เราพอรู้ตัวว่าเราไม่ปกติ แต่ตัวเราไม่อยากยอมรับ
เราไม่รู้ว่าเราเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ย้อนกลับไปตอนม.3เราไม่มีเพื่อน เป็นคนเงียบๆทางบ้านกดดันเรื่องการเรียนดุเราตลอดหลายครั้งที่เราทำร้ายตัวเอง พอขึ้นม.ปลายเราเริ่มเปลี่ยนตัวรู้จักพูดคุยเล่นเข้าสังคม เราเริ่มดื้อไม่ฟังครอบครัวที่จะให้เราเลือกเรียนเกี่ยวกับพวกวิทย์วิศวะ เริ่มมีความช่างแม่มและปลงกับเกรดช่วงนี้นิสัยเฮฮาคนมองบุคลิกเราเป็นงี้
เรารู้สึกถึงการผิดปกติช่วงปี1ก่อนเปิดเทอมเราเจอปัญหาเรื่องเงิน เราดื้อไม่เรียนตามที่ครอบครัวต้องการไปสอบคนละคณะเขาเลยไม่สนับสนุน เรากะทำงานหาเงินเองและกะจะเรียนต่อเลยไม่กู้กยศ. แล้วก็ทำงานไปเรียนไป ช่วงรับน้องเราเลยโดดไปหาเงินแล้วเหมือนโดนเพื่อนแอนตี้ อยู่กับสังคมคณะไม่ได้ เริ่มสะสมความเครียด ทำงานจนอดหลับอดนอน แต่ถึงอดนอนนานๆเราก็รู้สึกสดใสอยากทำโน้นนี่ไปหมดเหมือนคนสมาธิสั้นทั้งที่เมื่อก่อนไม่เป็น อยู่กับกลุ่มเพื่อนก็จะเฮฮาทำเรื่องแปลกๆจนเพื่อนว่าบ้าติงต๊อง เราเป็นคนพูดมากเรื่อยเปื่อยเอาฮาไม่มีเหตุผล คิดว่าตัวเองเก่งมีพลังทำงานมาก หมั่นหน้าหมั่นงานชิปผายมากนั่งทำงานติดกัน2วันแบบไม่พัก แต่บางทีพอมาอยู่คนเดียวมันเริ่มคิดมากว่าคนโน้นคนนี่จะมองเราไง เขาจะคิดยังไงเลยหมกตัวอยู่ในห้องไม่อยากเจอใคร บางทีเครียดเรื่องทางบ้านบางอารมณ์เรารู้สึกเฉยๆ แต่บางทีก็น้อยใจว่าทำไมเราไม่เหมือนคนอื่นเขาร้องไห้เศร้าอยู่งั้นและก็มีความคิดถ้าเทียบกับคนทั่วไปคงเป็นในแง่ร้ายเราเกลียดสังคมเกลียดโลกนี้ เบื่อมากกับการอยู่ไปวันๆแบบอนาคตไม่มีเป้าหมายอะไร แทบทุกวันที่ภาวนาให้เกิดอะไรก็ได้กับตัวเอง อยากให้ตัวเองหายไป แต่ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยแต่รู้สึกเบื่อๆเฉยๆ
เรื่องอาการทำร้ายตัวเองอันนี้เคยมาตั้งแต่เมื่อก่อนแต่เดียวนี้อารมณ์จะแบบบางทีมันเจ็บแล้วจะทำทำไมบางทีเหมือนเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลัน ในหัวจะวิ้งคิดอะไรไม่ออกทุกอย่างหยุดนิ่งคิดซ้ำไปซ้ำมาแล้วเหมือนอารมณ์เกรี้ยวกราดคุมไม่ได้ ลงที่ข้าวของหรือทำร้ายตัวเอง
ส่วนปัจจุบันเราชอบทำอะไรแปลกๆที่คนอื่นไม่ทำเพราะเราชอบความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และสื่อสารคุยกับคนอื่นบางทีไม่เข้าใจเรียบเรียงไม่ถูกเพื่อนก็งงๆแต่ก็คิดว่ามันฮาหรือตลกดีก็ช่างมัน เวลาคิดงานบางทีก็ไหลลื่นมาก แต่บางอารมณ์เราจะเหมือนคิดซ้ำไปซ้ำมาวนอยู่ที่เดิมเขียนซ้ำไปมา ปกติเราเป็นคนอารมณ์ร้อนทำอะไรต้องไวแต่พออะไรพลาดไม่ได้ดั่งใจก็เหมือนคุมอารมณ์ไม่ได้ทำร้ายตัวเอง อันนี้จะเป็นตอนอยู่คนเดียว
