ตัวอย่าง..
เห็นคนลายมือสวย อยากลายมือสวยบ้าง... ก็เพียรฝึก... พอสวยได้แล้ว... ก็ยินดีเพลิดเพลิน (ราคะทำงาน)
เขียนป้ายชื่อ... เขียนชื่ออย่างเดียวไม่พอ มันไม่เท่ห์ ไม่เก๋... ก็ปรุงแต่งด้วยการวาดระบายสีตกแต่ง ให้สมใจ (ลงที่ราคะ)
ผญ. มีจริตนิสัยต้องแต่งหน้าก่อนออกจากบ้าน... หรือเลือกหาเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่... ก็เป็นเรื่องของ กาม และลงด้วยราคะอีก
ผญ. จึงมีจริตไปทางราคะในอัตราส่วนที่มากกว่า ผช.
(ตอนนี้เริ่มงงละครับว่า... กามกับราคะ นี่มันตัวเดียวกันรึเปล่า)
การมีจริตปรุงแต่งให้เกิดความสวยงาม ความเก๋ไก๋ มันเป็นอาการของราคะนะครับ... คือ มีราคะจิตอยู่...
ความรู้สึกที่ต้องการให้มันสวย มันงาม และทำการปรุงแต่ง ช่วงที่กำลังปรุงแต่ง(ประดิษฐ์ประดอย) นี่คือ สภาวะที่ราคะจิตมันทำงานเด่นชัด...
ส่วนคำว่าตัณหา ผมมองเป็นเรื่องของความอยาก ต้องการ ตัณหามาก/หนา ก็ต้องการมาก มีความอยากมาก เหมือนเป็นแรงผลักดันให้อยากเสพกามนั้น ๆ
...อยากสวยอยากหล่อ อยากดูดีมีสไตล์ มีรสนิยม ทันสมัย... สิ่งเหล่านี้ก็คือเรื่องกาม... ชาวโลกนี้โดยมากก็หนีไม่พ้นเรื่องนี้กัน คือ กาม...
...ไปปฏิบัติธรรม ใส่ชุดขาว นั่งสมาธิ จิตมีความยินดี ก็หนีไม่พ้นกาม...
...ยิ่งมาโพสท์ตั้งกระทู้... ถ่ายรูปพรีเซ้นท์สวย ๆ ก็หนีไม่พ้นกาม
...ไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ ถ่ายรูป ตั้งกระทู้รีวิว ก็หนีไม่พ้นกาม...
คือ... เป็นกามวิสัยทั้งนั้นเลยครับ...
...อะไรที่ตรงข้ามกับกาม ก็เช่น ความสกปรกครับ ฮาๆๆๆ ความไม่ประดิษฐ์ประดอย ความเถื่อน ความไม่จงใจ ประมาณนั้น...
ผมมอง ๆ สิ่งที่เป็นไป... มองผู้คน... ก็พอจะมองออกเลยนะครับว่า... นี่ก็ยังไม่พ้นเรื่องกาม...
...ฉะนั้นเวลาจะทำอะไร... ก็พอจะมองตัวเองออกว่า รับใช้กามรึเปล่า...
...ผมว่ากามนี่แหละครับ... ที่มนุษย์ยังถูกผูกไว้อยู่โดยมาก...
แค่คุณตั้งกระทู้ คุณพิมพ์ คุณจัดหน้ากระดาษ ก็เป็นเรื่องกามหน่อย ๆ เข้ามาแล้วนะครับ
เอาล่ะ... ประมาณนี้... นี่ผมประดิษฐ์ถ้อยคำ ก็กามได้เหมือนกันนะครับ...
เล่าสู่กันฟัง... เผื่อจะมีคห. ที่เปิดทัศนคติผมได้กว้างขึ้นนะครับ ขอบคุณมาก...
ป.ล. กระทู้พันทิปห้องอื่น ๆ ว่าด้วย กามวิสัยวน ทั้งนั้นเลยครับ... (ปรุงราคะให้เพิ่มขึ้น ให้ฟูขึ้นไปอีก...)
(เมื่อราคะฟูมากขึ้น... พี่ตัณหาตัวบู๊ก็เริ่มเกิดละครับ)
ผมคิดว่า กาม เป็นเชื้อของราคะ นะครับ...
