หลังจากที่ตั้งกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/36053537 ไปเมื่อหลายวันก่อน
ก็ได้มีหน้าไมค์หลังไมค์มาเชียร์ให้เขียนเพิ่ม อยากให้เล่าเรื่องที่เราเจอกับสามี
ขอให้ใส่รายละเอียดให้เยอะอีกหน่อย เพื่อความฟินส์ เราเลยไปถามสามีว่าฮีโอเครไหม
ฮีบอกว่ามันเป็นความทรงจำของเราสองคน ให้มันอยู่กับเราสองคนไม่ได้เหรอ ละครบ้านคุณสนุกกว่าเป็นไหนๆ แนะนำให้เขาไปดูกันสิ
อืม...ไม่ตอบโน แต่ไม่เซย์เยส ... อิฉันก็แอบเห็นด้วยนะคะ เราอยู่กันมานาน ชีวิตมันมีขึ้น มีลง มีดราม่าก็เยอะ
คือชีวิตมันไม่มีบทให้ไม่มีผู้กำกับคอยบอก บางทีพูดผิดไปเพราะอารมณ์ เสียความรู้สึกไปแล้ว มันก็เอาคืนมาไม่ได้
จะสั่งคัตเเล้วขอพูดไหมก็ไม่ทัน ...ต้องทำความดี ชดเชยจิตใจให้กัน เริ่มกันใหม่ ... มันเป็นความทรงจำของเราจริงๆ ...
งั้นขอค้างเอาไว้ก่อนเนอะ
เอาแค่เรื่องของเรากับเบิร์นนี่ไปอ่านเล่นก่อนละกัน
เบิร์นนี่ผู้น่ารัก แสบสันต์ระดับ 10+
ขอเกริ่นย้อนนิดหนึ่ง เพื่อสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านกระทู้เก่าๆของเรานะคะ
คนที่เคยอ่านมาบ้างแล้วอาจจะได้อ่านวีรกรรมซ้ำๆของเบิร์นนี่ก็อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ
ขอเกริ่นท้าวความนิดหนึ่ง ให้มันมีที่มาที่ไปเนาะ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ6-7ปีที่แล้วนะคะ
คือหลังจากที่ดูใจกับสามีมาสักพัก เราบินไป ฮีบินมา ค่าตั๋วเริ่มทำพิษ ชีวิตส่อเค้าว่า รักแท้จะแพ้ระยะทางซะแล้ว
สามี(ตอนนั้นเป็นแค่แฟนกัน)เลยขอให้เราออกจากงาน ไปอยู่กับเขาเพื่อ เรียนรู้กันให้มากขึ้น
เจ้านายก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะตรงกับช่วงหน้าโลว์ซีซั่พอดี แม่ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็มีพูดจาจิกๆลูกนิดหน่อยให้รู้สึกจี๊ดๆ
ว่าถ้าจะมาบอกแม่ตอนที่ใจเราไปอยู่กับผู้ชายแล้ว ก็เอาตัวตามไปเหอะ แม่เข้าใจ แหม บินไปหาเขามาตั้งกี่รอบแล้วละ .. แม่อ่ะ!
สรุปเราก็เก็บเสื้อผ้า ตามแฟนมาที่ศรีลังกาค่ะ สามีเราเป็นคนสวีเดน แต่มาได้งานที่ศรีลังกานะคะ
เมืองที่เราอยู่ชื่อ เนกอมโบ แต่เราอยู่นอกเมืองเป็นหมู่บ้านเล็กๆชื่อ "Thalahena ตะลัยเฮ่นน่า"
ตอนเราไปเห็นครั้งแรกนะ โอ้แม่เจ้า.. มันเป็นอะไรที่กันดารมากกกกกกกก ถนนยังเป็นถนนลูกรังอยู่เลย!
