ขอความกระจ่างกรณีปราชิกหรือไม่ ของพระธัมมชโย วัดธรรมกาย ตามพระธรรมวินัย คือ เข้าใจมาตลอดว่า ตามพระธรรมวินัยการปาราชิกหรือขาดจากความเป็นพระ จะเกิดขึ้นทันทีหลังจากกระทำ ปราชิก 4 เช่น เสพกามกับสตรี หรือ ลักขโมยของที่มีค่ามากกว่า 1 มาสก หรือ พรากชีวิตมนุษย์ (ฆ่ามนุษย์) และกล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่จริง อาบัติปาราชิกทั้ง 4 นี้เป็นอาบัติหนักที่เรียกว่า อเตกิจฉา คือไม่สามารถแก้ไขได้เลย
พระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกสี่ข้อใดข้อหนึ่ง แม้จะไม่กล่าวลาสิกขาบท ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที เมื่อความผิดสำเร็จ เมื่อขาดจากความเป็นพระแล้ว ก็ถือว่าไม่ใช่พระภิกษุอีกต่อไป ไม่สามารถอยู่ร่วมกับภิกษุอื่นหรือคณะหมู่สงฆ์ได้เลย ต้องลาสิกขาบทออกจากเป็นพระภิกษุทันที มิฉะนั้นจะกลายเป็นพวกอลัชชี (แปลว่า ผู้ไม่ละอาย[1]) นอกจากนั้นจะไม่สามารถกลับเข้ามาบวชใหม่ได้เลยตลอดชีวิต แม้จะบวชเข้ามาได้ก็ไม่ใช่พระภิกษุที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย และไม่อาจเจริญในพระธรรมวินัยจนไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานใด ๆ เลยตลอดชีวิต (เพียงชาติที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น)
ในกรณีพระธัมมชโย น่าจะผิดชัดเจนสองข้อ คือ 1.กล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่จริง กรณีสตีฟ จ็อฟ หรือหยั่งรู้วาระจิตพระพุทธเจ้า และที่ชัดเจนไปพูดว่าเห็นพ่อของคนที่เขียนจดหมายไปถามอยู่ในนรก ทั้งที่จริงๆ พ่อเค้ายังไม่ตาย 2.กรณีพระลิขิต ที่เอาที่ดินที่ผู้อื่นถวายมาเป็นชื่อตนเอง ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อนเป็นผู้ที่เคร่งพระวินัยมาก แม้ตามอ้างว่าพระลิขิตไม่มีผลที่จะสึกพระใดๆได้ แต่ท่านได้วินิจฉัยในพระลิขิตชัดเจนว่าเป็นปาราชิกขาดจากความเป็นสงฆ์
แต่มีคนบางกลุ่มอ้างว่า มติเถรสมาคม บอกว่าไม่ปาราชิก โดยมติเถรสมาคมอ้างเหตุผลว่าอัยการถอนฟ้อง และอัยการถอนฟ้องเมื่อปี 49 ให้เหตุผล เพื่อไม่เกิดปัญหาความไม่สามัคคีในสังคม ซึ่งมูลเหตุแล้ว เถรสมาคมไม่ได้ตัดสินเลยว่า ผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ ตกลงแล้วมติเถรสมาคมมีอำนาจ ศักดิ์สิทธิ์กว่าพระธรรมวินัยงั้นหรือ???
ขอความกระจ่างกรณีปาราชิกหรือไม่ ของพระธัมมชโย วัดธรรมกาย ตามพระธรรมวินัย?
พระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกสี่ข้อใดข้อหนึ่ง แม้จะไม่กล่าวลาสิกขาบท ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที เมื่อความผิดสำเร็จ เมื่อขาดจากความเป็นพระแล้ว ก็ถือว่าไม่ใช่พระภิกษุอีกต่อไป ไม่สามารถอยู่ร่วมกับภิกษุอื่นหรือคณะหมู่สงฆ์ได้เลย ต้องลาสิกขาบทออกจากเป็นพระภิกษุทันที มิฉะนั้นจะกลายเป็นพวกอลัชชี (แปลว่า ผู้ไม่ละอาย[1]) นอกจากนั้นจะไม่สามารถกลับเข้ามาบวชใหม่ได้เลยตลอดชีวิต แม้จะบวชเข้ามาได้ก็ไม่ใช่พระภิกษุที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย และไม่อาจเจริญในพระธรรมวินัยจนไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานใด ๆ เลยตลอดชีวิต (เพียงชาติที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น)
ในกรณีพระธัมมชโย น่าจะผิดชัดเจนสองข้อ คือ 1.กล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่จริง กรณีสตีฟ จ็อฟ หรือหยั่งรู้วาระจิตพระพุทธเจ้า และที่ชัดเจนไปพูดว่าเห็นพ่อของคนที่เขียนจดหมายไปถามอยู่ในนรก ทั้งที่จริงๆ พ่อเค้ายังไม่ตาย 2.กรณีพระลิขิต ที่เอาที่ดินที่ผู้อื่นถวายมาเป็นชื่อตนเอง ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อนเป็นผู้ที่เคร่งพระวินัยมาก แม้ตามอ้างว่าพระลิขิตไม่มีผลที่จะสึกพระใดๆได้ แต่ท่านได้วินิจฉัยในพระลิขิตชัดเจนว่าเป็นปาราชิกขาดจากความเป็นสงฆ์
แต่มีคนบางกลุ่มอ้างว่า มติเถรสมาคม บอกว่าไม่ปาราชิก โดยมติเถรสมาคมอ้างเหตุผลว่าอัยการถอนฟ้อง และอัยการถอนฟ้องเมื่อปี 49 ให้เหตุผล เพื่อไม่เกิดปัญหาความไม่สามัคคีในสังคม ซึ่งมูลเหตุแล้ว เถรสมาคมไม่ได้ตัดสินเลยว่า ผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ ตกลงแล้วมติเถรสมาคมมีอำนาจ ศักดิ์สิทธิ์กว่าพระธรรมวินัยงั้นหรือ???