เคาะตั๋วร่วม “บัตรแมงมุม” เริ่ม ม.ค. 60 สั่ง รฟม.ตั้ง BU ชั่วคราวบริหารระยะแรก
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม
คมนาคมเร่งตั๋วร่วม “บัตรแมงมุม” ดีเดย์ ม.ค. 60 นำร่องใช้ได้กับรถไฟฟ้า “สีน้ำเงิน-ม่วง-เขียว-แอร์พอร์ตลิงก์” มอบ รฟม.เป็นแกนนำ ตั้งหน่วยธุรกิจชั่วคราวเพื่อขับเคลื่อนบริการก่อนระหว่างรอจัดตั้งบริษัทร่วมทุนฯ PPP ส่วนตั๋วร่วมทางด่วนกับมอเตอร์เวย์ “Easy Pass-M Pass” ต.ค. 59 เริ่มใช้ใบเดียววิ่งได้ทั้ง 2 โครงข่าย
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมว่า ในการให้บริการระบบตั๋วร่วม บัตรแมงมุม (MANGMOOM) นั้น ที่ประชุมมีมติเร่งรัดให้เริ่มดำเนินการให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 2560 สำหรับโครงข่ายรถไฟฟ้า 4 สาย คือ สายสีน้ำเงิน สายสีเขียว สายสีม่วง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นแกนในการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ขึ้นมาเป็นการชั่วคราว เพื่อขับเคลื่อนการให้บริการตั๋วร่วมดังกล่าวได้ในกำหนด โดย รฟม.จะต้องหาพันธมิตรมาร่วมในหน่วยธุรกิจ โดยมีธนาคารกรุงไทยเป็นผู้บริหารรายได้ (Clearing House) ในการบริหารจัดการ และจะต้องเจรจาร่วมกับผู้ประกอบการรถไฟฟ้าในเรื่องค่าใช้จ่ายและการลดค่าแรกเข้าเมื่อมีการใช้ตั๋วร่วม
ทั้งนี้ เนื่องจากการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมอยู่ระหว่างจัดตั้งหน่วยงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing Company : CTC) ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน (Public Private Partnerships : PPP) โดยดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และมีความจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... เพื่อให้การดำเนินงานมีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม จึงต้องใช้ระยะเวลานาน ไม่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการเร่งรัดให้เริ่มใช้ระบบตั๋วร่วมเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้แก่ประชาชน และส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว จึงต้องมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่บริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และบำรุงรักษาระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ในระหว่างที่การจัดตั้ง CTC ยังไม่แล้วเสร็จ
“ที่ประชุมฯ จึงได้มอบให้ รฟม.ทำหน้าที่บริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วมในระยะเริ่มต้น โดยบริหารจัดการในช่วงทดลองระบบ และเจรจาทำความตกลงกับผู้ประกอบการระบบขนส่งมวลชน เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบจัดเก็บรายได้ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างระบบขนส่งมวลชนสาธารณะหลายระบบด้วยการใช้บัตรใบเดียว ภายใต้ระบบปฏิบัติการและการบริหารจัดการที่มีความน่าเชื่อถือและมีเสถียรภาพ คาดว่าจะสามารถเปิดใช้ระบบตั๋วร่วม ภายใต้ชื่อ “บัตรแมงมุม” สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้ามหานครได้ภายในเดือนมกราคม 2560” นายชาติชายกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตามแผนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนฯ ที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ในส่วนของภาครัฐจะถือหุ้นไม่เกิน 50% โดยจะมี 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงการคลัง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ ร.ฟ.ท. ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ สำหรับสัดส่วนที่เหลือจะเจรจากับเอกชนให้มาร่วมทุน คือ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9590000082681
เห็นเลื่อนโครงการหลายครั้งแล้วเรื่องตั๋วร่วม ไม่ทราบครั้งนี้จะสำเร็จไหม อะไรที่ประชาชนจะได้ประโยชน์ทำกันช้าจังเลย
