“ แกอย่าเสียใจไปเลยว่ะโดด... แกเองก็ทำของแกเต็มที่แล้ว ”
“ เฮ้อ... มันเป็นธรรมดาของเราสองคนอยู่แล้วล่ะ แกก็รู้นี่ชาติ ”
“ เฮ้ย... ไม่เอาน่า ที่จริงครั้งนี้ฉันเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าหล่อนจะเลือกฉัน ”
“ ช่างเถอะ... ฉันไม่คิดอะไรแล้วล่ะ... แกชนะฉันแพ้ มันต้องเป็นแบบนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ ฉันชักจะเริ่มชินซะแล้ว ”
“ เอางี้... แกชอบกินหมูกระทะ งั้นค่ำนี้ฉันเลี้ยงหมูกระทะแกก็แล้วกัน เอามั้ย ? ลืมเรื่องวันนี้ซะ ยังไงฉันกับแกก็เป็นเพื่อนกันนะโดด”
“ อืม... ไงก็ได้ว่ะเพื่อน ”
สันโดษและสุชาติเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยยังเด็ก และทั้งสองก็เรียนที่เดียวกันมาตลอด ในชีวิตวัยรุ่นมัธยม
สุชาติมักจะชนะสันโดษเรื่องความรักอยู่เสมอ เหมือนเรื่องรักในวัยเรียนจะไม่ยอมให้สันโดษผู้อาภัพได้ลิ้มรสของความรักความชอบพอจากสาวเลยสักคนเดียว เขาเป็นผู้แพ้มาตลอด และปัจจุบันชีวิตในรั้วมหา’ลัย สุชาติก็ยังอุตส่าห์มาย้ำรอยเดิมอีก ล่าสุดสันโดษและสุชาติบังเอิญมาชอบผู้หญิงคนเดียวกัน แล้วผลการแข่งขันก็ยังเป็นอยู่เช่นเดิมนั่นเอง
.............................................................
คืนหนึ่งที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แสงสีแห่งเมืองกรุงอันศิวิไลซ์สะท้อนกับผิวน้ำดูสวยงามและบรรยากาศของเมืองใหญ่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างน่าบันเทิงเริงใจ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้สันโดษร่าเริงไปด้วยเลย เขานั่งบาร์จิบเบียร์อยู่คนเดียวที่ร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านริมแม่น้ำ
“ ทำไมนะ ? ทำไมเราถึงแพ้มันตลอด ... ทั้งที่เรากับมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยทั้งรูปร่างหน้าตา ทั้งเรื่องเรียนเรื่องกีฬาอีก ฐานะการเงินรึก็พอกัน ”
สันโดษเครียดเผลอบ่นพึมพำออกมาจนใครคนหนึ่งได้ยินเข้า
“ เรื่องรักล่ะสิไอ้หนู ” ชายวัยกลางคนเจ้าของร้านอาหารที่กำลังเช็ดแก้วและทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ทักขึ้นมา
“ ครับเรื่องรัก... ผมน่ะอาภัพเรื่องนี้ ไม่รู้จะทำยังไงดี ”
“ เฮ้อ... เอ็งอย่าคิดเลยว่าเอ็งอาภัพ ไอ้หนูเอ๊ย ”
“ ผมเองก็ไม่อยากคิดหรอกครับคุณลุง แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ ” ว่าแล้วก็จิบเบียร์ไปอีกอึก