นึกถึงบ้านนอกเราสมัยก่อน รถวิ่งฝุ่นฟุ้งตลบ ลงรถมาทีหัวงี้ทั้งแดงทั้งฟู! สภาพแบบนั้นเลยค่ะ
คนที่นี่หน้าตาเหมือนแขกอินเดีย ตามที่เคยอ่านมา ก็เป็นคนชนเผ่าเดียวกับคนอินเดีย แต่แตกประเทศออกมา
การพูดจา ออกท่าทางเหมือนกันเลยค่ะ เวลาชี้นิ้ว ให้ใช้ทั้งฝามือชี้ไปในทิศทางที่จะชี้ ห้ามใช้นิ้วเดียว
เพราะถือว่าไม่สุภาพนะคะ แล้วเวลาพูดนี่ หัวนายจ๋า นางจ๋าทั้งหลายก็จะส่ายด๊อกแด๊ก ด๊อกแด๊ก
ที่สำคัญไม่ว่าจะ Yes หรือ No หัวพวกเขาจะส่ายหมด เรานี่งง เลย ตกลงมันใช่หรือไม่ใช่! ลองพูดคำว่าใช่แล้วส่ายหัวดูสิ .. งงเนอะ
ตอนเรามาถึงใหม่ๆ ในใจคิดว่า ตายๆๆ หน้าตาแบบนี้ อรีนี่ อรีนี่ นายจ๋า นายจ๋า แบบนี้ ตรูคงไม่ได้กินหมูไปอีกนานเลยสิน๊ะ
กระดูกหมูต้มแซ่บของฉ้านนนนน!!! แต่เปล่าค่ะจริงๆแล้วที่นี่เป็นเมืองพุทธ
แต่คนที่หมู่บ้านนี้นับถือศาสนาคริส นิกายโรมันคาทอลิก 90% มีพุธทบ้าง อิสลามบ้าง ผสมนิดหน่อย เฉพาะหมู่บ้านนี้นะคะ
แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศ นับถือศาสนาพุธทเป็นหลักค๊าาาา อิฉันโครตจะดีใจ
ที่บ้านสามีเรา ก็ประกอบไปด้วย สมาชิก 4B คือ สามีเราชื่อ บียอร์น คนขับรถชื่อ เบนนาดิกซ์ แม่บ้านชื่อ เบิร์นนี่
และเราชื่อบี มีคนสวนชื่อ โรนัน มันไม่เข้าพวกเรากับเบิร์นนี่เลยแกล้งเรียกนางว่า เบนจมิน 555
เวลาเรียก บางทีก็หัน บางทีก็ไม่หัน เฮอะไม่เข้าพวกแล้วยังทำเล่นตัวอีก
Bอื่นๆไม่เท่าไหร่ Bเบิร์นนี่ นี่เรื่องเยอะสุด เป็นเพราะภาษาในการสื่อสารด้วย ตอนนั้นนเบิร์นนี่อายุ 62แล้ว ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อน
อาศัยจำเอาจากเจ้านายคนก่อนๆ แต่รวมก็ถือว่าโอเครนะ
จากกระทู้ก่อน จะเห็นว่า งานบ้านนี่ห้ามแย่งนางทำเด็ดขาด เพราะถือเป็นการไม่ให้เกรียติในอาชีพนาง ถึงขั้นน้ำหูน้ำตาเรี่ยราด
ไปฟ้องสามีเราก็มี และนี่คือเบิร์นนี่นางเอกของเรา (ขี้อาย)
มีหลายๆครั้งที่เบิร์นนี่ กับเรา มีเรื่องตลกๆเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดนี่แหละ
เบิร์นนี่เป็นคนตัวเล็กแต่เสียงดัง มากกกกกกกกก แล้วทุกวันเสียงนางจะมาก่อนตัวเสมอ
คือเสียงนี่มาก่อน 3กิโลเมตรล่วงหน้า ตัวจะค่อยๆกระเผลกตามมาหลังจากนั้นอีก 10นาที ทุกเช้าเราจะได้ยินเสียง
"กู๊ดมอร์นิ่งมาดามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม" โดยที่ไม่เห็นเจ้าของเสียง
เราเคยนั่งรอจะถามอะไรนางสักอย่างจนบางทีลืมไปแระ กว่าตัวเจ้าของเสียงเพิ่งจะโผล่พ้นประตูใหญ่มา....
เบิร์นนี่มีปัญหาเรื่องหัวเข่า เลยเดินกระเผลกๆนิดหนึ่ง ชาวบ้านรักเบิร์นนี่ทุกคน เพราะเธอเป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้านได้ทุกเรื่อง
แถมเป็นผู้ประกาศข่าวด้วยอีกนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง ถามบิร์นนี่ เบิร์นนี่รู้โหมดดดดดด บางทีเราก็สงสัย
อยู่กับเราตลอดเอาเวลาทีไหนไปหาความรู้หว่า?... เวลาทำอะไรกินเราจะทำเผื่อเบิร์นนี่ด้วย เธอก็จะเอาไปแบ่งญาติๆ แล้วก็เพื่อนบ้านเธอด้วย แบ่งทุกอย่าง
สงสัยกลัวตายจะได้มีเพื่อน มันจะได้ไม่เหงาฮ่าฮ่าฮ่า ตอนแรกเราไม่รู้ทำให้แค่กล่องเล็กๆพอแค่เบิร์นนี่กับสามีกิน
เบิร์นนี่ก็ยังใจดีแบ่ง พวกเขาก็ตักแบ่งกันคนละคำสองคำ แค่ให้พอรู้รสชาติเพื่อจะได้เอาไปวิจารณ์!!
หลังจากเรียนรู้กัน เรากับเบิร์นนี่ก็เข้ากันได้ดี อยู่ที่นี่ นางมาดามโดนตามใจมาก เบิร์นนี่ทำให้หมด
เหลือแต่จะกดชักโครกกับอาบน้ำให้นี่แหละ ที่เรายังไม่ยอมให้นางทำ เวลาเรากินข้าว หมดจานปุ๊บ วางช้อนปั๊บ แค่เงยหน้าดื่มน้ำ
จานข้าวก็จะหายแว๊บไปแล้ว! คือ .. ถึงจะเป็นมาดาม แต่.. บางทีมาดามก็อยากเบิ้ลข้าวบ้าง ไรบ้างอ่ะ ... ไม่ได้เหรอ ...
แต่ค่อนข้างอดอยากเรื่องอาหารไทย เพราะตอนไปเยี่ยมแม่แฟนที่สวีเดน เรากลัวอดเลยขนมาม่าปลากระป๋องไปด้วย
แต่ขอโทษที่นั่นมีทู๊กกกกกอย่าง มีแม้กระทั้งปลาร้า และตีนไก่รวมถึงตัวแมลงทอด!
