สวัสดีค่ะ
เรามีขนมหวานมาฝากกันอีกแล้ว ถึงตาของขนมตะโก้กันบ้างวันนี้เราเลือกทำตะโก้สาคูเพราะตอนเด็กๆเรามักจะได้กินขนมตะโก้อีกแบบหนึ่งซึ่งเราจำได้ว่าสิ่งเดียวที่เราชอบคือส่วนหน้ากะทิ ๕๕๕+ พอมีโอกาสได้ทำเองเลยอยากลองทำแบบที่ไม่เคยกินดูบ้าง ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะทำใส่กระทงใบเตยเล็กๆน่ารักแต่ด้วยความที่ไม่มีเวลามากพอเลยใช้ภาชนะที่มีในบ้านอยู่แล้วอย่างถ้วยวุ้น ถ้วยตะไล และแก้วใสๆเวลาเสิร์ฟจะได้เห็นตัวขนมด้วยค่ะ
ส่วนผสมสาคู
-เม็ดสาคู ๑/๔ ถ้วยตวง
-ข้าวโพดต้มสุก ๑/๓ ถ้วยตวง
-น้ำตาลทราย ๓/๔ ถ้วยตวง (ปรับลดได้ตามใจชอบ)
-น้ำสะอาด ๒ ถ้วยตวง (สามารถใช้น้ำมะพร้าวอ่อน หรือน้ำลอยดอกมะลิได้ถ้ามี)
-ใบเตยหอมมัด
ส่วนผสมหน้ากะทิ
-กะทิ ๑ ถ้วยตวง
-แป้งข้าวเจ้า ๑ ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย ๓/๔ ช้อนโต๊ะ (ปรับลดได้)
-เกลือ ๑/๓ ช้อนชา
ถ่ายรูปหมู่กันหน่อยตามระเบียบ
ข้าวโพดต้มสุกฝานเอาแต่เมล็ด รอบนี้ได้ข้าวโพดหวานกำลังดีเลยค่ะ
วันนี้เราเลือกใช้กะทิตัวนี้ซึ่งค่อนข้างจะเข้มข้นมากเลยผสมน้ำเพิ่มจากปริมาณเดิมให้ได้ ๑ ถ้วยตวงตามสูตรค่ะ
วิธีทำ
๑.นำน้ำใส่หม้อใบย่อมๆขึ้นตั้งไฟกลาง ขั้นนี้คนที่มีใบเตยมัดก็ใส่ลงไปด้วยได้เลยค่ะ เราใส่เพราะรู้สึกว่ากลิ่นมันหอมดี
๒.รอจนน้ำเดือดแล้วเอาใบเตยออก เทเม็ดสาคูลงไป ในรูปเราลืมเอาออกก่อนใส่ เลยต้องรีบเอาออกเลยพอนึกได้เพราะไม่งั้นตัวเม็ดสาคูมันจะไปเกาะใบเตยค่ะ
เมื่อใส่เม็ดสาคูลงไปแล้วขั้นนี้เราต้องคนไปเรื่อยๆนะคะไม่งั้นมันจะเกาะติดกันเป็นก้อนหรือติดก้นหม้อได้ค่ะ
๓.คนไปเรื่อยๆจนเม็ดสาคูสุก เราจะสักเกตได้ว่าเม็ดสาคูมีลักษณะเปลี่ยนไปคือมันจะใสๆแล้วแบบในรูป
๔.ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนต่อจนน้ำตาลละลายหมดและสาคูเดือดอีกครั้งก็เอาลงจากเตาได้ค่ะ
๕.ใส่ข้าวโพดลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
๖.เตรียมภาชนะที่จะใส่ขนมรอไว้ ปริมาณของสาคูที่จะใส่ให้ได้ ๓/๔ ของภาชนะนะคะ
๗.ต่อมาเรามาทำหน้ากะทิกันบ้างค่ะ ใส่ส่วนผสมสำหรับทำหน้ากะทิทั้งหมดลงไปในหม้อแล้วคนให้เข้ากัน อย่าให้แป้งข้าวเจ้าเป็นก้อนนะคะ เอาช้อนบี้ๆให้แตกค่ะ
