เนื้อข่าว
เด็กหญิง เซิน-ชวน-หลิง อายุ12 เธอได้เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ พี่ชายทั้ง4คน ต้องใส่ชุดคลุมสีขาวในงานศพของน้องสาวก่อนที่จะได้ใส่ชุดครุยรับปริญญา
คนในหมู่บ้านต่างเข้าร่วมงานศพแสดงความเสียใจในการจากไปของหนูน้อยยอดกตัญญูคน นี้ และในความจริงแล้วเธอและพี่ชายทั้ง4คนไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกัน เธอเป็นเพียงเด็กที่ครอบครัวนี้เก็บมาเลี้ยง ตัวตนพ่อแม่ที่แท้ของเธอก็ไม่มีใครรู้ : หลังจากที่เธอโตมากับครอบครัวนี้ ไม่นานพ่อเลี้ยงก็เกิดอุบัติเหตุเป็นอัมพาต ต่อมาไม่นานแม่เลี้ยงของเธอก็เสียชีวิต เธอจึงเป็นผู้เสียสละที่จากรับหน้าที่ดูแลหาเงินเพื่อให้พี่ชายได้เรียน หนังสือต่อ
พ่อเลี้ยงของ ชวน-หลิ๋ง ที่เป็นเหมือนเสาหลักของคนในบ้าน พ่อเลี้ยงรักและเอ็นดูเธอมาก ชวน-หลิงเป็นที่รักของคนในครอบครัว รักเธอเหมือนคนในครอบครัวจริงๆ
แต่อยู่มาวันหนึ่งขณะที่พ่อกำลังทำ งานพลาดตกลงมาจากชั้น3 จากนั้นมาก็กลายเป็นอัมพาต รายได้ของที่บ้านแน่นิ่ง พี่ชายที่คิดว่าต้องลาออกจากโรงเรียน แต่ชวน-หลิงกลับลาออกจากโรงเรียนก่อนหน้านั้น เพื่อช่วยแม่หารายได้เพื่อคนในครอบครัว พี่ชายสัญญาต่อหน้าพ่อว่า : การเสียสละของน้อง ในอนาคตข้างหน้าผมจะทดแทนให้น้องมากกว่าที่ผมได้รับ
ไม่นานแม่รับภาระและความกดดันต่างๆไม่ไหว สุดท้ายได้เสียชีวิตลง เหลือเพียง ชวน-หลิง รับหน้าที่หารายได้ อยากให้พี่ชายได้เรียนจนจบ เพื่อค่าเทอม เธอยอมแม้กระทั่งไปที่โรงพยาบาลเพื่อขายเลือดจากตัวเธอเอง หมอที่รู้ถึงสภาพร่างกายของเธอ จึงซื้อเลือดจากเธอในปริมาณที่น้อย และหมอยังนำเงินส่วนตัวให้กับเธอเพิ่มอีกด้วย
ในปี 1997 ช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นช่วงเวลาที่ชวน-หลิงมีความสุขมากที่สุด นอกจากพี่ชายคนที่ 4 ที่รับหน้าที่ทหาร พี่ชายที่เหลืออีก3คนก็กลับมาที่บ้าน พี่ชายกลับมาพร้อมของขวัญปีใหม่ที่เตรียมมาให้เธอ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อใหม่ ผ้าพันผืนคอสีแดง และครีมบำรุงผิวอีกหนึ่งกล่อง ชวน-หลิงมีความสุขมากอุ้มของขวัญทั้งหมดนี้วิ่งไปมาด้วยรอยยิ้ม
พ่อได้เรียกลูกชายมาพูดคุยที่ห้อง และบอกว่า : หากวันที่พวกเธอประสบความสำเร็จแล้ว สามารถลืมพ่อได้ แต่ห้ามทอดทิ้งน้องสาวของพวกเธอเด็ดขาด
ใน ปี1998ของเดือนสิงหาคม วันหนึ่งชวน-หลิงได้ไปขายเลือดของเธอ เพื่อนำเงินส่งให้กับพี่ชาย เธอได้พยยามขอร้องหมอเพื่อรับซื้อเลือดของเธอ หมอได้รับซื้อเลือดเพียง 300C.C. จากร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้ว ยิ่งทำให้เธออ่อนแอลง ระหว่างทิ่เธอกำลังไปโอนเงินให้พี่ชาย ก็เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจ ขณะที่ข้ามถนนถูกรถบรรทุกที่ชน และล้อของรถก็ได้ทับตัวของเธอ…
หลังจากที่พี่ชายได้รับข่าวร้ายนี้ ได้รีบกลับบ้าน และร้องไห้เสียใจอย่างหนักต่อร่างที่ไร้วิญญาณของน้องสาว
และ ตามความเชื่อ ประเพณีของคนจีนในสมัยนั้น เด็กที่อายุยังน้อยไม่สามารถจัดงานศพได้ แต่พวกเขาก็ได้จัดพิธีงานศพให้ ชวน-หลิง และนำศพของเธอไปฝังใก
ข่าวนี้เป็นข่าวที่เก่ามาก เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่กลับมีสื่อออกข่าวนี้วนอยู่หลายรอบ รวมถึงล่าสุดเมื่อเร็วนี้ก็มีวนออกมาอีกรอบ