“ ความรักมันก็นะ... ยิ่งไขว่คว้ามันก็ยิ่งห่าง เหมือนกับเอามือไปจับไข่กบในน้ำ.. ลื่นหนีนิ้วตลอด ”
“ ใช่เลยครับ เปรียบได้ดีมากเลยคุณลุง ”
“ เหอะๆๆ... แล้วแม่สาวที่เอ็งชอบน่ะ เป็นไงบ้าง ? ข้าว่าต้องสวยแน่ๆ ”
“ ครับ... ดาวมหา’ลัย ”
“ โฮ้ย ! ดาวมหา’ลัยเลยเรอะ... เล่นของสูงนี่หว่า แสดงว่าเอ็งนี่ไม่ธรรมดาซะแล้วสิเนี่ย ”
“ แหม... ไม่หรอกครับ คุณลุงก็พูดไปซะงั้น ” สันโดษแอบนึกขันสีท่าตื่นตะลึงของเจ้าของร้านอาหารคู่สนทนา
“ หึ... จะดาวรึจะอะไรก็ช่างเถอะ คนเหมือนกัน จริงมั้ยไอ้หนู? ”
สันโดษชักจะรู้สึกชอบใจเจ้าของร้านอาหารวัยกลางคนคนนี้ซะแล้ว เขารู้สึกว่าคุยกับคนคนนี้แล้วทำให้เขารู้สึกดีแปลกๆ จนความเครียดค่อยผ่อนคลายลงไปบ้าง
“ เอ้อ... แล้วเมื่อกี๊ทำไมเอ็งถึงต้องบ่นว่าแพ้วะ ? ไปแข่งจีบสาวกับใครมารึไง ? ”
“ ใช่ครับ เพื่อนสนิทผมเอง คบกันมาแต่เล็กแล้ว บ้านก็อยู่ติดกัน ”
“ อ้อ แล้วเอ็งสองคนรักกันรึเปล่า ? ”
“ ครับ พวกเรารักกันมาก ตายแทนกันได้เลยล่ะ ”
“ ข้าพอจะนึกออกแล้ว เอ็งสองคนไปชอบสาวคนเดียวกัน แล้วแข่งกันจนเอ็งแพ้ล่ะสิ… ”
เจ้าของร้านอาหารเริ่มจุดบุหรี่สูบ เสียงเพลงแนวเพื่อชีวิตที่เปิดบรรเลงในร้านก็เข้ากับกริยาท่าทางของเขาเหลือเกิน
“ ครับ... ก็งั้นแหละ ผมแพ้เพื่อนผม ผู้หญิงที่พวกเราชอบก็ไปเลือกเพื่อนผมซะ... ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ถึงมันผ่านไปแล้วก็ยังทำให้ผม
เครียดอยู่ ทำไมผมต้องแพ้มันตลอดด้วยนะ ไม่ใช่ครั้งนี้เท่านั้นนะครับคุณลุง ”
“ ใจเย็นๆไอ้หนูเอ๊ย... เอ็งน่ะยังหนุ่มยังแน่น ชีวิตยังอีกไกล ยังมีเวลารื่นรมย์กับแม่สาวสวยๆ ทั้งหลายในโลกเยอะอยู่ ”
บรรยากาศการสนทนาของสันโดษกับชายผู้เป็นเจ้าของร้านเริ่มที่จะดูอบอุ่นชื่นมื่นยิ่งขึ้น เหมือนกับบิดาสนทนา
กับลูกชายฉะนั้น
“ แล้วคุณลุงล่ะครับ เคยเจอแบบนี้มั้ย ? เล่าชีวิตรักตอนเรียนให้ผมฟังหน่อยสิ ”
“ หึๆ... เอ็งกะว่าจะเอาบทเรียนจากข้าล่ะสิ ไอ้หนู ”
“ แฮ่ะๆ ใช่ครับ... ”
“ ทั้งตอนนั้นรึตอนนี้ของข้าน่ะไม่ต้องได้เจออะไรแบบนั้นหรอก ไม่ต้องไปแข่งอะไรกับใครให้มันวุ่นวาย ”
ชายเจ้าของร้านอัดควันบุหรี่เข้าปอดไปอีกหนึ่งเฮือกใหญ่ สีหน้าดูมีความสุข บ่งบอกถึงความเป็นคนมีความสำราญในชีวิต
อย่างเต็มที่ หลังจากหันไปสั่งงานด่วนพนักงานที่อยู่หลังร้านแล้วจึงหันกลับมาสนทนากับสันโดษอีก
“ ยังไงเหรอครับคุณลุง ? ที่ว่าไม่ต้องเจออะไรแบบนั้นน่ะ ”
