นิยายกำลังภายใน ในยุคหนึ่งมีความนิยมอย่างสูงในหมู่นักอ่าน ด้วยความที่เรื่องราวมักผูกอยู่กับสภาพสังคม มีเรื่องราวของชนชั้น และ ผู้คนบนตัวละครที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ อาวุธประจำกาย วิชาหมัดมวยประจำสำนัก กับเรื่องราวที่มีทั้งเรื่องมิตร ศัตรู สำหรับ ”ซาเสี่ยวเอี้ ย” นิยายเรื่องนี้ฉีกแนวเรื่องให้มีความแปลก แฝงเรื่องของปรัชญา ใช้อาวุธแทนความมีอำนาจ โดยที่เป็นผลงานของ “โก้วเล้ง” บุรุษผู้เขียนนิยายกำลังภายในหลายๆเรื่อง ที่แม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อปีพ.ศ. 2538 ในวัยเพียง 48 ปี แต่ผลงานของเขายังคงมีผู้คนถวิลหาและจดจำไม่รู้ลืม
ยุคที่เป็นยุคเฟื่องฟูของภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายกำลังภายใน ย่อมไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า หนีไม่พ้น ยุคของสตูดิโอชอว์บราเดอร์ ที่มีท่านเซอร์ รันรัน ชอว์ ผู้ล่วงลับกุมบังเหียนอยู่ ในระยะหลังผลงานของ “โก้วเล้ง” น้อยเรื่องนักที่จะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ด้วยกระแสนิยมในการทำหนังที่เน้นหนักไปที่แอ็คชั่นสากลมากกว่า ลองมาดูกันว่า 5 เรื่องในช่วงระยะหลังมานี้ ที่เป็นงานสร้างจากนิยายของเขามีเรื่องอะไรบ้าง
เซียวฮื้อยี้ กระบี่ไม่มีคำตอบ ( Handsome Sibling)
หนังปี 1992 ที่เล่าเรื่องดัดแปลงเนื้อหามาจากนิยายกำลังภายใน เรื่อง เดชเซียวฮื่อยี้ ทุกๆ 18 ปีจะมีการชุมนุมผู้มีวรยุทธกล้าแข็งจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อคัดเลือกคนที่จะได้ครองป้ายประกาศิตและตำราสุดยอดวิทยายุทธ เจี้ยนอี้หลาน กระหายในพลังอำนาจ ถึงขนาดหักหลังพ่อบังเกิดเกล้าเพื่อหวังเป็นใหญ่ในยุทธภพ และได้สำเร็จวิชาอันตรายอย่างหยกหิมะได้สำเร็จ ด้านเซียวฮื้อยี้ เป็นผู้เดียวที่จะต่อกร จอมมารเจี้ยนอี้หลาน เขาได้ฝึกวิชา กระบี่ไม่มีคำตอบ เพื่อกอบกู้ยุทธภพ นำแสดงโดย หลิวเต๋อหัว, หลิน ชิงเสีย, จางหมี่น
ชอลิ้วเฮียง จอมยุทธไม่หยุดรัก (Legend of the Liquid Sword)
หนังปี 1993 หยิบเอานิยายกำลังภายในชื่อดังอย่าง ชอลิ้วเฮียง ตอน ศึกวังค้างคาว เรื่องราวกล่าวถึง ชอลิ้วเฮียง (กัว ฟู่เฉิง) โจรหนุ่มรูปหล่อผู้ผดุงคุณธรรมซึ่งได้เข้าไปช่วย 2 ตระกูลในการสืบหาสาเหตุการป่วยอย่างน่าพิศวงของลูกสาวทั้ง 2 ตระกูลจนได้รู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วลูกสาวของทั้ง 2 ตระกูลแกล้งป่วยและแกล้งตายเพื่อหนีไปกับชายคนรักหลังจากนั้นเขาได้ช่วยท่านซิในการออกตาหา ดาบอสรพิษ ของท่านซิซึ่งหายไปจากห้องศิลาผลจากสืบหาทำให้ ชอลิ้วเฮียงถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรแต่โชคยังเข้าข้างชอลิ้วเฮียงเมื่อคนรักทั้ง 3 ของเขาได้ไปพา โอ๊วทิฮวย เพื่อนสนิทของ ชอลิ้วเฮียง มาช่วยแก้ต่างหลังจากนั้นเขาและพรรคพวกจึงได้เริ่มออกเดินทางสืบหาดาบอสรพิษจนได้เข้าไปพัวพันกับ วังค้างคาว ซึ่งมีคุณชายค้างคาวเป็นผู้นำ หนังได้นักแสดงชั้นนำมากมายมาร่วมแสดง และความกะล่อนของ ชอลิ้วเฮียง ก็เข้ากันกับบุคลิกของ กัวฟู่เฉิง ซะจริงๆ