๘.นำหม้อตั้งเตาใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน คนกะทิไปเรื่อยๆ เมื่อเดือดสุกแล้วปิดไฟเอาลงได้โดยวิธีเช็คสุกของเราคือสังเกตว่าตัวกะทิจะข้นขึ้นกว่าตอนแรกค่ะ
๙.นำกะทิหยอดใส่พิมพ์/ภาชนะที่ใส่สาคูรออยู่แล้ว เราจะเทใส่ตอนที่มันยังร้อนๆอยู่นะคะเพราะไม่งั้นมันจะจับตัวเป็นก้อนและทำให้หน้าออกมาไม่เรียบเนียนค่ะ
ตัก
หยอดลงไปช้าๆ
๑๐.ถ้าใครยังมีเมล็ดข้าวโพดเหลืออยู่ก็สามารถโรยหน้าตกแต่งให้สวยงามได้แบบนี้ค่ะ
แต่งหน้าสวยๆ(?)กันนิดนึง
ส่วนใครไม่มีก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จแล้วพร้อมเสิร์ฟ หรือใครจะนำเข้าตู้เย็นก่อนแล้วค่อยกินตอนเย็นๆก็แล้วแต่ชอบเลยค่ะ
ให้ดูด้านข้าง..
ซูมๆใกล้ๆกันหน่อย
เอามาจัดฉากสวยๆถ่ายรวมกันบ้าง
สนใจรับคนละถ้วยสองถ้วยไหมคะ
สรุปว่าผลการทำขนมครั้งนี้อร่อยถูกใจไม่ต้องแคะกินแค่หน้ากะทิอีกต่อไป ๕๕ ส่วนใครที่ไม่มีข้าวโพดก็สามารถปรับเป็นอย่างอื่นแทนได้ เช่น แห้ว เผือก มะพร้าวอ่อนค่ะ ใครมีข้อติชมแนะนำยังไงก็บอกกันได้เช่นเคยนะคะ ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าอีกเนอะ
++ [SR]ตะโก้สาคูข้าวโพดรสละมุน กินอุ่นๆก็อร่อย กินเย็นๆยิ่งชื่นใจ++
เรามีขนมหวานมาฝากกันอีกแล้ว ถึงตาของขนมตะโก้กันบ้างวันนี้เราเลือกทำตะโก้สาคูเพราะตอนเด็กๆเรามักจะได้กินขนมตะโก้อีกแบบหนึ่งซึ่งเราจำได้ว่าสิ่งเดียวที่เราชอบคือส่วนหน้ากะทิ ๕๕๕+ พอมีโอกาสได้ทำเองเลยอยากลองทำแบบที่ไม่เคยกินดูบ้าง ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะทำใส่กระทงใบเตยเล็กๆน่ารักแต่ด้วยความที่ไม่มีเวลามากพอเลยใช้ภาชนะที่มีในบ้านอยู่แล้วอย่างถ้วยวุ้น ถ้วยตะไล และแก้วใสๆเวลาเสิร์ฟจะได้เห็นตัวขนมด้วยค่ะ
ส่วนผสมสาคู
-เม็ดสาคู ๑/๔ ถ้วยตวง
-ข้าวโพดต้มสุก ๑/๓ ถ้วยตวง
-น้ำตาลทราย ๓/๔ ถ้วยตวง (ปรับลดได้ตามใจชอบ)
-น้ำสะอาด ๒ ถ้วยตวง (สามารถใช้น้ำมะพร้าวอ่อน หรือน้ำลอยดอกมะลิได้ถ้ามี)
-ใบเตยหอมมัด
ส่วนผสมหน้ากะทิ
-กะทิ ๑ ถ้วยตวง
-แป้งข้าวเจ้า ๑ ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย ๓/๔ ช้อนโต๊ะ (ปรับลดได้)
-เกลือ ๑/๓ ช้อนชา
ถ่ายรูปหมู่กันหน่อยตามระเบียบ
ข้าวโพดต้มสุกฝานเอาแต่เมล็ด รอบนี้ได้ข้าวโพดหวานกำลังดีเลยค่ะ
