จะจัดการกับจิตใจตัวเองยังไง เมื่อต้องกลายเป็นคนพิการ ?

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ   เราเป็นคนอธิบายเป็นตัวหนังสือไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ตกหล่นตรงไหน สอบถามได้นะคะ เข้าเรื่องเลยเนอะ  เราเป็นผู้หญิงธรรมดาทั่วไป  ที่เกิดมาครบ 32  หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ แต่นิสัยเราอ่ะ เป็นคนลุยๆเนอะ ห้าวๆ ค่อนข้างดื้อด้วยแหละ เพื่อนก็เลยเยอะ คนเข้ามาจีบก็พอประมาณ จุดอ่อนเราคือ คบใครแล้วเราให้ใจเต็มร้อยตลอด แต่ก็เป็นความผิดของเราเองแหละ เรามีแฟนอยู่แล้ว แต่อะไรหลายๆอย่างมันทำให้เราเปลี่ยนไป อันนี้เราผิดเลย เรารู้ตัว เราได้เจอคนๆนึง เค้าเป็นผู้ใหญ่มีความคิด พูดจนเราหลงเค้าอ่ะ เราเลยขอเลิกกับแฟน เพื่อมาคบคนนี้ แต่ทุกอย่างก็ดูจะจบด้วยดีแล้วใช่ไหม ? ป่าวเลย ... มันเพิ่งเริ่มต้นสำหรับชีวิตเรา  
      วันนั้น  เรากับแฟนใหม่ไปตลาดกันด้วยมอไซค์เนอะ ตอนกำลังซื้อของ แฟนเก่าเรา ก็มากับเพื่อน มารุมตีแฟนใหม่เรา แต่ก็ไม่ได้ตีเยอะหลอก โดนหน้านิดนึง แล้วมันก็ไป เราก็พาแฟนใหม่กลับบ้าน เราบอกไปโรงพยาบาลไหม มันก็ว่าไม่ไป ไม่เป็นไรมาก พอไปถึงบ้าน มันบอกเราว่า ไปส่งพี่ที่บ้านญาติหน่อย (จังหวัดใกล้ๆ) มันอายคนไม่อยากให้คนอื่นเห็น เราก็ด้วยความรัก ความหลง ทุกอย่างในเวลานั้นอ่ะน่ะ ก็จะไปส่งมันด้วยรถยนต์เนอะ แต่......
      ...... มันมาถึงทางเปลี่ยวมันบอกไม่ต้องไปส่งพี่แล้ว เดี๋ยวพี่ให้เพื่อนไปส่ง แล้วเราก็ลงจอดให้มันลง แล้วก็ยืนรออยู่ข้างๆรถ เพื่อนมันมาถึง เปิดประตูลงมา  ในมือมีแก้วเหล้า !!! มันเขวี้ยงเข้าตาเราเต็มๆ  แล้วตั้งแต่นั่นมา.... ชีวิตเรามันก็เปลี่ยนไปทุกอย่าง เรากลายเป็นคนพิการ ตาบอด ทำให้ต้องคอยก้มหน้าตลอด ตอนแรกก็ไปทำงานได้น่ะ แต่ต่อมามันเริ่มเป็นเยอะขึ้นจนเห็นได้ชัดเลย แล้วคนก็ชอบมาถามตลอด แต่เราไม่เล่านะ พอมีคนถามเรารู้สึกหน้าชาทุกครั้ง เราก็ออกจากงาน เปลี่ยนงานตลอด จนผ่านไปหลายปี ที่จริงเราควรชินเนอะ แต่.... ทำไม เราทำใจไม่ได้สักที เจ็บทุกครั้งที่นึกถึง พอมีคนถามเราทุกครั้ง เราจะจิตตกเลย เก็บตัว ไม่อยากเจอใคร เราไม่มีเงินไปรักษา เพราะภาระหน้าที่หลายอย่างที่เราต้องรับผิดชอบเนอะ พอหน้าหนาวมันก็จะทรมาณมาก ปวดสุดๆ แต่เราไม่เคยเล่าหรือบอกใครนะ ใครถามเราก็เลี่ยงออกมาทุกครั้ง เราทนที่จะพูดออกไปไม่ได้ เราอยากไปใส่ตาปลอม อยากดูเหมือนคนอื่นมั้ง เราไปไหน ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม พอเราเงยหน้าปุ๊บ เรารู้เลยทุกสายตาจะจ้องเข้ามา เราจะทุกข์ทุกครั้ง เดินกลับบ้านมาหมกตัวตลอด เราอยากจะใช้ชีวิตปกติได้  เราไม่สามารถใช้ชีวิตตามที่เราคิดได้เลย ทุกอย่างก็ลำบากอ่ะเนอะ การขับรถ หรือหยิบจับอะไรทุกอย่าง มันลำบากหมด แต่เรารับได้แล้วในส่วนนี้  แต่เราอยากใช้ชีวิตแบบผู้หญิงทั่วไป ออกไปช้อปปิ้ง ไปเจอเพื่อนตอนกลับบ้านเทศกาล แต่เราไม่เคยเจอใครเลย พอเจอเค้าจะถามเรื่องตาไง เราไม่อยากพูดไม่อยากตอบ ว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไง ทำไมเป็นแบบนี้ ภาพในวันนั้นมันไม่มีวันออกไปจากใจเราได้
      เราอยากได้ความคิดเห็นที่ทำให้จิตใจเราเข้มแข็งได้สักที เราอยากเล่าเรื่องนี้ให้ใครสักคนฟัง อยากบอกใครสักคน แต่เราไม่มีพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย พี่น้องก็ไม่มี เพราะเราลูกคนเดียว ทุกวันนี้เราเลยอยู่คนเดียว มีเฟสนะ แต่ไม่ค่อยโพสต์รูปหน้าตรงๆ เพื่อนก็เริ่มห่างหายกันไปเรื่อยๆตามหน้าที่เนอะ เราก็ไม่อยากตอบคำถามนี้ เราเลยต้องถอยออกมา  ไม่อยากไปรบกวนเพื่อน ........
      เราอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตของเราให้เพื่อนๆ ในพันทิปได้อ่าน ได้เป็นอุทาหรณ์สอนหญิง ว่าคนพูดจาดี วางตัวดี มีความคิดรับผิดชอบ บางทีมันอาจเป็นภาพที่เค้าสร้างให้เราเห็นเท่านั้น จิตใจข้างในอาจไม่เป็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนเนอะ แต่เราดันได้เจอคนแบบนั้น  เราโง่เอง ผิดเอง ไม่โทษใคร  คิดว่าคงเป็นกรรมของเรา คนผิดย่อมได้รับโทษ แต่มันจะมาตอนไหน หรือวิธีไหนเท่านั้นเอง ในชีวิตจริงเราไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เราใจไม่เข้มแข็งพอ เราอยากยืนหยัด อยากเดินอย่างมั่นใจ อยากยิ้มอย่างมั่นใจ แต่มันคงไม่มีวันนั้นแล้วละ ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้วสำหรับเรา
      ขอบคุณสำหรับพื้นที่ พันทิป มากๆนะคะ เราอยากระบายออกมาสักครั้ง คงทำได้ที่นี่แหละ (จริงๆ เราไม่อยากมารบกวนพื้นที่พันทิป แต่วันนี้ เราเจอคนที่นั่งพูดถึงคนพิการ จนเราไม่ไหวแล้ว อยากระบาย ) ขอโทษนะคะที่มันยืดยาว ดูเนื้อหาหลวมๆเนอะ แต่ใครสงสัยตรงไหนมาถามเราได้นะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับพื้นที่ แต่ถ้าใครมีวิธีคิดบวกแนะนำเราได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้า เราอยากข้ามผ่านไปได้สักที ......