พอตอนมาศรีลังกา นังมาดามคิดว่า ไปไกลถึงสดีเดน ได้กินฮอตตีนไก่น้ำปลาร้า ศรีงลังกาใกล้ๆบ้านแค่นี่ อากาศก็คล้ายๆบ้านเรา
มันก็ต้องมีอาหารการกินเหมือนๆกันละว่ะ เลยไม่ขนอะไรมาสักอย่างเลย
แต่ที่ไหนได้! ไม่มีสักอย่าง! มีแต่ครื่องเทศ กับถั่วซีก กะปิก็ไม่มี โหรพาก็หายาก แม้แต่หอมใหญ่ยังไม่มีเลย
มีแต่หอมแขกลูกใหญ่ๆแทน! อยากได้อะไรก็ต้องตุเรง ตุเรงเข้าเมือง ถนนหนทางโคตรลำบาก สามล้อเต็มถนนไปหมด
ประหนึ่งว่า โดนเด็กแว้นซ์ปิดทางประมาณนั้น ถนน2เลนที่ พวกเขาสามราถทำให้มันเป็น 5เลน 6เลนได้สบายๆ
รถติดกว่ากรุงเทพเป็นสิบเท่าไปลองหารูปดูในกูเกิ้ลเอานะคะ (ตอนนี้อาจจะพัฒนาแล้วก็ได้เนอะ)
ส่วนใหญ่เราก็จะไปซื้อกับข้าวที่ในเมืองแค่อาทิตย์ละครั้ง ตุนเต็มที่ค่ะ แต่เวลานั่งรถนี่เราจะนั่งขัดสมาธิบนเบาะนะ
นั่งห้อยขาไม่ได้ มันจะคอยเกร็งแล้วคอยช่วยเขาเบรคตลอดเลย พอถึงทีหมาย ขาหมดแรง เดินไปไม่เป็นเลย
เพราะนอกจากรถสามล้อแล้วเรายังต้องระวังสัตว์ พวกสุนัข วัว ควาย นี่ ต้องแบ่งถนนให้เขาเดินด้วย!
ค่ะ!เราพูดถึงถนนหลวงในเมืองหลวงของประเทศนี่ละค่ะ บางทีต้องเตือนเบนนิดิ๊ค คนขับรถว่า ระวังตัวสิเธอจะไปไหนเธอมองบางสิ
เขาก็จะบอกว่าไม่เป็นไรมาดาม เราต้องมองคนอื่นดูว่าอย่าให้มันมาชนเรา ส่วนเราก็ให้คนอื่นมันดู “อ่ะฮา อ๋อเหรอ! เจอกันอาทิตย์ละครั้งแหละดีแล้ว
เรื่องวัตถุดิบนี่จะบ่นเป็นประจำตอนมาอยู่ใหม่ๆ พอทำอะไรกินก็เพี้ยนไปหมด ไม่ใช่เขาจะไม่มีนะ แต่เป็นเพราะตรงทีเราอยู่มันจำกัด
มีร้านค้าโชว์ห่วยเล็กๆ แต่มันไม่มีให้เลือกเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็ของใช้ตามท้องถิ่น แต่ไม่ว่าเราจะอยากกินอะไรเบิร์นนี่จะดิ้นรนหาให้
ไม่ได้วันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องได้ (ฝากร้านค้าไปซื้อให้ ตอนเขาไปรับของมาขาย)
มาอ่านเรื่องตลกๆของเรากับเบิร์นนี่ ที่เกิดจากการสื่อสารกันบ้างดีกว่า เรื่องนี้ฉายหลายรอบแล้วแต่ก็ชอบฉาย 5555
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งอยากกินต้มยำกุ้ง เราก็ถามเบิร์นนี่เธอรู้จักตะไคร้ไหม “ Bernie do you know lemongrass?”
เธอก็ตอบกลับมาด้วยสำเหนียงศรีลังกาแบบแขกๆ น่ารักๆ หัวสั่นด๊อกแด๊กๆ
“ something for Madame using for cooking?” “บางอย่างที่มาดามจะเอาทำอาหารเหรอ”
“ใช่ๆ นั่นแหละฉันจะเอามาใส่ต้มยำ ที่ชื่อดังๆของเมืองไทยเลย เดี๋ยวเธอได้ชิม”
เบิร์นนี่ก็ว่า “รู้จักๆ ซุปที่มันเผ็ดๆเปรี้ยวๆนะเหรอฉันเคยกินครั้งหนึ่ง นานแล้ว ”
เออเฮ้ย!...คุยเรื่องเดียวกันแบบนี้มีหวังๆได้กินแน่ๆ แต่ตอนเบิร์นนี่ย้ำว่า “Lemongrass”
เลม่อนกราส เลม่อนกราส ก็ทำหน้าแปลกๆ พึมพรำ เดินออกไป
เวลาคุยกันเราก็จะใช่ภาษาอังกฤษ อย่างที่บอกเบิร์นนี่อายุหกสิบกว่าแล้ว ภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ภาษากำเนิดทั้งของเราและเบิร์นนี่
ก็มีหลายๆทีที่คุยเรื่องเดียวกันแต่ที่ไปกันคนละโลก!