เราอยากระบายหรือหาคนเข้าใจนะแต่ก็ไม่อยากให้ใครหรือเพื่อนคนรู้จักรู้ อยากให้มองเราแบบทีเขาเห็น เราคิดว่านี่เป็นปัญหาของเราเองทำไมต้องให้คนอื่นคิดมากเพิ่มด้วย แม้แต่คนในครอบครัวเขามีเรื่องเครียดอยู่และเราเลยไม่กล้าเล่าไม่กล้าคุย เราคิดว่าไม่มีใครเข้าใจเรานอกจากเรา เรากลัวการขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือคนอื่นเวลามีปัญหาหนักๆ เรากลัวว่าเขาจะรับความเป็นเราที่ไม่ใช่บุคลิกที่เขารู้จักไม่ได้ บางครั้งเราคิดว่าเหมือนบางทีที่เราเฟรนลี่หลั่นล้าเพื่อจะได้ให้สังคมยอมรับเลยไม่กล้าแสดงออกในบางส่วนออกไป เรากลัวเจาจะเหินห่างและทิ้งเราไป เราเป็นพวกยอมรับคนได้นะไม่ว่าจะแย่ขนาดไหน แบบดูคนออกแล้วเลือกปฏิบัติได้ถูกว่าแบบไหนถึงจะเข้ากันได้แต่เราไม่อยากให้ใครรู้หรือมาเข้าใจความเป็นเรากลัวเขารับไม่ได้ เวลาคนจะให้ความช่วยเหลือเรารู้สึกเกรงใจเราไม่กล้าบอกความในใจลึกๆไปแต่บอกสิ่งที่ตรงข้ามแทน ต้องคยั้นคยอนานและเราถึงจะเริ่มยอมรับ
ช่วงนี้เรื่องอยากตายอะไรพวกนี้เราอยากเพราะเราเบื่อกับการใช้ชีวิต เบื่อกับสิ่งที่ทำ เราชอบเรื่องแนวความรุนแรงการฆ่าตกรรมแต่เราไม่ชอบความเจ็บปวดทรมานทางกาย แต่เราชอบตอกย้ำตัวเองให้เจ็บปวดทางใจแล้วจมอยู่กับมันไปเรื่อยๆบางที่มันเจ็บจนร้องให้ปวดไปยันกล้ามเนื้อตัวไม่มีแรง เราพยายามวางแผนฆ่าตัวตายและอยากให้เกิดอุบัติเหตุกับตัวเองให้ตาย เราอยากหายไปแบบไม่มีคนรู้จักหายไปเลยอยากเคลียปัญหาทุกอย่างให้จบให้ทุกคนสบายใจก่อนจะตาย เราไม่ได้จะฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา แต่เพราะเบื่อกับชีวิต ปัญหาในชีวิตและคนที่เรารักกลับเป็นตัวรั้งเอาไว้ให้เราทนอยู่บนโลกอย่างทรมาณต่อไป
เราเริ่มวิตกกังวลอาการหนักขึ้นจนเริ่มทำงานแย่ลงทำอะไรปกติเหมือนก่อนไม่ได้ ไม่กล้าปรึกษาใครพูดคุยกับใครกลัวเขาจะรังเกลียดสมเพชมองว่าคนที่มีอาการพวกนี้เป็นเรื่องตลกเป็นพวกน่ารำคาน มองว่าเจอมาแค่นี้เองคนโน้นคนนี้เจอมาลำบากกว่าอีกแต่ความอดทนหรือความเจ็บปวดจากเหตุการณ์คนเราไม่เท่ากัน ถ้าให้ไปหาหมอเราไม่โอเคเราดื้อเราไม่เชื่อเขาหรอกแถมคิดว่าเขาจะหาว่าเราบ้า เขาจะใส่ร้ายอาการเราแล้วยัดยารีดเงินเรา เราเชื่อได้คนเดียวคือตัวเองและตัวเองนั่นคิดว่าเราปกติดี
เราไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อช่วงนี้มันหนักจนทำอะไรแบบปกติไม่ได้ ให้เราหาคนปรึกษาเราไม่กล้า เราคิดว่าแค่ปัญหาในชีวิตเขาก็มากพอแล้ว
มันเหมือนเป็นปัญหาที่ไรทางออกเพราะตัวเราเอง
เรากลัวว่าเราจะผิดปกติทางจิตและไม่อยากจะยอมรับ
เราไม่รู้ว่าเราเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ย้อนกลับไปตอนม.3เราไม่มีเพื่อน เป็นคนเงียบๆทางบ้านกดดันเรื่องการเรียนดุเราตลอดหลายครั้งที่เราทำร้ายตัวเอง พอขึ้นม.ปลายเราเริ่มเปลี่ยนตัวรู้จักพูดคุยเล่นเข้าสังคม เราเริ่มดื้อไม่ฟังครอบครัวที่จะให้เราเลือกเรียนเกี่ยวกับพวกวิทย์วิศวะ เริ่มมีความช่างแม่มและปลงกับเกรดช่วงนี้นิสัยเฮฮาคนมองบุคลิกเราเป็นงี้
เรารู้สึกถึงการผิดปกติช่วงปี1ก่อนเปิดเทอมเราเจอปัญหาเรื่องเงิน เราดื้อไม่เรียนตามที่ครอบครัวต้องการไปสอบคนละคณะเขาเลยไม่สนับสนุน เรากะทำงานหาเงินเองและกะจะเรียนต่อเลยไม่กู้กยศ. แล้วก็ทำงานไปเรียนไป ช่วงรับน้องเราเลยโดดไปหาเงินแล้วเหมือนโดนเพื่อนแอนตี้ อยู่กับสังคมคณะไม่ได้ เริ่มสะสมความเครียด ทำงานจนอดหลับอดนอน แต่ถึงอดนอนนานๆเราก็รู้สึกสดใสอยากทำโน้นนี่ไปหมดเหมือนคนสมาธิสั้นทั้งที่เมื่อก่อนไม่เป็น อยู่กับกลุ่มเพื่อนก็จะเฮฮาทำเรื่องแปลกๆจนเพื่อนว่าบ้าติงต๊อง เราเป็นคนพูดมากเรื่อยเปื่อยเอาฮาไม่มีเหตุผล คิดว่าตัวเองเก่งมีพลังทำงานมาก หมั่นหน้าหมั่นงานชิปผายมากนั่งทำงานติดกัน2วันแบบไม่พัก แต่บางทีพอมาอยู่คนเดียวมันเริ่มคิดมากว่าคนโน้นคนนี่จะมองเราไง เขาจะคิดยังไงเลยหมกตัวอยู่ในห้องไม่อยากเจอใคร บางทีเครียดเรื่องทางบ้านบางอารมณ์เรารู้สึกเฉยๆ แต่บางทีก็น้อยใจว่าทำไมเราไม่เหมือนคนอื่นเขาร้องไห้เศร้าอยู่งั้นและก็มีความคิดถ้าเทียบกับคนทั่วไปคงเป็นในแง่ร้ายเราเกลียดสังคมเกลียดโลกนี้ เบื่อมากกับการอยู่ไปวันๆแบบอนาคตไม่มีเป้าหมายอะไร แทบทุกวันที่ภาวนาให้เกิดอะไรก็ได้กับตัวเอง อยากให้ตัวเองหายไป แต่ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยแต่รู้สึกเบื่อๆเฉยๆ
เรื่องอาการทำร้ายตัวเองอันนี้เคยมาตั้งแต่เมื่อก่อนแต่เดียวนี้อารมณ์จะแบบบางทีมันเจ็บแล้วจะทำทำไมบางทีเหมือนเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลัน ในหัวจะวิ้งคิดอะไรไม่ออกทุกอย่างหยุดนิ่งคิดซ้ำไปซ้ำมาแล้วเหมือนอารมณ์เกรี้ยวกราดคุมไม่ได้ ลงที่ข้าวของหรือทำร้ายตัวเอง
ส่วนปัจจุบันเราชอบทำอะไรแปลกๆที่คนอื่นไม่ทำเพราะเราชอบความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และสื่อสารคุยกับคนอื่นบางทีไม่เข้าใจเรียบเรียงไม่ถูกเพื่อนก็งงๆแต่ก็คิดว่ามันฮาหรือตลกดีก็ช่างมัน เวลาคิดงานบางทีก็ไหลลื่นมาก แต่บางอารมณ์เราจะเหมือนคิดซ้ำไปซ้ำมาวนอยู่ที่เดิมเขียนซ้ำไปมา ปกติเราเป็นคนอารมณ์ร้อนทำอะไรต้องไวแต่พออะไรพลาดไม่ได้ดั่งใจก็เหมือนคุมอารมณ์ไม่ได้ทำร้ายตัวเอง อันนี้จะเป็นตอนอยู่คนเดียว