แก้ไขตรงนี้เพิ่มเติม
เราก็ไม่ได้อมทุกข์ตลอดเวลา เราก็ใช้ชีวิตของเราปกติ ทำหน้าที่ของเรา แต่บางครั้งมีคนถามถึง หรือคนมอง เราก็หน้าชาทุกที มันก็ผ่านมา 7-8 ปีแล้วน่ะ เราก็คิดว่า ทำไมเราไม่ชินกับคำถามสักที เพราะคนถามเยอะ คำถามก็เดิมๆ เราเลยอยากได้คำแนะนำจากใครสักคน เพื่อเราจะชินตรงนี้สักที ถ้าไม่มีใครพูดถึง หรือทำหน้าแปลกๆใส่เรา เราก็ปกติน่ะ แต่พอพูดก็กลับไปเริ่มใหม่ทุกที
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 60
สวัสดีครับคุณ จขกท. ผมเป็นคนพิการมีบัตรคนการครับ

เหตุการณ์ คร่าว ๆ เมื่อครั้งยังเด็ก ผมไปตลาดนัดซื้อกับข้าวกับเเม่ เเล้วมีกลุ่มวัยรุ่นเกิดทะเลาะวิวาท ในเสี้ยววินาทีนึง หางตาข้างขวาของผมมองเห็น
สิ่งของบางอย่างกำลังพุ่งเข้ามา จะโดนบริเวณใบหน้า ด้วยสัญชาติ ใช้มือปัด ที่สำคัญ สิ่งของบางอย่างที่พุ่งเข้ามา นั่นคือ "ระเบิดขวด" ครับ

ผลปรากฎว่า

- บริเวณมือขวา นิ้วมือขาด 3 นิ้ว ( ชี้ กลาง นาง ) นึกภาพน้าแอ๊ด โฆษณาคาราบาวเเดง นะครับ นิ้วที่เหลืออีก 2 นิ้วสามารถขยับได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใส่เหล็กดามไว้

- ตาขวา เป็นต้อครับ ไม่ทราบเป็นต้ออะไร เพราะไม่ได้ทำการรักษาต่อ ( เนื่องจากเศษเเก้วทิ่มตาขาว ) ทำให้ตอนนี้ใช้ตาขวาได้เพียง 20%

ผลกระทบ

- ผมไม่ได้เรียนต่อครับ เพราะเขียนหนังสือไม่ได้ , ไม่มีความรู้สึกอยากจะเริ่มต้นกับมือข้างซ้าย เลยได้เเค่ วุฒิ ม.3

ปัจจุบัน

มือขวาที่พิการ ตาขวาที่มองไม่ชัด ไม่เป็นอุปสรรค์ต่อการดำรงชีวิตของผมครับ

ผมเริ่มหางานทำตั้งเเต่หลังจากเหตุการนั้น 4 เดือน

เจอบ่อยมากครับคนที่ถามว่ามือเป็นอะไร ไปโดนอะไรมา เเละชอบต่อท้ายปประโยคเสมอว่า ร้ายละสิ ดื้อละสิ

บางครั้งผมก็เล่าให้ฟัง บางครั้งก็เออ ออ ตามน้ำไป

ชีวิตตอนนี้หลังจากปรับตัวได้ ก็มีความสุขดีครับ

ปล.ตอนนี้ผมเขียนหนังสือ มือขวา ได้เเล้วนะครับ เพิ่งจะเขียนได้เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เพราะได้งาน บัญชี

ปล. เป็นกำลังใจให้ จขกท. ขอให้ผ่านมันไปให้ได้ เเละผมมีคำเเนะนำอย่างนึงครับ "คนพูด พูดไม่คิด" อย่าเก็บมาใส่ใจครับ พยายามมีความสุขกับชีวิตที่ยังเหลือ เเล้วคุณก็จะมีความสุขกับมันครับ

อยากปรึกษาอะไร หลังไมค์ได้ครับ ยินดีครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
อยากคุณนึกถึงใครบางคน ที่สูญเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง
แต่ไม่เคยเอามาเป็นทุกข์

สละความสุขส่วนตน ทำประโยชน์อย่างมากมายเพื่อคนอื่นในแผ่นดินอย่างยาวนาน
ทั้งๆที่จะไม่ทำก็ได้

