วิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ของไทยมาจากปัญหาหนี้แน่นอน

จากสถานะการณ์เศรษฐกิจไทยปัจจุบัน พบว่าคนไทยเป็นหนี้เยอะมาก ทั้งรายย่อยที่ซื้อบ้าน หนี้บัตรเครดิต เพราะคิดว่ายังไงๆ ก็หาเงินได้ง่าย (ที่ผ่านมาเศรษฐกิจดี ใครขายอะไรก็ได้เงินง่าย) คนเลยใช้จ่ายมาก เงินหมุนเวียนในระบบ บวกกับการกระตุ้นการบริโภค เกินจริง

ดังนั้นการบริโภคปัจจุบัน ย่อมต้องหายไปตามหลัก conservative law ทำให้มากระทบต่อที่ SME รายได้ลดลง หนี้เสียแบงค์มากขึ้น และจะมากขึ้นไปอีกเมื่อมีการปิดกิจการมากขึ้น และส่งต่อให้พนักงานที่ถูกลอยแพ ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้บ้าน รถและอื่นๆ ได้ ก็เกิดหนี้เสียตามมาอีก

ปัจจุบัน ทางแก้ควรมีการควบคุม มากกว่าการกระตุ้นการบริโภคที่ก่อให้เกิดหนี้ การกระตุ้นให้เกิดการบริโภคที่ไม่ก่อให้เกิดหนี้ ผมว่าช่วยได้บ้างเท่านั้น คือไม่ให้ระบบมัน น็อค ทีเดียวแค่นั้นเอง นอกจากนี้ตลาดหุ้นมูลค่าจะหายไป คนที่ลงทุนจะสูญเงิน ทำให้คนที่มีหนี้ไม่สามารถ ปลดหนี้ได้อีกด้วย

และประเด็นที่สำคัญคือ หนี้อสังหา ผมคิดว่า การที่บริษัท ต่างชาติเข้ามาลงทุนทั้งที่ตลาดไม่ได้เอื้อแล้ว ในช่วงจากนี้ไปนั้น นับว่าอันตราย
เพราะอะไร เพราะจะเกิดวิกฤตในบ้านเราได้ในลักษณะแบบเดียวกับอเมริกาก่อนหน้านี้ ซึ่งเขาไม่ได้เสียผลประโยชน์ แต่อาจจะได้ประโยชน์ เพราะค่าเงินเราจะอ่อนหลังวิกฤต จากนั้นก็ค่อยเข้ามากว้านซื้อ รวมทั้งเทคโอเวอร์บริษัทคนไทยเองด้วย ดังนั้น ผมเองมองว่าคนไทยเองจึงควรมองภาพรวมการลงทุนให้ดี อย่าตามน้ำบริษัทข้ามชาติ เพราะลำพังคนไทยเอง ไม่มีใครกล้าลงทุนเพิ่มแล้ว มีแต่จะลด ควรเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นหลัก เราเคยล้มเคยเจ็บกันมาแล้ว ต้องระวังให้ดี

ผมว่าทางแก้คือ ยอมรับความจริง และค่อยๆปรับตัว อย่ากระตุ้นภาคอสังอีกเกินความจำเป็นเพราะเป็นหนี้ระยะยาวทั้งนั้น ควรกระตุ้นอะไรก็ได้ที่ไม่สร้างหนี้ให้กับผู้บริโภค ทำให้ระบบค่อยๆ soft landing และรอวันกลับมาบูมใหม่ได้

โชคดีที่เงินทุนสำรองไทยเราเยอะ แต่ระวังเพราะรัฐเองมีแผนใช้จ่ายเยอะมาก ระวังมีโครงการที่ทำแล้วสร้างไม่เสร็จนะครับ ควรทำทีละสองสามโครงการที่คิดว่ามีงบภาษีที่เก็บได้แน่ๆ เพราะภาษีที่เก็บได้จะหายไปมากในแต่ละปีจากนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่