ภาพจาก
https://pixabay.com/th/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0-748680/
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/35715756
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/35717992
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/35726142
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 4
http://ppantip.com/topic/35736149
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 5
http://ppantip.com/topic/35744346
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 6
http://ppantip.com/topic/35813047
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 7
http://ppantip.com/topic/35817131
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 8
http://ppantip.com/topic/35823771
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 9
http://ppantip.com/topic/35839184
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 10
http://ppantip.com/topic/35866083
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 11
http://ppantip.com/topic/35872202
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 12
เป็นวันแรกที่หวานพาพิภพมาให้พงษ์รู้จัก เมื่อพิภพเห็นพงษ์แล้ว เขาก็รู้สึกแปลกๆ
ดูจากภายนอก พงษ์ดูเป็นผู้ชายที่ดูแข็งแรงมาก เขาดูคล้ายทหาร
ถ้าเขาไม่ได้นั่งบนรถเข็น คงเดาได้ยากว่าเขาเป็นอัมพาตท่อนล่าง
“นี่พิภพค่ะ คนที่หวานเคยเล่าให้คุณฟัง”
หลังจากที่หวานแนะนำพิภพให้พงษ์ได้รู้จักแล้ว พิภพรู้สึกกลัวๆอะไรบางอย่าง
เขากลัวที่พงษ์จะรู้ว่าเขามีใจให้หวาน ถ้าเลือกได้ วันนี้เขาจะไม่มาที่นี่เลย
แต่ที่เขามาที่นี่ก็เพราะหวานขอร้อง
“สวัสดีครับ”
พงษ์พูดกับพิภพก่อน
“สวัสดีครับ”
พิภพสวัสดีตอบ หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกัน
ก่อนหวานจะไป พิภพเดินมาส่งหวานที่ด้านนอกตัวบ้าน
หวานหันหน้ามาหาเขา “หวานฝากพงษ์ด้วยนะคะ”
“หวาน ผมไม่อยากให้คุณไปเลย ผมอยากอยู่ใกล้คุณทุกวันเลยนะ”
หวานมองหน้าพิภพ
“คุณต้องไม่พูดแบบนี้นะ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม”
พงษ์แอบมองทั้งคู่คุยกัน ถึงแม้อยู่ตรงนั้น เขาจะไม่ได้ยินเสียงของทั้งคู่
แต่เขาก็พอเดาออกว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน
หวานยังบอกกับพิภพเหมือนเดิม
“หวานฝากพงษ์ด้วยนะคะ หวานเป็นห่วงเขาจริงๆ”
“แล้วผมล่ะ”
พิภพพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หวานรีบเดินออกจากบ้านไป
**************************************
แต้มออกจากบ้านโดยมีรถที่บ้านไปส่งที่บริษัทของกำจร
ระหว่างนั่งรถ แต้มคิดถึงแต่โจนาธาน เธอไม่สามารถลืมผู้ชายที่แต่งตัวสกปรกๆคนนี้ได้
เธอห่วงไปหมด ห่วงว่าการงานเขาจะเป็นยังไง ตัวเขาจะเป็นยังไง
ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน และตอนนี้เขารู้สึกอย่างไร
พอรถมาส่งถึงที่ทำงานแล้ว แต้มก็ลงจากรถ
ขณะที่เธอลงจากรถ เธอเห็นหวานเพิ่งรถจากรถเมล์มาแต่ไกล
สำหรับแต้ม หวานเป็นผู้หญิงผมสั้นที่สวยและน่ารักมากๆ เสียดายที่ทุกครั้งที่เธอเจอหวาน
หวานจะมีสีหน้าเศร้าส้อย ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตลอดเวลา
หวานรีบเดินเพื่อที่จะไปทำงาน ส่วนแต้มเองก็รีบไปทำงานเหมือนกัน
แต้มมองหวานจนลับสายตาไป
หวานเข้าไปที่ห้องทำงานของลิขิต พอลิขิตเห็นหวาน เขาก็ยืนขึ้น แล้วเดินออกมาคุยด้วย
“เป็นไง กลับมาทำงานครั้งนี้เป็นไงบ้าง”
หวานไม่ค่อยอยากคุยกับเขาเท่าไหร่ เธออยากรู้แค่ว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง
หลังจากนั้นก็ขออยู่ห่างๆจากเขา
“วันนี้มีงานอะไรบ้างคะที่คุณจะให้หวานทำ”
**************************************
“อ๋อ ผมมีงานหลายอย่างเลยล่ะ”
กำจรพูดกับแต้ม
“หลายอย่าง แล้วมันคืออะไรบ้างคะ”
กำจรทำสายตามีเลศนัย
“ทำไมเวลาเราเจอกัน ถึงจะต้องพูดแต่เรื่องงานนะ เราพูดเรื่องอื่นไม่ได้เหรอ”
*************************************
“เรื่องอื่น คุณหมายถึงอะไร”
หวานตกใจมากกับการที่ลิขิตเดินเข้ามาใกล้และพยายามจะพูดอะไรแปลกๆ
“ก็เรื่องระหว่างคุณกับผมไง คุณกลับมาที่นี่เพราะต้องการผมไม่ใช่เหรอ”
พูดจบลิขิตก็เข้าไปกอดหวานไว้แน่น หวานเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเธอคิดผิดที่กลับมาทำงานที่นี่
“ปล่อยฉันนะ อย่ามาทำกับฉันแบบนี้”
************************************
“ปล่อยฉันนะ” แต้มพยายามพูดกับกำจรเมื่อเขาพยายามเข้ามากอดแต้ม
กำจรยังใช้กำลังกอดแต้มไว้
“อย่ามาดีดดิ้นเลย คุณเองก็ต้องการไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยกับเรื่องพวกนี้
ผู้หญิงที่เคยแก้ผ้าให้ใครต่อใครถ่ายรูป น่าจะช่ำชองเรื่องพวกนี้นะ”
แต้มพยายามดิ้นจนหลุดออกมา แล้วตบหน้าเขาอย่างแรง
กำจรไวมาก เขาเข้ามากอดแต้มอีกครั้งแล้วรัดแน่นขึ้น
“รุนแรงแบบนี้ผมชอบ คุณเองก็ซาดิสม์เหมือนกันเหรอ ดีๆๆๆ ผมชอบมากเลยอ่ะ ผู้หญิงแบบคุณเนี่ย ทั้งแรด ร่านและก็รุนแรง”
แต้มเริ่มจะทนไม่ไหว “ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ”
*******************************************
“คุณจะมาดีดดิ้นทำไม ไอ้พงษ์มันให้ความสุขคุณไม่ได้หรอก ผมนี่สิให้ความสุขคุณได้ คุณก็ต้องการไม่ใช่เหรอ คุณถึงกลับมาหาผม”
ลิขิตกำลังจะทำอะไรเกินเลยกับหวานมากขึ้น หวานจึงกัดมือเขา แล้วรีบหนีออกมาจากห้อง
หวานรีบออกจากห้องแล้ววิ่งลงมาจากชั้นสี่โดยไม่รอลิฟท์
หวานวิ่งมาจนมาชนแต้มซึ่งก็วิ่งออกมาจากห้องทำงานของกำจรเหมือนกัน
กำจรไม่ได้วิ่งตามแต้มมา แต่ลิขิตวิ่งตามหวานมา เมื่อลิขิตเห็นหวานอยู่กับแต้ม เขาเลยรีบเดินกลับไป
หวานบอกกับแต้มว่า “ช่วยฉันด้วยๆ” และหวานดูเหมือนจะเป็นลม