บอกแค่นี้คงพอจะทราบแล้วว่า กำลังหมายถึงใคร

อยากให้น้อมนำแนวคิดและคำสอนของพระองค์ท่าน มาเป็นแบบอย่าง
แล้วคุณจะไม่รู้สึกว่า  โลกนี้โหดร้ายหรือหรืออ้างว้างจนเกินไป


http://topicstock.ppantip.com/library/topicstock/2007/04/K5316586/K5316586.html

http://news.sanook.com/2089934/
ความคิดเห็นที่ 16
ผมใช้ตาได้ข้างเดียวตั้งแต่เกิดเพราะแม่คลอดตอน7เดือนกว่า ผมโตมาโดยใช้ตาข้างเดียว
ทุกคนเห็น เพื่อนๆล้อ แต่ผมเลือกที่จะยอมรับและ
ใช้ชีวิตต่อไป ผมเรียนจบอันดับต้นๆของรุ่นด้วยตาข้างเดียว ทำงานคุมงานใหญ่ๆด้วยตาข้างเดียว
ผมชอบที่มีคนถามเรื่องตาของผม และผมก็ตอบ
ตอบโดยให้คนอื่นรู้ว่าผมไม่เคยเห็นมันเป็นปมด้อย
และผมไม่ใช่คนพิการ อย่าให้ความบกพร่องเพียง
เล็กน้อยมาฉุดชีวิตทั้งชีวิตของคุณ
ความคิดเห็นที่ 4
หนูพี่จะเข้ามาบอกตอนนี้เค้ามีบริจาคตาปลอมอ่ะ

เดี๋ยวไปหาข้อมูลแป๊บ

http://www.doctoraree.com/p-%e0%b9%99%e0%b9%99%e0%b9%99/

เข้าไปลองติดต่อ ขอรับบริจาค ขอให้หนูได้นะ สู้ๆค่ะ

อ้อ เผื่อลำบากในการเข้าไป พี่ใส่ข้อมูลไว้ในสปอล์ยนะคะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 66
คุณยังดีกว่าเรานะคะ ร่างกายคุณยังสามารถช่วยคุณให้ทำในสิ่งที่ฝันได้อีกเยอะแยะมากมาย

เราก้อเป็นคนพิการค่ะ จากอุบัติเหตุต้นไม้หล่นทับ ทำให้ไขสันหลังขาด ไม่สามารถใช้ขาทั้งสองข้างได้ แต่นอกจากเราจะเดินไม่ได้แล้ว เรายังไม่สามารถอึและฉี่เองได้อีกด้วย ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ลำบากมาก

สิ่งที่เราเป็นทำให้เราไม่สามารถทำตามฝันของเราได้ แต่มันก้อไม่ใช่ทั้งหมด เราชอบเดินทาง ฝันของเราคือไปเที่ยวในที่ต่างๆที่เราไม่เคยไป การที่เราเป็นแบบนี้ ทำให้เราเดินทางไปในต่างที่ต่างถิ่นลำบากมาก แต่เราก้อยังไม่ทิ้งฝันนะ เราก้อยังไปเที่ยว ยังเดินทาง ไปในที่ที่เราพอจะสามารถไปได้อยู่ และจะยังคงพยามยามเที่ยวต่อไปค่ะ 5555555

ความพิการไม่ใช่สิ่งที่จะมาฉุดรั้งความฝันของเราค่ะ แต่สิ่งที่จะมาดับความฝันของเรานั้น คือ ใจ ของเราเองต่างหาก

ทุกวันนี้ แม้จะเป็นแบบนี้ ก้อยังเดินทางไปทำงานทุกวัน ขับรถเอง ไปกินข้าวกับเพื่อน ดูหนัง ร้องเพลง ไปเที่ยว และยังเป็นกำลังหลักของครอบครัว

สายตาของคนอื่น ไม่สำคัญเท่ากับ สายตาของเราที่มองตัวเราเอง  การที่คนอื่นมองเรายังไง หรือคิดกับเรายังไง ไม่ได้ทำให้ตัวตนของเราเปลี่ยน แก่นแท้ของเราไม่ได้เปลี่ยนเพราะคนอื่น อย่าคิดมากกับคนที่มีสายตาในแบบที่เราไม่พึงใจ แต่จงภูมิใจที่เรายังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ทำมาหากินได้ ไม่เป็นภาระใคร และมีความสุขกับชีวิตในทุกๆวันค่ะ บางทีคนปกติบางคนอาจมีความสุขน้อยกว่าเราด้วยซ้ำไปค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ปล. เราเดินไม่ได้มาสี่ปีแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่