หนุ่มๆ ในชุดซาฟารีหันขมับทำหน้าตรงพร้อมกันทันที
“ออกรถย้อนไปที่ทางเข้า เลี้ยวซ้ายแล้วไปกลับรถ......”
ทรายเริ่มบอกทิศทางการเดินทาง คนขับรถขับตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ทุกคนในรถไม่มีใครคุยกัน ปล่อยให้ทรายใช้สมาธิในการมองเห็นภาพการเดินทางของโจรเรียกค่าไถ่ในจิตของตัว

นานเกือบ 2 ชั่วโมง รถตู้สีดำมาจอดบนถนนทรายในชนบทห่างไกล มองรอบๆ เป็นลักษณะของป่าทรุดโทรมสลับกับที่นา มีเนินเขาเล็กๆ สลับกันไป ยามนี้โพล้เพล้อาทิตย์ใกล้จะอัสดง แสงแดดจ้ายามเย็นที่ร้อนระอุทำให้เห็นเปลวแดดเต้นระบำอยู่บนพื้นถนนตรงหน้า
“หลังต้นไม้ใหญ่ทางซ้ายจะมีทางเลี้ยวแคบๆ รถคันนั้นเข้าไปอีกแค่นาทีสองนาทีแล้วหยุด คุณกีรติถูกอุ้มลงมาแล้วนำตัวขึ้นไปบนบ้าน เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกใต้ถุน”
พันตรีพิชัยหันไปพยักหน้าให้ชายหนุ่มบนรถ อย่างรู้งาน ทุกคนถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ชายในชุดซาฟารี 4 คนลงจากรถตู้ แล้วกระจายกำลังกันเดินเท้าไปตามทิศทางที่ทรายพูดถึง อีก 5 นาทีต่อมามีวิทยุเข้ามารายงาน
“ที่ให้ว. 4 ว.25 ว.63 พบ ว. 17เพราะ มีคูน้ำรอบ ว. 63  การ ว. 23 ไปยัง ว. 63 ต้อง ว. 69 ปากทางเข้า มี ว. 603 ตั้งปิดทางไว้อย่างยุทธวิธีทางทหาร มองเข้าไปไม่สามารถประเมิน ว. 30 ได้ ว. 0 ว. 2”
“โอ๊ย....เวียนหัว วอ วอ วอ วอ อะไรเต็มไปหมด ตกลงเขาว่ายังไงคะ”

ทรายทำหน้ามึนกับข้อความทางวิทยุ
คนขับที่นั่งข้างหน้าพูดเสียงดังแปลข้อความให้ทรายฟัง
“ที่ให้ดำเนินการไปยังบ้านพัก มีอันตรายเพราะมีคูน้ำรอบบ้านพัก การผ่านไปยังบ้านพัก ต้องระมัดระวัง ปากทางข้ามีรถยนต์ตั้งปิดทางไว้อย่างยุทธวิธีทางทหาร มองเข้าไปไม่สามารถประเมินจำนวนคนได้ ขอทราบคำสั่งได้ยินหรือไม่”
เสียงพันตรีพิชัยโพล่งออกมา
“กูก็เวียนหัวที่แปลนี่แหละ เอาเป็นว่าใช้ภาษาปกติ ชาวบ้านฟังรู้เรื่องแล้วกัน ไอ่โจร 2 คนนี่มันตั้งรับแบบทหาร แน่นอนถ้ามันไม่เคยรับราชการทหารหรือไม่คงเคยเป็นทหารเกณฑ์ โค้ดวิทยุที่เราพูดกัน ถ้ามันดักฟังอยู่คงเข้าใจเหมือนเราอยู่ดี บอกให้พวกเราเตรียมพร้อมปฎิบัติการ”
ชายซาฟารีได้ฟังแล้วพยักหน้า พูดวิทยุตอบไปตามคำสั่งของพันตรีพิชัย
“คาดว่าฝ่ายนั้นเคยรับราชการเหมือนกัน ให้ ว. 35 และคุยภาษาปกติ ว. 2”
“ไอ่เวรกูบอกให้พูดภาษาปกติแล้วจะว. 35 ว. 2 ทำห่าไร”

เสียงพันตรีพิชัยแว๊ดขึ้นมา หนุ่มซาฟารีรีบพูดวิทยุระล่ำระลัก
“ขอ ว. 3 ให้เตรียมพร้อมปฎิบัติการและคุยภาษาปกติ ได้ยินหรือไม่”
“จะว. 3 ไรอีกวะ”
พันตรีพิชัยพูดอย่างรำคาญหยิบวิทยุขึ้นมาพูดเอง
“เออนี่ พวกฟัง ไม่ต้องใช้โค้ดวิทยุ ไม่ต้องวงไม่ต้องวอ เราพูดไรกันถ้ามันฟังอยู่ก็รู้เรื่องเหมือนเรา เพราะท่าทางพวกมันจะเคยเป็นทหารมาก่อน และทรายมันฟังไม่เข้าใจ กูขี้เกียจแปลกลับไปกลับมา เข้าใจแล้วยัง”

“ว. 2 ว. 0 ว. 2 “ เสียงวิทยุตอบกลับมา
“เวรเอ๊ย พวกรู้เรื่องกันมั้ยเนี่ย ว. 2 “ พันตรีพิชัยสวนคำพูดออกไป พอพูดจบก็ทำท่าตกใจ
“เออ... กูเป็นซะเอง มันเคยชินกันอย่างนี้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูออกไปดูหน้างานเอง อยู่กับทรายในรถนี่”
พันตรีพิชัยบอกกับหนุ่มซาฟารีที่ทำหน้าที่พลขับแล้วเปิดประตูรถตู้ก้าวออกไปจากรถทันที
บนรถตอนนี้มีแต่ทรายที่นั่งกลางรถกับพลขับ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไร
ทรายนั่งอยู่ในรถพักใหญ่ รู้สึกสภาพแวดล้อมเงียบเชียบผิดปกติ ทำให้รู้สึกร้อนใจ
“เดี๋ยวหนูออกไปดูบ้างนะ นั่งในนี้มันอึดอัด ไม่รู้เลยว่าข้างนอกเป็นยังไง”
ทรายพูดจบทำท่าจะเปิดประตูรถ คนขับร้องเสียงหลง

“ไม่ได้นะ อย่าออกไป”
พูดจบพลขับหนุ่มซาฟารีที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยเอี้ยวตัวมาดึงแขนทรายไว้ วินาทีนั้นเอง กระจกข้างคนขับแตกดังกราว พร้อมมือใครสักคนกำหินขนาดใหญ่ตีกระจกแตกกระแทกเข้าศีรษะหนุ่มซาฟารีสลบฟุบทันที
ทรายมัวแต่ตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าวินาทีเดียวกันนี้ประตูเลื่อนของรถตู้ถูกเปิดออก และมีชายคนหนึ่งใช้ถุงกระสอบขนาดใหญ่ คลุมทรายทั้งตัวแล้วจับแบกขึ้นบ่าวิ่งห่างรถตู้ไปอย่างรวดเร็ว

    หลายคนพยายามสืบเสาะหาตัวทรายอย่างไม่ลดละ แม้จะไม่ได้ข่าวคราวของเธอเลย ทั้งหมวดปราบ แม่อรและแจ๊ค ทุกคนพยายามตามหาทราย ไม่มีใครทราบข่าวแม้แต่น้อยจนแม่อรล้มป่วยเสียใจกับทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น
    วันอาทิตย์ แจ็คไปช่วยงานลุงที่ร้านอาหารตามปกติ เห็นครูฝ่ายปกครองเดินเข้ามาในร้านจึงวิ่งไปสวัสดี
    “ครูมาทำธุระที่โรงเรียนนิดหน่อยน่ะแจ๊ค ไม่รู้ว่าเธอทำงานอยุ่ตรงนี้ มีอะไรอร่อยทำมาให้ครูกินหน่อยสิ อย่าใส่ยาถ่ายลงไปนะ”
    แจ๊ครับคำเดินออกไปตะโกนบอกลุงที่เป็นพ่อครัวให้ทำอาหารให้ครูฝ่ายปกครองแล้วเดินกลับมาพูดคุยด้วย
    “จารย์ แม่อรสำนึกผิด ออกตามหาทรายจนล้มป่วย ตอนนี้พวกผมออกตามหาทรายให้จ้าละหวั่น จารย์พอช่วยอะไรได้มั่งอ่ะครับ”
    แจ๊คบอกกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง
    “เหรอ เป็นอย่างนั้นเหรอ ครูไม่มีอะไรจะปิดบังหรอก อยากให้คนเป็นแม่เป็นลูกกลับมาเจอกัน แม้จะเป็นแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงก็เถอะ เลี้ยงกันมาตั้งแต่เป็นทารกจนโตนี่จะเป็นสาวเต็มตัวแล้ว คนเรายังไงต้องมีความผูกพันกัน ครูไม่อยากปิดหรอกนะ ตอนนี้ทรายย้ายไปอีกโรงเรียนนึงแล้ว แจ๊คจะทำยังไงไปคิดกันเอาแล้วกัน ครูช่วยเธอได้เท่านี้”
    แจ๊คแววตาเป็นประกาย ขอบคุณครูอย่างลิงโลด แล้วรีบติดต่อหมวดปราบโดยทันที
    “วันนี้โรงเรียนปิด เราคงต้องรอวันจันทร์นั่นแหละถึงจะทำอะไรได้”
    “ควรบอกแม่อรมั้ย” เสียงแจ๊คถามกลับมาจากโทรศัพท์

