ตามรอย ๔ สังเวชนียสถาน ของพระศาสดา (ฉบับแบคแพคมือใหม่แกะกล่อง)

tripnote002เป็นกระทู้ที่อยากตั้งใจแบ่งปัน สำหรับนักเดินทางมือใหม่(โดยเฉพาะเจ้ากระทู้) พูดภาษาอังกฤษพอได้ พึ่งท่านกูเกิลทรานสเลทเป็นหลัก(5555) และการเตรียมตัวที่ดี และวางแผนที่ดีจะทำให้การเดินทางของดินแดนภารตะ และ ดินแดนเนปาล เป็นไปอย่างราบรื่น สำหรับนักเดินทางแบคแพคเกอร์มือใหม่แกะกล่องของเจ้ากระทู้ เดินทางคนเดียวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด (ต้องอยู่ในความไม่ประมาท ไม่ไปสถานที่อันตราย ระมัดระวังคำพูดสังเกตผู้ที่เขามาคุยกับเราเป็นมิตร(มิจฉาชีพ) หรือเปล่า 
(สำหรับนักเดินทางมือใหม่ อยากสัมผัสประสบการณ์เดินทางคนเดียว หรือไปกับเพื่อน เอาตัวรอด ใช้ทักษะภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาล ยันมหาวิยาลัยเค้นสมองมาใช้คุยกับแขก (ซึ่งคนอินเดีย และ เนปาล ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน และพูดได้จะปนสำเนียงท้องถิ่นซึ่งฟังยาก ฉะนั้น เอาโทรศัพท์ให้เขาจิ้มเป็นภาษาอังกฤษ จะง่ายกว่า 55555)  
การเตรียมตัว
๑. การเตรียมวีซ่า ประเทศอินเดีย , วีซ่า ประเทศเนปาล
๒.เตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะต้องเดินเยอะ ถึงเยอะมาก
๓.เสื้อผ้าอย่าขนไปเยอะเพราะมันหนักเปล่าๆ ถ้าอากาศหนาวควรเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ เพราะจะได้ไม่ต้องซื้อ (มันแพง)
๔.แลกเงิน ไปตั้งแต่ประเทศไทย เพราะคุณจะโดนแขกหลอกกดราคาเรทเงิน
๕.แอปที่จำเป็น สามารถโหลดไปใช้ที่อินเดีย - เช่น อูเบอร์ ใช้ได้เฉพาะเมืองใหญ่ๆ ช่วยประหยัดเงินไม่ต้องไปทะเลาะกันแขก โดนแขกฟันค่ารถ 
๖.แอปรถไฟอินเดีย ชื่อ IRCTC Rail Connect ไว้จองตั๋วรถไฟอินเดีย ภายในประเทศ เพราะ 3 สังเวชนียสถานอยู่ค่อนข้างไกล จะช่วยประหยัดค่าเดินทางไม่ต้องเหมารถ (สำหรับตัวเจ้ากระทู้ที่งบน้อย)
