รีวิวครั้งแรกครับ เผื่อจะเป็นที่น่าสนใจ ไว้ให้คนทั่วไปที่อยากลองของแปลกๆ หรือผู้ที่ชื่นชอบในการเดินป่าออกผจญภัย ได้มองศึกษาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับมื้ออาหารที่จะนำไปทานระหว่างทางครับ

โดยเจ้า MRE จะย่อมาจาก Meal Ready to Eat อันที่ผมจะนำมารีวิวคือ MRE ของทหารสหรัฐอเมริกา น่าจะมาพร้อมกันพวกที่มาฝึก Cobra Gold ปีล่าสุดที่พึ่งฝึกกันเสร็จไปไม่นาน จริงๆอาหาร MRE นี่มีตามของแต่ละชาตินะครับ รัสเซีย สหรัชอาณาจักร เยอรมัน  ฯลฯ ลองไปดูได้ในยูทูป  แต่ว่าของสหรัฐหาได้ง่ายสุดแล้วครับ ผมว่าของไทยยังหายากกว่าเลยนะ


ส่วนตัวผมคิดว่ามันน่าสนใจ เพราะเป็นอาหารที่กินได้สะดวก พกพาง่าย และให้พลังงานในปริมาณที่เหมาะสมแก่การทำกิจกรรมต่าง ซึ่งเจ้าอาหารชุดนี้ก็ได้ถูกแจกจ่ายให้แก่ทหารเพื่อใช้รับประทานในสนามรบ

ผมได้มา 2 ลัง คือ ลัง A และ B โดยแต่ละลังจะมีอยู่ 12 ซอง แต่ละเมนูจะมีมื้อหลักที่ไม่ซ้ำกัน ก็จะเท่ากับว่า ทั้งหมด มี 24 เมนูให้เลือก

โดยวันนี้ผมจะมาลอง Menu ที่ 1 คือ Chili with Beans ส่วนตัวไม่รู้ว่าคืออะไร 555
ถ้าแปลตรงตัวก็คงเป็น พริกและถั่ว เดาว่าคงไม่ใช่ พริกขี้หนูเป็นเม็ดๆอะไรแบบนั้น อาจจะเป็นพริกหยวก

ซองสามารถฉีกได้เลย


โดยพอเราฉีกซองออก ข้างในจะเป็นแบบนี้ครับ


พอผมเอาของที่อยู่ข้างในออกมาทั้งหมด สิ่งที่เราจะเจอคือ


1.ซองอาหารมื้อหลัก Chili with Beans
2.แคร็กเกอร์เชดดาร์ชีส Cheaddar Cheese Crackers
3.ขนมปังข้าวโพด Cornbread TFF
4.ครีมชีส Cheese Spread
5.แร็กเกอร์ผัก Vegetable Crackers
6.ซองผงเครื่องดื่ม รสเลม่อนมะนาว Beverage Base Powder Lemon Lime ขนาด 34 กรัม
7.ซองจิปาถะ
8.ซองอุ่นอาหาร
9.ซองใส่เครื่องดื่ม
10.ช้อน

อันนี้คือโภชนาการของอาหารที่มีในซองครับ


โดยในซองจิปาถะจะมี


1.กระดาษเช็ดมือ
2.ทิชชู่เปียก
3.น้ำตาลขนาด 4 กรัม
4.ซองกาแฟขนาด 1.5 กรัม
5.ครีมขนาด 4 กรัม
6.เกลือน่าจะขนาด 1 กรัม  (เลขไม่ค่อยชัด)
7.ไม่ขีดไฟ 20 ก้าน
8.หมากฝรั่ง 2 เม็ด

ขั้นตอนในการกินของเราคือ เราจะอุ่นอาหารก่อน โดยการนำซองอาหารมื้อหลัก ใส่เข้าไปในซองอุ่นอาหาร
แล้วจึงเติมน้ำลงไป อย่าให้น้ำเกินเส้นที่ขีดไว้ใต้คำว่า Do not Overfill แล้วจึงม้วนซองอุ่นอาหาร ใส่แนบไว้กับซองกระดาษของซองอาหารมื้อหลัก พร้อมกับพิงซองไว้ให้ซองลาดเอียง ทิ้งเวลาไว้ประมาณ 1 นาที ซองอาหารก็จะอุ่นพร้อมรับประทาน


สำหรับผม ผมใช้ก้อนสำลีในการพิงครับ


หน่วย IED ตรวจวัตถุต้องสงสัย


พอเติมน้ำลงไป จะมีเสียงฟู่ออกมา และมีกลิ่นไหม้หน่อยๆ คาดว่าน่าจะเพราะมาจากปฏิกิริยาของ  Mg ที่ทำกับ น้ำ นั้นเอง

หลังจากที่รอมาประมาณ 3 นาที ก็ได้ฤกษ์เอาซองอาหารออก และเทลงจานครับ ความร้อนที่ได้นับว่าพอเหมาะกับที่คนน่าจะรับประทานอาหารกันเลย ถือว่าสะดวกมาก แลกกับไม่ต้องเสียเวลา ตั้งเตาทำอาหารอะนะ