    หมวดปราบอึ้งไปพักหนึ่ง นึกไม่ออกว่าควรจะทำอย่างไร ตามหลักการแล้วตัวเองคิดว่าต้องบอก แต่ใจสะกิดให้รู้สึกว่าไม่บอกจะดีกว่าไหม อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง พูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าควรจะทำอย่างไรดี
    “เอางี้ ไว้รอวันจันทร์ ให้แน่ใจก่อนว่าเราเจอทรายจริงๆ แล้วค่อยคิดกันอีกที พรุ่งนี้ไม่นานเกินไปนัก”
    วางหูจากแจ๊คปั๊บ แคนดีก็เดินเข้ามาที่ทำงานหมวดปราบพอดี หมวดปราบได้แต่ส่ายหน้า
    “คุณมาทำอะไรอีก ทำไมไม่ยอมจบซะที ผมระอากับคุณเต็มทนแล้ว”
    พูดเสร็จหมวดปราบถึงกับลุกเดินหนีออกจากห้องทำงาน แคนดี้พยายามทั้งยืนขวางประตูและรั้งตัวหมวดปราบไว้
    “คุณเห็นมั้ยว่าแคนดี้พยายามทุ่มเทกับคุณแค่ไหน นี่จมูกยังไม่หายดี แคนดี้ต้องไปทำดั้งมาใหม่ และอีกอย่างวันนี้แคนดี้ไม่ได้มาหาคุณ จะบอกไว้ด้วย.............”

    พอแคนดี้พูดจบหมวดปราบหันมามองหน้าเธอ สงสัยว่าไม่ได้มาหาแล้วเธอมาทำไม
    “คุณไม่ได้มาหาผมแต่จับแขนผมไว้แถมยังยืนบังหน้าประตูด้วย คุณจะเอายังไง”
    หมวดปราบถามด้วยน้ำเสียง สีหน้า แววตาท่าทางเอือมระอาอย่างที่สุด
    “แคนดี้มาแจ้งความโดนทำร้ายร่างกายให้บาดเจ็บรุนแรงโดยเจตนาจากนังเด็กทราย มีใบรับรองแพทย์ต้องพักรักษาตัวเป็นอาทิตย์ และต้องดูอาการอีกเป็นเดือน โดยมีคุณอยู่ในที่เกิดแหตุแล้วไม่ยอมทำอะไรเลย จะแจ้งความเรื่องคุณละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย”
    หมวดปราบเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าแคนดี้จะมาไม้นี้
    “จะฟ้องอาญาทำร้ายร่างกายเอาให้ต้องถูกจับส่งบ้านเมตตากรุณาเลย ดูซิ ว่าทีนี้จะหายซ่าลงบ้างมั้ย”
    หมวดปราบท่าทีที่แข็งกร้าวเปลี่ยนเป็นอ่อนปวกเปียกเลยทีเดียว เพราะรู้ว่าเมื่อแคนดี้ตามราวีเอาเรื่องเอาราวขนาดนี้ ทรายต้องไม่รอดจากความผิดแน่ ถึงกับพูดกับแคนดี้เสียงอ่อน