๗.นั่งรถ จะจ่ายค่าเงินตกลงคุยกันให้ดี เพราะจะโดนหลอก เช่น อยู่เนปาล ค่ารถ 400 รูปีเนปาล แต่แขกมันจะเอา 400 รูปีอินเดีย ทางที่ดีคุยและถามให้รู้เรื่อง ถ้าเป็นไปได้ให้เขากดราคาแล้วแคปหน้าจอไว้ 
๘.แอปรถ ใช้ได้เฉพาะ เมืองกาฐมาณฑุ Pathao ซื้อซิมเนปาล แล้วให้คนขายสมัครให้ มันต้องใช้เบอร์เนปาล สมัคร จะช่วยประหยัดค่ารถเที่ยวในเมือง สั่งอาหาร ในกาฐมาณฑุ (ราคาถูกมาก )
๙.ตัวเต้าเสียบใช้เสียบสายชาร์ท (อย่ามาซื้อหน้างานเพราะมันแพง เจ้ากระทู้ซื้อที่ สนามบิน BKK โดนฟันไปเกือบ 600 บาท สั่งในแอป ไม่เกิน 200)
๑๐.คนที่กินอาหารรสจัด เหมือนเจ้ากระทู้ เคยแปลกใจทำไมคนที่ไปต่างประเทศบ่นถึงอาหารไทย มันเป็นเช่นนี้ เพราะ คนอินเดีย เนปาล กินอาหารมังสวิรัต กินเนื้อสัตว์บ้าง แต่ค่อนข้างน้อย 
๑๑.สถานที่พัก พักเกสเฮาวร์บ้าง พักวัดไทยบ้าง เอาตามความสะดวกของสถานที่จะเอื้ออำนวย
๑๒.อันนี้สำคัญ คนที่เตรียมบัตรทาเวล การ์ดมาเหมือนเจ้ากระทู้ หวังว่าจะใช้รูดการ์ด ใช้ได้เฉพาะ พาราณสี และ กาฐมาณฑุ กดเงินก็ต้องไล่กดไป 4- 5 ตู้เพราะมันไม่ค่อยรับบัตรต่างชาติ
๑๓.ตั้งใจจะมาดู พวกนักบวชพราหมณ์ หรือ สาวอินเดียห่มสาหรี่ พับเก็บไปได้(ก็มันหน้าหนาวนี่นะ) คุณจะเห็นเขาแต่งตัวเหมือนชาวบ้านทั่วไป จะเห็นนักบวชก็เฉพาะเทศกาลเท่านั้น 
๑๔.ถ้าคิดว่าจะเจอกองอุนจิเรี่ยราด มันไม่ได้มีเยอะอย่างที่คิด ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียรณรงค์ให้คนขับถ่ายในห้องน้ำเลยไม่ได้มาถ่ายเรี่ยราดตามท้องถนนแต่ชนบทยังมีอยู่บ้าง (ห้องน้ำในรถไฟอินเดียต้องทำใจ ถ้าคุณปวดเวลาเข้าไปคุณจะหายปวดทันที)
๑๕.ใช้กูเกิลทรานสเลท กับ กูเกิลแมฟ เป็นหลัก
๑๖.เจ้ากระทู้ ใช้ อาโกด้า จองห้องพัก เปรียบเทียบราคา ช่วยประหยัดเวลา ดูแผนที่ที่พักจะช่วยประหยัดเงินและค่ารถเดินทางท่องเที่ยว

(ตารางคร่าว ๆ)
ขึ้นเครื่อง สนามบินสุวรรณภูมิ ---- บินไป พุทธคยา  BKK -----GAYA
จาก สถานีรถไฟ คยา ----ไป พาราณานสี               GAYA Junction ---------- Vanarasi Junction.
