ฺbeanblahblah พาเที่ยว: บาร์ช็อกโกแลตเชฟ Pierre Marcolini สาขาเซี่ยงไฮ้

สวัสดีอีกครั้งค่ะ ครั้งนี้เพื่อร่วมฉลองไปกับวันโกโก้แห่งชาติ USA’s National Cocoa Day ในวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมาเราจะพาเพื่อนๆบินลัดฟ้าไปสัมผัสประสบการณ์โกโก้ร้อนของเชฟ Pierre Marcolini ที่เพิ่งมาเปิดสาขาที่เซี่ยงไฮ้ได้ไม่นานมานี้ค่ะ

(ภาพประกอบจาก Pierre Marcolini Official Wechat )

สำหรับคุณเชฟ Pierre Marcolini แห่ง Brussels เคยได้รางวัล World Champion of Pastry ในปี 1995 นอกจากนี้ปัจจุบันยังเป็นหนึ่งใน 4 กรรมการของรายการแข่งขันทำขนมที่ฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า  “Qui Sera Le Prochain Grand Pâtissier” (Who Will be the Next Big Pastry Chef”) ร้านช็อกโกแลตมีสาขาหลายในประเทศทั่วโลก เช่น Belgium, France, Japan, Hawaii,  Luxembourg, London, Monaco, Shanghai

(ภาพประกอบจาก Pierre Marcolini Official Wechat )

เริ่มจากบรรยากาศของร้านนะคะ ตัวร้านตั้งอยู่ในห้าง K11 สาขาเซี่ยงไฮ้ ร้านช็อกโกแลตก็จะแบ่งเป็นสองส่วนคือร้านขายช็อกโกแลตและช็อกโกแลตบาร์สำหรับทานขนมและเครื่องดื่ม

เนื่องจากเป็นวันเสาร์ ลูกค้าเลยค่อยข้างเยอะค่ะ ต้องรอสักพักถึงจะได้ที่นั่ง ระหว่างรอก็สามารถเดินดูช็อกโกแลตชนิดต่างๆที่จัดวางไว้อย่างสวยงาม มีหลายแบบตั้งแต่ chocolate bonbons, truffes chocolate champagne, macarons, praliné หลากหลายรสแถมยังมีแบบ single origin chocolate จากหลายประเทศให้เลือกด้วย เค้ายังชื่อเก๋ให้ว่า Palets Fins

ร้านมีการตกแต่งแบบเรียบหรูสไตล์ยุโรปที่ไม่ฟูฟ่า ไม่ฟรุ้งฟริ้ง แต่เน้นโฟกัสไปที่สินค้า ในส่วนของช็อกโกแลตบาร์จะต่อออกมาจากครัวเปิด และมีส่วนครัวปิดที่ติดกระจกโดยรอบ ให้เห็นทุกขั้นตอนการสร้างสรรค์ เป็นวิธีแสดงความจริงใจและเรียกลูกค้าได้ดี สังเกตตรงเครื่องครัวที่ใช้ทำช็อกโกแลตมีติดป้ายว่า cocoa town น่ารักมาก  
เดินวนรอบร้านไปหลายรอบแล้วถึงจะได้ที่นั่ง เคาเตอร์บาร์สวยเรียบ ใช้วัสดุหินอ่อนสีขาวขอบด้วยไม้สีอ่อนเพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกเย็นแขน ด้านล่างใช้วัสดุสีส้มๆทองๆของทองแดงคอปเปอร์ นั่งสักพักก็มีผู้ช่วยเชฟมาแนะนำเมนู หลักๆคือเป็นเครื่องดื่มโกโก้แบบต่างๆ พร้อมภาพสวยงามประกอบ และมีเมนู localized พิเศษสำหรับเซี่ยงไฮ้ เป็นเครื่องดื่มโกโก้ผสมพริกสไตล์เสฉวน

ในที่สุดพวกเราตัดสินใจสั่งชุดโกโก้ราสเบอรรี่ ราคา 98 หยวนซึ่งรวมขนม chocolate financier หรือ macaroon 1 ชิ้น อีกแก้วเป็นโกโก้เย็นแก้วเดี่ยว ราคา 54 หยวน

นอกจากการตบแต่งและบรรยากาศแล้ว อีกสิ่งที่อยากนำเล่าคือความปราณีตในการเสริฟที่ละเอียดละออมาก เชฟจะวางองค์ประกอบทีละอย่างด้วยความละมุน เริ่มจาก จานรอง ผ้าเช็ดปาก ช็อกโกแลตแผ่นบาง ขนม chocolate financier แก้วทรงสูง ดอกไม้ ราสเบอรี่ 1 ลูก (ย้ำว่า1ลูกเท่านั้น) กระดาษทิชชู ช้อน

แล้วก็มาถึงช่วงเวลาการเสริฟโกโก้ร้อน ในตอนแรกคิดในใจว่าจะเอามาชงกันให้เห็นต่อหน้า ปรากฎว่ามีการผสมใส่ขวดสำเร็จก่อนไว้แล้ว (ก๊อปสูตรไม่ได้นะจ๊ะงานนี้) เชฟนำโกโก้ไปอุ่นด้วยเครื่องทำฟองนม แล้วเทเสริฟด้วยท่าที่คล้ายการทำชาชัก ผลที่ได้คือฟองนมนุ่มๆฟูด้านบน

จิบแรก หอมและนุ่มนวลมากเป็นการผสานกันของช็อกโกแลตกับนมที่ลงตัวไม่หวานมาก กำลังดี พอเริ่มลองกินกับแผ่นช็อกโกแลตแผ่นบางๆแล้วมันละลายกลมกล่อม ส่วนราสเบอรรี่ที่ให้มาแค่1ลูกเท่านั้นใช้กินแกล้มก็เพิ่มรสเปรี้ยวที่น่าสนใจ ยังเหลือดอกไม้ที่มาเป็นแค่พร็อพใช้ถ่ายรูปค่ะ

ในขณะที่โกโก้เย็นจะมาในแก้วทรงสูง แต่เนื่องจากไม่ได้สั่งเป็นชุดจึงไม่มีพร็อพจัดเต็มเท่าแบบแรก ทางเชพก็เอาโกโก้ที่เชฟผสมกับน้ำแข็งแล้วเอาไปปั่นในเครื่องBlendtecให้เข้ากันพร้อมเสริฟ ซึ่งอีกแล้วค่ะ ท่าทางการเสริฟต้องมาพร้อมกับความรู้สึกพิธีพิถันขั้นสุด

จิบแรกๆประทับใจมากแต่อาจจะเป็นเพราะคาดหวังว่าจะเจอความซับซ้อนของรสชาติมากกว่านี้ ที่โดนใจสุดๆก็พิธีรีตองที่ละเอียดละออ และความสะอาด เพราะภาชนะทุกอย่างใช้เสร็จต้องล้างทันที พอจะนำมาใช้ต้องเช็ดใหม่ทุกครั้ง เชฟทุกคนใส่ถุงมือสีดำ เข้ากันกับชุดยูนิฟอร์มเชฟมากค่ะ

ก่อนกลับห้ามใจตัวเองไม่ให้ซื้อช็อกโกแลตแท่งติดมือกลับไปไม่ได้ รอชมรีวิว ช็อกโกแลตของ  Pierre Marcolini คราวหน้าจาก beanblahblah นะคะ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่