มาถึงตอนนี้ .... ผมมองไม่เห็นทาง(ออก) ว่า ธัมมชโย จะดำเนินชีวิตอยู่อย่างไร..... เพราะการอยู่ในที่คุมขังตัวเอง คือ วิบากกรรม ที่น่าเศร้า!
ออกสื่อ..ออกสังคม..แม้นแต่ ออกไปไหนก็ไม่ได้เพราะเกรงว่า เจ้าหน้าที่จะจับกุม.... ดูและ ทุกขเวทนาธรรม จริงๆ
ทางออกที่มองเห็นจากความเป็นจริงอันใกล้คือ รัฐบาลและประเทศนี้คงไม่ยอมให้ใครสามารถใช้ความเป็นพิเศษ หนีกฎหมายไปได้
ดังนั้น "ช้าเป็นการ..นานเป็นคุณ" อาจกลายเป็นโบราณภาษิตที่ กลับไปเข้าทางฝ่ายบ้านเมืองและกฎหมาย เพราะคนที่กำลังร้อนรนและเครียดจนน้ำตาลแทบปริ คงไม่ได้เป็น DSI, ตำรวจ หรือ รัฐบาล
อายุความ 15 ปี และต่อไปอีกหลายปีในคดีอื่น ๆ รวมความอาจเกิน 20 ปี ..... ตำรวจมีแค่คุมไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปจากคุกคลองสาม แค่นี้ หลับตานึกก็พอจะเห็นว่า ทุกข์หนอ ๆ นั้นมันเกิดกับใคร
นี่ถ้าลดตัวตน....ปลดอัตตาลงบ้าง ยอมมอบตัวตั้งแต่แรกเมื่อครั้งอำนาจอยู่ในมือของ DSI ป่านนี้ก็ยังออกสภาธรรม เจื้อยแจ้วได้เหมือนเดิม
แต่เพราะ "กลัว" จน "เกินการณ์" และความมีมานะในมิจฉาทิฐิมาก ยิ่งทำให้เวลาของการครองผ้า...ยิ่งลดน้อยถอยไปทุกที
พระทัตตชีโว เป็นตัวอย่าง ของกลศึก ตัดแข้งตัดขา เพื่อให้รูปอื่นๆ ได้ระมัดระวัง ...เพราะขืนทำตัวแทนจำเลยมาต่อรองโน่นนี่เกินกว่าคำว่า "ช่วยประสาน" งานมันจะเข้าตัว
หมายค้น....ออก นั่นหมายความว่า "ยังอยู่!" ดังนั้น เที่ยวนี้ วัดต้องอำนวยความสะดวก เปิดทางให้ตลอด.... เพราะขืนนั่งขวาง ทั้งที่วัดสามารถควบคุมได้แต่กลับไม่ทำ...และอ้างว่า เพราะโยมไม่ยอม ....งานนี้ พระเริ่มร่อยหรอไปทีละรูปสองรูป
กฎหมายควบคุมฝูงชนมีมากมายก่ายกอง...เจ้าหน้าที่เค้าไม่ได้กลัว เพราะเมื่อจำเป็นสั่งควบคุมการเข้าออก..ประกาศให้คนออกภายในกำหนดกี่วัน ฯลฯ เหล่านี้ทำได้ทุกอย่าง .... เพียงแต่ รอวันวอเวลาณอ เท่านั้น
ผมเห็นใจท่าน ๆ สานุศิษย์ที่ติดหลวงพ่อ.... มากกว่าติด พุทธธรรม ดังนั้น ....ขอให้ทำใจว่า เมื่อยิดติดบุคคล ก็ต้องทนเสียใจ เมื่อทุกสิ่งมันเกิดขึ้นตั้งอยู่หรือแม้นแต่ "เข้าคุกไป"
คอยจับตา หมายค้นนะ ............. และคอยจับตาว่า ฝ่าย "นะจ๊ะ" จะเอาอะไรมาสู้.......
มาช่วยกันลุ้นให้สุด ๆ ................. ว่า ภาคปราบคลองสาม กับ ฝ่ายปราบของรัฐ ใครจะอยู่...ใครจะเผ่น!