เบิร์นนี่ก็ขอตัวไปหาซื้อ ตะไคร้ (lemongrass) มาดามอยู่ทางนี้ก็เตรียมล้างกุ้งตัดหัวตัดหนวดผ่าหลัง ต้มน้ำรอ
ไม่ได้กินแซบๆมาหลายวันวันนี้แหละ จะกินให้โล่งใจเลย
รู้สีกดีใจที่มีเบิร์นนี่อยู่ด้วยถึงจะแก่แต่ก็คล่องแคล่วเชียว ทำอะไรให้กิน กินหมดดดดด ไม่เคยเกี่ยง เรื่องเผ็ดไม่ต้องกลัวคนที่กินเผ็ดอยู่แล้ว
เครื่องเทศบ้านเขาบางอย่างเผ็ดกว่าแกงบ้านเราซะอีก
หายไปแป๊ปเดียวก็ได่ยินเสียงนำหน้ามาเลย "มาดามมมมมมมมมมมม" สักพักตัวก็ตามเสียงมา
เรายังจำภาพเบิร์นนี่เดินหน้ายิ้มแป้นมาเลย มือหนึ่งถือมะนาวมา3ลูก อีกมือถือ หญ้ามาอีกกำมือหนึ่ง ชูให้เราดูแล้วก็บอกว่า
“ มาดามฉัน เอาเลมอน (มะนาว)มาให้แล้วนะ ส่วน กร้าส(หญ้า) ฉันเอาในสนามเรามาให้มันมีตั้งเยอะ ฉันไม่อยากเอาจากข้างถนนมาให้มันสกปก
>< “ Madame I bring you lemon here but some grass I can take from our garden I don’t want bring from outside its dirty”
เบิร์นนี่บอกว่ากลับไปเอามะนาวมาให้จากที่บ้าน เพราะอยู่ใกล้ๆดีกว่าไปร้านค้า กลัวมาดามรอ แล้วก็แวะบอกเพื่อนบ้านว่าวันนี้มาดามจะทำต้มซุปกุ้งกับหญ้าใส่มะนาวให้กิน
ทุกคนดีใจจะได้ชิมของแปลกแต่นังมาดามนี่ได้แต่ยืนทำหน้าแปลกๆ แบบอธิบายไม่ถูกอยู่นาน อึ้งค่ะ อึ้ง!! โถ่ถัง กะละมังแตก!
ก็ไหนว่าเราคุยเรื่องเดียวกันไงละ!
เฮ้ย!ห่วงแต่เพื่อนบ้านเบิร์นนี่จะคิดว่า มาดามบ้านนี้มาจากภาคไหนของประเทศไทยหว่า กินอะไรแต่ละอย่างไม่พ้นหญ้าพ้นพืชเลย
สุดท้ายก็ต้องปิดเตา วางกุ้งไว้ ไปเปิดคอมพิวเตอร์ค้นหารูปต้นตะไคร้ให้เธอดู พอเห็นเธอก็อุทานใหญ่โตเป็นภาษาบ้านตัวเอง
T (@#$%$#@//**&&555 %+?$#) (ฟังไม่ออก)แล้วก็หันมาบอกเราว่า มันไม่ใช่หญ้า มันคือ “เซร่า” "Sera" ภาษาบ้านเขาเรียกว่าเซร่าค่ะ ...
เฮ้อ! แล้วฉันเคยบอกรึ ว่ามันคือหญ้า
"ก็มาดามบอกว่ากร้าสๆ " ...ค่ะ!มาดามผิดเองค่ะ!
อีกที อยากลองทำ ทีรามิสุดูบ้างถามเบิร์นนี่แถวนี้มีเลดีฟริ้งเกอร์ขายไหม ฉันจะทำขนม
เบิร์นนี่บอก แถวไหนก็มี ..... หายไปแป๊บเดียว ได้กระเจี๊ยบเขียว นิ้วเรียวยาวมาเชียว
สรุปเลยเอาลงหม้อแกงส้มไป ... เบิร์นนี่ก็ถามหาแต่ขนมหวานจากกระเจี๊ยบอยู่ไหน
เราบอกมันไม่ใช่ นางก็เถียง เนี่ยก็เลดีฟริ้งเกอร์แล้ว ทำไมจะไม่ใช่ แล้วเธอก็ตีหน้าเศร้า
ว่าเนี่ยแอบไปบอกเพื่อนบ้านไว้แล้วว่าจะมีขนมจากเลดีฟริ้งเกอร์(กระเจี๊ยบ) ไปให้ชิม เขาต้องรอชิมกันแน่ๆเลย
เราก็ว่า ที่หลังก็อย่าไปให้ความหวังใครสิ เธอรีบบอก ฉันไม่เคยนะ แต่พอเห็นฉันเขาก็รีบรุมมาถาม วันนี้มีอะไรแปลกๆอีกไหม
พอฉันบอก เขาก็หวังกันเอง"
มาดามได้แต่คิด ฮึ!เดี๋ยวก็ทำกระเจียบเชื่อมให้กินซะหรอก ถ้าไม่กินนะ จะโดนไม่ใช่น้อย! แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ แค่แกงส้ม
แจกๆกันไป เบิร์นนี่ต้องไปยอมรับเอาเองว่าสื่อสารกับมาดามผิดพลาดเอง 555
มันยาวเกิน วีรกรรมเบิร์นนี่ มีต่อข้างล่าง นะคะ
ประสบการณ์ที่ศรีลังกา ตอน มาดามมือใหม่ กับแม่บ้านมือเก่าวัยเก๋า
ก็ได้มีหน้าไมค์หลังไมค์มาเชียร์ให้เขียนเพิ่ม อยากให้เล่าเรื่องที่เราเจอกับสามี
ขอให้ใส่รายละเอียดให้เยอะอีกหน่อย เพื่อความฟินส์ เราเลยไปถามสามีว่าฮีโอเครไหม
ฮีบอกว่ามันเป็นความทรงจำของเราสองคน ให้มันอยู่กับเราสองคนไม่ได้เหรอ ละครบ้านคุณสนุกกว่าเป็นไหนๆ แนะนำให้เขาไปดูกันสิ
อืม...ไม่ตอบโน แต่ไม่เซย์เยส ... อิฉันก็แอบเห็นด้วยนะคะ เราอยู่กันมานาน ชีวิตมันมีขึ้น มีลง มีดราม่าก็เยอะ
คือชีวิตมันไม่มีบทให้ไม่มีผู้กำกับคอยบอก บางทีพูดผิดไปเพราะอารมณ์ เสียความรู้สึกไปแล้ว มันก็เอาคืนมาไม่ได้
จะสั่งคัตเเล้วขอพูดไหมก็ไม่ทัน ...ต้องทำความดี ชดเชยจิตใจให้กัน เริ่มกันใหม่ ... มันเป็นความทรงจำของเราจริงๆ ...
