ตามที่ผมเคยเกริ่นเรื่องราวคร่าวๆในกระทู้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการเดินทางทริปอินเดีย-เนปาลของผม (https://ppantip.com/topic/36109575) ตามโปรแกรมเดิมคณะของผมทั้ง 11 คนต้องเดินทางออกจากเมืองคาจูราโฮไปยังเมืองพาราณสีในวันที่ 4  โดยสายการบินภายในประเทศ แต่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ ที่เมืองพาราณสีหมอกลงจัดทำให้เครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ แรกๆก็แค่เลื่อนเวลาจากช่วงเที่ยงเป็นบ่าย แต่ในที่สุดไฟลท์ดังกล่าวก็ถูกยกเลิกเพราะสภาพอากาศไม่ดีขึ้น ซวยล่ะสิคราวนี้ ถ้าวันนั้นเราไม่สามารถเดินทางไปพาราณสีได้ โปรแกรมทุกอย่างจะต้องเคลื่อนไปหมด หัวหน้าทริปพยายามติดต่อกับเอเจนซี่ของเรา หาหนทางที่จะนำเราไปสู่เมืองพาราณสีในวันนั้นให้ได้ สรุปแล้วเราก็ใช้วิธีเหมารถให้ไปส่งที่พาราณสี เป็นรถอินโนวา 2 คันๆ ละ 5 และ 6 คน ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง อ้าว... แล้วทำไมไม่เหมารถบัสคันใหญ่ไปคันเดียวเลยล่ะ หลายคนเกิดข้อสงสัย (รวมท้งผมด้วย) คำตอบคือ มันจะใช้เวลาเดินทางมากกว่ารถเล็กถึง 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ในขณะที่ราคาเหมาแทบไม่แตกต่างกันเลย การเซฟเวลาไปราว 4-5 ชั่วโมง จะทำให้เรามีเวลาพักผ่อนเก็บแรง เพื่อพร้อมที่จะเดินทางในวันต่อไป เรื่องเลยจบแบบที่ผมยังงงๆ กับเรื่องรถเล็กรถใหญ่อยู่
เราออกเดินทางจากสนามบินคาจูราโฮ ราว 5 โมงเย็น และไปถึงโรงแรมที่พักที่เราจองไว้ที่พาราณสีประมาณตี 2 กว่า รวมเวลาเดินทางก็ประมาณ 9-10 ชั่วโมง ซึ่งตรงกับข้อมูลที่เราได้รับมา... ระหว่างทาง ผมได้คำตอบแล้วว่าทำไมรถใหญ่จึงใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า... ก็ถนนมันแย่ซะขนาดนั้น ทั้งเป็นหลุมเป็นบ่อ ทั้งขุดซ่อม ต้องเบี่ยง ต้องเลี่ยงกันไปตลอดทางช่วงแรกๆ ซึ่งรถเล็กจะคล่องตัวกว่ามาก และช่วงก่อนถึงพาราณสีก็มาเจอด่านใหญ่อีก ซึ่งใช้เวลานานมาก กว่ารถจะผ่านไปได้แต่ละคันต้องใช้เวลาหลายนาทีทีเดียว และรถที่ทำให้เสียเวลานานๆก็คือเจ้าพวกรถคันใหญ่ทั้งหลายแหล่ ที่ต้องต่อคิวกันไปยาวๆอย่างเลี่ยงไม่ได้...  ส่วนรถคันที่พวกเรานั่งไป ขับเลาะขอบทาง พาเราแซงบรรดาเจ้ายักษ์ใหญ่ทั้งหลายแหล่ไปนับร้อยคัน มุดๆไปจนไปถึงด่านเก็บเงิน คนขับลงไปเจรจาสักครู่ก็พาเราผ่านด่านไปได้ นี่ถ้ามารถคันใหญ่ กว่าจะถึงที่พักก็คงเช้าพอดี
กว่าจะได้นอนปาเข้าไปตี 3 ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนเลย น้งน้ำไม่ต้องอาบมันละ เพราะนอนอีกแค่ประมาณ 3 ชั่วโมงก็ต้องตี่นแล้ว เนื่องจากนัดคนเรือให้มารับไปล่องเรือในแม่น้ำคงคาตอน 6 โมงครึ่ง ตื่นเช้าค่อยอาบทีเดียวละกัน...