เตรียมออกหมายค้น ถึงเวลา "ปล้นหัวใจ" นะจ๊ะ
ออกสื่อ..ออกสังคม..แม้นแต่ ออกไปไหนก็ไม่ได้เพราะเกรงว่า เจ้าหน้าที่จะจับกุม.... ดูและ ทุกขเวทนาธรรม จริงๆ
ทางออกที่มองเห็นจากความเป็นจริงอันใกล้คือ รัฐบาลและประเทศนี้คงไม่ยอมให้ใครสามารถใช้ความเป็นพิเศษ หนีกฎหมายไปได้
ดังนั้น "ช้าเป็นการ..นานเป็นคุณ" อาจกลายเป็นโบราณภาษิตที่ กลับไปเข้าทางฝ่ายบ้านเมืองและกฎหมาย เพราะคนที่กำลังร้อนรนและเครียดจนน้ำตาลแทบปริ คงไม่ได้เป็น DSI, ตำรวจ หรือ รัฐบาล
อายุความ 15 ปี และต่อไปอีกหลายปีในคดีอื่น ๆ รวมความอาจเกิน 20 ปี ..... ตำรวจมีแค่คุมไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปจากคุกคลองสาม แค่นี้ หลับตานึกก็พอจะเห็นว่า ทุกข์หนอ ๆ นั้นมันเกิดกับใคร
นี่ถ้าลดตัวตน....ปลดอัตตาลงบ้าง ยอมมอบตัวตั้งแต่แรกเมื่อครั้งอำนาจอยู่ในมือของ DSI ป่านนี้ก็ยังออกสภาธรรม เจื้อยแจ้วได้เหมือนเดิม
แต่เพราะ "กลัว" จน "เกินการณ์" และความมีมานะในมิจฉาทิฐิมาก ยิ่งทำให้เวลาของการครองผ้า...ยิ่งลดน้อยถอยไปทุกที
พระทัตตชีโว เป็นตัวอย่าง ของกลศึก ตัดแข้งตัดขา เพื่อให้รูปอื่นๆ ได้ระมัดระวัง ...เพราะขืนทำตัวแทนจำเลยมาต่อรองโน่นนี่เกินกว่าคำว่า "ช่วยประสาน" งานมันจะเข้าตัว
หมายค้น....ออก นั่นหมายความว่า "ยังอยู่!" ดังนั้น เที่ยวนี้ วัดต้องอำนวยความสะดวก เปิดทางให้ตลอด.... เพราะขืนนั่งขวาง ทั้งที่วัดสามารถควบคุมได้แต่กลับไม่ทำ...และอ้างว่า เพราะโยมไม่ยอม ....งานนี้ พระเริ่มร่อยหรอไปทีละรูปสองรูป
กฎหมายควบคุมฝูงชนมีมากมายก่ายกอง...เจ้าหน้าที่เค้าไม่ได้กลัว เพราะเมื่อจำเป็นสั่งควบคุมการเข้าออก..ประกาศให้คนออกภายในกำหนดกี่วัน ฯลฯ เหล่านี้ทำได้ทุกอย่าง .... เพียงแต่ รอวันวอเวลาณอ เท่านั้น
ผมเห็นใจท่าน ๆ สานุศิษย์ที่ติดหลวงพ่อ.... มากกว่าติด พุทธธรรม ดังนั้น ....ขอให้ทำใจว่า เมื่อยิดติดบุคคล ก็ต้องทนเสียใจ เมื่อทุกสิ่งมันเกิดขึ้นตั้งอยู่หรือแม้นแต่ "เข้าคุกไป"
คอยจับตา หมายค้นนะ ............. และคอยจับตาว่า ฝ่าย "นะจ๊ะ" จะเอาอะไรมาสู้.......
มาช่วยกันลุ้นให้สุด ๆ ................. ว่า ภาคปราบคลองสาม กับ ฝ่ายปราบของรัฐ ใครจะอยู่...ใครจะเผ่น!