พี่ๆๆ คือหนูได้วิเคราะห์ SWOT เกี่ยวกับ บริษัทโอสถสภา อ่ะค่ะ พี่ๆๆที่เรียนการตลาดมา พี่ช่วยดูให้หน่อย ว่าผิดตรงไหนบ้าง ผ่านไหม ตรงไหนควรเติมอะไร แนะนำทีค่ะ
บริษัท โอสถสภา จำกัด
บริษัทโอสถสภา จำกัด เป็นบริษัทผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2434 ในนาม "ร้านขายยาเต๊กเฮงหยู" ซึ่งนายแป๊ะ โอสถานุเคราะห์ เป็นผู้ก่อตั้ง เริ่มจากกิจการขายของเบ็ดเตล็ด ต่อมาได้เริ่มผลิตยากฤษณากลั่น ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษา โรค ปวดท้อง ท้องร่วง ต่อมาได้นำยากฤษณากลั่นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า-เจ้าอยู่หัว เพื่อใช้ในการซ้อมรบของกิจการเสือป่าที่จังหวัดนครปฐม จากนั้นในปี พ.ศ. 2475 ได้ย้ายร้านขายยาจากย่านสำเพ็ง มาที่ถนนเจริญกรุง และได้เปลี่ยนชื่อว่า "โอสถสถานเต๊กเฮงหยู" และยังได้ผลิตยาสามัญประจำบ้านอื่นๆ เช่น ยาหอมชนะลม, ยาสบาย, ผลไม้กวน,ยาธาตุ, ยาแก้ไอ, ยาอมวัน-วัน, ยาอมโบตัน, ยาทัมใจ เป็นต้น ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานครุฑตราตั้งแก่บริษัท เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2502
ต่อมาสำนักงานตั้งอยู่ที่ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ พ.ศ 2538 ได้เปลี่ยนชื่อบรืษัท อีกครั้งเป็น “ บริษัทโอสถสภา จำกัด ปัจจุบัน บริษัท โอสถสภา จำกัด มีอายุครบ กว่า 120ปี ที่ใกล้ชิดผูกพันกับคนไทยและสังคมไทยมายาวนาน ยึดมั่นในปรัชญาของการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำให้ บริษัทโอสถสภา เป็นองค์กรธุรกิจภาคเอกชนที่มีความมั่นคงทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันการสร้างกระแส CSR เป็น กลยุทธ์ทั้งทางด้านธุรกิจ และการตลาดที่บริษัทชั้นนำของไทย ให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านหนึ่งเพื่อตอบแทนกลับคืนสังคม อีกด้านหนึ่งก็เพื่อสร้างแบรนด์ให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
บริษัทโอสถสภา จำกัด มีการผลิตสิ่งค้าที่มีหลากหลายรูปแบบผลิตภัณฑ์ก็มีตั้งแต่เด็กถึงผู้สูงอายุ มีผลิตภัณฑ์รวมกว่า 32 แบรนด์ นับ100 รายการทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและกลุ่มผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล
เป้าหมายธุรกิจ
มีการดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจร นับแต่การทำวิจัย ถึงความต้องการของผู้บริโภค สู่การคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ สู่กระบวนการผลิต การทำตลาด การกระจาย สินค้า และการจัดกิจกรรมส่งเสริม การตลาดแลการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความมั่นใจว่า สินค้าของโอสถสภา เข้าเนส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต และไลฟ์ไตล์ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง
ปัจจุบัน บรษัทโอสถสภา จำกัด แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มบริษัทผู้ผลิต
1. บริษัท โอสถสภา จัดกัด
2. บริษัท สยามกลาส อินดัสทรี จำกัด
3. บริษัท ครีนสวิลล์ จำกัด
4. บริษัท สำนักพิมพ์สวัสดี จำกัด
กลุ่มบริษัทประกัน
1. บริษัท โอสถสภา ประกันภัย จำกัด
กลุ่มผู้แทน จำหน่าย
1. บริษัท M-150 จำกัด
2. บริษัท ยูเนี่ยนดริ๊งค์ จำกัด
3. บริษัท โอสถสภา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
4. บริษัท โอสถสภา ไทโช จำกัด
5. บริษัท โอสถสภา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กลุ่ม บันเทิง