    “อย่าถึงขนาดนั้นเลยน้องเขาจะเสียอนาคต อีกอย่างคุณใช้ถ้อยคำต่อว่าน้องเขาแรงขนาดนั้น เรื่องค่ารักษาพยาบาลผมก็ช่วยจ่ายให้ทั้งหมดแล้ว ถือว่าเลิกต่อกันนะ อย่าตามราวีกันขนาดนี้เลย อีกอย่าง เราเลิกกันแล้ว แต่คุณยังตามผมไม่เลิก ผมขอละ อย่าทำแบบนี้เลยนะ ถ้าคุณทำแบบนี้ต่อไปผมจะไม่เกรงใจคุณแล้วนะ”
    “อ๋อ......อ๋อ............อ๋อ .............. พูดปกป้องกันขนาดนี้เลยนะ แคนดี้จะทำตามที่คุณขอก็ได้ แต่คุณต้องเลิกยุ่งกับนังเด็กนั่นเด็ดขาด”
    แคนดี้ยื่นคำขาดเสียงดังแหลม
    “จะเอาถึงขนาดนั้นเลยเหรอ” หมวดปราบทำเสียงตกใจ
    “ยังไม่หมด คุณต้องไปรับไปส่งแคนดี้ พาแคนดี้ไปกินข้าวช็อปปิ้ง”
    หมวดปราบถึงกับอ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูก นี่เรื่องทรายก็รู้สึกวุ่นวายใจมากพอแล้ว ต้องมารับมือกันแคนดี้อีกทำให้รู้สึกอึดอัดเต็มทน
    จ่าสมหมายนั่งอยู่ในห้องได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เห็นหมวดปราบอ้ำอึ้งจึงออกความเห็นขึ้นมาบ้าง
    “กำหนดระยะเวลาได้มั้ยน้อง สักเดือนนึงพออะไรแบบนี้”

    แคนดี้ได้ยินถึงกับหันไปเบ้ปากมองบนแล้วตะคอกจ่าสมหมายเสียงดังลั่น
    “อย่าแส่หน่อยได้มั้ย คุณจ่า นี่เรื่องของคนสองคนไม่ได้ประกาศให้ใครมามีส่วนร่วม”
    จ่าสมหมายถึงกับหน้าจ๋อย ก้มหน้าพิมพ์งานต่อไป
    “เออ.....ดีเหมือนกัน ผมให้ 3 เดือนเลยเอ้า พ้นจากนี้ถือว่าเรื่องนี้จบเป็นอันเลิกแล้วต่อกัน”
    หมวดปราบเสนอเงื่อนไข 3 เดือนเพราะนึกเอาเองว่าเดือนเดียวยังไม่พอที่จมูกที่มีปัญหาจะรักษาหายได้อย่างไร้ร่องรอย ถ้าเกิดแคนดี้พยายามเอาเรื่องขึ้นมาอีกจะไม่จบง่ายๆ เลยคิดว่าถ้าทอดเวลาไว้ 3 เดือนอะไรๆ คงคลี่คลาย และหลักฐานพยานต่างๆ จะไม่มีความหมายอีก การที่จะรอไปแจ้งความอีกทีใน 3 เดือนข้างหน้าจะไม่มีผลอะไรแล้ว ถึงมีก็จะมีน้ำหนักน้อยเต็มทน
    หมวดปราบเห็นดีด้วยกับความคิดจ่าสมหมาย สรุปข้อตกลงกับแคนดี้แล้วสะบัดตัวเดินออกจากห้องทำงานไปทันที
    แคนดี้ไม่ยอมจบ เธอวิ่งตามหมวดปราบลงมาถึงรถ หมวดปราบกำลังจะคิดรถเพื่อออกไปจากที่นั้น
    “คุณจะตามผมมาทำไม่อีก”