“ ไอ้หนูเอ๊ย... ขึ้นชื่อว่าหญิงน่ะ เขาทำให้เราเจ็บปวดได้ เอ็งว่ามั้ย ”
“ ครับ ผมเห็นด้วยเลยคำนี้ เจอมาหมาดๆ ”
“ เอ็งนี่นับว่าเป็นคนดีใช้ได้อยู่นะ ที่เพื่อนชนะเรื่องรักแล้วเอ็งไม่พาลน่ะ เพราะธรรมดาแล้วตีกันตายเลย จะสนิทขนาดไหนก็ช่าง
พินาศเพราะผู้หญิงคนเดียว... นี่ไอ้หนู ผู้หญิงน่ะดูอ่อนแอ สวยงามน่ารักก็จริง แต่รู้มั้ย แฝงไปด้วยพิษภัยสารพัด
ทำให้เพื่อนแตกกันก็ได้ ทำให้การเรียนการทำงานตกต่ำก็ได้ ทำให้ครอบครัวแตกแยกก็ได้ รึทำให้ตายโดยไม่ต้องออกแรงฆ่า
ก็ยังได้ เอ็งเชื่อรึเปล่า ?... ข้าน่ะ ไม่มีคู่ใจหรอก ไม่ใช่ว่าข้าเป็นพวกมะเขือเผารึเป็นเกย์หรอกนะ ผู้หญิงที่มารักมาชอบข้าก็มีอยู่
สวยๆ กันทั้งนั้น แต่ข้าไม่สน มันยุ่งยาก เที่ยวไปคนเดียวแบบนี้ดีกว่า สบายกว่ากันเยอะ ใช้ชีวิตได้เต็มที่ จะทำอะไรก็ได้ทำ
อิสระเสรีไม่มีเวรภัย... อันนี้ของข้านะ ส่วนของเอ็งข้าไม่รู้ ”
สันโดษนิ่งอึ้งกับความคิดของคู่สนทนาวัยกลางคน คิดๆ ไปแล้วมันก็จริงอยู่ และเขาสังเกตได้ว่าหน้าตาของ
เจ้าของร้านอาหารคนนี้ถ้าเป็นตอนหนุ่มจะหล่อเหลาเอาการใช่ย่อยเลยทีเดียว
“ แต่… ผู้หญิงดีๆ ก็มีนะครับคุณลุง ไม่ชั่วทั้งหมดหรอกมั้ง... แล้วคนชั่วน่ะมีน้อยกว่าคนดีด้วย ผมคิดว่างั้นนะ”
“ มันแล้วแต่เอ็งจะมองว่ะ... ก็เข้าใจอยู่ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ... ถ้าได้ดีก็ดีไป ข้าก็ขอให้เอ็งได้คนดีๆ เป็นเมียละกัน เหอะๆๆ ”
เจ้าของร้านพูดและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ปากก็คาบบุหรี่ควันฉุย สันโดษรู้สึกเหมือนกับว่าคืนนี้เขาได้มานั่งคุยกับ
เทวดาหรืออะไรทำนองนี้สักอย่าง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมากจนลืมเครียดไปเลย สมกับชื่อของร้านที่เขานั่งอยู่ เพราะร้านนี้
ชื่อว่าร้าน ‘ สบายใจ ’
“ อย่าว่างั้นว่างี้เลยนะครับ ผมว่าถ้าคุณลุงบวชนี่ จะเป็นพระที่น่าเลื่อมใสมากแน่ๆ ”
“ เอ็งก็อย่าว่างั้นว่างี้เลยว่ะ... ข้าน่ะ ตั้งใจจะบวชอยู่แล้ว เพราะกิจในโลกนี้ของข้ามันไม่มีแล้ว ข้าเคยฝันว่าอยากจะมีธุรกิจเป็นของ
ตัวเองข้าก็ได้มีแล้ว มันอิ่มไปหมด ไม่อยากมีอะไรอื่นอีก... ตอนนี้ข้ากำลังหาคนที่ฉลาดๆ มีปัญญามาสืบต่อกิจการของข้าอยู่เนี่ย
พอสละธุรกิจนี่ได้แล้วข้าจะบวชเข้าไปจำอยู่ในป่าที่ภาคเหนือโน่นทันทีเลยล่ะ... เหอะๆๆๆ ”
.......................................................