1. บริษัท ฟิวเจอร์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
2. บริษัท ฟอร์ไซท์ รีเสิร์ช จำกัด
3. บริษัท ฟิวเจอร์ พับบลิชชิ่ง จำกัด
4. บริษัท สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด
5. บริษัท ฟิวเจอร์ เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
6. บริษัท เออร์ซ่า เมเจอร์ จำกัด
กลุ่ม ต่างประเทศ
1. SHARK AG-CYPRUS (AGAPIOS KAKOYIANNIS&CO.)
2. MYANMAR OSOTSPA CO.,LTD. – MYANMAR
3. .SHARK AG (INNSBRUCK)-AUSTRIA
4. SHARK AG (LONDON)-ENGLAND UK
5. OSOTSPA HOLDING CO.,LTD. (SHANGHAI)-CHINA
6. OSOTSPA VIETNAM REPRESENTATIVE OFFICE – VIETNAM
7. HARK AG (VIENNA)-AUSTRIA
8. SHARK AG (HARLOW)-ENGLAND UK
five force model
1. อุปสรรคจากคู่แข่ง
การเริ่มต้นทุนธุรกิจในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มูกำลังจึงค่อนข้างทำได้ยาก เพราะต้องการเงินทุนจำนวนมาก ทั้งเครื่องจักรในการผลิต และแรงงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ การสร้างแบรนด์เพื่อการแข่งขันให้เป็นที่รู้จก
2. อำนาจต่อรองของผู้ขาย
มีอำนาจต่อรองไม่มาก เพราะวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมนี้ เช่น ชวดแก้ว และ บรรจุภัณฑ์ อื่นๆ บริษัทโสถสภา จำกัด นั้นมี บริษัท สยามกลาส อินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ในเครือผลิต บรรจุภัณฑ์ ให้ส่วนของวัตถุดิบอื่นๆ ล้วนแต่มีผู้ผลิต หลากหลาย และหาได้ไม่ยาก
3. อำนาจต่อรองลูกค้า
กลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ได้แก่ เกษตรกร ผู้ใช้แรงงานที่มีระดับรายได้ไม่สูงมาก ที่ต้องทำงาน หาเลี้ยงด้วยแรงงาน ซึ่งมีผู้ใชัปัจจัยด้าน ราคามาเป็นสิ่งที่สำคัญ ในการตัดสินใจ จึงมีผู้ที่ภักดีต่อแบรนด์ แค่ร้อยละ 30 เท่านั้น ทำให้ผู้ซื้อมีอำนาจต่อรองทางอ้อมที่สูงมากพอสมควร แต่ด้วยจำนวนผู้ซื้อมีมาก และธุรกิจนี้เน้นราคาสินค้า ที่ต่ำมากกว่าการเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์
4. อุปสรรคจากการผลิตภัณฑ์หรือการทดแทน
แรกเริ่มเมื่อมีสินค้าประเภทน้ได้เข้าสู่ตลาด ยังไม่มีสินค้าที่ใกล้เคียงมากเท่าไร แต่ใน ปัจจุบันมีสินค้าที่จัดว่าสามรถ ทดแทนกันได้ ในระดับหนึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้น เรื่อยๆ
5. การแข่งขันโดยธรรมชาติ ระหว่างธุรกิจระหว่างคู่แข่งในปัจจุบัน
ปัจจุบัน ผู้ผลิตเครื่องชูกำลังในระเทศที่สำคัญมี 5 ราย เช่น เอ็ม 150 คาราบาวแดง กระทิงแดง แรงเยอร์ หมีคอมมานโด จะเห็นได้ว่า เป็นอุตสาหกรรมที่มีการกระจุกตัวของคู่แข่งขันมาก และมีอัตราการแข่งขันสูง จากคู่แข่งรายใหญ่ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมาก
การวิเคราะห์ SWOT
จุดแข็ง
• บรัษทมีชื่อเสียงมากมายและมีภาพพจน์ที่ดี
• M 150 ครอบคลุมพื้นที่อย่าง ทั่วประเทศ
• มีการวางแผนการตลาดที่ดี เช่นมีการโฆษณา ทำโปรดมชั่นในช่วงต่างๆ
• มีฐานการผลิตที่กว้างขวางครอบคลุมทั่วโลก
