สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วิกฤตการณ์สารปนเปื้อนในเนื้อสัตว์เเช่เเข็งเน่าเสียของบราซิลเริ่มบานปลาย เมื่อนานาชาติเริ่มไม่มั่นใจเเละสั่งระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์เเช่เเข็งจากบราซิลอย่างไม่มีกำหนด
โดยประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดส่งออกเนื้อสัตว์เเช่เเข็งขนาดใหญ่ที่สุด มูลค่าสูงกว่า 13,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของมูลค่าส่งออกเนื้อเเช่เเข็งทั้งหมดของบราซิล ได้สั่งระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์เเช่เเข็งจากบราซิลเเล้วอย่างไม่มีกำหนด โดยทางกระทรวงเกษตรของบราซิลกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับทางการจีนเพื่อผ่อนปรนเหตุยกเลิกดังกล่าว
ด้านคณะกรรมาธิการยุโรป ฝ่ายบริการของสหภาพยุโรป (อียู)ออกเเถลงการณ์ระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์เเช่เเข็งจากบราซิลเช่นกัน จากเหตุบริษัทผู้ส่งออกเนื้อไก่เเช่เเข็งรายใหญ่ของโลกอย่าง "BRF" เเละบริษัทผู้ผลิตเนื้อวัวเเช่เเข็งรายใหญ่ที่สุดของโลก "JBS" พัวพันกับกรณีอื้อฉาวเรื่องการลักลอบส่งออกสินค้าเน่าเสีย
ขณะที่เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าเนื้อไก่เเช่เเข็งจากบราซิลมากว่า 80% ของปริมาณในประเทศ ได้สั่งระงับการนำเข้าเนื้อไก่เเช่เเข็งจากบริษัท BRF เป็นการชั่วคราวตามไปด้วย ล่าสุดรัฐบาลชิลีก็สั่งระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์เเช่เเข็งจากบราซิลเช่นเดียวกัน
พร้อมกันนั้น นายมิเชล เทเมอร์ ประธานาธิบดีบราซิล กำลังพยายามเรียกความเชื่อมั่นจากทั่วโลกว่าอุตสาหกรรมเนื้อของประเทศยังมีความปลอดภัย ด้วยการเชิญทูตกว่า 33 ประเทศที่เป็นผู้นำเข้าเนื้อจากบราซิล มาร่วมกินสเต๊กเนื้อ หลังมีผู้กล่าวหาว่าผู้ส่งออกเนื้อบราซิลได้ส่งออกเนื้อเน่า โดยมีทูตตอบรับคำเชิญนี้เพียง 19 คนเท่านั้นโดยเขายืนยันว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อสายการผลิตเพียง 21 เเห่ง จากทั่วประเทศกว่า 4,800 แห่ง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบโรรงานบรรจุเนื้อสัตว์แช่แข็งกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวแล้วกว่า 30 คน และยังออกหมายจับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีก 27 คน ขณะเดียวกันยังสั่งปิดโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ปีกโดยกลุ่ม BRF 1 แห่ง และสั่งปิดอีก 2 โรงงานแปรรูปเนื้อโดยบริษัท Peccin ซึ่งเป็นบริษัทท้องถิ่น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1490081726
วิกฤตการณ์สารปนเปื้อนในเนื้อสัตว์เเช่เเข็งเน่าเสียของบราซิลเริ่มบานปลาย
โดยประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดส่งออกเนื้อสัตว์เเช่เเข็งขนาดใหญ่ที่สุด มูลค่าสูงกว่า 13,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของมูลค่าส่งออกเนื้อเเช่เเข็งทั้งหมดของบราซิล ได้สั่งระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์เเช่เเข็งจากบราซิลเเล้วอย่างไม่มีกำหนด โดยทางกระทรวงเกษตรของบราซิลกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับทางการจีนเพื่อผ่อนปรนเหตุยกเลิกดังกล่าว
ด้านคณะกรรมาธิการยุโรป ฝ่ายบริการของสหภาพยุโรป (อียู)ออกเเถลงการณ์ระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์เเช่เเข็งจากบราซิลเช่นกัน จากเหตุบริษัทผู้ส่งออกเนื้อไก่เเช่เเข็งรายใหญ่ของโลกอย่าง "BRF" เเละบริษัทผู้ผลิตเนื้อวัวเเช่เเข็งรายใหญ่ที่สุดของโลก "JBS" พัวพันกับกรณีอื้อฉาวเรื่องการลักลอบส่งออกสินค้าเน่าเสีย
ขณะที่เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าเนื้อไก่เเช่เเข็งจากบราซิลมากว่า 80% ของปริมาณในประเทศ ได้สั่งระงับการนำเข้าเนื้อไก่เเช่เเข็งจากบริษัท BRF เป็นการชั่วคราวตามไปด้วย ล่าสุดรัฐบาลชิลีก็สั่งระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์เเช่เเข็งจากบราซิลเช่นเดียวกัน
พร้อมกันนั้น นายมิเชล เทเมอร์ ประธานาธิบดีบราซิล กำลังพยายามเรียกความเชื่อมั่นจากทั่วโลกว่าอุตสาหกรรมเนื้อของประเทศยังมีความปลอดภัย ด้วยการเชิญทูตกว่า 33 ประเทศที่เป็นผู้นำเข้าเนื้อจากบราซิล มาร่วมกินสเต๊กเนื้อ หลังมีผู้กล่าวหาว่าผู้ส่งออกเนื้อบราซิลได้ส่งออกเนื้อเน่า โดยมีทูตตอบรับคำเชิญนี้เพียง 19 คนเท่านั้นโดยเขายืนยันว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อสายการผลิตเพียง 21 เเห่ง จากทั่วประเทศกว่า 4,800 แห่ง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบโรรงานบรรจุเนื้อสัตว์แช่แข็งกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวแล้วกว่า 30 คน และยังออกหมายจับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีก 27 คน ขณะเดียวกันยังสั่งปิดโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ปีกโดยกลุ่ม BRF 1 แห่ง และสั่งปิดอีก 2 โรงงานแปรรูปเนื้อโดยบริษัท Peccin ซึ่งเป็นบริษัทท้องถิ่น
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1490081726