นั่นคือเรื่องราวการเดินทางสู่เมืองพาราณสีของผม ดูวุ่นวายดีมั้ยล่ะครับ แม้ดูแล้วจะน่าเหนื่อย แต่มันก็สนุกดีนะ... ตามโปรแกรม หลังจากล่องเรือในเช้าวันรุ่งขึ้นแล้ว คณะเราต้องเช็คเอ้าท์ เดินทางต่อไปยังสารนาถ เพื่อไปเที่ยวชมสถานที่แสดงปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้า จากนั้นก็เดินทางต่อไปเมืองพุทธคยา ค้างที่นั่น 1 คืน แล้วเดินทางกลับมาที่เมืองพาราณสีอีกรอบ ก่อนออกเดินทางไปกุสินาราในเช้ามืดวันต่อไป (สรุปได้เที่ยวพาราณสีแป๊บเดียว)
แผนการเดินทางดูวกวนเล็กน้อย จุดประสงค์ก็เพื่อ “เก็บ” สถานที่สำคัญต่างๆให้ครบ แต่ใจผมอยากอยู่ที่พาราณสีให้นานกว่านี้ เลยคิดจะแยกตัวไม่ไปเมืองพุทธคยาด้วย โดยจะอยู่รอที่พาราณสีนี่แหละ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหลายทั้งปวง เดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง (กัดปากเลือดซึมเลย) สรุปแล้วผมได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์เพิ่มอีก 3 คน กลายเป็นกลุ่มย่อย 4 คนที่จะอยู่ที่พาราณสีต่อ โดยจะเดินทางไปเยือนสารนาถพร้อมกับคณะ แล้วแยกกันที่นั่น หลังจากนั้นทั้ง 4 ชีวิตก็จะตลุยเมืองพาราณสีกันเองแบบดุ่มๆ มั่วๆ กันไป เพราะไม่เคยมีใครมาเที่ยวที่นี่ก่อนหน้านี้เลย เอาน่ะ ถ้าจะหลง ถ้าจะโดนหลอก ผมก็มีคนหลง คนโดนหลอกเป็นเพือนอีกตั้ง 3 คนแน่ะ จะไปกลัวอะไร
หลังจากแยกกับคณะที่สารนาถ ผมและเพื่อนที่เหลือก็มุ่งตรงไปเดินถ่ายรูปกันที่สถานีรถไฟพาราณสี ตามรูปที่เคยลงให้ชมในกระทู้ก่อนหน้านี้ ออกจากสถานีรถไฟ ก็เหมารถตุ๊กๆให้พาไปร้านอาหาร กินมื้อเที่ยงเสร็จ ก็ให้พาไปตามวัดต่างๆในพาราณสี แต่โปรแกรมนี้ดูจะไม่เวิร์คสักเท่าไหร่ เพราะวัดแต่ละวัดค่อนข้างเล็ก และห้ามถ่ายรูป วนๆอยู่สักครู่ ก็กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม เดี่ยวตอนเย็นค่อยออกไปเดินเล่นริมฝั่งคงคากัน
ช่วงเย็นเราทั้ง 4 คนไปเดินเล่น เดินถ่ายรูปกันอยู่ริมฝั่งคงคา ค่ำขึ้นมาอีกหน่อยก็นั่งเรือไปชมพิธีบูชาไฟของชาวพาราณสี ได้ลอยกระทงเล็กๆ ในแม่น้ำคงคาด้วยนะ ถือว่าเป็นการชดเชยที่ไม่ได้ไปลอยกระทงที่ไหนในปีที่ผ่านมาละกัน จากนั้นก็กลับมาพักผ่อนนอนหลับ เพราะเช้ามีโปรแกรมต้องออกไปล่องคงคากันอีก (เช้าวันที่ไปล่องคงคาหนแรก เพื่อนผม 3 คนนี้ไม่ได้ไปด้วย ผมเลยเป็น 1 เดียวของคณะที่ได้ล่องคงคา 2 รอบ)
โปรแกรมวันถัดมาไม่ต่างจากวันแรกมากนัก ล่องเรือในคงคาเสร็จ ก็กลับมาพักที่โรงแรม เที่ยงก็ออกไปหาของกิน เหมารถตุ๊กๆขับพาวนไปชม ไปถ่ายรูป ตรงโน้นตรงนี้ ช่วงเย็นก็ออกไปเดินเล่นริมฝั่งคงคาอีก แต่วันนี้ไม่นั่งเรือชมพิธีแล้ว เดินเล่นลุยเข้าไปในตลาด รวมทั้งในสถานที่ที่เขาจะจัดพิธีบูชาไฟกันเลย (พิธีนี้มีทุกวันครับ) ก็เพลิดเพลินเจริญใจดีเหมือนกัน ค่ำหน่อยก็กลับที่พัก เพราะที่นั่นอากาศค่อนข้างเย็น ยิ่งดึกก็ยิ่งหนาว กลับไปนอนรอเพื่อนกลุ่มใหญ่กลับจากพุทธคยา เพื่อออกเดินทางไปกุสินาราพร้อมๆกันตอนเช้าวันรุ่งขึ้น...
กระทู้นี้จะพาเดินถ่ายรูปในเมืองพาราณสีนะครับ ส่วนการเดินถ่ายรูปริมฝั่งแม่น้ำคงคาและล่องเรือถ่ายรูปในแม่น้ำ ผมจะแยกออกไปเป็นกระทู้ต่างหาก เพราะรูปค่อนข้างเยอะ กระทู้นี้ติดตามชมรูปแนว Street ในตัวเมืองพาราณสีไปก่อนละกันครับ