ณ. ป่าอันร่มรื่นแห่งหนึ่ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
“ นมัสการครับพระคุณเจ้า ”
“ เจริญพรโยม ”
“ เป็นยังไงบ้างครับ ? อยู่ในป่าแบบนี้ ผมไม่ได้มาเยี่ยมท่านซะนานเลย ”
“ อาตมาอยู่เป็นสุขดีโยม แล้วโยมล่ะเป็นยังไงกันบ้าง สบายดีอยู่มั้ย ? ”
“ เฮ้อ... ผมแย่ครับพระคุณเจ้า เมียผมออกสันดานเจ้าชู้หนักมากช่วงนี้ ล่าสุดนี่ผมจับได้ว่ามันแอบไปจีบไอ้หนุ่มขายน้ำปั่นที่ตลาด
มานานแล้ว... โฮ้ย... ดีนะที่ผมจับได้ก่อน ไม่งั้นมันได้เสียกันแน่ ”
“ แล้วจากนั้นโยมทำยังไงล่ะ ? ”
“ จะทำไงได้ล่ะครับ ? ผมเองก็รักเมียผมมาก หย่าไม่ได้ซักที ตั้งแต่แต่งงานกับมันมาห้าปีนี่ ผมยังไม่มีลูกกับมันเลยนะ มันอ้างว่า
กลัวหุ่นเสีย กลัวเจ็บคลอด โอ้ย... ผมจะบ้าตาย !”
“ มีลูกชื่อว่ามีเครื่องจองจำ เครื่องจองจำของโยมก็ยังไม่เกิดขึ้นนี่ แล้วโยมจะทนอยู่ในสภาพแบบนั้นเพื่อประโยชน์อะไรอีกล่ะ ?
ทำไมโยมไม่ดับทุกข์ของโยมซะทีล่ะ ? ”
“ ก็... ผมรักเมียผมนี่ครับ... ”
“ โยม... ธรรมดาว่าหญิงย่อมทำความพินาศให้คนได้ลึกซึ้งถึงแก่นจริงๆ เลยทั้งกายทั้งใจ... โยมก็เห็นธรรมข้อนี้แล้วนี่ ตอนนี้มัน
ชัดเจนมากเลยนะ ”
“…………..”
“ อาตมาเองก็เคยโดนสีกาคนนั้นทำให้เกิดความทุกข์มาแล้ว คราวนี้โยมโดนเล่นงานหนักกว่าอาตมาซะอีก อาตมาน่ะสงสาร
โยมจริงๆ ... อาตมาทำอะไรไม่ได้หรอก นอกจากจะพูดคำเก่าๆ เดิมๆ กับโยมอยู่นั่นแหละ ว่าให้ดับทุกข์เสีย ”
“ งั้น.... ถ้าผมหย่ากับยัยสันดานเลวนั่นแล้วบวชอยู่กับพระคุณเจ้าแล้ว พระคุณเจ้าจะเป็นที่พึ่งให้ผมได้มั้ยครับ ? ”
“ สงฆ์ย่อมสงเคราะห์กันและกันอยู่แล้วโยม พระธรรมของพระศาสดาเป็นที่พึ่งของเราได้แน่นอน ”
“ งั้นผมตัดสินใจแล้วครับพระคุณเจ้า... ผมจะบวชอยู่กับท่าน ที่จริงผมเองก็เบื่อชีวิตทุกวันนี้เต็มทีแล้ว ทั้งเรื่องการงาน ทั้งเรื่องคน ”
“ โอ สาธุ สาธุ สาธุ... โยมตัดเหตุแห่งทุกข์ได้แล้ว ต่อไปนี้โยมก็จะพ้นทุกข์ซะทีแล้วนะ ยินดีด้วย...