งั้นขอค้างเอาไว้ก่อนเนอะ
เอาแค่เรื่องของเรากับเบิร์นนี่ไปอ่านเล่นก่อนละกัน
เบิร์นนี่ผู้น่ารัก แสบสันต์ระดับ 10+
ขอเกริ่นย้อนนิดหนึ่ง เพื่อสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านกระทู้เก่าๆของเรานะคะ
คนที่เคยอ่านมาบ้างแล้วอาจจะได้อ่านวีรกรรมซ้ำๆของเบิร์นนี่ก็อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ
ขอเกริ่นท้าวความนิดหนึ่ง ให้มันมีที่มาที่ไปเนาะ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ6-7ปีที่แล้วนะคะ
คือหลังจากที่ดูใจกับสามีมาสักพัก เราบินไป ฮีบินมา ค่าตั๋วเริ่มทำพิษ ชีวิตส่อเค้าว่า รักแท้จะแพ้ระยะทางซะแล้ว
สามี(ตอนนั้นเป็นแค่แฟนกัน)เลยขอให้เราออกจากงาน ไปอยู่กับเขาเพื่อ เรียนรู้กันให้มากขึ้น
เจ้านายก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะตรงกับช่วงหน้าโลว์ซีซั่พอดี แม่ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็มีพูดจาจิกๆลูกนิดหน่อยให้รู้สึกจี๊ดๆ
ว่าถ้าจะมาบอกแม่ตอนที่ใจเราไปอยู่กับผู้ชายแล้ว ก็เอาตัวตามไปเหอะ แม่เข้าใจ แหม บินไปหาเขามาตั้งกี่รอบแล้วละ .. แม่อ่ะ!
สรุปเราก็เก็บเสื้อผ้า ตามแฟนมาที่ศรีลังกาค่ะ สามีเราเป็นคนสวีเดน แต่มาได้งานที่ศรีลังกานะคะ
เมืองที่เราอยู่ชื่อ เนกอมโบ แต่เราอยู่นอกเมืองเป็นหมู่บ้านเล็กๆชื่อ "Thalahena ตะลัยเฮ่นน่า"
ตอนเราไปเห็นครั้งแรกนะ โอ้แม่เจ้า.. มันเป็นอะไรที่กันดารมากกกกกกกก ถนนยังเป็นถนนลูกรังอยู่เลย!