เคาะตั๋วร่วม “บัตรแมงมุม” เริ่ม ม.ค. 60 เห็นในข่าวตั้งแต่ปีที่แล้วจะหมดเดือนมกราคม 60 แล้วยังไม่เสร็จอีกหรือ
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม
คมนาคมเร่งตั๋วร่วม “บัตรแมงมุม” ดีเดย์ ม.ค. 60 นำร่องใช้ได้กับรถไฟฟ้า “สีน้ำเงิน-ม่วง-เขียว-แอร์พอร์ตลิงก์” มอบ รฟม.เป็นแกนนำ ตั้งหน่วยธุรกิจชั่วคราวเพื่อขับเคลื่อนบริการก่อนระหว่างรอจัดตั้งบริษัทร่วมทุนฯ PPP ส่วนตั๋วร่วมทางด่วนกับมอเตอร์เวย์ “Easy Pass-M Pass” ต.ค. 59 เริ่มใช้ใบเดียววิ่งได้ทั้ง 2 โครงข่าย
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมว่า ในการให้บริการระบบตั๋วร่วม บัตรแมงมุม (MANGMOOM) นั้น ที่ประชุมมีมติเร่งรัดให้เริ่มดำเนินการให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค. 2560 สำหรับโครงข่ายรถไฟฟ้า 4 สาย คือ สายสีน้ำเงิน สายสีเขียว สายสีม่วง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นแกนในการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ขึ้นมาเป็นการชั่วคราว เพื่อขับเคลื่อนการให้บริการตั๋วร่วมดังกล่าวได้ในกำหนด โดย รฟม.จะต้องหาพันธมิตรมาร่วมในหน่วยธุรกิจ โดยมีธนาคารกรุงไทยเป็นผู้บริหารรายได้ (Clearing House) ในการบริหารจัดการ และจะต้องเจรจาร่วมกับผู้ประกอบการรถไฟฟ้าในเรื่องค่าใช้จ่ายและการลดค่าแรกเข้าเมื่อมีการใช้ตั๋วร่วม
ทั้งนี้ เนื่องจากการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมอยู่ระหว่างจัดตั้งหน่วยงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (Common Ticketing Company : CTC) ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน (Public Private Partnerships : PPP) โดยดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และมีความจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... เพื่อให้การดำเนินงานมีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม จึงต้องใช้ระยะเวลานาน ไม่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการเร่งรัดให้เริ่มใช้ระบบตั๋วร่วมเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้แก่ประชาชน และส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว จึงต้องมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่บริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และบำรุงรักษาระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ในระหว่างที่การจัดตั้ง CTC ยังไม่แล้วเสร็จ
“ที่ประชุมฯ จึงได้มอบให้ รฟม.ทำหน้าที่บริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วมในระยะเริ่มต้น โดยบริหารจัดการในช่วงทดลองระบบ และเจรจาทำความตกลงกับผู้ประกอบการระบบขนส่งมวลชน เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบจัดเก็บรายได้ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างระบบขนส่งมวลชนสาธารณะหลายระบบด้วยการใช้บัตรใบเดียว ภายใต้ระบบปฏิบัติการและการบริหารจัดการที่มีความน่าเชื่อถือและมีเสถียรภาพ คาดว่าจะสามารถเปิดใช้ระบบตั๋วร่วม ภายใต้ชื่อ “บัตรแมงมุม” สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้ามหานครได้ภายในเดือนมกราคม 2560” นายชาติชายกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตามแผนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนฯ ที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ในส่วนของภาครัฐจะถือหุ้นไม่เกิน 50% โดยจะมี 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงการคลัง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ ร.ฟ.ท. ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ สำหรับสัดส่วนที่เหลือจะเจรจากับเอกชนให้มาร่วมทุน คือ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9590000082681
เห็นเลื่อนโครงการหลายครั้งแล้วเรื่องตั๋วร่วม ไม่ทราบครั้งนี้จะสำเร็จไหม อะไรที่ประชาชนจะได้ประโยชน์ทำกันช้าจังเลย