โยมชาติ ”
หลังจากสุชาติทำกิจทานกับพระสันโดษเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ปฏิบัติธรรมสองสามวัน เขาก็กราบลากลับไปกรุงเทพฯ ทำการหย่ากับอดีตดาวมหา’ลัยผู้ไม่อิ่มในความรักอย่างไม่ไยดี แล้วกลับมาที่แม่ฮ่องสอนเพื่อออกบวชเข้าไปอยู่ในป่ากับพระสันโดษสหายรักของเขา มีความสุขอันเป็นนิรันดร์ เป็นผู้ชนะตนเอง ละกิเลสแล้วด้วยกันทั้งคู่
************************************
(เรื่องสั้น) ผู้ชนะ
“ เฮ้อ... มันเป็นธรรมดาของเราสองคนอยู่แล้วล่ะ แกก็รู้นี่ชาติ ”
“ เฮ้ย... ไม่เอาน่า ที่จริงครั้งนี้ฉันเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าหล่อนจะเลือกฉัน ”
“ ช่างเถอะ... ฉันไม่คิดอะไรแล้วล่ะ... แกชนะฉันแพ้ มันต้องเป็นแบบนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ ฉันชักจะเริ่มชินซะแล้ว ”
“ เอางี้... แกชอบกินหมูกระทะ งั้นค่ำนี้ฉันเลี้ยงหมูกระทะแกก็แล้วกัน เอามั้ย ? ลืมเรื่องวันนี้ซะ ยังไงฉันกับแกก็เป็นเพื่อนกันนะโดด”
“ อืม... ไงก็ได้ว่ะเพื่อน ”
สันโดษและสุชาติเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยยังเด็ก และทั้งสองก็เรียนที่เดียวกันมาตลอด ในชีวิตวัยรุ่นมัธยม
สุชาติมักจะชนะสันโดษเรื่องความรักอยู่เสมอ เหมือนเรื่องรักในวัยเรียนจะไม่ยอมให้สันโดษผู้อาภัพได้ลิ้มรสของความรักความชอบพอจากสาวเลยสักคนเดียว เขาเป็นผู้แพ้มาตลอด และปัจจุบันชีวิตในรั้วมหา’ลัย สุชาติก็ยังอุตส่าห์มาย้ำรอยเดิมอีก ล่าสุดสันโดษและสุชาติบังเอิญมาชอบผู้หญิงคนเดียวกัน แล้วผลการแข่งขันก็ยังเป็นอยู่เช่นเดิมนั่นเอง
.............................................................
คืนหนึ่งที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แสงสีแห่งเมืองกรุงอันศิวิไลซ์สะท้อนกับผิวน้ำดูสวยงามและบรรยากาศของเมืองใหญ่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างน่าบันเทิงเริงใจ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้สันโดษร่าเริงไปด้วยเลย เขานั่งบาร์จิบเบียร์อยู่คนเดียวที่ร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านริมแม่น้ำ
“ ทำไมนะ ? ทำไมเราถึงแพ้มันตลอด ... ทั้งที่เรากับมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลยทั้งรูปร่างหน้าตา ทั้งเรื่องเรียนเรื่องกีฬาอีก ฐานะการเงินรึก็พอกัน ”
สันโดษเครียดเผลอบ่นพึมพำออกมาจนใครคนหนึ่งได้ยินเข้า
“ เรื่องรักล่ะสิไอ้หนู ” ชายวัยกลางคนเจ้าของร้านอาหารที่กำลังเช็ดแก้วและทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ทักขึ้นมา