    หมวดปราบเริ่มหมดความอดทนถึงกับตะคอกเธอ แคนดี้ไม่ยอมแพ้ เข้าประชิดตัวหมวดปราบเอาตัวขวางประตูไว้ไม่ให้หมวดปราบปิดประตูรถได้
    “คุณตกลงแล้วว่าจะพาแคนดี้ไปกินข้าวช็อปปิ้ง เรามาเริ่มกันเดี๋ยวนี้เลย”
    เธอยิ้มเยาะหมวดปราบอย่างมีชัย ทำเอาหมวดปราบอึ้งทำอะไรไม่ถูก
    แคนดี้ไม่ปล่อยให้โอกาสเสียไป เธอรีบวิ่งอ้อมไปที่ประตูรถอีกฟากหนึ่งแล้วขึ้นนั่งข้างคนขับอย่างรวดเร็ว หมวดปราบส่ายหน้าแล้วปิดประตูรถแบบงงๆ

    ในห้างสรรพสินค้า แคนดี้เดินเลือกซื้อสินค้าอย่างสนุกสนานโดยมีหมวดปราบเดินตามหิ้วถุงเต็มสองมือ อย่างไม่คาดฝันแม่อรกับวินเดินมาประจันหน้าหมวดปราบทำเอาหมวดปราบถึงกับตะลึง
    “ตกใจละสิ ผมกับอรไปตามหาทรายที่ร้านข้าวอ้ายแจ๊ค เพิ่งรู้จากมันว่าหมวดปราบรู้แล้วว่าทรายอยู่ไหน นี่คิดจะปิดเราอีกหรือเนี่ย เป็นตำรวจทำไมถึงคิดร้ายได้ขนาดนี้ นี่ชาวบ้านจะหวังพึ่งอะไรตำรวจได้”
    วินตำหนิหมวดปราบอย่างเจ็บแสบ

    หมวดปราบไม่ทันตั้งตัว มึนงงไปหมด จึงเอ่ยคำถามที่ไม่น่าจะถามในตอนนี้
    “รู้ว่าผมอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
    “อ๋อ.......เราก็ไปหาคุณที่โรงพักนะสิ ชวนทะเลาะหน่อยเดียว ตาจ่าพูดมากมันก็บอกออกมาหมด”
    แม่อรเริ่มพูดบ้าง พร้อมทำสีหน้าแววตาดูหมีนดูแคลนหมวดปราบอย่างเต็มที่
    “แหม...........ปากบอกรักลูกสาวฉัน แต่พาผู้หญิงอีกคนมาช็อปปิ้งหิ้วของจนล้นมือ นี่แหละน้า สันดานตำรวจ”
    “ไม่ใช่อย่างที่แม่อรคิดนะครับ”
    หมวดปราบไม่รู้จะทำอย่างไร มือทั้งสองเต็มไปด้วยถุงหิ้ว ปากได้แต่พูดระล่ำระลัก
    แคนดี้ที่ยืนข้างหมวดปราบ ทีแรกมองแม่อรและพ่อวินอย่างสงสัยว่า 2 คนนี้คือใครมาทำอะไร พอได้ยินจากที่ทั้งสองฝ่ายคุนกัน จึงประติดประต่อได้ว่านี่เป็นพ่อแลแม่ของทราย

    “อ๊อ...........นี่นะเหรอ แม่ของนังเด็กคอซอง ปากคอเราะร้ายอย่างนี้ รู้แล้วละว่าลูกสาวได้สันดานมาจากใคร”
    “คุณเป็นใครมาว่าลูกฉันอย่างนี้ได้ยังไง”
    แม่อรหันไปถามแคนดี้ด้วยสีหน้าเดือดดาล
    “ฉันเป็นแฟนหมวดปราบยังไงล่ะ ที่ลูกสาวร่านของเธอพยายามมาให้ท่าทำให้หมวดปราบไขว้เขว เอาความเด็กความสาวเป็นนักเรียนมาเป็นข้อได้เปรียบ ใฝ่สูงเกินลูกชาวบ้านจะมาจับหมวดปราบ ตำรวจเศรษฐีอนาคตไกลดีกรีปริญญาโทจากอเมริกามากความสามารถ”
    “คุณพูดเกินไปละ อย่ามาดูถูกเหยียดหยามกันมากนักนะ”
    แม่อรเริ่มเดือดดาลมากขึ้น กำมือทั้งสองแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
    “เกินไปยังไง นี่ดู จมูกฉันต้องไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่