แต้มพยายามพยุงหวานไปที่ห้องของแพรว
แพรวตกใจมากที่เห็นสองคนนี้มากันในสภาพแบบนี้
แต้มพยายามเล่าทุกอย่างให้แพรวฟังว่าเธอเจออะไรมาบ้างและคิดว่าหวานก็เจอมาเหมือนกัน
เมื่อแพรวได้ยิน แพรวพูดด้วยความโมโห
“ไอ้ผู้ชายพวกนี้มันเลวเหมือนกันหมดเลย ไอ้พวกชั่วพวกสารเลว”
ตอนนั้นแต้มเป็นห่วงหวานมากกว่า
“ให้หวานนอนพักที่โซฟาของเธอก่อนนะ เช้านี้งานไม่ค่อยยุ่งใช่ไหม”
“ได้ๆ” แพรวเห็นด้วย
หวานคงทั้งตกใจทั้งเหนื่อยจึงม่อยหลับไป
แต้มหันมาถามแพรว “ผู้ชายที่นี่มีคนแบบนี้ปะปนมาด้วยเหรอ”
แพรวทำหน้าไม่สู้ดีนัก “ไม่ใช่เฉพาะที่นี่หรอก หลายที่เลยแหละ เพื่อนฉันทำงานเกี่ยวกับเรื่องสิทธิสตรี มันเคยเล่าให้ฉันฟัง ฉันฟังแล้วเนี่ย หูผึ่งเลย”
แต้มนึกอะไรบางอย่างได้ “ฉันขอเบอร์เพื่อนแกหน่อยสิ”
แพรวงงว่าแต้มจะเอาเบอร์ของเพื่อนเธอไปทำไม แต่ก็จดให้ไปโดยที่ไม่ได้ถามอะไร
“ฉันฝากหวานด้วยนะ ฉันจะไปทำธุระอะไรบางอย่าง”
“ได้ๆ เดี๋ยวฉันว่าจะลางานช่วงบ่าย แล้วจะไปส่งหวานที่บ้านเอง แต้มไม่ต้องห่วงหรอก”
หลังจากนั้นแต้มรีบออกจากห้องของแพรวไป เธอโทรไปหาเพื่อนของแพรว
บอกว่าอยากคุยอะไรด้วยหน่อย พอเพื่อนของแพรวรู้ว่าแต้มสนใจปัญหาการล่วงละเมิดในที่ทำงาน
เพื่อนของแพรวก็ยินดีที่จะพบกับแต้มในช่วงบ่ายวันนั้นเลย
ทั้งสองคนคุยกันประมาณชั่วโมงกว่าๆ แค่นั้นก็ทำให้แต้มได้ข้อมูลมากพอที่จะสามารถทำอะไรบางอย่างได้
หลังจากนั้นแต้มก็รีบไปหาโจนาธานทันที
พอแต้มไปถึง โจนาธานยิ้มแก้มแทบปริ แต่สีหน้าของแต้มดูจริงจังมาก
“ฉันอยากคุยกับปีเตอร์ค่ะ คุณสามารถติดต่อให้หน่อยได้ไหม”
โจนาธานดูงงๆ แต่ก็ตอบออกไปว่า “เออ ได้ ได้ครับ”
หลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์ ทุกสื่อก็ได้รับข้อมูลละครเวทีเรื่อง “ร้อนเร่าเร้าอารมณ์”
ละครเวทีเล่นคนเดียว ของแต้ม บุษบาบัณ และมีคำโปรยแปลกๆว่า
“คุณจะเห็นทุกส่วนสัดของแต้ม บุษบาบัณในละครเรื่องนี้”
ข่าวนี้ทำให้พ่อของแต้มโมโหมาก แต่ก็ติดต่อแต้มไม่ได้ เพราะแต้มไม่กลับบ้านเลย
ตอนนั้นแต้มต้องไปพักกับบ้านของเพื่อนสนิทคนหนึ่งและเก็บตัวเงียบ ไม่ออกไปไหน
เพราะนักข่าวก็ตามหาเธอกันยกใหญ่เหมือนกัน
บัตรของละครเวทีเรื่องนี้ขายหมดอย่างรวดเร็ว ขนาดสื่อมวลชนเองขอเพิ่มทางตัวแทนก็หาให้สื่อมวลชนไม่ได้ แต่แต้มได้ส่งบัตรเชิญให้กับผู้ชายจำนวน 150 คน ซึ่งมีกำจรกับลิขิตรวมอยู่ด้วย
เมื่อกำจรได้รับบัตรเชิญทางไปรษณีย์ เขาก็คิดในใจว่า
“แต้ม นอกจะชอบอะไรรุนแรงแล้ว ยังชอบโชว์อีก ผู้หญิงแบบนี้สิที่กูชอบ หลังละครกูจะขอมีเซ็กซ์กับนังนี่ให้หนำใจเลย”
จนถึงวันที่การแสดงมาถึง มีคนจำนวนมากมาออกันอยู่หน้างานรวมทั้งโจนาธานด้วย
บางคนก็มารอลุ้นเผื่อจะมีคนเอาบัตรผีมาขาย แล้วมันก็มีจริงๆ นักข่าวบันเทิงทุกสถาบันต่างมารวมตัวกันที่นี่ รวมทั้งพ่อของแต้มด้วย
ผู้คนเริ่มทยอยเข้าหอประชุมใหญ่เพื่อจะได้หาที่นั่งเพื่อจะได้ชมละครเวทีเรื่อง “ร้อนเร่าเร้าอารมณ์” ที่โปรโมทว่าผู้แสดงหญิงคนเดียวบนเวทีจะมีการเปลือยบนเวทีด้วย