กระบี่ผีเสื้อบารมีสะท้านภพ (Butterfly Sword)
หนังปี 1993 เช่นกัน ที่ดัดแปลงมาจาก นิยายเรื่อง ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ หนังเรื่องนี้เป็นการรวมดาราสุดฮอตในยุคนั้น หวังจู่เสียน แสดงเป็น เสี่ยวเตี๋ย ลูกสาวคนเดียวของอดีตผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุทธจักร ที่ต้องเสียชีวิตไปในวังวนแห่งการฆ่าฟัน นางเบื่อหน่ายชีวิตที่ไร้ความสงบสุขแบบนั้น ถึงหลบลี้มาใช้ชีวิตสันโดษ กลางป่าร่วมกับสามีสามัญชนนาม เมิ่งซิ่งเหวิน (เหลียงเฉาเหว่ย) ที่ประกอบอาชีพพ่อค้าเร่ ทั้งสองใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตามอัตภาพโดยหญิงสาว ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า สามีของนางไม่ได้เพียงเป็นวรยุทธ แต่ยังเป็นหนึ่งใน ยอดฝีมือแห่งแผ่นดิน เมิ่งซิ่งเหวินยอดมือสังหารที่ผู้คนหวั่นเกรง เขากับพี่น้องร่วมสาบาน (แสดงโดย ดอนนี่ เยน และ มิเชล โหย่ว) ปฏิบัติงานครั้งใดยากที่จะล้มเหลว และแล้ว เมิ่งซิ่งเหวิน ก็ได้รับมอบภารกิจครั้งใหม่จากพี่ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการรับงาน เขาได้รับคำสั่งให้แฝงตัวเข้าไปในสำนักใหญ่แห่งหนึ่ง เพื่อสังหารเจ้าสำนักผู้ยิ่งใหญ่ สิ่งที่เมิ่งซิ่งเหวินไม่คาดคิดก็คือ เขาได้พบกับอดีตของตัวเองที่นี่ กับพี่น้องที่พลัดพลากไปนาน น้องสาวที่สูญหาย ที่ขณะนี้กลับกลายมาเป็น หญิงสาวข้างกายของเจ้าสำนัก เป้าหมายในการสังหารในครั้งนี้นั่นเอง
ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ เป็นนิยายคลาสสิค ที่ถูกนำมาดัดแปลงอีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะใน รูปแบบ ทีวีซีรีย์ แม้กระทั่งวีดิโอเกม ก็เป็นมาแล้ว
พายุดาบดวลสะท้านฟ้า (The Duel)
หนังปี 2000 ต้อนรับยุคแห่งสหัสวรรษกันเลย นี่คืออีกเรื่องที่ระดมนักแสดงชั้นนำมากมายเช่นกัน ในยุคราชวงศ์หมิง เมื่อข่าวการประลองยุทธระหว่าง 2 สุดยอดฝีมือ ไซมึ้งซวยเสาะ (เจิ้ง อี้เจี้ยน) กับ เฮี๊ยบโกวเซี๊ยะ (หลิว เต๋อหัว) แพร่กระจายไปทั่วยุทธภพ ส่งผลให้มีการพูดถึงการเดิมพันผลแพ้ชนะกันอย่างกว้างขวาง เมื่อข่าวดังกล่าวล่วงรู้ถึงหูของทางการ ทางการจึงได้ส่งองครักษ์เสื้อทอง เล็กเซียวหงส์ หรือ หลงหลิงจิ่ว (และองครักษ์หญิง จินเยี่ยนจื่อ ไปยับยั้งการประลองยุทธ แต่ในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับมายังปักกิ่ง หลงหลงจิ่ว ได้พบเฮี๊ยบโกวเซี๊ยะถูกทำร้ายบาดเจ็บ หลงหลงจิ่ว ได้พาเขามารักษาในที่ซ่อนลับ และทำให้ จินเยี่ยนจื่อ มีใจให้กับเฮี๊ยบโกวเซี๊ยะ ขณะที่ หลงหลงจิ่ว สืบพบความไม่ชอบมาพากลของการประลองในครั้งนี้ เขาต้องหาทางหยุดการประลองก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ตัวหนังมีการแทรกมุกตลกสไตล์ หวังจิง อยู่ด้วย เนื่องเพราะเขาเป็นผู้สร้างเรื่องนี้ แต่ยังดีว่าหนังได้ หลิวเหว่ยเฉียง หรือ แอนดรู เลา มากำกับ ไม่อย่างนั้น ตัวหนังอาจจะออกทะเลไปกว่านี้ก็ได้
ดาบปราบเทวดา (Sword Master)
และปีนี้ ปี 2016 จะเป็นการกลับมาของหนังกำลังภายใน ที่สร้างจากนิยายลือชื่ออย่าง ”ซาเสี่ยวเอี้ ย” เป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งสำหรับยุคใหม่ของหนังกำลังภายในก็ว่าได้ ดาบปราบเทวดา (Sword Master) มีชื่อของ เอ๋อตงเซิน เป็นผู้กำกับ โดยที่ตัวเขาเองเคยรับบทเป็น ซาเสียวเอี้ ย มาแล้วใน Death Duel (ศึกล้างเจ้ายุทธจักร) เมื่อปี 1977 จึงเป็นการนำนิยาย”ซาเสี่ยวเอี้ ย”กลับมาบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง
เรื่องราวของ คุณชายสาม ยอดกระบี่มือหนึ่งของบู๋ลิ้ม เจ้าสำนักแห่งหมู่บ้านกระบี่เทวดา ที่สละชีวิต เกียรติยศ และชื่อเสียง เร้นกายอยู่ท่ามกลางผู้คนกลายเป็น อากิก บุรุษผู้ซึ่งยอมทำทุกอย่างเพื่อแค่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ก็มิวายตกเป็นเป้าหมายของจอมยุทธทั่วยุทธจักร
หลังจากมีข่าวการสร้าง “ซาเสี่ยวเอี้ ย” ก็มีการประกาศสร้างหนังกำลังภายในจากนิยายที่มีชื่อเสียงตามออกมาแล้ว อย่างเช่น Moonlight Blade ที่ดัดแปลงจาก นิยาย อินทรีผงาดฟ้า ของ “โก้วเล้ง” หรือชื่อที่ใช้ในฉบับซีรีย์ ฤทธิ์ดาบวงพระจันทร์ และ นิยายอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล มังกรหยก ก็ถูกประกาศสร้างแล้ว เช่นกัน
“โก้วเล้ง” ถือเป็น ปรมาจารย์นิยายกำลังภายในตัวจริง ผลงานของเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักสร้างภาพยนตร์มากมาย ผลงานแต่ละเรื่องที่ปรมาจารย์นักเขียนผู้นี้ฝากไว้ล้วนแล้วแต่มีตัวละครที่โดดเด่นและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะใน “ซาเสี่ยวเอี้ ย” โก้วเล้งเขียนถึงชีวิตชาวยุทธจักรได้อย่างมีเลือดเนื้อ ชาวยุทธจักรที่ทั้งกล้ารักและกล้าแค้น กล้าร่ำไห้ กล้าหัวเราะ ยึดมั่นในหลักที่ว่า บุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ ทำให้หนังสือเล่มนี้โดดเด่นสมกับเป็นหนึ่งในผลงานเลื่องชื่อของมังกรผู้ล่วงลับ