วันนี้เราเลือกใช้กะทิตัวนี้ซึ่งค่อนข้างจะเข้มข้นมากเลยผสมน้ำเพิ่มจากปริมาณเดิมให้ได้ ๑ ถ้วยตวงตามสูตรค่ะ
วิธีทำ
๑.นำน้ำใส่หม้อใบย่อมๆขึ้นตั้งไฟกลาง ขั้นนี้คนที่มีใบเตยมัดก็ใส่ลงไปด้วยได้เลยค่ะ เราใส่เพราะรู้สึกว่ากลิ่นมันหอมดี
๒.รอจนน้ำเดือดแล้วเอาใบเตยออก เทเม็ดสาคูลงไป ในรูปเราลืมเอาออกก่อนใส่ เลยต้องรีบเอาออกเลยพอนึกได้เพราะไม่งั้นตัวเม็ดสาคูมันจะไปเกาะใบเตยค่ะ
เมื่อใส่เม็ดสาคูลงไปแล้วขั้นนี้เราต้องคนไปเรื่อยๆนะคะไม่งั้นมันจะเกาะติดกันเป็นก้อนหรือติดก้นหม้อได้ค่ะ
๓.คนไปเรื่อยๆจนเม็ดสาคูสุก เราจะสักเกตได้ว่าเม็ดสาคูมีลักษณะเปลี่ยนไปคือมันจะใสๆแล้วแบบในรูป
๔.ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนต่อจนน้ำตาลละลายหมดและสาคูเดือดอีกครั้งก็เอาลงจากเตาได้ค่ะ
๕.ใส่ข้าวโพดลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
๖.เตรียมภาชนะที่จะใส่ขนมรอไว้ ปริมาณของสาคูที่จะใส่ให้ได้ ๓/๔ ของภาชนะนะคะ
๗.ต่อมาเรามาทำหน้ากะทิกันบ้างค่ะ ใส่ส่วนผสมสำหรับทำหน้ากะทิทั้งหมดลงไปในหม้อแล้วคนให้เข้ากัน อย่าให้แป้งข้าวเจ้าเป็นก้อนนะคะ เอาช้อนบี้ๆให้แตกค่ะ
๘.นำหม้อตั้งเตาใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน คนกะทิไปเรื่อยๆ เมื่อเดือดสุกแล้วปิดไฟเอาลงได้โดยวิธีเช็คสุกของเราคือสังเกตว่าตัวกะทิจะข้นขึ้นกว่าตอนแรกค่ะ
๙.นำกะทิหยอดใส่พิมพ์/ภาชนะที่ใส่สาคูรออยู่แล้ว เราจะเทใส่ตอนที่มันยังร้อนๆอยู่นะคะเพราะไม่งั้นมันจะจับตัวเป็นก้อนและทำให้หน้าออกมาไม่เรียบเนียนค่ะ
ตัก
หยอดลงไปช้าๆ
๑๐.ถ้าใครยังมีเมล็ดข้าวโพดเหลืออยู่ก็สามารถโรยหน้าตกแต่งให้สวยงามได้แบบนี้ค่ะ
แต่งหน้าสวยๆ(?)กันนิดนึง
ส่วนใครไม่มีก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จแล้วพร้อมเสิร์ฟ หรือใครจะนำเข้าตู้เย็นก่อนแล้วค่อยกินตอนเย็นๆก็แล้วแต่ชอบเลยค่ะ
ให้ดูด้านข้าง..
ซูมๆใกล้ๆกันหน่อย
เอามาจัดฉากสวยๆถ่ายรวมกันบ้าง
สนใจรับคนละถ้วยสองถ้วยไหมคะ
สรุปว่าผลการทำขนมครั้งนี้อร่อยถูกใจไม่ต้องแคะกินแค่หน้ากะทิอีกต่อไป ๕๕ ส่วนใครที่ไม่มีข้าวโพดก็สามารถปรับเป็นอย่างอื่นแทนได้ เช่น แห้ว เผือก มะพร้าวอ่อนค่ะ ใครมีข้อติชมแนะนำยังไงก็บอกกันได้เช่นเคยนะคะ ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าอีกเนอะ