ดูทุกคนจะตื่นเต้นไปกับการเปลือยครั้งนี้มาก
พอไฟหรี่ลงแล้วม่านเปิดขึ้น ก็จะเป็นฉากที่แต้มเดินออกมาจากห้องน้ำโดยการใส่เสื้อคลุมอาบน้ำ
แต้มเดินมาตรงโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งวางไว้เฉียงๆเพื่อให้ทุกคนได้เห็นแต้มที่ยืนแนวเฉียงด้วย
บนเวทีได้มีการวางของประกอบฉากที่ได้ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี การจัดแสงก็ถือว่าสุดยอดมาก
ทุกคนตื่นตะลึงตอนที่แต้มยืนขึ้นจากการนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วถอดเสื้อคลุมออกจนร่างเปลือยเปล่า
ตอนนั้นแต้มยังไม่ได้หันหน้าหาผู้ชม แต่ผู้ชมก็ปลาบปลื้มกับเรือนร่างกันสวยงามของเธอ และแต้มก็เอ่ยขึ้นว่า
“เหมือนฟ้าเปิดเกิดก่อและต่อแต่ง
ซึ่งสำแดงแสงสีสุรีย์สาด
นี่แหละคุณการโน้มนำธรรมชาติ
เหมือนถูกวาดสาดแสงสำแดงสิ่ง
ภาคภูมิใจได้เกิดเป็นมนุษย์
วิเศษสุดได้เกิดเป็นผู้หญิง
ช่วยจรรโลงโลกกว้างอย่างแท้จริง
สร้างสรรพสิ่งหนุนนำช่วยย้ำเตือน
เป็นทั้งแม่ทั้งเมียเสียทุกอย่าง
ได้แต่สร้างความผูกพันมั่นเสมือน
ช่วยทุกอย่างไม่เคยจะแชเชือน
เหมือนโลกเตือนว่าผู้หญิงคือสิ่งดี”
แล้วแต้มก็หันมามองกราดไปทางผู้ชม สายตาของเธอน่ากลัว เสียงของเธอแข็งกร้าวขึ้น
“แต่พวกมืงลดค่าน่าใจหาย
ให้ผู้หญิงกลับกลายเป็นสิ่งอื่น
มองเห็นแต่เรือนร่างต่างเอาคืน
ไอ้พวกหื่น
ไร้ราคา
อีกสังคมโสมมไม่แตกต่าง
ชอบยกตัวอย่างความเป็นหญิงให้ด้อยค่า
นางบำเรอปรนเปรอสุขทุกราคา
ให้พวกบ้าตัณหากลับได้ดับกาม
ไอ้พวกเวร
ไม่เคยคิด
อยากสะกิดให้พวกมันตั้งคำถาม
มืงมองเพียงพวกเธอบำเรอกาม
อยากคำรามให้ก้องฟ้าข้าก็คน
ไอ้ผีห่าซาตานเขาสิงสู่
มืงจะอยู่กับความหื่นไปทุกหน
ไอ้พวกเปรตสิงร่างแต่ละคน
ไอ้พวกคน
ไร้ปรานี”
พอหมดประโยคนี้ พวกชมรมอนุรักษ์สตรีศรีสมรและชมรมรักนวลสงวนตัวเกริกก้องฟ้าที่ต่างเตรียมไข่กันมาเป็นจำนวนมาก และได้ลักลอบเข้ามาโดยมีการนั่งกระจายไปทั่ว พวกนี้เตรียมไข่กะเอามาปาแต้ม โทษฐานที่ไม่รักนวลสงวนตัว กล้าแก้ผ้าบนเวที
พอสิ้นประโยคนั่น พวกนี้ก็เริ่มปาไข่ไปที่ตัวแต้ม พวกที่อยู่ไกลก็ลุกเดินมาใกล้หน่อย ผู้ชายอย่างกำจรและลิขิตต่างโกรธแต้มกันยกใหญ่ เลยขอไข่เอาไปปาแต้มด้วย
โจนาธานรีบวิ่งขึ้นไปบนเวที เขาถอดเสื้อของตัวเองออกเอามาคลุมร่างของแต้ม แล้วกอดแต้มไว้ ไข่ทั้งหมดที่ปามาจึงโดนแผ่นหลังของโจนาธานเข้าเต็มๆ เขาไม่พาแต้มขยับไปไหน เพราะกลัวจะโดนรุมประชาทัณฑ์ เขาคิดว่าคงไม่มีใครกล้าขึ้นมาบนเวที การอยู่ข้างล่างแล้วปาไข่หรือบางคนตอนนี้มีการปาขี้ด้วยน่าจะสะใจกว่า เดี๋ยว รปภ กับตำรวจคงทยอยมา
ขณะที่แต้มกอดกับโจนาธานอยู่แบบนั้น แต้มเครียดมาก เธอจึงมองหน้าของโจนาธานและจูบปากเขาไม่ยั้ง โจนาธานก็จูบปากของแต้มอย่างเร่าร้อนไปด้วยท่ามกลางไข่และขี้ที่ถูกปาขึ้นมาโดนหลังของเขา