“ ครับเรื่องรัก... ผมน่ะอาภัพเรื่องนี้ ไม่รู้จะทำยังไงดี ”
“ เฮ้อ... เอ็งอย่าคิดเลยว่าเอ็งอาภัพ ไอ้หนูเอ๊ย ”
“ ผมเองก็ไม่อยากคิดหรอกครับคุณลุง แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ ” ว่าแล้วก็จิบเบียร์ไปอีกอึก
“ ความรักมันก็นะ... ยิ่งไขว่คว้ามันก็ยิ่งห่าง เหมือนกับเอามือไปจับไข่กบในน้ำ.. ลื่นหนีนิ้วตลอด ”
“ ใช่เลยครับ เปรียบได้ดีมากเลยคุณลุง ”
“ เหอะๆๆ... แล้วแม่สาวที่เอ็งชอบน่ะ เป็นไงบ้าง ? ข้าว่าต้องสวยแน่ๆ ”
“ ครับ... ดาวมหา’ลัย ”
“ โฮ้ย ! ดาวมหา’ลัยเลยเรอะ... เล่นของสูงนี่หว่า แสดงว่าเอ็งนี่ไม่ธรรมดาซะแล้วสิเนี่ย ”
“ แหม... ไม่หรอกครับ คุณลุงก็พูดไปซะงั้น ” สันโดษแอบนึกขันสีท่าตื่นตะลึงของเจ้าของร้านอาหารคู่สนทนา
“ หึ... จะดาวรึจะอะไรก็ช่างเถอะ คนเหมือนกัน จริงมั้ยไอ้หนู? ”
สันโดษชักจะรู้สึกชอบใจเจ้าของร้านอาหารวัยกลางคนคนนี้ซะแล้ว เขารู้สึกว่าคุยกับคนคนนี้แล้วทำให้เขารู้สึกดีแปลกๆ จนความเครียดค่อยผ่อนคลายลงไปบ้าง
“ เอ้อ... แล้วเมื่อกี๊ทำไมเอ็งถึงต้องบ่นว่าแพ้วะ ? ไปแข่งจีบสาวกับใครมารึไง ? ”
“ ใช่ครับ เพื่อนสนิทผมเอง คบกันมาแต่เล็กแล้ว บ้านก็อยู่ติดกัน ”
“ อ้อ แล้วเอ็งสองคนรักกันรึเปล่า ? ”
“ ครับ พวกเรารักกันมาก ตายแทนกันได้เลยล่ะ ”
“ ข้าพอจะนึกออกแล้ว เอ็งสองคนไปชอบสาวคนเดียวกัน แล้วแข่งกันจนเอ็งแพ้ล่ะสิ… ”
เจ้าของร้านอาหารเริ่มจุดบุหรี่สูบ เสียงเพลงแนวเพื่อชีวิตที่เปิดบรรเลงในร้านก็เข้ากับกริยาท่าทางของเขาเหลือเกิน
“ ครับ... ก็งั้นแหละ ผมแพ้เพื่อนผม ผู้หญิงที่พวกเราชอบก็ไปเลือกเพื่อนผมซะ... ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ถึงมันผ่านไปแล้วก็ยังทำให้ผม
เครียดอยู่ ทำไมผมต้องแพ้มันตลอดด้วยนะ ไม่ใช่ครั้งนี้เท่านั้นนะครับคุณลุง ”
“ ใจเย็นๆไอ้หนูเอ๊ย... เอ็งน่ะยังหนุ่มยังแน่น ชีวิตยังอีกไกล ยังมีเวลารื่นรมย์กับแม่สาวสวยๆ ทั้งหลายในโลกเยอะอยู่ ”
บรรยากาศการสนทนาของสันโดษกับชายผู้เป็นเจ้าของร้านเริ่มที่จะดูอบอุ่นชื่นมื่นยิ่งขึ้น เหมือนกับบิดาสนทนา
กับลูกชายฉะนั้น
“ แล้วคุณลุงล่ะครับ เคยเจอแบบนี้มั้ย ? เล่าชีวิตรักตอนเรียนให้ผมฟังหน่อยสิ ”
“ หึๆ... เอ็งกะว่าจะเอาบทเรียนจากข้าล่ะสิ ไอ้หนู ”
“ แฮ่ะๆ ใช่ครับ... ”
“ ทั้งตอนนั้นรึตอนนี้ของข้าน่ะไม่ต้องได้เจออะไรแบบนั้นหรอก ไม่ต้องไปแข่งอะไรกับใครให้มันวุ่นวาย ”
ชายเจ้าของร้านอัดควันบุหรี่เข้าปอดไปอีกหนึ่งเฮือกใหญ่ สีหน้าดูมีความสุข บ่งบอกถึงความเป็นคนมีความสำราญในชีวิต