อันนี้คือสภาพหลังแกะออกมาจากซองเสร็จทั้งหมด เอามาวางเรียบเรียง


อันนี้คือซองเครื่องดื่มใส่กระบอกน้ำก่อนเติมน้ำ


อันนี้คือเติมน้ำแล้วครับ ตอนแรกนึกว่าน้ำจะออกมาเป็นสีเหลือง เพราะผงมันสีเหลือง ที่ไหนได้ ออกมาเป็นสีเขียวซะงั้น


จะลองกินละนะครับ


แมวดม


สำหรับซองอาหารมื้อหลัก
กลิ่นที่ได้ออกมา เหมือนอาหารเม็กซิกันครับ น่าจะเป็นอาหารเม็กซิกันแหละ 555
ที่จะมีกลิ่นของพริกหยวกนำมา (แอบเดาถูก) ไปดูส่วนประกอบของอาหาร ก็จะมี พวกถั่ว เนื้อ ฯลฯ
พอลองชิมไปแล้ว ถือว่าโอเคครับ
มีรสเผ็ดของพริกนิดๆ ไม่มาก พอร้อนคอ จะมีสัมผัสของถั่ว ที่แทนข้าว และมีชิ้นเนื้อเล็กๆ คอยแซมเข้ามา

ระหว่างกินมื้อหลัก ก็ทานแคร็กเกอร์ผักร่วมไปด้วยครับ ตัวแคร็กเกอร์รสชาติก็มาตราฐาน กรอบๆ ไม่แข็งมากจนเกินไป พอเติมชีสสเปรดก็เพิ่มความเค็มเข้ามาครับ  ไม่มีอะไรผิดปรกติครับกับชีสสเปรด


จะเอาแคร็กเกอร์มาบิกินกับอาหารมื้อหลักก็ได้ครับ เพิ่มรสสัมผัสไปอีกแบบ


สำหรับขนมปังข้าวโพด ที่รู้สึกว่ามันคือเค้กข้าวโพดมากกว่า ก็จะหวานหน่อยๆ มีกลิ่นของเนย ความนุ่มของขนมปังกำลังพอดี ไม่แข็งหรือนุ่มไป กัดไปเรื่อยๆรู้สึกว่ารสชาติมันเฝือนๆแหะ จะค่อนข้างร่วนๆ



ส่วนพระเอกของเมนูนี้ ขอยกให้กับเจ้า Cheddar Cheese Cracker ละกันครับ รสชาติเหมือน Ritz เลย ที่เป็น
บิสกิตกรอบประกบกับชีสตรงกลาง เพียงแต่ว่าเจ้านี้มาในรูปของทรงคล้ายๆ ขนม Collon (ทรงกระบอกกลวง) จะออกเค็มๆมันๆกินได้เรื่อยๆ



น้ำก็จะมีรสชาติหวานนิดหน่อยครับ ไม่เปรี้ยวมาก พอประมาณ


สุดท้ายนี้ก็หมดจนได้ครับ

ตบท้ายด้วยหมากฝรั่ง รสมิ้นท์ รสชาติเฉยๆครับ ไม่ได้เย็นมาก หวานหน่อยๆ เคี้ยวหนึบดี


สำหรับกาแฟ ผมนึกว่าน้ำปล่าว ไม่มีรสชาติเลย ไม่เข้มไม่อะไรทั้งนั้น อ่อนมาก ได้กลิ่นกาแฟอยู่หน่อยนึง


สรุป ส่วนตัวสำหรับผม ผมว่าเมนูนี้รสชาติเฉยๆ ก็กินได้ ไม่ได้อร่อยมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ ธรรมดาของอาหารแนวนี้  ตัวอาหารหลักก็รสชาติโอเค แคร็กเกอร์ และเครื่องเคียงอื่นๆก็ปกติ จะมีที่อร่อยก็ แคร็กเกอร์ชีสกับน้ำมะนาว รสชาติมาตราฐานอาหารแนวนี้ ไม่ได้แย่จนถึงขนาดที่จะต้องหยุดกิน

ถ้าถามว่ากินแล้วอิ่มไหม ส่วนตัวผมเป็นคนกินข้าวที่จะมีจานหลัก 1 จาน และจะมีจานกับข้าวอีก 1 จาน และก่อนที่จะกินเจ้า MRE ตัวนี้ ทั้งวันผมพยายามไม่กินข้าวมื้อไหนก่อนเลยครับ มีแค่กินมะม่วงเปรี๊ยวไป 1 ลูก น้ำเบอร์รี่ผสมของดอยคำ 1 กล่อง และน้ำเจียวกู้หลานและดอกคำฝอย 1 กล่อง เท่านั้น                   ถือว่าอิ่มกำลังพอดี ไม่ต้องหาอะไรมาใส่ท้องอีก จริงๆขอสารภาพว่ากินเค้กข้าวโพดไม่หมดด้วย เหลืออยู่ครึ่งชิ้น เพราะว่ารู้สึกว่าอิ่มเต็มท้องมากแล้วครับ

จากทั้งหมด เต็ม 10 ผมให้คะแนนความอร่อยที่ 6 แล้วกันครับ

ปล. ยังไงหลังจากนี้ก็จะพยายามลองกิน MRE วันละมื้อ ให้ครบ 24 วัน 24 ซอง จะเขียนมาเรื่อยๆครับผม

ปิดท้ายด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจวัตถุกลิ่นต้องสงสัยครับ