โปรดติดตามตอนต่อไป
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 12
ภาพจาก https://pixabay.com/th/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0-748680/
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/35715756
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/35717992
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/35726142
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/35736149
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/35744346
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 6 http://ppantip.com/topic/35813047
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 7 http://ppantip.com/topic/35817131
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 8 http://ppantip.com/topic/35823771
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 9 http://ppantip.com/topic/35839184
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 10 http://ppantip.com/topic/35866083
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 11 http://ppantip.com/topic/35872202
ร้อนเร่าเร้าอารมณ์ ตอนที่ 12
เป็นวันแรกที่หวานพาพิภพมาให้พงษ์รู้จัก เมื่อพิภพเห็นพงษ์แล้ว เขาก็รู้สึกแปลกๆ
ดูจากภายนอก พงษ์ดูเป็นผู้ชายที่ดูแข็งแรงมาก เขาดูคล้ายทหาร
ถ้าเขาไม่ได้นั่งบนรถเข็น คงเดาได้ยากว่าเขาเป็นอัมพาตท่อนล่าง
“นี่พิภพค่ะ คนที่หวานเคยเล่าให้คุณฟัง”
หลังจากที่หวานแนะนำพิภพให้พงษ์ได้รู้จักแล้ว พิภพรู้สึกกลัวๆอะไรบางอย่าง
เขากลัวที่พงษ์จะรู้ว่าเขามีใจให้หวาน ถ้าเลือกได้ วันนี้เขาจะไม่มาที่นี่เลย
แต่ที่เขามาที่นี่ก็เพราะหวานขอร้อง
“สวัสดีครับ”
พงษ์พูดกับพิภพก่อน
“สวัสดีครับ”
พิภพสวัสดีตอบ หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกัน
ก่อนหวานจะไป พิภพเดินมาส่งหวานที่ด้านนอกตัวบ้าน
หวานหันหน้ามาหาเขา “หวานฝากพงษ์ด้วยนะคะ”
“หวาน ผมไม่อยากให้คุณไปเลย ผมอยากอยู่ใกล้คุณทุกวันเลยนะ”
หวานมองหน้าพิภพ
“คุณต้องไม่พูดแบบนี้นะ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม”
พงษ์แอบมองทั้งคู่คุยกัน ถึงแม้อยู่ตรงนั้น เขาจะไม่ได้ยินเสียงของทั้งคู่
แต่เขาก็พอเดาออกว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน
หวานยังบอกกับพิภพเหมือนเดิม
“หวานฝากพงษ์ด้วยนะคะ หวานเป็นห่วงเขาจริงๆ”
“แล้วผมล่ะ”
พิภพพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หวานรีบเดินออกจากบ้านไป
**************************************
แต้มออกจากบ้านโดยมีรถที่บ้านไปส่งที่บริษัทของกำจร
ระหว่างนั่งรถ แต้มคิดถึงแต่โจนาธาน เธอไม่สามารถลืมผู้ชายที่แต่งตัวสกปรกๆคนนี้ได้
เธอห่วงไปหมด ห่วงว่าการงานเขาจะเป็นยังไง ตัวเขาจะเป็นยังไง
ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน และตอนนี้เขารู้สึกอย่างไร
พอรถมาส่งถึงที่ทำงานแล้ว แต้มก็ลงจากรถ
ขณะที่เธอลงจากรถ เธอเห็นหวานเพิ่งรถจากรถเมล์มาแต่ไกล
สำหรับแต้ม หวานเป็นผู้หญิงผมสั้นที่สวยและน่ารักมากๆ เสียดายที่ทุกครั้งที่เธอเจอหวาน
หวานจะมีสีหน้าเศร้าส้อย ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตลอดเวลา
หวานรีบเดินเพื่อที่จะไปทำงาน ส่วนแต้มเองก็รีบไปทำงานเหมือนกัน
แต้มมองหวานจนลับสายตาไป
หวานเข้าไปที่ห้องทำงานของลิขิต พอลิขิตเห็นหวาน เขาก็ยืนขึ้น แล้วเดินออกมาคุยด้วย
“เป็นไง กลับมาทำงานครั้งนี้เป็นไงบ้าง”
หวานไม่ค่อยอยากคุยกับเขาเท่าไหร่ เธออยากรู้แค่ว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง
หลังจากนั้นก็ขออยู่ห่างๆจากเขา
“วันนี้มีงานอะไรบ้างคะที่คุณจะให้หวานทำ”
**************************************
“อ๋อ ผมมีงานหลายอย่างเลยล่ะ”
กำจรพูดกับแต้ม
“หลายอย่าง แล้วมันคืออะไรบ้างคะ”
กำจรทำสายตามีเลศนัย
“ทำไมเวลาเราเจอกัน ถึงจะต้องพูดแต่เรื่องงานนะ เราพูดเรื่องอื่นไม่ได้เหรอ”
*************************************
“เรื่องอื่น คุณหมายถึงอะไร”
หวานตกใจมากกับการที่ลิขิตเดินเข้ามาใกล้และพยายามจะพูดอะไรแปลกๆ
“ก็เรื่องระหว่างคุณกับผมไง คุณกลับมาที่นี่เพราะต้องการผมไม่ใช่เหรอ”
พูดจบลิขิตก็เข้าไปกอดหวานไว้แน่น หวานเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเธอคิดผิดที่กลับมาทำงานที่นี่
“ปล่อยฉันนะ อย่ามาทำกับฉันแบบนี้”
************************************
“ปล่อยฉันนะ” แต้มพยายามพูดกับกำจรเมื่อเขาพยายามเข้ามากอดแต้ม
กำจรยังใช้กำลังกอดแต้มไว้
“อย่ามาดีดดิ้นเลย คุณเองก็ต้องการไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยกับเรื่องพวกนี้
ผู้หญิงที่เคยแก้ผ้าให้ใครต่อใครถ่ายรูป น่าจะช่ำชองเรื่องพวกนี้นะ”
แต้มพยายามดิ้นจนหลุดออกมา แล้วตบหน้าเขาอย่างแรง
กำจรไวมาก เขาเข้ามากอดแต้มอีกครั้งแล้วรัดแน่นขึ้น
“รุนแรงแบบนี้ผมชอบ คุณเองก็ซาดิสม์เหมือนกันเหรอ ดีๆๆๆ ผมชอบมากเลยอ่ะ ผู้หญิงแบบคุณเนี่ย ทั้งแรด ร่านและก็รุนแรง”
แต้มเริ่มจะทนไม่ไหว “ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ”
*******************************************
“คุณจะมาดีดดิ้นทำไม ไอ้พงษ์มันให้ความสุขคุณไม่ได้หรอก ผมนี่สิให้ความสุขคุณได้ คุณก็ต้องการไม่ใช่เหรอ คุณถึงกลับมาหาผม”
ลิขิตกำลังจะทำอะไรเกินเลยกับหวานมากขึ้น หวานจึงกัดมือเขา แล้วรีบหนีออกมาจากห้อง
หวานรีบออกจากห้องแล้ววิ่งลงมาจากชั้นสี่โดยไม่รอลิฟท์
หวานวิ่งมาจนมาชนแต้มซึ่งก็วิ่งออกมาจากห้องทำงานของกำจรเหมือนกัน
กำจรไม่ได้วิ่งตามแต้มมา แต่ลิขิตวิ่งตามหวานมา เมื่อลิขิตเห็นหวานอยู่กับแต้ม เขาเลยรีบเดินกลับไป
หวานบอกกับแต้มว่า “ช่วยฉันด้วยๆ” และหวานดูเหมือนจะเป็นลม
แต้มพยายามพยุงหวานไปที่ห้องของแพรว