• ผู้บริโภคมีความจงรักภกดีต่อแบรนด์ของบริษัทเรา
• รสชาติที่ถูกปากผู้บริโภค
• มีเครือข่ายธุรกิจที่จะนำมาเสริมและเอื้อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการผลิต
• แข็งแกร่งในด้านการส่งเสริมด้านสังคม ( csr)
• รสชาติของเรื่องดื่มชนะคู่แข่ง
• สมมารถบริหารต้นทุนการผลิตได้มากกว่าคู่แข่ง
• มีฐานกำลังการผลิตที่เหนือกว่าคู่แข่ง
• มีการพัฒนาศักยภาพทางด้านช่องทางจำหน่าย
• การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า อย่างต่อเนื่อง
• เป็นผู้นำตลาดเรื่องเครื่องดื่มชูกำลัง
• สามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้ถูกกว่าคู่แข่ง
• มีการผลิตที่ทันสมัยมาใช้เพื่อควบคุมและกำหนดคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน และ ความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค
• มีส่วนครองตลาดมาก
• สินค้า เป็นที่รู้จักทั่วโลก
• เป็นบริษัทที่อยู่ในใจผู้บริโภค
• สามารถเปิดตลาดไปยังต่างประทศ
จุดอ่อน
• ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงช้า ความคิดริเริ่มยังมีน้อย
• ใช้งบด้านโฆษณามากกว่าคู่แข่ง
• ไม่ทราบมูลค่าที่เกิดขึ้นของบริษัทจากการทำกิจกรรม CSR
• ไม่ได้กำหนดสัดส่วนการจัดจหน่ายที่เหมาะสมระหว่าง ร้านค้า
• มีความต้องการคนใหม่ๆมากขึ้น เพื่อการเติบโตในต่างประเทศ
• M 150 เป็นเครื่องดื่มชูกำลงที่ใช้งบโฆษณาทางการตลาดจำนวนมาก
โอกาส
• เป็นยี่ห้อที่เป็นที่รู้จัก มายาวนาน
• ภาพลักษณ์ติดตา ผู้บริโภคจำได้
• ได้รับการสนับสนุนตลอดมา
• โอสถสภา เป็นที่รู้จักมายาวนานถึง 120 ปี
• การส่งเสริมกิจกรรมในด้านสังคม เช่นการกีฬา และ การศึกษา
• การสื่อสารไร้พรมแดน ทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย
• เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องช่วยในด้านการผลิตและการโฆษณาได้เป็นอย่างดี
•
อุปสรรค
• การสื่อสารไร้พรมแดน ทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย
• เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องช่วยในด้านการผลิตและการโฆษณาได้เป็นอย่างดี
• การฝ่าขวากหนามเรื่องความคิดริเริ่ม ถือเป็นจุดที่บริษัทยังต้องพัฒนา
• มีผู้ประกอบการรายใหม่เริ่มสนใจที่จะเข้ามาประกอบธุรกิจประเภทนี้
• พนักงานระดับแม่ทัพยังขาดความพร้อมเรื่องภาษาต่าง ประเทศ
• ภาครัฐได้เข้ามาควบคุมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยวิธีชิงโชคใต้ฝา
• การชะลอตัวของเศรษฐกิจมวลรวม ส่งผลกระทบกับธุรกิจ ทุกประเภท
พี่ๆๆ คือหนูได้วิเคราะห์ SWOT เกี่ยวกับ บริษัทโอสถสภา อ่ะค่ะ พี่ๆช่วยดูให้หน่อย
บริษัท โอสถสภา จำกัด