เราอยากระบายหรือหาคนเข้าใจนะแต่ก็ไม่อยากให้ใครหรือเพื่อนคนรู้จักรู้ อยากให้มองเราแบบทีเขาเห็น เราคิดว่านี่เป็นปัญหาของเราเองทำไมต้องให้คนอื่นคิดมากเพิ่มด้วย แม้แต่คนในครอบครัวเขามีเรื่องเครียดอยู่และเราเลยไม่กล้าเล่าไม่กล้าคุย เราคิดว่าไม่มีใครเข้าใจเรานอกจากเรา เรากลัวการขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือคนอื่นเวลามีปัญหาหนักๆ เรากลัวว่าเขาจะรับความเป็นเราที่ไม่ใช่บุคลิกที่เขารู้จักไม่ได้ บางครั้งเราคิดว่าเหมือนบางทีที่เราเฟรนลี่หลั่นล้าเพื่อจะได้ให้สังคมยอมรับเลยไม่กล้าแสดงออกในบางส่วนออกไป เรากลัวเจาจะเหินห่างและทิ้งเราไป เราเป็นพวกยอมรับคนได้นะไม่ว่าจะแย่ขนาดไหน แบบดูคนออกแล้วเลือกปฏิบัติได้ถูกว่าแบบไหนถึงจะเข้ากันได้แต่เราไม่อยากให้ใครรู้หรือมาเข้าใจความเป็นเรากลัวเขารับไม่ได้ เวลาคนจะให้ความช่วยเหลือเรารู้สึกเกรงใจเราไม่กล้าบอกความในใจลึกๆไปแต่บอกสิ่งที่ตรงข้ามแทน ต้องคยั้นคยอนานและเราถึงจะเริ่มยอมรับ
ช่วงนี้เรื่องอยากตายอะไรพวกนี้เราอยากเพราะเราเบื่อกับการใช้ชีวิต เบื่อกับสิ่งที่ทำ เราชอบเรื่องแนวความรุนแรงการฆ่าตกรรมแต่เราไม่ชอบความเจ็บปวดทรมานทางกาย แต่เราชอบตอกย้ำตัวเองให้เจ็บปวดทางใจแล้วจมอยู่กับมันไปเรื่อยๆบางที่มันเจ็บจนร้องให้ปวดไปยันกล้ามเนื้อตัวไม่มีแรง เราพยายามวางแผนฆ่าตัวตายและอยากให้เกิดอุบัติเหตุกับตัวเองให้ตาย เราอยากหายไปแบบไม่มีคนรู้จักหายไปเลยอยากเคลียปัญหาทุกอย่างให้จบให้ทุกคนสบายใจก่อนจะตาย เราไม่ได้จะฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา แต่เพราะเบื่อกับชีวิต ปัญหาในชีวิตและคนที่เรารักกลับเป็นตัวรั้งเอาไว้ให้เราทนอยู่บนโลกอย่างทรมาณต่อไป
เราเริ่มวิตกกังวลอาการหนักขึ้นจนเริ่มทำงานแย่ลงทำอะไรปกติเหมือนก่อนไม่ได้ ไม่กล้าปรึกษาใครพูดคุยกับใครกลัวเขาจะรังเกลียดสมเพชมองว่าคนที่มีอาการพวกนี้เป็นเรื่องตลกเป็นพวกน่ารำคาน มองว่าเจอมาแค่นี้เองคนโน้นคนนี้เจอมาลำบากกว่าอีกแต่ความอดทนหรือความเจ็บปวดจากเหตุการณ์คนเราไม่เท่ากัน ถ้าให้ไปหาหมอเราไม่โอเคเราดื้อเราไม่เชื่อเขาหรอกแถมคิดว่าเขาจะหาว่าเราบ้า เขาจะใส่ร้ายอาการเราแล้วยัดยารีดเงินเรา เราเชื่อได้คนเดียวคือตัวเองและตัวเองนั่นคิดว่าเราปกติดี
เราไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อช่วงนี้มันหนักจนทำอะไรแบบปกติไม่ได้ ให้เราหาคนปรึกษาเราไม่กล้า เราคิดว่าแค่ปัญหาในชีวิตเขาก็มากพอแล้ว
มันเหมือนเป็นปัญหาที่ไรทางออกเพราะตัวเราเอง