อย่างเต็มที่ หลังจากหันไปสั่งงานด่วนพนักงานที่อยู่หลังร้านแล้วจึงหันกลับมาสนทนากับสันโดษอีก
“ ยังไงเหรอครับคุณลุง ? ที่ว่าไม่ต้องเจออะไรแบบนั้นน่ะ ”
“ ไอ้หนูเอ๊ย... ขึ้นชื่อว่าหญิงน่ะ เขาทำให้เราเจ็บปวดได้ เอ็งว่ามั้ย ”
“ ครับ ผมเห็นด้วยเลยคำนี้ เจอมาหมาดๆ ”
“ เอ็งนี่นับว่าเป็นคนดีใช้ได้อยู่นะ ที่เพื่อนชนะเรื่องรักแล้วเอ็งไม่พาลน่ะ เพราะธรรมดาแล้วตีกันตายเลย จะสนิทขนาดไหนก็ช่าง
พินาศเพราะผู้หญิงคนเดียว... นี่ไอ้หนู ผู้หญิงน่ะดูอ่อนแอ สวยงามน่ารักก็จริง แต่รู้มั้ย แฝงไปด้วยพิษภัยสารพัด
ทำให้เพื่อนแตกกันก็ได้ ทำให้การเรียนการทำงานตกต่ำก็ได้ ทำให้ครอบครัวแตกแยกก็ได้ รึทำให้ตายโดยไม่ต้องออกแรงฆ่า
ก็ยังได้ เอ็งเชื่อรึเปล่า ?... ข้าน่ะ ไม่มีคู่ใจหรอก ไม่ใช่ว่าข้าเป็นพวกมะเขือเผารึเป็นเกย์หรอกนะ ผู้หญิงที่มารักมาชอบข้าก็มีอยู่
สวยๆ กันทั้งนั้น แต่ข้าไม่สน มันยุ่งยาก เที่ยวไปคนเดียวแบบนี้ดีกว่า สบายกว่ากันเยอะ ใช้ชีวิตได้เต็มที่ จะทำอะไรก็ได้ทำ
อิสระเสรีไม่มีเวรภัย... อันนี้ของข้านะ ส่วนของเอ็งข้าไม่รู้ ”
สันโดษนิ่งอึ้งกับความคิดของคู่สนทนาวัยกลางคน คิดๆ ไปแล้วมันก็จริงอยู่ และเขาสังเกตได้ว่าหน้าตาของ
เจ้าของร้านอาหารคนนี้ถ้าเป็นตอนหนุ่มจะหล่อเหลาเอาการใช่ย่อยเลยทีเดียว
“ แต่… ผู้หญิงดีๆ ก็มีนะครับคุณลุง ไม่ชั่วทั้งหมดหรอกมั้ง... แล้วคนชั่วน่ะมีน้อยกว่าคนดีด้วย ผมคิดว่างั้นนะ”
“ มันแล้วแต่เอ็งจะมองว่ะ... ก็เข้าใจอยู่ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ... ถ้าได้ดีก็ดีไป ข้าก็ขอให้เอ็งได้คนดีๆ เป็นเมียละกัน เหอะๆๆ ”
เจ้าของร้านพูดและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ปากก็คาบบุหรี่ควันฉุย สันโดษรู้สึกเหมือนกับว่าคืนนี้เขาได้มานั่งคุยกับ
เทวดาหรืออะไรทำนองนี้สักอย่าง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมากจนลืมเครียดไปเลย สมกับชื่อของร้านที่เขานั่งอยู่ เพราะร้านนี้
ชื่อว่าร้าน ‘ สบายใจ ’
“ อย่าว่างั้นว่างี้เลยนะครับ ผมว่าถ้าคุณลุงบวชนี่ จะเป็นพระที่น่าเลื่อมใสมากแน่ๆ ”
“ เอ็งก็อย่าว่างั้นว่างี้เลยว่ะ... ข้าน่ะ ตั้งใจจะบวชอยู่แล้ว เพราะกิจในโลกนี้ของข้ามันไม่มีแล้ว ข้าเคยฝันว่าอยากจะมีธุรกิจเป็นของ
ตัวเองข้าก็ได้มีแล้ว มันอิ่มไปหมด ไม่อยากมีอะไรอื่นอีก... ตอนนี้ข้ากำลังหาคนที่ฉลาดๆ มีปัญญามาสืบต่อกิจการของข้าอยู่เนี่ย
พอสละธุรกิจนี่ได้แล้วข้าจะบวชเข้าไปจำอยู่ในป่าที่ภาคเหนือโน่นทันทีเลยล่ะ... เหอะๆๆๆ ”
.......................................................