เห็นคนลายมือสวย อยากลายมือสวยบ้าง... ก็เพียรฝึก... พอสวยได้แล้ว... ก็ยินดีเพลิดเพลิน (ราคะทำงาน)
เขียนป้ายชื่อ... เขียนชื่ออย่างเดียวไม่พอ มันไม่เท่ห์ ไม่เก๋... ก็ปรุงแต่งด้วยการวาดระบายสีตกแต่ง ให้สมใจ (ลงที่ราคะ)
ผญ. มีจริตนิสัยต้องแต่งหน้าก่อนออกจากบ้าน... หรือเลือกหาเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่... ก็เป็นเรื่องของ กาม และลงด้วยราคะอีก
ผญ. จึงมีจริตไปทางราคะในอัตราส่วนที่มากกว่า ผช.
(ตอนนี้เริ่มงงละครับว่า... กามกับราคะ นี่มันตัวเดียวกันรึเปล่า)
การมีจริตปรุงแต่งให้เกิดความสวยงาม ความเก๋ไก๋ มันเป็นอาการของราคะนะครับ... คือ มีราคะจิตอยู่...
ความรู้สึกที่ต้องการให้มันสวย มันงาม และทำการปรุงแต่ง ช่วงที่กำลังปรุงแต่ง(ประดิษฐ์ประดอย) นี่คือ สภาวะที่ราคะจิตมันทำงานเด่นชัด...
ส่วนคำว่าตัณหา ผมมองเป็นเรื่องของความอยาก ต้องการ ตัณหามาก/หนา ก็ต้องการมาก มีความอยากมาก เหมือนเป็นแรงผลักดันให้อยากเสพกามนั้น ๆ
...อยากสวยอยากหล่อ อยากดูดีมีสไตล์ มีรสนิยม ทันสมัย... สิ่งเหล่านี้ก็คือเรื่องกาม... ชาวโลกนี้โดยมากก็หนีไม่พ้นเรื่องนี้กัน คือ กาม...
...ไปปฏิบัติธรรม ใส่ชุดขาว นั่งสมาธิ จิตมีความยินดี ก็หนีไม่พ้นกาม...
...ยิ่งมาโพสท์ตั้งกระทู้... ถ่ายรูปพรีเซ้นท์สวย ๆ ก็หนีไม่พ้นกาม
...ไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ ถ่ายรูป ตั้งกระทู้รีวิว ก็หนีไม่พ้นกาม...
คือ... เป็นกามวิสัยทั้งนั้นเลยครับ...
...อะไรที่ตรงข้ามกับกาม ก็เช่น ความสกปรกครับ ฮาๆๆๆ ความไม่ประดิษฐ์ประดอย ความเถื่อน ความไม่จงใจ ประมาณนั้น...
ผมมอง ๆ สิ่งที่เป็นไป... มองผู้คน... ก็พอจะมองออกเลยนะครับว่า... นี่ก็ยังไม่พ้นเรื่องกาม...
...ฉะนั้นเวลาจะทำอะไร... ก็พอจะมองตัวเองออกว่า รับใช้กามรึเปล่า...
...ผมว่ากามนี่แหละครับ... ที่มนุษย์ยังถูกผูกไว้อยู่โดยมาก...
แค่คุณตั้งกระทู้ คุณพิมพ์ คุณจัดหน้ากระดาษ ก็เป็นเรื่องกามหน่อย ๆ เข้ามาแล้วนะครับ
เอาล่ะ... ประมาณนี้... นี่ผมประดิษฐ์ถ้อยคำ ก็กามได้เหมือนกันนะครับ...
เล่าสู่กันฟัง... เผื่อจะมีคห. ที่เปิดทัศนคติผมได้กว้างขึ้นนะครับ ขอบคุณมาก...
ป.ล. กระทู้พันทิปห้องอื่น ๆ ว่าด้วย กามวิสัยวน ทั้งนั้นเลยครับ... (ปรุงราคะให้เพิ่มขึ้น ให้ฟูขึ้นไปอีก...)
(เมื่อราคะฟูมากขึ้น... พี่ตัณหาตัวบู๊ก็เริ่มเกิดละครับ)