บริษัทโอสถสภา จำกัด เป็นบริษัทผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2434 ในนาม "ร้านขายยาเต๊กเฮงหยู" ซึ่งนายแป๊ะ โอสถานุเคราะห์ เป็นผู้ก่อตั้ง เริ่มจากกิจการขายของเบ็ดเตล็ด ต่อมาได้เริ่มผลิตยากฤษณากลั่น ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษา โรค ปวดท้อง ท้องร่วง ต่อมาได้นำยากฤษณากลั่นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า-เจ้าอยู่หัว เพื่อใช้ในการซ้อมรบของกิจการเสือป่าที่จังหวัดนครปฐม จากนั้นในปี พ.ศ. 2475 ได้ย้ายร้านขายยาจากย่านสำเพ็ง มาที่ถนนเจริญกรุง และได้เปลี่ยนชื่อว่า "โอสถสถานเต๊กเฮงหยู" และยังได้ผลิตยาสามัญประจำบ้านอื่นๆ เช่น ยาหอมชนะลม, ยาสบาย, ผลไม้กวน,ยาธาตุ, ยาแก้ไอ, ยาอมวัน-วัน, ยาอมโบตัน, ยาทัมใจ เป็นต้น ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานครุฑตราตั้งแก่บริษัท เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2502
ต่อมาสำนักงานตั้งอยู่ที่ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ พ.ศ 2538 ได้เปลี่ยนชื่อบรืษัท อีกครั้งเป็น “ บริษัทโอสถสภา จำกัด ปัจจุบัน บริษัท โอสถสภา จำกัด มีอายุครบ กว่า 120ปี ที่ใกล้ชิดผูกพันกับคนไทยและสังคมไทยมายาวนาน ยึดมั่นในปรัชญาของการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำให้ บริษัทโอสถสภา เป็นองค์กรธุรกิจภาคเอกชนที่มีความมั่นคงทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันการสร้างกระแส CSR เป็น กลยุทธ์ทั้งทางด้านธุรกิจ และการตลาดที่บริษัทชั้นนำของไทย ให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านหนึ่งเพื่อตอบแทนกลับคืนสังคม อีกด้านหนึ่งก็เพื่อสร้างแบรนด์ให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
บริษัทโอสถสภา จำกัด มีการผลิตสิ่งค้าที่มีหลากหลายรูปแบบผลิตภัณฑ์ก็มีตั้งแต่เด็กถึงผู้สูงอายุ มีผลิตภัณฑ์รวมกว่า 32 แบรนด์ นับ100 รายการทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและกลุ่มผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล
เป้าหมายธุรกิจ
มีการดำเนินธุรกิจอย่างครบวงจร นับแต่การทำวิจัย ถึงความต้องการของผู้บริโภค สู่การคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ สู่กระบวนการผลิต การทำตลาด การกระจาย สินค้า และการจัดกิจกรรมส่งเสริม การตลาดแลการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความมั่นใจว่า สินค้าของโอสถสภา เข้าเนส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต และไลฟ์ไตล์ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง
ปัจจุบัน บรษัทโอสถสภา จำกัด แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มบริษัทผู้ผลิต
1. บริษัท โอสถสภา จัดกัด
2. บริษัท สยามกลาส อินดัสทรี จำกัด
3. บริษัท ครีนสวิลล์ จำกัด
4. บริษัท สำนักพิมพ์สวัสดี จำกัด
กลุ่มบริษัทประกัน
1. บริษัท โอสถสภา ประกันภัย จำกัด
กลุ่มผู้แทน จำหน่าย
1. บริษัท M-150 จำกัด
2. บริษัท ยูเนี่ยนดริ๊งค์ จำกัด
3. บริษัท โอสถสภา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
4. บริษัท โอสถสภา ไทโช จำกัด
5. บริษัท โอสถสภา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กลุ่ม บันเทิง