นึกถึงบ้านนอกเราสมัยก่อน รถวิ่งฝุ่นฟุ้งตลบ ลงรถมาทีหัวงี้ทั้งแดงทั้งฟู! สภาพแบบนั้นเลยค่ะ
คนที่นี่หน้าตาเหมือนแขกอินเดีย ตามที่เคยอ่านมา ก็เป็นคนชนเผ่าเดียวกับคนอินเดีย แต่แตกประเทศออกมา
การพูดจา ออกท่าทางเหมือนกันเลยค่ะ เวลาชี้นิ้ว ให้ใช้ทั้งฝามือชี้ไปในทิศทางที่จะชี้ ห้ามใช้นิ้วเดียว
เพราะถือว่าไม่สุภาพนะคะ แล้วเวลาพูดนี่ หัวนายจ๋า นางจ๋าทั้งหลายก็จะส่ายด๊อกแด๊ก ด๊อกแด๊ก
ที่สำคัญไม่ว่าจะ Yes หรือ No หัวพวกเขาจะส่ายหมด เรานี่งง เลย ตกลงมันใช่หรือไม่ใช่! ลองพูดคำว่าใช่แล้วส่ายหัวดูสิ .. งงเนอะ
ตอนเรามาถึงใหม่ๆ ในใจคิดว่า ตายๆๆ หน้าตาแบบนี้ อรีนี่ อรีนี่ นายจ๋า นายจ๋า แบบนี้ ตรูคงไม่ได้กินหมูไปอีกนานเลยสิน๊ะ
กระดูกหมูต้มแซ่บของฉ้านนนนน!!! แต่เปล่าค่ะจริงๆแล้วที่นี่เป็นเมืองพุทธ
แต่คนที่หมู่บ้านนี้นับถือศาสนาคริส นิกายโรมันคาทอลิก 90% มีพุธทบ้าง อิสลามบ้าง ผสมนิดหน่อย เฉพาะหมู่บ้านนี้นะคะ
แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศ นับถือศาสนาพุธทเป็นหลักค๊าาาา อิฉันโครตจะดีใจ
ที่บ้านสามีเรา ก็ประกอบไปด้วย สมาชิก 4B คือ สามีเราชื่อ บียอร์น คนขับรถชื่อ เบนนาดิกซ์ แม่บ้านชื่อ เบิร์นนี่
และเราชื่อบี มีคนสวนชื่อ โรนัน มันไม่เข้าพวกเรากับเบิร์นนี่เลยแกล้งเรียกนางว่า เบนจมิน 555
เวลาเรียก บางทีก็หัน บางทีก็ไม่หัน เฮอะไม่เข้าพวกแล้วยังทำเล่นตัวอีก
Bอื่นๆไม่เท่าไหร่ Bเบิร์นนี่ นี่เรื่องเยอะสุด เป็นเพราะภาษาในการสื่อสารด้วย ตอนนั้นนเบิร์นนี่อายุ 62แล้ว ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อน
อาศัยจำเอาจากเจ้านายคนก่อนๆ แต่รวมก็ถือว่าโอเครนะ
จากกระทู้ก่อน จะเห็นว่า งานบ้านนี่ห้ามแย่งนางทำเด็ดขาด เพราะถือเป็นการไม่ให้เกรียติในอาชีพนาง ถึงขั้นน้ำหูน้ำตาเรี่ยราด
ไปฟ้องสามีเราก็มี และนี่คือเบิร์นนี่นางเอกของเรา (ขี้อาย)
มีหลายๆครั้งที่เบิร์นนี่ กับเรา มีเรื่องตลกๆเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดนี่แหละ
เบิร์นนี่เป็นคนตัวเล็กแต่เสียงดัง มากกกกกกกกก แล้วทุกวันเสียงนางจะมาก่อนตัวเสมอ
คือเสียงนี่มาก่อน 3กิโลเมตรล่วงหน้า ตัวจะค่อยๆกระเผลกตามมาหลังจากนั้นอีก 10นาที ทุกเช้าเราจะได้ยินเสียง
"กู๊ดมอร์นิ่งมาดามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม" โดยที่ไม่เห็นเจ้าของเสียง
เราเคยนั่งรอจะถามอะไรนางสักอย่างจนบางทีลืมไปแระ กว่าตัวเจ้าของเสียงเพิ่งจะโผล่พ้นประตูใหญ่มา....
เบิร์นนี่มีปัญหาเรื่องหัวเข่า เลยเดินกระเผลกๆนิดหนึ่ง ชาวบ้านรักเบิร์นนี่ทุกคน เพราะเธอเป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้านได้ทุกเรื่อง
แถมเป็นผู้ประกาศข่าวด้วยอีกนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง ถามบิร์นนี่ เบิร์นนี่รู้โหมดดดดดด บางทีเราก็สงสัย
อยู่กับเราตลอดเอาเวลาทีไหนไปหาความรู้หว่า?... เวลาทำอะไรกินเราจะทำเผื่อเบิร์นนี่ด้วย เธอก็จะเอาไปแบ่งญาติๆ แล้วก็เพื่อนบ้านเธอด้วย แบ่งทุกอย่าง
สงสัยกลัวตายจะได้มีเพื่อน มันจะได้ไม่เหงาฮ่าฮ่าฮ่า ตอนแรกเราไม่รู้ทำให้แค่กล่องเล็กๆพอแค่เบิร์นนี่กับสามีกิน
เบิร์นนี่ก็ยังใจดีแบ่ง พวกเขาก็ตักแบ่งกันคนละคำสองคำ แค่ให้พอรู้รสชาติเพื่อจะได้เอาไปวิจารณ์!!
หลังจากเรียนรู้กัน เรากับเบิร์นนี่ก็เข้ากันได้ดี อยู่ที่นี่ นางมาดามโดนตามใจมาก เบิร์นนี่ทำให้หมด
เหลือแต่จะกดชักโครกกับอาบน้ำให้นี่แหละ ที่เรายังไม่ยอมให้นางทำ เวลาเรากินข้าว หมดจานปุ๊บ วางช้อนปั๊บ แค่เงยหน้าดื่มน้ำ
จานข้าวก็จะหายแว๊บไปแล้ว! คือ .. ถึงจะเป็นมาดาม แต่.. บางทีมาดามก็อยากเบิ้ลข้าวบ้าง ไรบ้างอ่ะ ... ไม่ได้เหรอ ...
แต่ค่อนข้างอดอยากเรื่องอาหารไทย เพราะตอนไปเยี่ยมแม่แฟนที่สวีเดน เรากลัวอดเลยขนมาม่าปลากระป๋องไปด้วย
แต่ขอโทษที่นั่นมีทู๊กกกกกอย่าง มีแม้กระทั้งปลาร้า และตีนไก่รวมถึงตัวแมลงทอด!
