เคยเป็นกันไหมครับ บางทีเราซื้อหุ้น และคิดว่าหุ้นนี้มันต้องขึ้นแน่ ๆ
(ใช่สิ ถ้าไม่คิดว่าจะขึ้น แล้วจะซื้อทำไม จริงไหมครับ 555)
แต่บางคนเป็นหนักกว่านั้นครับ
คือเริ่มมีความเชื่อว่าเราสามารถ “ควบคุม” การเคลื่อนไหวของหุ้นได้
เช่นการเลือกซื้อหุ้นในวันเวลาต่าง ๆ แล้วคิดว่าการซื้อหุ้นในวันเวลานั้น ๆ มันจะได้ราคาต่ำสุด
หรือการเลือกขายหุ้นในวันเวลาต่าง ๆ เพียงเพราะเชื่อว่าการขายหุ้นในวันเวลาเหล่านั้น มันจะขายได้ราคาสูงสุด
ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เราไม่สามารถควบคุมได้เลย และมันคือการสุ่มดี ๆ นี่เอง
อาการแบบนี้เราเรียกว่า Illusion of control ครับ
คำ ๆ นี้ได้ถูกตั้งชื่อจากนักจิตวิทยาที่ชื่อว่า Ellen Langer โดยในปี 1975 ทีมวิจัยของ Ellen Langer ได้ทำการทดลองโดยให้ผู้เข้าร่วมการทดลองโยนเหรียญ และให้ทำนายก่อนการโยนว่าจะออกหัวหรือก้อย
ในการทดลองนี้ได้มีการ Set Up ให้คนทาย ทายถูก 50% แต่กลุ่มแรก จะให้ทายถูกติด ๆ กันในการโยนช่วงแรก แต่อีกกลุ่มหนึ่ง จะทายถูกบ้าง ผิดบ้างสลับกัน
จากผลการทดลองพบว่า กลุ่มแรกที่ทายถูกติด ๆ กันนั้น จะมีความคิดว่าเขามีความสามารถในการทายเหรียญ หรือเรียกง่าย ๆ คือเขาคิดว่าเขาสามารถ “ควบคุม” สิ่งนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่มันคือเรื่องของความน่าจะเป็นล้วน ๆ
อย่างนี้แหละครับ
บางที ถ้าเราเริ่มมีความคิดว่าเราสามารถมีอิทธิพลกับราคาหุ้นในตลาดเมื่อไรล่ะก็
ผมว่าถึงเวลาที่เราควรจะหยุดซื้อขายหุ้นสักพักแล้วล่ะครับ
ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับความลำเอียงในการตัดสินใจได้ที่
https://www.facebook.com/DataAnalysisforDecisionMaking/
ความลำเอียงในการตัดสินใจลงทุน: หุ้นนี้ เรา “เอาอยู่” (Illusion of control)
(ใช่สิ ถ้าไม่คิดว่าจะขึ้น แล้วจะซื้อทำไม จริงไหมครับ 555)
แต่บางคนเป็นหนักกว่านั้นครับ
คือเริ่มมีความเชื่อว่าเราสามารถ “ควบคุม” การเคลื่อนไหวของหุ้นได้
เช่นการเลือกซื้อหุ้นในวันเวลาต่าง ๆ แล้วคิดว่าการซื้อหุ้นในวันเวลานั้น ๆ มันจะได้ราคาต่ำสุด
หรือการเลือกขายหุ้นในวันเวลาต่าง ๆ เพียงเพราะเชื่อว่าการขายหุ้นในวันเวลาเหล่านั้น มันจะขายได้ราคาสูงสุด
ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เราไม่สามารถควบคุมได้เลย และมันคือการสุ่มดี ๆ นี่เอง
อาการแบบนี้เราเรียกว่า Illusion of control ครับ
คำ ๆ นี้ได้ถูกตั้งชื่อจากนักจิตวิทยาที่ชื่อว่า Ellen Langer โดยในปี 1975 ทีมวิจัยของ Ellen Langer ได้ทำการทดลองโดยให้ผู้เข้าร่วมการทดลองโยนเหรียญ และให้ทำนายก่อนการโยนว่าจะออกหัวหรือก้อย
ในการทดลองนี้ได้มีการ Set Up ให้คนทาย ทายถูก 50% แต่กลุ่มแรก จะให้ทายถูกติด ๆ กันในการโยนช่วงแรก แต่อีกกลุ่มหนึ่ง จะทายถูกบ้าง ผิดบ้างสลับกัน
จากผลการทดลองพบว่า กลุ่มแรกที่ทายถูกติด ๆ กันนั้น จะมีความคิดว่าเขามีความสามารถในการทายเหรียญ หรือเรียกง่าย ๆ คือเขาคิดว่าเขาสามารถ “ควบคุม” สิ่งนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่มันคือเรื่องของความน่าจะเป็นล้วน ๆ
อย่างนี้แหละครับ
บางที ถ้าเราเริ่มมีความคิดว่าเราสามารถมีอิทธิพลกับราคาหุ้นในตลาดเมื่อไรล่ะก็
ผมว่าถึงเวลาที่เราควรจะหยุดซื้อขายหุ้นสักพักแล้วล่ะครับ
ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับความลำเอียงในการตัดสินใจได้ที่ https://www.facebook.com/DataAnalysisforDecisionMaking/