1. บริษัท ฟิวเจอร์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
2. บริษัท ฟอร์ไซท์ รีเสิร์ช จำกัด
3. บริษัท ฟิวเจอร์ พับบลิชชิ่ง จำกัด
4. บริษัท สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด
5. บริษัท ฟิวเจอร์ เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
6. บริษัท เออร์ซ่า เมเจอร์ จำกัด
กลุ่ม ต่างประเทศ
1. SHARK AG-CYPRUS (AGAPIOS KAKOYIANNIS&CO.)
2. MYANMAR OSOTSPA CO.,LTD. – MYANMAR
3. .SHARK AG (INNSBRUCK)-AUSTRIA
4. SHARK AG (LONDON)-ENGLAND UK
5. OSOTSPA HOLDING CO.,LTD. (SHANGHAI)-CHINA
6. OSOTSPA VIETNAM REPRESENTATIVE OFFICE – VIETNAM
7. HARK AG (VIENNA)-AUSTRIA
8. SHARK AG (HARLOW)-ENGLAND UK
five force model
1. อุปสรรคจากคู่แข่ง
การเริ่มต้นทุนธุรกิจในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มูกำลังจึงค่อนข้างทำได้ยาก เพราะต้องการเงินทุนจำนวนมาก ทั้งเครื่องจักรในการผลิต และแรงงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ การสร้างแบรนด์เพื่อการแข่งขันให้เป็นที่รู้จก
2. อำนาจต่อรองของผู้ขาย
มีอำนาจต่อรองไม่มาก เพราะวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมนี้ เช่น ชวดแก้ว และ บรรจุภัณฑ์ อื่นๆ บริษัทโสถสภา จำกัด นั้นมี บริษัท สยามกลาส อินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ในเครือผลิต บรรจุภัณฑ์ ให้ส่วนของวัตถุดิบอื่นๆ ล้วนแต่มีผู้ผลิต หลากหลาย และหาได้ไม่ยาก
3. อำนาจต่อรองลูกค้า
กลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ได้แก่ เกษตรกร ผู้ใช้แรงงานที่มีระดับรายได้ไม่สูงมาก ที่ต้องทำงาน หาเลี้ยงด้วยแรงงาน ซึ่งมีผู้ใชัปัจจัยด้าน ราคามาเป็นสิ่งที่สำคัญ ในการตัดสินใจ จึงมีผู้ที่ภักดีต่อแบรนด์ แค่ร้อยละ 30 เท่านั้น ทำให้ผู้ซื้อมีอำนาจต่อรองทางอ้อมที่สูงมากพอสมควร แต่ด้วยจำนวนผู้ซื้อมีมาก และธุรกิจนี้เน้นราคาสินค้า ที่ต่ำมากกว่าการเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์
4. อุปสรรคจากการผลิตภัณฑ์หรือการทดแทน
แรกเริ่มเมื่อมีสินค้าประเภทน้ได้เข้าสู่ตลาด ยังไม่มีสินค้าที่ใกล้เคียงมากเท่าไร แต่ใน ปัจจุบันมีสินค้าที่จัดว่าสามรถ ทดแทนกันได้ ในระดับหนึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้น เรื่อยๆ
5. การแข่งขันโดยธรรมชาติ ระหว่างธุรกิจระหว่างคู่แข่งในปัจจุบัน
ปัจจุบัน ผู้ผลิตเครื่องชูกำลังในระเทศที่สำคัญมี 5 ราย เช่น เอ็ม 150 คาราบาวแดง กระทิงแดง แรงเยอร์ หมีคอมมานโด จะเห็นได้ว่า เป็นอุตสาหกรรมที่มีการกระจุกตัวของคู่แข่งขันมาก และมีอัตราการแข่งขันสูง จากคู่แข่งรายใหญ่ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมาก
การวิเคราะห์ SWOT
จุดแข็ง