โดยรอบหลังจะลบ ค.ศ.ออก ทำให้คนอ่านนึกว่าเหตุการณ์พึ่งเกิดไม่นาน เด็กน่าสงสารมาก เป็นข่าวที่สะเทือนใจ แต่อ่านแล้วสะดุดตรงขายเลือด
รู้สึกแปลกใจที่ เด็กร่างกายอ่อนแอ ไปขายเลือด แล้ว รพ.ยอมซื้อเลือดเด็กที่อ่อนแอเนี่ยซิ ขนาดว่าหมอเห็นใจ ยอมซื้อแค่ 300 cc. นะ
แต่ว่าในความเป็นจริง เลือดเด็กที่อ่อนแอ มันนำไปใช้งานได้หรอ แล้วปริมาณ 300cc . เอาไปทำอะไรได้
เพราะเราบริจาคเลือดมาเยอะ แล้วก็โดนไล่กลับบ้านมาหลายรอบ เลือดจางนิดจางหน่อยก็ไม่รับแล้ว ขนาดเรียกว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว กาชาดยังไม่รับเลย
แล้วเด็กอายุ 12 ปี ที่ร่างกายอ่อนแอ ทั้งๆที่หมอก็รู้ ก็ยังยอมรับซื้อ
ขอถามในแง่กฎหมายและจรรยาบรรณนะคะ ว่าในความเป็นจริงแล้ว
การที่ รพ.หรือ หมอ ยอมซื้อเลือดเด็ก ถึงเด็กจะเต็มใจขาย หรืออยากขายมากแค่ไหนก็ตามแต่ ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่
รวมถึงผิดจรรยาบรรณหรือเปล่า แล้วเลือดเด็กที่อ่อนแอ สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ไปส่งต่อให้ผู้ป่วยรายอื่นได้หรือไม่
หรือว่ารับไปก็ต้องทิ้ง นำไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
ปล. ข่าวนี้เป็นของประเทศจีน แต่คิดว่า หมอหรือ รพ. น่าจะมีกฎหรือหลักสากล เหมือนกัน หรือ เมืองจีนไม่มี
ปล. ข่าวนี้มั่ว เรียกดราม่าเกินจริงหรือเปล่า เพราะความเป็นจริงเลือดเด็ก หมอไม่น่าจะรับซื้อ
จากข่าวเด็กอายุ12ปี ขายเลือด เพื่อส่งเงินให้พี่ชายเรียน ตามความเป็นจริง หมอซื้อเลือดเด็กผิดกม.หรือจรรยาบรรณหรือไม่
เด็กหญิง เซิน-ชวน-หลิง อายุ12 เธอได้เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ พี่ชายทั้ง4คน ต้องใส่ชุดคลุมสีขาวในงานศพของน้องสาวก่อนที่จะได้ใส่ชุดครุยรับปริญญา
คนในหมู่บ้านต่างเข้าร่วมงานศพแสดงความเสียใจในการจากไปของหนูน้อยยอดกตัญญูคน นี้ และในความจริงแล้วเธอและพี่ชายทั้ง4คนไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกัน เธอเป็นเพียงเด็กที่ครอบครัวนี้เก็บมาเลี้ยง ตัวตนพ่อแม่ที่แท้ของเธอก็ไม่มีใครรู้ : หลังจากที่เธอโตมากับครอบครัวนี้ ไม่นานพ่อเลี้ยงก็เกิดอุบัติเหตุเป็นอัมพาต ต่อมาไม่นานแม่เลี้ยงของเธอก็เสียชีวิต เธอจึงเป็นผู้เสียสละที่จากรับหน้าที่ดูแลหาเงินเพื่อให้พี่ชายได้เรียน หนังสือต่อ
พ่อเลี้ยงของ ชวน-หลิ๋ง ที่เป็นเหมือนเสาหลักของคนในบ้าน พ่อเลี้ยงรักและเอ็นดูเธอมาก ชวน-หลิงเป็นที่รักของคนในครอบครัว รักเธอเหมือนคนในครอบครัวจริงๆ
แต่อยู่มาวันหนึ่งขณะที่พ่อกำลังทำ งานพลาดตกลงมาจากชั้น3 จากนั้นมาก็กลายเป็นอัมพาต รายได้ของที่บ้านแน่นิ่ง พี่ชายที่คิดว่าต้องลาออกจากโรงเรียน แต่ชวน-หลิงกลับลาออกจากโรงเรียนก่อนหน้านั้น เพื่อช่วยแม่หารายได้เพื่อคนในครอบครัว พี่ชายสัญญาต่อหน้าพ่อว่า : การเสียสละของน้อง ในอนาคตข้างหน้าผมจะทดแทนให้น้องมากกว่าที่ผมได้รับ
ไม่นานแม่รับภาระและความกดดันต่างๆไม่ไหว สุดท้ายได้เสียชีวิตลง เหลือเพียง ชวน-หลิง รับหน้าที่หารายได้ อยากให้พี่ชายได้เรียนจนจบ เพื่อค่าเทอม เธอยอมแม้กระทั่งไปที่โรงพยาบาลเพื่อขายเลือดจากตัวเธอเอง หมอที่รู้ถึงสภาพร่างกายของเธอ จึงซื้อเลือดจากเธอในปริมาณที่น้อย และหมอยังนำเงินส่วนตัวให้กับเธอเพิ่มอีกด้วย