”ซาเสี่ยวเอี้ ย” และ นิยายกำลังภายในของ ”โก้วเล้ง” บนจอภาพยนตร์
นิยายกำลังภายใน ในยุคหนึ่งมีความนิยมอย่างสูงในหมู่นักอ่าน ด้วยความที่เรื่องราวมักผูกอยู่กับสภาพสังคม มีเรื่องราวของชนชั้น และ ผู้คนบนตัวละครที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ อาวุธประจำกาย วิชาหมัดมวยประจำสำนัก กับเรื่องราวที่มีทั้งเรื่องมิตร ศัตรู สำหรับ ”ซาเสี่ยวเอี้ ย” นิยายเรื่องนี้ฉีกแนวเรื่องให้มีความแปลก แฝงเรื่องของปรัชญา ใช้อาวุธแทนความมีอำนาจ โดยที่เป็นผลงานของ “โก้วเล้ง” บุรุษผู้เขียนนิยายกำลังภายในหลายๆเรื่อง ที่แม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อปีพ.ศ. 2538 ในวัยเพียง 48 ปี แต่ผลงานของเขายังคงมีผู้คนถวิลหาและจดจำไม่รู้ลืม
ยุคที่เป็นยุคเฟื่องฟูของภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายกำลังภายใน ย่อมไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า หนีไม่พ้น ยุคของสตูดิโอชอว์บราเดอร์ ที่มีท่านเซอร์ รันรัน ชอว์ ผู้ล่วงลับกุมบังเหียนอยู่ ในระยะหลังผลงานของ “โก้วเล้ง” น้อยเรื่องนักที่จะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ด้วยกระแสนิยมในการทำหนังที่เน้นหนักไปที่แอ็คชั่นสากลมากกว่า ลองมาดูกันว่า 5 เรื่องในช่วงระยะหลังมานี้ ที่เป็นงานสร้างจากนิยายของเขามีเรื่องอะไรบ้าง
เซียวฮื้อยี้ กระบี่ไม่มีคำตอบ ( Handsome Sibling)
หนังปี 1992 ที่เล่าเรื่องดัดแปลงเนื้อหามาจากนิยายกำลังภายใน เรื่อง เดชเซียวฮื่อยี้ ทุกๆ 18 ปีจะมีการชุมนุมผู้มีวรยุทธกล้าแข็งจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อคัดเลือกคนที่จะได้ครองป้ายประกาศิตและตำราสุดยอดวิทยายุทธ เจี้ยนอี้หลาน กระหายในพลังอำนาจ ถึงขนาดหักหลังพ่อบังเกิดเกล้าเพื่อหวังเป็นใหญ่ในยุทธภพ และได้สำเร็จวิชาอันตรายอย่างหยกหิมะได้สำเร็จ ด้านเซียวฮื้อยี้ เป็นผู้เดียวที่จะต่อกร จอมมารเจี้ยนอี้หลาน เขาได้ฝึกวิชา กระบี่ไม่มีคำตอบ เพื่อกอบกู้ยุทธภพ นำแสดงโดย หลิวเต๋อหัว, หลิน ชิงเสีย, จางหมี่น
ชอลิ้วเฮียง จอมยุทธไม่หยุดรัก (Legend of the Liquid Sword)
หนังปี 1993 หยิบเอานิยายกำลังภายในชื่อดังอย่าง ชอลิ้วเฮียง ตอน ศึกวังค้างคาว เรื่องราวกล่าวถึง ชอลิ้วเฮียง (กัว ฟู่เฉิง) โจรหนุ่มรูปหล่อผู้ผดุงคุณธรรมซึ่งได้เข้าไปช่วย 2 ตระกูลในการสืบหาสาเหตุการป่วยอย่างน่าพิศวงของลูกสาวทั้ง 2 ตระกูลจนได้รู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วลูกสาวของทั้ง 2 ตระกูลแกล้งป่วยและแกล้งตายเพื่อหนีไปกับชายคนรักหลังจากนั้นเขาได้ช่วยท่านซิในการออกตาหา ดาบอสรพิษ ของท่านซิซึ่งหายไปจากห้องศิลาผลจากสืบหาทำให้ ชอลิ้วเฮียงถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรแต่โชคยังเข้าข้างชอลิ้วเฮียงเมื่อคนรักทั้ง 3 ของเขาได้ไปพา โอ๊วทิฮวย เพื่อนสนิทของ ชอลิ้วเฮียง มาช่วยแก้ต่างหลังจากนั้นเขาและพรรคพวกจึงได้เริ่มออกเดินทางสืบหาดาบอสรพิษจนได้เข้าไปพัวพันกับ วังค้างคาว ซึ่งมีคุณชายค้างคาวเป็นผู้นำ หนังได้นักแสดงชั้นนำมากมายมาร่วมแสดง และความกะล่อนของ ชอลิ้วเฮียง ก็เข้ากันกับบุคลิกของ กัวฟู่เฉิง ซะจริงๆ
กระบี่ผีเสื้อบารมีสะท้านภพ (Butterfly Sword)
หนังปี 1993 เช่นกัน ที่ดัดแปลงมาจาก นิยายเรื่อง ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ หนังเรื่องนี้เป็นการรวมดาราสุดฮอตในยุคนั้น หวังจู่เสียน แสดงเป็น เสี่ยวเตี๋ย ลูกสาวคนเดียวของอดีตผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุทธจักร ที่ต้องเสียชีวิตไปในวังวนแห่งการฆ่าฟัน นางเบื่อหน่ายชีวิตที่ไร้ความสงบสุขแบบนั้น ถึงหลบลี้มาใช้ชีวิตสันโดษ กลางป่าร่วมกับสามีสามัญชนนาม เมิ่งซิ่งเหวิน (เหลียงเฉาเหว่ย) ที่ประกอบอาชีพพ่อค้าเร่ ทั้งสองใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตามอัตภาพโดยหญิงสาว ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า สามีของนางไม่ได้เพียงเป็นวรยุทธ แต่ยังเป็นหนึ่งใน ยอดฝีมือแห่งแผ่นดิน เมิ่งซิ่งเหวินยอดมือสังหารที่ผู้คนหวั่นเกรง เขากับพี่น้องร่วมสาบาน (แสดงโดย ดอนนี่ เยน และ มิเชล โหย่ว) ปฏิบัติงานครั้งใดยากที่จะล้มเหลว และแล้ว เมิ่งซิ่งเหวิน ก็ได้รับมอบภารกิจครั้งใหม่จากพี่ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการรับงาน เขาได้รับคำสั่งให้แฝงตัวเข้าไปในสำนักใหญ่แห่งหนึ่ง เพื่อสังหารเจ้าสำนักผู้ยิ่งใหญ่ สิ่งที่เมิ่งซิ่งเหวินไม่คาดคิดก็คือ เขาได้พบกับอดีตของตัวเองที่นี่ กับพี่น้องที่พลัดพลากไปนาน น้องสาวที่สูญหาย ที่ขณะนี้กลับกลายมาเป็น หญิงสาวข้างกายของเจ้าสำนัก เป้าหมายในการสังหารในครั้งนี้นั่นเอง
ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ เป็นนิยายคลาสสิค ที่ถูกนำมาดัดแปลงอีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะใน รูปแบบ ทีวีซีรีย์ แม้กระทั่งวีดิโอเกม ก็เป็นมาแล้ว
พายุดาบดวลสะท้านฟ้า (The Duel)
หนังปี 2000 ต้อนรับยุคแห่งสหัสวรรษกันเลย นี่คืออีกเรื่องที่ระดมนักแสดงชั้นนำมากมายเช่นกัน ในยุคราชวงศ์หมิง เมื่อข่าวการประลองยุทธระหว่าง 2 สุดยอดฝีมือ ไซมึ้งซวยเสาะ (เจิ้ง อี้เจี้ยน) กับ เฮี๊ยบโกวเซี๊ยะ (หลิว เต๋อหัว) แพร่กระจายไปทั่วยุทธภพ ส่งผลให้มีการพูดถึงการเดิมพันผลแพ้ชนะกันอย่างกว้างขวาง เมื่อข่าวดังกล่าวล่วงรู้ถึงหูของทางการ ทางการจึงได้ส่งองครักษ์เสื้อทอง เล็กเซียวหงส์ หรือ หลงหลิงจิ่ว (และองครักษ์หญิง จินเยี่ยนจื่อ ไปยับยั้งการประลองยุทธ แต่ในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับมายังปักกิ่ง หลงหลงจิ่ว ได้พบเฮี๊ยบโกวเซี๊ยะถูกทำร้ายบาดเจ็บ หลงหลงจิ่ว ได้พาเขามารักษาในที่ซ่อนลับ และทำให้ จินเยี่ยนจื่อ มีใจให้กับเฮี๊ยบโกวเซี๊ยะ ขณะที่ หลงหลงจิ่ว สืบพบความไม่ชอบมาพากลของการประลองในครั้งนี้ เขาต้องหาทางหยุดการประลองก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ตัวหนังมีการแทรกมุกตลกสไตล์ หวังจิง อยู่ด้วย เนื่องเพราะเขาเป็นผู้สร้างเรื่องนี้ แต่ยังดีว่าหนังได้ หลิวเหว่ยเฉียง หรือ แอนดรู เลา มากำกับ ไม่อย่างนั้น ตัวหนังอาจจะออกทะเลไปกว่านี้ก็ได้
ดาบปราบเทวดา (Sword Master)
และปีนี้ ปี 2016 จะเป็นการกลับมาของหนังกำลังภายใน ที่สร้างจากนิยายลือชื่ออย่าง ”ซาเสี่ยวเอี้ ย” เป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งสำหรับยุคใหม่ของหนังกำลังภายในก็ว่าได้ ดาบปราบเทวดา (Sword Master) มีชื่อของ เอ๋อตงเซิน เป็นผู้กำกับ โดยที่ตัวเขาเองเคยรับบทเป็น ซาเสียวเอี้ ย มาแล้วใน Death Duel (ศึกล้างเจ้ายุทธจักร) เมื่อปี 1977 จึงเป็นการนำนิยาย”ซาเสี่ยวเอี้ ย”กลับมาบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง
เรื่องราวของ คุณชายสาม ยอดกระบี่มือหนึ่งของบู๋ลิ้ม เจ้าสำนักแห่งหมู่บ้านกระบี่เทวดา ที่สละชีวิต เกียรติยศ และชื่อเสียง เร้นกายอยู่ท่ามกลางผู้คนกลายเป็น อากิก บุรุษผู้ซึ่งยอมทำทุกอย่างเพื่อแค่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ก็มิวายตกเป็นเป้าหมายของจอมยุทธทั่วยุทธจักร
หลังจากมีข่าวการสร้าง “ซาเสี่ยวเอี้ ย” ก็มีการประกาศสร้างหนังกำลังภายในจากนิยายที่มีชื่อเสียงตามออกมาแล้ว อย่างเช่น Moonlight Blade ที่ดัดแปลงจาก นิยาย อินทรีผงาดฟ้า ของ “โก้วเล้ง” หรือชื่อที่ใช้ในฉบับซีรีย์ ฤทธิ์ดาบวงพระจันทร์ และ นิยายอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล มังกรหยก ก็ถูกประกาศสร้างแล้ว เช่นกัน
“โก้วเล้ง” ถือเป็น ปรมาจารย์นิยายกำลังภายในตัวจริง ผลงานของเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักสร้างภาพยนตร์มากมาย ผลงานแต่ละเรื่องที่ปรมาจารย์นักเขียนผู้นี้ฝากไว้ล้วนแล้วแต่มีตัวละครที่โดดเด่นและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะใน “ซาเสี่ยวเอี้ ย” โก้วเล้งเขียนถึงชีวิตชาวยุทธจักรได้อย่างมีเลือดเนื้อ ชาวยุทธจักรที่ทั้งกล้ารักและกล้าแค้น กล้าร่ำไห้ กล้าหัวเราะ ยึดมั่นในหลักที่ว่า บุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ ทำให้หนังสือเล่มนี้โดดเด่นสมกับเป็นหนึ่งในผลงานเลื่องชื่อของมังกรผู้ล่วงลับ