จาก พาราณาสี ไป สารนาถ                                  ที่พักในพาราณาสี -- นั่งอูเบอร์ไป วัดไทยสารนาถ 
จาก สถานีรถไฟ สารนาถ ไป โคลาปูร์                    Saranath JK------- Koracpuh JK
       จากสถานีรถไฟโคลักปูร์ เดินไป สถานีรถบัส    Koracpuh JK --- สถานีรถบัส อยู่ข้างๆ กัน ดูเอาในแผนที่ ส่วนมากคนอินเดียเขาเดินไปก็เกาะกลุ่มเขาป ไม่งั้นจะเจอแท๊กซี่ สามล้อ มาหลอกให้ขึ้นรถซึ่งมันแพงมาก
จาก สถานีรกบัส โคลักปูร์ ไป กุสินารา                   ประมาณ 4- 5 ชม. จอดรับคนทุกสถานี (มีแวะจอดดูดบุหรี่ ฉี่ข้างทาง กินกาแฟ ) สไตล์อินเดีย บอก
       กระเป๋ารถว่าไป กุสินารา (พยายามออกสำเนียงแขก กุ-สิ-นา-การ์ ) เพราะเขาไม่เข้าใจสำเนียงไทย ดูแผนที่ไปด้วยเพราะอาจจะเลยทางเข้า
จากที่พักวัดไทยกุสินารา นั่งย้อน ไป สถานีรถบัส โคลักปูร์ เพื่อ นั่งรถบัส ไปลงชายแดน อินเดีย ไป เนปาล
จาก ตม.อินเดีย (Immigration India อยู่ทางซ้ายมือสังเกตดีๆ ไม่งั้นจะเดินไปเดินมาหลายรอบ ) ไป ตม.เนปาล
จาก ตม.เนปาล ไป วัดไทยลุมพินี
จาก ที่พักเกสเฮาวร์ ไป สนามบิน Gautam Buddha Airport 
จาก สนามบิน Gautam Buddha Airport ไป--- สนามบินกาฐมาณฑุ Tribhuvan Airport
จาก สนามบิน Tribhuvan Airport ไป ประเทศไทย จบทริป (เงินหมดพอดี)

วันที่ ๑ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
     เจ้ากระทู้ นั่งรถไฟฉะเชิงเทราไป สถานีรถไฟลาดกระบัง เพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เผื่อเวลาไว้สัก 2-3 ชั่วโมง (เจ้ากระทู้เคยนั่งรถไฟแล้วเสียกลางทาง เคยไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิไป พม่า สุดท้ายตกเครื่อง) เมื่อถึงสนาม เตรียมวีซ่าอินเดีย และพาสปอร์ต ก่อนหมดอายุ 6 เดือน เงินอินเดียแลกเผื่อไว้ใช้จ่าย (มีบัตรเทเวลการ์ดก็ไม่ได้ใช้) เวลาเช็คอิน บอร์ดดิ้งพาส เจ้าหน้าที่ไทยที่ออกตั๋วจะดูวีซ่าอินเดียของเราด้วย ปริ้นไว้ให้เจ้าหน้าที่เขาจะดูแล้วจะออกตั๋วให้เรา นั่งเครื่องจากสายการบินไทยรักคุณเท่าฟ้า ไปถึงสนามบิน คยา (จากที่ฟังมาเป็นสนามบินทหารค่อนข้างเข้มงวดมาก) เมื่อถึงสนามบินคยา ต้องนั่งรถจากสนามบินคยาเพื่อเข้าไปในตัวเมือง พุทธคยา (สิ่งที่คิด ซื้อซิมการ์ด เพื่อจะใช้เน็ตแล้วเปิดแผนที่) สิ่งที่เป็น ไม่มีซิมขาย ไม่มีอินเตอร์เน็ตฟรีจากสนามบินให้ใช้ ไม่มีอะไรสักอย่างเอาละซิทีนี้ เจ้ากระทู้งงเลย สิ่งที่ทำได้คือทำใจ แล้วก็นั่งแท๊กซี่ไปกับคุณแขกค่ารถ 1000 รูปีอินเดีย(แพงมาก เจอขายซิมการ์ดอีก 1800 รูปีอินเดีย นั่นไงโดนแล้วละนายจ๋าาา )  นั่งรถประมาณ 35 นาที ราคาจริงประมาณ 200-300 รูปีอินเดีย ส่วนซิมการ์ด น่าจะไม่เกิน 800 รูปีอินเดีย/เดือน เจ้ากระทู้ควักเงินไปน้ำตาตกในไป ฉันแค่เหยียบประเทศยังไม่ได้ไปไหนเลย โดนไปแล้ว 2800 รูปีอินเดีย จ๊ะนายจ๋าาาา บางคนคิดแล้วไอ่อูเบอร์มีทำไมไม่ใช้ มันใช้ไม่ได้เพราะเมืองนี้ไม่รองรับอูเบอร์จ๊ะ อยากใช้จ๊ะแต่มันใช้ไม่ได้ (ฉะนั้นก็ซื้อซิม หรือ เน็ตซิมซะก่อนมา) จะได้ไม่เหมือนเจ้ากระทู้นะจ๊ะ นั่งรถมาพักเกสเฮาว์ จากคุณอาโกด้า (บ้านพักในรูป กับ ตัวจริงจะดังฟ้ากับเหว ฉะนั้นอ่านรีวิวและเลือก เจ้ากระทู้อ่านแล้วก็ยังพลาด) เมืองพุทธคยา เป็นเมืองชนบท จะเจริญเฉพาะส่วนที่ใก้ลวัดสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ย่านนั้นจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก ธนาคาร ร้านค้า ของกิน ฉะนั้นหาที่พักใกล้ๆ จะได้เซพค่าเดินทาง
   ทางเข้าสถานที่ตรัสรู้  จะเห็นที่ฝากโทรศัพท์ อยู่ด้านขวามือให้ฝากโทรศัพท์เขาไม่ให้เอาเข้าไปแต่กล้องถ่ายรูปเอาเข้าไปได้ มีตู้สแกน(เจ้ากระทู้ไม่รู้โดนทหารทางเข้ายึดไว้บอกให้ออกมารับ โดนเรียกเงินค่าฝากแขกจะพูดว่า ทำบุญ ทำบุญ 5555 ใครไปสอนมันน๊า) ฉะนั้นฝากกับเจ้าหน้าที่ด้านนอกซะ ตั้งทางเข้าเราจะเห็นความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ต่างชาติ ต่างภาษา มารวมตัวกันที่สถานที่ตรัสรู้ จะเห็นชาวทิเบต ก้มกราบราบไปกับพื้นด้วยแรงความศรัทธา จะเห็นพระธิเบตนั่งภาวนา จะเห็นพระไทยพาขบวนญาติโยมเดินสวดมนต์รอบพระสถูป ทำให้รู้สึกมีมนต์ขลังไม่รู้เพราอินไปกับเขาหรือยังไง เจ้ากระทู้ได้ปูผ้านั่งสมาธิหันหน้าเข้าสถูปแล้วสวดมนต์ เหมือนขนมันลุกกิดปิติ(ไม่รู้คิดไปเองไหม 555) คนค่อนข้างมากแอดอัด อุดมไปด้วยกลิ่นเผากำยาน กลิ่นตัว สารพัดเสียงสวดมนต์ เจ้ากระทู้ได้เดินวนสถูปหนึ่งรอบ คนแออัดมาก แล้วก็ออกมาด้านนอกจะเจอ ของขายดอกบัว พวกมาลัย ใครจะช้อปปิ้ง พยายามเอา 2.5 หาร ไม่งั้นแขกมันจะโขกเงินคุณ ใช้เครื่องคิดเลขให้เป็นประโยชน์ หรือต่อราคาเขาอย่าต่อเยอะมาก มันงั้นมันจะด่าคุณด้วยสายตา เจ้ากระทู้อยู่ที่นี่สองคืน ไปสถานที่ตรัสรู้ สองรอบ ตอนเย็นวันที่มา และอีกวันตอนเช้า เมืองพุทธคยาค่อนข้า่งเป็นเมืองชนบท แต่ก็ไม่ได้สรกปรกขนาดนั้น มีกลิ่นฉี่บ้างประปรายหรือเจ้ากระทู้ไม่ได้กลิ่นเพราะพกหน้ากากไปแล้วใส่ตลอดกลัว (เพราะคนที่ไปอินเดียกลับมาไม่สบายหลายคน) เลยใส่แมสตลอด เจ้ากระทู้ลองกินอาหารอินเดีย เป็นอาหารมังสวิรัต ก็ไม่ได้แย่อะไร ก็พอกินได้อยู่ ร้านอยู่ใกล้ที่พัก การเดินทางของเจ้ากระทู้ใช้กูเกิลแมฟ นำทางตลอด หรือเซิร์ตหาร้านอาหาร วัดพม่า วัดธิเบต วัดญี่ปุ่น ฉะนั้นเตรียมเรื่องเน็ตมาใช้จะได้ไม่ลำบาก (ซื้อซิมไทยมาใช้ 2-3 วัน ที่เหลือก็ใช้ซิมอินเดียเอา จะได้เซฟค่าใช้จ่ายไป) พยายามใช้ไวไฟจากที่พัก เน็ตค่อนข้างใช้ได้อยู่ 
   วันที่สองที่พักเกสเฮาว์ เจ้ากระทู้เตรียมบัตรเทเวลการ์ดมา เพื่อจะรูดเงินจ่าย เพราะในบัตรก็แลกเงินรูปีไว้ เพื่อจ่ายจะได้ไม่โดนหักค่าบริการ แต่(บัตรใช้ไม่ได้ และเงินที่แลกมาก็จ่ายไปกับค่า แท๊กซี่แขกมิจ กับ ค่าซิมแขกมิจไปแล้ว เงินสดที่แลกมาไม่พอจ่ายเพราะว่าบัตรเทเวลใช้ไม่ได้ ความซวยมาเยือน) เจ้ากระทู้จึงตื่นเช้าวันทีสองเพื่อเดินหาแลกเงินบาทไทยเป็นเงินรูปี หรือ ตั้งใจจะกดเงินจากบัตร แต่ตู้กดเงิน ATM อินเดียไม่รับบัตรไทย ตายแน่ไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง เจ้ากระทู้ก็เดินหาพร้อมเปิดกูเกิลแมฟหาตู้กดเงิน (ทำไมมันไม่มีภาษาอักฤบอกบ้างฟะ) คนอินเดียชอบใช้ภาษาฮินดู ฉะนั้นต้องสักเกตเอาเองว่าตู้มันจะอยู่หลืบในช่องหายาก กดไป 3-4 ตู้ก็กดไม่ได้ ไม่รู้ทำไง เจอแขกน้อยขับริกชอร์ มาถามว่าทำอะไรก็บอกไปว่าจะกดเงินมันก็พาวนไป หาตู้กดก็กดไม่ได้ สุดท้ายพาไปแลกเงินไอเราก็กลัว พาไปในซอยเขาไปซอก มันจะพาไปปล้นไหมหนอ (เพราะเคยมีนักท่องเที่ยวไทยโดนปล้น) แต่ก็ไว้ใจตามมันไปถ้าไม่ดีก็วิ่งหนีเอา สุดท้ายก็พาไปแลกเงินจริงๆ โล่งใจไป ขณะแลกเงินก็คิดว่าจะทำไงเงินไม่พอใช้จะกดเงินยังไง มีผู้หญิงไทย 2คนข้างหลังน่าจะมาแสวงบุญ ถามว่าเรทเงินดีไหม (เหมือนสวรรค์มาโปรด) ก็ได้ถามไถ่ไป เขาบอกว่าเมืองพุทธคยาเป็นเมืองชนบท บัตรเอทีเอ็ม กดไม่ได้ บัตรเทเวลการ์ดก็ไม่ได้ เขารับแต่บัตรอินเดียเท่านั้น เลยคุยไปมาเขาบอกให้โอนเงินเข้าบัญชีเขา แล้วเอาเงินบาทไป (รอดตัวไป) เลยได้เงินบาทไทยแลกเป็นเงินรูปีอินเดีย ฉะนั้น เตรียมเรื่องแลกเงินมาให้พร้อมจะได้ไม่ลำบากเหมือนเจ้ากระทู้นะจ๊ะ สุดท้ายเจ้ากระทู้ก็ให้แขกน้อยพาไปส่งที่ห้องพักให้เงินไป 500 รูปีอินเดีย(เพราะช่วยให้แลกเงินได้) มันก็ดีใจขอ เฟส ขอ เมสเซ็นเจอร์คนอินเดียช่างเฟลลี่จริงๆ (ความหายนะจะมาเยือนอีกแล้ว)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่