พระพุทธเจ้า ตรัสว่าอนัตตา เป็นสิ่งไม่ตัวตน แล้วเป็นเป็นจริงไหม ในวิทยาศาสตร์ และศาสนาพุทธ

คือว่าผม สงสัย พุทธศาสนามันอาจจะเชือมโยง กับวิทยาศาสตร์ได้ไหม

เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนไม่ตัวตน เช่น ตึกที่สร้างใหญ่ๆ ผ่านเวลาไปนานๆ ก็กลายเป็น เศษหิน เศษดิน เมื่อเศษดินเศษหิน ผ่านกาลเวลาไป นานๆ ก็ย่อมเสื่อมสลาย กลายเป็นอากาศ ธาตุใดธาตุนึงไป

ถ้ามองในมุมมอง วิทยาศาสตร์ อะตอม ในธาตุนั้นๆ ย่อมเสื่อมสลายหายไป ตามกาลเวลา เช่นดินมีส่วนผสมของ ซิลิก้า ต้องใช้กระบวนการกี่ล้านๆๆปี ในการที่ซิลิก้า กลายเป็น อะตอมที่ไม่เสรียถ หรือก็คือ การสูญเสียอะตอมนั้นๆ ในช่วงเวลาต่างๆ กลายเป็น ธาตุที่แฝงรังสี แล้ว สูญสลายหายไปตลอดกาล ได้หรือไม่
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าจะไปให้สุดทาง  ก็ได้ครับ
การเปลี่ยนแปลงระหว่างสสาร กับพลังงาน
ก็ทำให้เห็นได้ว่าทุกอย่าง  ไม่มีตัวตน  เป็นเพียงกลุ่มพลังงานเท่านั้น
ดังนั้น  ทุกอย่างย่อมเป็นอนัตตา

ในความคิดอีกแบบ  พระพุทธเจ้า  อาจจะเป็นผู้ที่มาจากอนาคตที่เจริญกว่า  หรือเป็นผู้ที่ได้มีโอกาสข้ามเวลา  ไปได้รับข้อมูลจากอนาคต  ในการนั่งสมาธิของท่าน  อาจเป็นการซ้อนเหลื่อมของมิติ  ทำให้ท่านได้รับความรู้ในสิ่งที่มนุษย์ยุคนั้นไม่รู้ก็เป็นได้
สิ่งต่าง ๆ ที่เราคิดว่าคล้ายเป็นวิทยาศาสตร์  อาจจะเป็นวิทยาศาสตร์จริง ๆ ก็ได้
เรื่องเหลือเชื่อ  มหัศจรรย์ต่าง ๆ ก็อาจจะเป็นการที่พระองค์ท่าน  สื่อสาร  พยายามอธิบายกับมนุษย์ยุคนั้น
ด้วยภาษา  และความจำกัดในความรู้ของมนุษย์ในยุคนั้น  สิ่งที่ท่านอธิบาย  ก็ถูกเข้าใจ  แปลเปลี่ยน  กลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์
และยิ่งมีการจดบันทึกด้วยพื้นฐานความรู้ของคนในยุคนั้น  ก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ไปอีก

อันนี้  ไม่ได้กะพูดเอาฮา  แต่พยายามหาคำตอบในสิ่งต่าง ๆ ที่มีการกล่าวถึง   โดยพยายามให้เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่