สังเกตให้ดีนะคะ..ว่าตอนนี้จะมีคนโจมตีเงินคงคลังเพราะมีนัยอะไร...ต่างออกหน้าออกตากันมาเป็นแถว รับไม้ว่าต่อๆกันมายังกับแข่งวิ่งผลัด แต่ก็ล้มเหลวเมื่อฟังแถลงจากการคลังและลุงตู่
การขึ้นราคาน้ำมันเครื่องบิน ราคาแก๊ส ไม่มีผลกระทบเท่าไหร่หรอก แต่โวยวายเหมือนเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แม่ค้าขายอาหารยังบอกสบายๆ เล็กน้อย รับได้ ขึ้นแก๊ส 20 บาทยังรับได้เลย
เรื่องปรับเปลี่ยนสิ่งที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ก็มาทำเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ให้เด็กยืมหนังสือเรียน เป็นเรื่องดีเสียอีก ไม่ใช้ของทิ้งๆขว้างๆ ใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด
จากการทำงานของลุงสมคิดก็เริ่มได้ผล..มีข่าวดีๆมาให้อ่านเล่น
ลองอ่านบทความนี้ค่ะ
💵💴💶💷💱
นับเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทย เมื่อสัญมีนัญาณความเชื่อมั่นดีดตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง จากผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ของศูนย์การพยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ล่าสุดที่ได้เก็บข้อมูลจากประชากรตัวอย่างทั่วประเทศ 2,238 คน ในช่วงต้นปีมาประมวลเปรียบเทียบให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจไทย ช่วยเรียกขวัญกำลังใจของนักธุรกิจไทยให้เดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น
ดัชนีตัวแรกที่สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคม 2560 ที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 74.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2559 ที่อยู่ในระดับ 73.3 ส่วนตัวดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน (ต้นเดือนก.พ.) อยู่ที่ 53.7 เพิ่มขึ้นจาก 52.1 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 83.5 เพิ่มขึ้นจาก 82.5 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 63.1 เพิ่มขึ้นจาก 62.5 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 69.1 เพิ่มขึ้นจาก 68.2 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 91.2 เพิ่มขึ้นจาก 90.3 ส่วนหนึ่งน่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงปลายปี บวกกับมูลค่าการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างน่าสนใจ
เป็นไปในทิศทางเดียวกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ที่มองเห็นสัญญาณดีๆ ในหลายๆ ด้านเช่นกัน จึงประกาศปรับการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้เป็น 3.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 3.4% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2560 ยังมีแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมอีก 1.9 แสนล้านบาท
นอกจากนั้นยังมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมใหม่ๆ ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2560 อีกหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟฟ้าในเขตเมือง โครงการมอเตอร์เวย์ และโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน ซึ่งทุกโครงการใช้งบลงทุนค่อนข้างสูงและก่อให้เกิดการสร้างงานซึ่งจะช่วยกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนอีกจำนวนมาก
ในปีนี้รัฐบาลยังมีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติและกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชนไปพร้อมๆ กัน
ด้านภาคเกษตรก็ยังมีแนวโน้มที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และรายได้นอกภาคเกษตรที่อยู่ในเกณฑ์ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาพรวม ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนคาดว่าน่าจะขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อยู่ที่ 2.7% ด้วยเหตุนี้ภาครัฐจึงคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนน่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า
สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาประเทศที่มาถูกทิศถูกทาง ซึ่งจะกลายเป็นภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจที่ดีให้ประเทศไทยในอนาคต
http://www.komchadluek.net/news/economic/259458
((มาลาริน)) ^_^ สัญชาตญาณบอก เพราะครั้งนี้ มันแน่ใจ..... เศรษฐกิจขาขึ้น...💸💸💸
การขึ้นราคาน้ำมันเครื่องบิน ราคาแก๊ส ไม่มีผลกระทบเท่าไหร่หรอก แต่โวยวายเหมือนเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แม่ค้าขายอาหารยังบอกสบายๆ เล็กน้อย รับได้ ขึ้นแก๊ส 20 บาทยังรับได้เลย
เรื่องปรับเปลี่ยนสิ่งที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ก็มาทำเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ให้เด็กยืมหนังสือเรียน เป็นเรื่องดีเสียอีก ไม่ใช้ของทิ้งๆขว้างๆ ใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด
จากการทำงานของลุงสมคิดก็เริ่มได้ผล..มีข่าวดีๆมาให้อ่านเล่น
ลองอ่านบทความนี้ค่ะ
💵💴💶💷💱
นับเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทย เมื่อสัญมีนัญาณความเชื่อมั่นดีดตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง จากผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ของศูนย์การพยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ล่าสุดที่ได้เก็บข้อมูลจากประชากรตัวอย่างทั่วประเทศ 2,238 คน ในช่วงต้นปีมาประมวลเปรียบเทียบให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจไทย ช่วยเรียกขวัญกำลังใจของนักธุรกิจไทยให้เดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น
ดัชนีตัวแรกที่สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคม 2560 ที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 74.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2559 ที่อยู่ในระดับ 73.3 ส่วนตัวดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน (ต้นเดือนก.พ.) อยู่ที่ 53.7 เพิ่มขึ้นจาก 52.1 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 83.5 เพิ่มขึ้นจาก 82.5 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 63.1 เพิ่มขึ้นจาก 62.5 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 69.1 เพิ่มขึ้นจาก 68.2 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 91.2 เพิ่มขึ้นจาก 90.3 ส่วนหนึ่งน่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงปลายปี บวกกับมูลค่าการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างน่าสนใจ
เป็นไปในทิศทางเดียวกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ที่มองเห็นสัญญาณดีๆ ในหลายๆ ด้านเช่นกัน จึงประกาศปรับการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้เป็น 3.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 3.4% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2560 ยังมีแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมอีก 1.9 แสนล้านบาท
นอกจากนั้นยังมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมใหม่ๆ ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2560 อีกหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟฟ้าในเขตเมือง โครงการมอเตอร์เวย์ และโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน ซึ่งทุกโครงการใช้งบลงทุนค่อนข้างสูงและก่อให้เกิดการสร้างงานซึ่งจะช่วยกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนอีกจำนวนมาก
ในปีนี้รัฐบาลยังมีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติและกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชนไปพร้อมๆ กัน
ด้านภาคเกษตรก็ยังมีแนวโน้มที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และรายได้นอกภาคเกษตรที่อยู่ในเกณฑ์ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาพรวม ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนคาดว่าน่าจะขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อยู่ที่ 2.7% ด้วยเหตุนี้ภาครัฐจึงคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนน่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า
สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาประเทศที่มาถูกทิศถูกทาง ซึ่งจะกลายเป็นภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจที่ดีให้ประเทศไทยในอนาคต
http://www.komchadluek.net/news/economic/259458