พอตอนมาศรีลังกา นังมาดามคิดว่า ไปไกลถึงสดีเดน ได้กินฮอตตีนไก่น้ำปลาร้า ศรีงลังกาใกล้ๆบ้านแค่นี่ อากาศก็คล้ายๆบ้านเรา
มันก็ต้องมีอาหารการกินเหมือนๆกันละว่ะ เลยไม่ขนอะไรมาสักอย่างเลย
แต่ที่ไหนได้! ไม่มีสักอย่าง! มีแต่ครื่องเทศ กับถั่วซีก กะปิก็ไม่มี โหรพาก็หายาก แม้แต่หอมใหญ่ยังไม่มีเลย
มีแต่หอมแขกลูกใหญ่ๆแทน! อยากได้อะไรก็ต้องตุเรง ตุเรงเข้าเมือง ถนนหนทางโคตรลำบาก สามล้อเต็มถนนไปหมด
ประหนึ่งว่า โดนเด็กแว้นซ์ปิดทางประมาณนั้น ถนน2เลนที่ พวกเขาสามราถทำให้มันเป็น 5เลน 6เลนได้สบายๆ
รถติดกว่ากรุงเทพเป็นสิบเท่าไปลองหารูปดูในกูเกิ้ลเอานะคะ (ตอนนี้อาจจะพัฒนาแล้วก็ได้เนอะ)
ส่วนใหญ่เราก็จะไปซื้อกับข้าวที่ในเมืองแค่อาทิตย์ละครั้ง ตุนเต็มที่ค่ะ แต่เวลานั่งรถนี่เราจะนั่งขัดสมาธิบนเบาะนะ
นั่งห้อยขาไม่ได้ มันจะคอยเกร็งแล้วคอยช่วยเขาเบรคตลอดเลย พอถึงทีหมาย ขาหมดแรง เดินไปไม่เป็นเลย
เพราะนอกจากรถสามล้อแล้วเรายังต้องระวังสัตว์ พวกสุนัข วัว ควาย นี่ ต้องแบ่งถนนให้เขาเดินด้วย!
ค่ะ!เราพูดถึงถนนหลวงในเมืองหลวงของประเทศนี่ละค่ะ บางทีต้องเตือนเบนนิดิ๊ค คนขับรถว่า ระวังตัวสิเธอจะไปไหนเธอมองบางสิ
เขาก็จะบอกว่าไม่เป็นไรมาดาม เราต้องมองคนอื่นดูว่าอย่าให้มันมาชนเรา ส่วนเราก็ให้คนอื่นมันดู “อ่ะฮา อ๋อเหรอ! เจอกันอาทิตย์ละครั้งแหละดีแล้ว
เรื่องวัตถุดิบนี่จะบ่นเป็นประจำตอนมาอยู่ใหม่ๆ พอทำอะไรกินก็เพี้ยนไปหมด ไม่ใช่เขาจะไม่มีนะ แต่เป็นเพราะตรงทีเราอยู่มันจำกัด
มีร้านค้าโชว์ห่วยเล็กๆ แต่มันไม่มีให้เลือกเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็ของใช้ตามท้องถิ่น แต่ไม่ว่าเราจะอยากกินอะไรเบิร์นนี่จะดิ้นรนหาให้
ไม่ได้วันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องได้ (ฝากร้านค้าไปซื้อให้ ตอนเขาไปรับของมาขาย)
มาอ่านเรื่องตลกๆของเรากับเบิร์นนี่ ที่เกิดจากการสื่อสารกันบ้างดีกว่า เรื่องนี้ฉายหลายรอบแล้วแต่ก็ชอบฉาย 5555
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งอยากกินต้มยำกุ้ง เราก็ถามเบิร์นนี่เธอรู้จักตะไคร้ไหม “ Bernie do you know lemongrass?”
เธอก็ตอบกลับมาด้วยสำเหนียงศรีลังกาแบบแขกๆ น่ารักๆ หัวสั่นด๊อกแด๊กๆ
“ something for Madame using for cooking?” “บางอย่างที่มาดามจะเอาทำอาหารเหรอ”
“ใช่ๆ นั่นแหละฉันจะเอามาใส่ต้มยำ ที่ชื่อดังๆของเมืองไทยเลย เดี๋ยวเธอได้ชิม”
เบิร์นนี่ก็ว่า “รู้จักๆ ซุปที่มันเผ็ดๆเปรี้ยวๆนะเหรอฉันเคยกินครั้งหนึ่ง นานแล้ว ”
เออเฮ้ย!...คุยเรื่องเดียวกันแบบนี้มีหวังๆได้กินแน่ๆ แต่ตอนเบิร์นนี่ย้ำว่า “Lemongrass”
เลม่อนกราส เลม่อนกราส ก็ทำหน้าแปลกๆ พึมพรำ เดินออกไป
เวลาคุยกันเราก็จะใช่ภาษาอังกฤษ อย่างที่บอกเบิร์นนี่อายุหกสิบกว่าแล้ว ภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ภาษากำเนิดทั้งของเราและเบิร์นนี่
ก็มีหลายๆทีที่คุยเรื่องเดียวกันแต่ที่ไปกันคนละโลก!