ณ. ป่าอันร่มรื่นแห่งหนึ่ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
“ นมัสการครับพระคุณเจ้า ”
“ เจริญพรโยม ”
“ เป็นยังไงบ้างครับ ? อยู่ในป่าแบบนี้ ผมไม่ได้มาเยี่ยมท่านซะนานเลย ”
“ อาตมาอยู่เป็นสุขดีโยม แล้วโยมล่ะเป็นยังไงกันบ้าง สบายดีอยู่มั้ย ? ”
“ เฮ้อ... ผมแย่ครับพระคุณเจ้า เมียผมออกสันดานเจ้าชู้หนักมากช่วงนี้ ล่าสุดนี่ผมจับได้ว่ามันแอบไปจีบไอ้หนุ่มขายน้ำปั่นที่ตลาด
มานานแล้ว... โฮ้ย... ดีนะที่ผมจับได้ก่อน ไม่งั้นมันได้เสียกันแน่ ”
“ แล้วจากนั้นโยมทำยังไงล่ะ ? ”
“ จะทำไงได้ล่ะครับ ? ผมเองก็รักเมียผมมาก หย่าไม่ได้ซักที ตั้งแต่แต่งงานกับมันมาห้าปีนี่ ผมยังไม่มีลูกกับมันเลยนะ มันอ้างว่า
กลัวหุ่นเสีย กลัวเจ็บคลอด โอ้ย... ผมจะบ้าตาย !”
“ มีลูกชื่อว่ามีเครื่องจองจำ เครื่องจองจำของโยมก็ยังไม่เกิดขึ้นนี่ แล้วโยมจะทนอยู่ในสภาพแบบนั้นเพื่อประโยชน์อะไรอีกล่ะ ?
ทำไมโยมไม่ดับทุกข์ของโยมซะทีล่ะ ? ”
“ ก็... ผมรักเมียผมนี่ครับ... ”
“ โยม... ธรรมดาว่าหญิงย่อมทำความพินาศให้คนได้ลึกซึ้งถึงแก่นจริงๆ เลยทั้งกายทั้งใจ... โยมก็เห็นธรรมข้อนี้แล้วนี่ ตอนนี้มัน
ชัดเจนมากเลยนะ ”
“…………..”
“ อาตมาเองก็เคยโดนสีกาคนนั้นทำให้เกิดความทุกข์มาแล้ว คราวนี้โยมโดนเล่นงานหนักกว่าอาตมาซะอีก อาตมาน่ะสงสาร
โยมจริงๆ ... อาตมาทำอะไรไม่ได้หรอก นอกจากจะพูดคำเก่าๆ เดิมๆ กับโยมอยู่นั่นแหละ ว่าให้ดับทุกข์เสีย ”
“ งั้น.... ถ้าผมหย่ากับยัยสันดานเลวนั่นแล้วบวชอยู่กับพระคุณเจ้าแล้ว พระคุณเจ้าจะเป็นที่พึ่งให้ผมได้มั้ยครับ ? ”
“ สงฆ์ย่อมสงเคราะห์กันและกันอยู่แล้วโยม พระธรรมของพระศาสดาเป็นที่พึ่งของเราได้แน่นอน ”
“ งั้นผมตัดสินใจแล้วครับพระคุณเจ้า... ผมจะบวชอยู่กับท่าน ที่จริงผมเองก็เบื่อชีวิตทุกวันนี้เต็มทีแล้ว ทั้งเรื่องการงาน ทั้งเรื่องคน ”
“ โอ สาธุ สาธุ สาธุ... โยมตัดเหตุแห่งทุกข์ได้แล้ว ต่อไปนี้โยมก็จะพ้นทุกข์ซะทีแล้วนะ ยินดีด้วย...โยมชาติ ”
หลังจากสุชาติทำกิจทานกับพระสันโดษเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ปฏิบัติธรรมสองสามวัน เขาก็กราบลากลับไปกรุงเทพฯ ทำการหย่ากับอดีตดาวมหา’ลัยผู้ไม่อิ่มในความรักอย่างไม่ไยดี แล้วกลับมาที่แม่ฮ่องสอนเพื่อออกบวชเข้าไปอยู่ในป่ากับพระสันโดษสหายรักของเขา มีความสุขอันเป็นนิรันดร์ เป็นผู้ชนะตนเอง ละกิเลสแล้วด้วยกันทั้งคู่
************************************