จากกระทู้ข้างล่างถามกันง่ายๆ ก็ไม่เข้าใจ หาว่าผมพูดเองเออเอง พออธิบายที่มาว่ามาจากพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
สอนอย่างนี้ เพื่อสื่อว่าผมไม่ได้ถามมั่ว ก็ยังไม่เข้าใจปัญหาอยู่ดี แถไปแถมาอยู่นั่น
งั้นผมถามใหม่นะครับ..
ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตาอยู่แล้วชัวร์ๆ แต่นิพพานมันตรงข้ามกับขันธ์ ๕ ตามที่พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)บัญญัติไว้
และก็ตรงกับพระไตรปิฏกที่ผมยกมา คือเป็นตรงข้ามกัน ผมจึงสงสัยว่าทำไมนิพพาน มันจึงเป็นอนัตตาอยู่อีกเล่า
เพราะถ้าว่ากันตามที่ท่านกล่าว นิพพานต้องเป็นอัตตาสิ เพราะท่านบัญญัติว่า (อัตตา ไม่ใช่อนัตตา)
แต่ท่านกลับกล่าวในที่อื่นๆว่า นิพพานเป็นอนัตตา ผมจึงสงสัยว่า อะไรทำให้ท่านเปลี่ยนใจไปเป็นอย่างนั้น
(๕ โดยสภาวะของมันเอง ก็แย้งหรือค้านต่อความเป็นอัตตา มีแต่ภาวะที่ตรงข้ามกับความเป็นอัตตา;)
แต่ในพระไตรปิฏกใช้คำว่า นิพพาน เพราะฉนั้น นิพพานกับอัตตา ก็คือตัวเดียวกันมิใช่หรือ
แล้วคำสอนของสำนักธรรมกายที่สอนว่านิพพานเป็นอัตตา มันจะผิดไปได้อย่างไร
เข้าใจไหมครับ
อ่านให้เข้าใจก่อนนะครับ ใช้ปัญญาให้มากๆหน่อย
ผมไม่ได้ปกป้องธรรมกาย แต่ผมปกป้องพุทธพจน์ ปกป้องพุทธศาสนา
นิพพานเป็นอนัตตาได้อย่างไร ?
สอนอย่างนี้ เพื่อสื่อว่าผมไม่ได้ถามมั่ว ก็ยังไม่เข้าใจปัญหาอยู่ดี แถไปแถมาอยู่นั่น
งั้นผมถามใหม่นะครับ..
ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตาอยู่แล้วชัวร์ๆ แต่นิพพานมันตรงข้ามกับขันธ์ ๕ ตามที่พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)บัญญัติไว้
และก็ตรงกับพระไตรปิฏกที่ผมยกมา คือเป็นตรงข้ามกัน ผมจึงสงสัยว่าทำไมนิพพาน มันจึงเป็นอนัตตาอยู่อีกเล่า
เพราะถ้าว่ากันตามที่ท่านกล่าว นิพพานต้องเป็นอัตตาสิ เพราะท่านบัญญัติว่า (อัตตา ไม่ใช่อนัตตา)
แต่ท่านกลับกล่าวในที่อื่นๆว่า นิพพานเป็นอนัตตา ผมจึงสงสัยว่า อะไรทำให้ท่านเปลี่ยนใจไปเป็นอย่างนั้น
(๕ โดยสภาวะของมันเอง ก็แย้งหรือค้านต่อความเป็นอัตตา มีแต่ภาวะที่ตรงข้ามกับความเป็นอัตตา;)
แต่ในพระไตรปิฏกใช้คำว่า นิพพาน เพราะฉนั้น นิพพานกับอัตตา ก็คือตัวเดียวกันมิใช่หรือ
แล้วคำสอนของสำนักธรรมกายที่สอนว่านิพพานเป็นอัตตา มันจะผิดไปได้อย่างไร
เข้าใจไหมครับ
อ่านให้เข้าใจก่อนนะครับ ใช้ปัญญาให้มากๆหน่อย
ผมไม่ได้ปกป้องธรรมกาย แต่ผมปกป้องพุทธพจน์ ปกป้องพุทธศาสนา