• บรัษทมีชื่อเสียงมากมายและมีภาพพจน์ที่ดี
• M 150 ครอบคลุมพื้นที่อย่าง ทั่วประเทศ
• มีการวางแผนการตลาดที่ดี เช่นมีการโฆษณา ทำโปรดมชั่นในช่วงต่างๆ
• มีฐานการผลิตที่กว้างขวางครอบคลุมทั่วโลก
• ผู้บริโภคมีความจงรักภกดีต่อแบรนด์ของบริษัทเรา
• รสชาติที่ถูกปากผู้บริโภค
• มีเครือข่ายธุรกิจที่จะนำมาเสริมและเอื้อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการผลิต
• แข็งแกร่งในด้านการส่งเสริมด้านสังคม ( csr)
• รสชาติของเรื่องดื่มชนะคู่แข่ง
• สมมารถบริหารต้นทุนการผลิตได้มากกว่าคู่แข่ง
• มีฐานกำลังการผลิตที่เหนือกว่าคู่แข่ง
• มีการพัฒนาศักยภาพทางด้านช่องทางจำหน่าย
• การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า อย่างต่อเนื่อง
• เป็นผู้นำตลาดเรื่องเครื่องดื่มชูกำลัง
• สามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้ถูกกว่าคู่แข่ง
• มีการผลิตที่ทันสมัยมาใช้เพื่อควบคุมและกำหนดคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน และ ความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค
• มีส่วนครองตลาดมาก
• สินค้า เป็นที่รู้จักทั่วโลก
• เป็นบริษัทที่อยู่ในใจผู้บริโภค
• สามารถเปิดตลาดไปยังต่างประทศ
จุดอ่อน
• ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงช้า ความคิดริเริ่มยังมีน้อย
• ใช้งบด้านโฆษณามากกว่าคู่แข่ง
• ไม่ทราบมูลค่าที่เกิดขึ้นของบริษัทจากการทำกิจกรรม CSR
• ไม่ได้กำหนดสัดส่วนการจัดจหน่ายที่เหมาะสมระหว่าง ร้านค้า
• มีความต้องการคนใหม่ๆมากขึ้น เพื่อการเติบโตในต่างประเทศ
• M 150 เป็นเครื่องดื่มชูกำลงที่ใช้งบโฆษณาทางการตลาดจำนวนมาก
โอกาส
• เป็นยี่ห้อที่เป็นที่รู้จัก มายาวนาน
• ภาพลักษณ์ติดตา ผู้บริโภคจำได้
• ได้รับการสนับสนุนตลอดมา
• โอสถสภา เป็นที่รู้จักมายาวนานถึง 120 ปี
• การส่งเสริมกิจกรรมในด้านสังคม เช่นการกีฬา และ การศึกษา
• การสื่อสารไร้พรมแดน ทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย
• เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องช่วยในด้านการผลิตและการโฆษณาได้เป็นอย่างดี
•
อุปสรรค
• การสื่อสารไร้พรมแดน ทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย
• เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องช่วยในด้านการผลิตและการโฆษณาได้เป็นอย่างดี
• การฝ่าขวากหนามเรื่องความคิดริเริ่ม ถือเป็นจุดที่บริษัทยังต้องพัฒนา
• มีผู้ประกอบการรายใหม่เริ่มสนใจที่จะเข้ามาประกอบธุรกิจประเภทนี้
• พนักงานระดับแม่ทัพยังขาดความพร้อมเรื่องภาษาต่าง ประเทศ
• ภาครัฐได้เข้ามาควบคุมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยวิธีชิงโชคใต้ฝา
• การชะลอตัวของเศรษฐกิจมวลรวม ส่งผลกระทบกับธุรกิจ ทุกประเภท