เบิร์นนี่ก็ขอตัวไปหาซื้อ ตะไคร้ (lemongrass) มาดามอยู่ทางนี้ก็เตรียมล้างกุ้งตัดหัวตัดหนวดผ่าหลัง ต้มน้ำรอ
ไม่ได้กินแซบๆมาหลายวันวันนี้แหละ จะกินให้โล่งใจเลย
รู้สีกดีใจที่มีเบิร์นนี่อยู่ด้วยถึงจะแก่แต่ก็คล่องแคล่วเชียว ทำอะไรให้กิน กินหมดดดดด ไม่เคยเกี่ยง เรื่องเผ็ดไม่ต้องกลัวคนที่กินเผ็ดอยู่แล้ว
เครื่องเทศบ้านเขาบางอย่างเผ็ดกว่าแกงบ้านเราซะอีก
หายไปแป๊ปเดียวก็ได่ยินเสียงนำหน้ามาเลย "มาดามมมมมมมมมมมม" สักพักตัวก็ตามเสียงมา
เรายังจำภาพเบิร์นนี่เดินหน้ายิ้มแป้นมาเลย มือหนึ่งถือมะนาวมา3ลูก อีกมือถือ หญ้ามาอีกกำมือหนึ่ง ชูให้เราดูแล้วก็บอกว่า
“ มาดามฉัน เอาเลมอน (มะนาว)มาให้แล้วนะ ส่วน กร้าส(หญ้า) ฉันเอาในสนามเรามาให้มันมีตั้งเยอะ ฉันไม่อยากเอาจากข้างถนนมาให้มันสกปก
>< “ Madame I bring you lemon here but some grass I can take from our garden I don’t want bring from outside its dirty”
เบิร์นนี่บอกว่ากลับไปเอามะนาวมาให้จากที่บ้าน เพราะอยู่ใกล้ๆดีกว่าไปร้านค้า กลัวมาดามรอ แล้วก็แวะบอกเพื่อนบ้านว่าวันนี้มาดามจะทำต้มซุปกุ้งกับหญ้าใส่มะนาวให้กิน
ทุกคนดีใจจะได้ชิมของแปลกแต่นังมาดามนี่ได้แต่ยืนทำหน้าแปลกๆ แบบอธิบายไม่ถูกอยู่นาน อึ้งค่ะ อึ้ง!! โถ่ถัง กะละมังแตก!
ก็ไหนว่าเราคุยเรื่องเดียวกันไงละ!
เฮ้ย!ห่วงแต่เพื่อนบ้านเบิร์นนี่จะคิดว่า มาดามบ้านนี้มาจากภาคไหนของประเทศไทยหว่า กินอะไรแต่ละอย่างไม่พ้นหญ้าพ้นพืชเลย
สุดท้ายก็ต้องปิดเตา วางกุ้งไว้ ไปเปิดคอมพิวเตอร์ค้นหารูปต้นตะไคร้ให้เธอดู พอเห็นเธอก็อุทานใหญ่โตเป็นภาษาบ้านตัวเอง
T (@#$%$#@//**&&555 %+?$#) (ฟังไม่ออก)แล้วก็หันมาบอกเราว่า มันไม่ใช่หญ้า มันคือ “เซร่า” "Sera" ภาษาบ้านเขาเรียกว่าเซร่าค่ะ ...
เฮ้อ! แล้วฉันเคยบอกรึ ว่ามันคือหญ้า
"ก็มาดามบอกว่ากร้าสๆ " ...ค่ะ!มาดามผิดเองค่ะ!
อีกที อยากลองทำ ทีรามิสุดูบ้างถามเบิร์นนี่แถวนี้มีเลดีฟริ้งเกอร์ขายไหม ฉันจะทำขนม
เบิร์นนี่บอก แถวไหนก็มี ..... หายไปแป๊บเดียว ได้กระเจี๊ยบเขียว นิ้วเรียวยาวมาเชียว
สรุปเลยเอาลงหม้อแกงส้มไป ... เบิร์นนี่ก็ถามหาแต่ขนมหวานจากกระเจี๊ยบอยู่ไหน
เราบอกมันไม่ใช่ นางก็เถียง เนี่ยก็เลดีฟริ้งเกอร์แล้ว ทำไมจะไม่ใช่ แล้วเธอก็ตีหน้าเศร้า
ว่าเนี่ยแอบไปบอกเพื่อนบ้านไว้แล้วว่าจะมีขนมจากเลดีฟริ้งเกอร์(กระเจี๊ยบ) ไปให้ชิม เขาต้องรอชิมกันแน่ๆเลย
เราก็ว่า ที่หลังก็อย่าไปให้ความหวังใครสิ เธอรีบบอก ฉันไม่เคยนะ แต่พอเห็นฉันเขาก็รีบรุมมาถาม วันนี้มีอะไรแปลกๆอีกไหม
พอฉันบอก เขาก็หวังกันเอง"
มาดามได้แต่คิด ฮึ!เดี๋ยวก็ทำกระเจียบเชื่อมให้กินซะหรอก ถ้าไม่กินนะ จะโดนไม่ใช่น้อย! แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ แค่แกงส้ม
แจกๆกันไป เบิร์นนี่ต้องไปยอมรับเอาเองว่าสื่อสารกับมาดามผิดพลาดเอง 555
มันยาวเกิน วีรกรรมเบิร์นนี่ มีต่อข้างล่าง นะคะ