ในปี 1997 ช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นช่วงเวลาที่ชวน-หลิงมีความสุขมากที่สุด นอกจากพี่ชายคนที่ 4 ที่รับหน้าที่ทหาร พี่ชายที่เหลืออีก3คนก็กลับมาที่บ้าน พี่ชายกลับมาพร้อมของขวัญปีใหม่ที่เตรียมมาให้เธอ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อใหม่ ผ้าพันผืนคอสีแดง และครีมบำรุงผิวอีกหนึ่งกล่อง ชวน-หลิงมีความสุขมากอุ้มของขวัญทั้งหมดนี้วิ่งไปมาด้วยรอยยิ้ม
พ่อได้เรียกลูกชายมาพูดคุยที่ห้อง และบอกว่า : หากวันที่พวกเธอประสบความสำเร็จแล้ว สามารถลืมพ่อได้ แต่ห้ามทอดทิ้งน้องสาวของพวกเธอเด็ดขาด
ใน ปี1998ของเดือนสิงหาคม วันหนึ่งชวน-หลิงได้ไปขายเลือดของเธอ เพื่อนำเงินส่งให้กับพี่ชาย เธอได้พยยามขอร้องหมอเพื่อรับซื้อเลือดของเธอ หมอได้รับซื้อเลือดเพียง 300C.C. จากร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้ว ยิ่งทำให้เธออ่อนแอลง ระหว่างทิ่เธอกำลังไปโอนเงินให้พี่ชาย ก็เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจ ขณะที่ข้ามถนนถูกรถบรรทุกที่ชน และล้อของรถก็ได้ทับตัวของเธอ…
หลังจากที่พี่ชายได้รับข่าวร้ายนี้ ได้รีบกลับบ้าน และร้องไห้เสียใจอย่างหนักต่อร่างที่ไร้วิญญาณของน้องสาว
และ ตามความเชื่อ ประเพณีของคนจีนในสมัยนั้น เด็กที่อายุยังน้อยไม่สามารถจัดงานศพได้ แต่พวกเขาก็ได้จัดพิธีงานศพให้ ชวน-หลิง และนำศพของเธอไปฝังใก
ข่าวนี้เป็นข่าวที่เก่ามาก เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่กลับมีสื่อออกข่าวนี้วนอยู่หลายรอบ รวมถึงล่าสุดเมื่อเร็วนี้ก็มีวนออกมาอีกรอบ
โดยรอบหลังจะลบ ค.ศ.ออก ทำให้คนอ่านนึกว่าเหตุการณ์พึ่งเกิดไม่นาน เด็กน่าสงสารมาก เป็นข่าวที่สะเทือนใจ แต่อ่านแล้วสะดุดตรงขายเลือด
รู้สึกแปลกใจที่ เด็กร่างกายอ่อนแอ ไปขายเลือด แล้ว รพ.ยอมซื้อเลือดเด็กที่อ่อนแอเนี่ยซิ ขนาดว่าหมอเห็นใจ ยอมซื้อแค่ 300 cc. นะ
แต่ว่าในความเป็นจริง เลือดเด็กที่อ่อนแอ มันนำไปใช้งานได้หรอ แล้วปริมาณ 300cc . เอาไปทำอะไรได้
เพราะเราบริจาคเลือดมาเยอะ แล้วก็โดนไล่กลับบ้านมาหลายรอบ เลือดจางนิดจางหน่อยก็ไม่รับแล้ว ขนาดเรียกว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว กาชาดยังไม่รับเลย
แล้วเด็กอายุ 12 ปี ที่ร่างกายอ่อนแอ ทั้งๆที่หมอก็รู้ ก็ยังยอมรับซื้อ
ขอถามในแง่กฎหมายและจรรยาบรรณนะคะ ว่าในความเป็นจริงแล้ว
การที่ รพ.หรือ หมอ ยอมซื้อเลือดเด็ก ถึงเด็กจะเต็มใจขาย หรืออยากขายมากแค่ไหนก็ตามแต่ ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่
รวมถึงผิดจรรยาบรรณหรือเปล่า แล้วเลือดเด็กที่อ่อนแอ สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ไปส่งต่อให้ผู้ป่วยรายอื่นได้หรือไม่
หรือว่ารับไปก็ต้องทิ้ง นำไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
ปล. ข่าวนี้เป็นของประเทศจีน แต่คิดว่า หมอหรือ รพ. น่าจะมีกฎหรือหลักสากล เหมือนกัน หรือ เมืองจีนไม่มี
ปล. ข่าวนี้มั่ว เรียกดราม่าเกินจริงหรือเปล่า เพราะความเป็นจริงเลือดเด็ก หมอไม่น่าจะรับซื้อ