แพรวตกใจมากที่เห็นสองคนนี้มากันในสภาพแบบนี้
แต้มพยายามเล่าทุกอย่างให้แพรวฟังว่าเธอเจออะไรมาบ้างและคิดว่าหวานก็เจอมาเหมือนกัน
เมื่อแพรวได้ยิน แพรวพูดด้วยความโมโห
“ไอ้ผู้ชายพวกนี้มันเลวเหมือนกันหมดเลย ไอ้พวกชั่วพวกสารเลว”
ตอนนั้นแต้มเป็นห่วงหวานมากกว่า
“ให้หวานนอนพักที่โซฟาของเธอก่อนนะ เช้านี้งานไม่ค่อยยุ่งใช่ไหม”
“ได้ๆ” แพรวเห็นด้วย
หวานคงทั้งตกใจทั้งเหนื่อยจึงม่อยหลับไป
แต้มหันมาถามแพรว “ผู้ชายที่นี่มีคนแบบนี้ปะปนมาด้วยเหรอ”
แพรวทำหน้าไม่สู้ดีนัก “ไม่ใช่เฉพาะที่นี่หรอก หลายที่เลยแหละ เพื่อนฉันทำงานเกี่ยวกับเรื่องสิทธิสตรี มันเคยเล่าให้ฉันฟัง ฉันฟังแล้วเนี่ย หูผึ่งเลย”
แต้มนึกอะไรบางอย่างได้ “ฉันขอเบอร์เพื่อนแกหน่อยสิ”
แพรวงงว่าแต้มจะเอาเบอร์ของเพื่อนเธอไปทำไม แต่ก็จดให้ไปโดยที่ไม่ได้ถามอะไร
“ฉันฝากหวานด้วยนะ ฉันจะไปทำธุระอะไรบางอย่าง”
“ได้ๆ เดี๋ยวฉันว่าจะลางานช่วงบ่าย แล้วจะไปส่งหวานที่บ้านเอง แต้มไม่ต้องห่วงหรอก”
หลังจากนั้นแต้มรีบออกจากห้องของแพรวไป เธอโทรไปหาเพื่อนของแพรว
บอกว่าอยากคุยอะไรด้วยหน่อย พอเพื่อนของแพรวรู้ว่าแต้มสนใจปัญหาการล่วงละเมิดในที่ทำงาน
เพื่อนของแพรวก็ยินดีที่จะพบกับแต้มในช่วงบ่ายวันนั้นเลย
ทั้งสองคนคุยกันประมาณชั่วโมงกว่าๆ แค่นั้นก็ทำให้แต้มได้ข้อมูลมากพอที่จะสามารถทำอะไรบางอย่างได้
หลังจากนั้นแต้มก็รีบไปหาโจนาธานทันที
พอแต้มไปถึง โจนาธานยิ้มแก้มแทบปริ แต่สีหน้าของแต้มดูจริงจังมาก
“ฉันอยากคุยกับปีเตอร์ค่ะ คุณสามารถติดต่อให้หน่อยได้ไหม”
โจนาธานดูงงๆ แต่ก็ตอบออกไปว่า “เออ ได้ ได้ครับ”
หลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์ ทุกสื่อก็ได้รับข้อมูลละครเวทีเรื่อง “ร้อนเร่าเร้าอารมณ์”
ละครเวทีเล่นคนเดียว ของแต้ม บุษบาบัณ และมีคำโปรยแปลกๆว่า
“คุณจะเห็นทุกส่วนสัดของแต้ม บุษบาบัณในละครเรื่องนี้”
ข่าวนี้ทำให้พ่อของแต้มโมโหมาก แต่ก็ติดต่อแต้มไม่ได้ เพราะแต้มไม่กลับบ้านเลย
ตอนนั้นแต้มต้องไปพักกับบ้านของเพื่อนสนิทคนหนึ่งและเก็บตัวเงียบ ไม่ออกไปไหน
เพราะนักข่าวก็ตามหาเธอกันยกใหญ่เหมือนกัน
บัตรของละครเวทีเรื่องนี้ขายหมดอย่างรวดเร็ว ขนาดสื่อมวลชนเองขอเพิ่มทางตัวแทนก็หาให้สื่อมวลชนไม่ได้ แต่แต้มได้ส่งบัตรเชิญให้กับผู้ชายจำนวน 150 คน ซึ่งมีกำจรกับลิขิตรวมอยู่ด้วย
เมื่อกำจรได้รับบัตรเชิญทางไปรษณีย์ เขาก็คิดในใจว่า
“แต้ม นอกจะชอบอะไรรุนแรงแล้ว ยังชอบโชว์อีก ผู้หญิงแบบนี้สิที่กูชอบ หลังละครกูจะขอมีเซ็กซ์กับนังนี่ให้หนำใจเลย”
จนถึงวันที่การแสดงมาถึง มีคนจำนวนมากมาออกันอยู่หน้างานรวมทั้งโจนาธานด้วย
บางคนก็มารอลุ้นเผื่อจะมีคนเอาบัตรผีมาขาย แล้วมันก็มีจริงๆ นักข่าวบันเทิงทุกสถาบันต่างมารวมตัวกันที่นี่ รวมทั้งพ่อของแต้มด้วย
ผู้คนเริ่มทยอยเข้าหอประชุมใหญ่เพื่อจะได้หาที่นั่งเพื่อจะได้ชมละครเวทีเรื่อง “ร้อนเร่าเร้าอารมณ์” ที่โปรโมทว่าผู้แสดงหญิงคนเดียวบนเวทีจะมีการเปลือยบนเวทีด้วย
ดูทุกคนจะตื่นเต้นไปกับการเปลือยครั้งนี้มาก
พอไฟหรี่ลงแล้วม่านเปิดขึ้น ก็จะเป็นฉากที่แต้มเดินออกมาจากห้องน้ำโดยการใส่เสื้อคลุมอาบน้ำ
แต้มเดินมาตรงโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งวางไว้เฉียงๆเพื่อให้ทุกคนได้เห็นแต้มที่ยืนแนวเฉียงด้วย
บนเวทีได้มีการวางของประกอบฉากที่ได้ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี การจัดแสงก็ถือว่าสุดยอดมาก
ทุกคนตื่นตะลึงตอนที่แต้มยืนขึ้นจากการนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วถอดเสื้อคลุมออกจนร่างเปลือยเปล่า
ตอนนั้นแต้มยังไม่ได้หันหน้าหาผู้ชม แต่ผู้ชมก็ปลาบปลื้มกับเรือนร่างกันสวยงามของเธอ และแต้มก็เอ่ยขึ้นว่า
“เหมือนฟ้าเปิดเกิดก่อและต่อแต่ง
ซึ่งสำแดงแสงสีสุรีย์สาด
นี่แหละคุณการโน้มนำธรรมชาติ
เหมือนถูกวาดสาดแสงสำแดงสิ่ง
ภาคภูมิใจได้เกิดเป็นมนุษย์
วิเศษสุดได้เกิดเป็นผู้หญิง
ช่วยจรรโลงโลกกว้างอย่างแท้จริง
สร้างสรรพสิ่งหนุนนำช่วยย้ำเตือน
เป็นทั้งแม่ทั้งเมียเสียทุกอย่าง
ได้แต่สร้างความผูกพันมั่นเสมือน
ช่วยทุกอย่างไม่เคยจะแชเชือน
เหมือนโลกเตือนว่าผู้หญิงคือสิ่งดี”
แล้วแต้มก็หันมามองกราดไปทางผู้ชม สายตาของเธอน่ากลัว เสียงของเธอแข็งกร้าวขึ้น
“แต่พวกมืงลดค่าน่าใจหาย
ให้ผู้หญิงกลับกลายเป็นสิ่งอื่น
มองเห็นแต่เรือนร่างต่างเอาคืน
ไอ้พวกหื่นไร้ราคา
อีกสังคมโสมมไม่แตกต่าง
ชอบยกตัวอย่างความเป็นหญิงให้ด้อยค่า
นางบำเรอปรนเปรอสุขทุกราคา
ให้พวกบ้าตัณหากลับได้ดับกาม
ไอ้พวกเวรไม่เคยคิด
อยากสะกิดให้พวกมันตั้งคำถาม
มืงมองเพียงพวกเธอบำเรอกาม
อยากคำรามให้ก้องฟ้าข้าก็คน
ไอ้ผีห่าซาตานเขาสิงสู่
มืงจะอยู่กับความหื่นไปทุกหน
ไอ้พวกเปรตสิงร่างแต่ละคน
ไอ้พวกคนไร้ปรานี”
พอหมดประโยคนี้ พวกชมรมอนุรักษ์สตรีศรีสมรและชมรมรักนวลสงวนตัวเกริกก้องฟ้าที่ต่างเตรียมไข่กันมาเป็นจำนวนมาก และได้ลักลอบเข้ามาโดยมีการนั่งกระจายไปทั่ว พวกนี้เตรียมไข่กะเอามาปาแต้ม โทษฐานที่ไม่รักนวลสงวนตัว กล้าแก้ผ้าบนเวที
พอสิ้นประโยคนั่น พวกนี้ก็เริ่มปาไข่ไปที่ตัวแต้ม พวกที่อยู่ไกลก็ลุกเดินมาใกล้หน่อย ผู้ชายอย่างกำจรและลิขิตต่างโกรธแต้มกันยกใหญ่ เลยขอไข่เอาไปปาแต้มด้วย
โจนาธานรีบวิ่งขึ้นไปบนเวที เขาถอดเสื้อของตัวเองออกเอามาคลุมร่างของแต้ม แล้วกอดแต้มไว้ ไข่ทั้งหมดที่ปามาจึงโดนแผ่นหลังของโจนาธานเข้าเต็มๆ เขาไม่พาแต้มขยับไปไหน เพราะกลัวจะโดนรุมประชาทัณฑ์ เขาคิดว่าคงไม่มีใครกล้าขึ้นมาบนเวที การอยู่ข้างล่างแล้วปาไข่หรือบางคนตอนนี้มีการปาขี้ด้วยน่าจะสะใจกว่า เดี๋ยว รปภ กับตำรวจคงทยอยมา
ขณะที่แต้มกอดกับโจนาธานอยู่แบบนั้น แต้มเครียดมาก เธอจึงมองหน้าของโจนาธานและจูบปากเขาไม่ยั้ง โจนาธานก็จูบปากของแต้มอย่างเร่าร้อนไปด้วยท่ามกลางไข่และขี้ที่ถูกปาขึ้นมาโดนหลังของเขา
โปรดติดตามตอนต่อไป