เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 20 ที่ผ่านมา ตอนเช้า 7.30 น.
เราลุกขึ้นมาเพราะอยากเข้าห้องน้ำ พอถึงหน้าห้องน้ำเจอพ่อ นอนตะแคงหลับตาอยู่ที่พื้นหน้าโถส้วม ที่เห็นเพราะเวลาแกฉี่จะไม่ปิดประตู เราจึงตะโกนถามว่าพ่อไปนอนอะไรตรงนั้น(ที่ถามก่อนเพราะแกเคยหลับในห้องน้ำ แกขี้เมา)แต่แกกลับตอบด้วยน้ำเสียงฟังไม่ชัด ปากเบี้ยว ตัวแข็ง ว่ามันชา มาฉี่แล้วมันชาลุกไม่ขึ้น เราเลยรีบเรียก แม่ แฟน น้องชายมาช่วยกันพยุง แกพูดแบบวนไปวนมา ว่ามันชา ซีกซ้ายทั้งตัว ปวดหัวมาก เอามือทุบหัวตัวเอง มีอาการเสลดพันคอ น้ำลายไหล ปากเบี้ยว กลืนไม่ได้ เลยรีบพาไปโรงบาล พยาบาลช่วยกันดูดเสลด พาไปเอ็กซเรย์ร่างกาย และแสกนสมอง ตอนที่เขาเข็นรถพ่อออกมาจากห้องฉุกเฉิน พ่อเราเริ่มเพ้อ เสียงพูดจับประเด็นไม่ได้ ไปเอ็กซเรย์ร่างกายก่อน พอจะเข้าอีกห้องเพื่อสแกนสมอง พ่อเริ่มไม่พูด ขาแขนข้างที่ยังใช้งานได้ส่ายไปมา พออกจากห้องสแกนสมอง พ่อนอนนิ่ง มีเสียงคล้ายเสียงกรนในลำคอ พยาบาล เข็นพ่อและวิ่งเข้าไปห้องฉุกเฉิน ซึ่งตอนนั้นเราเข้าใจว่าพ่อหลับ ซักพักหมอเรียกเราไปคุย และบอกว่าพ่อเราไม่สามารถหายใจด้วยตัวเอง ต้องใช้เครื่องช่วย เราจะอนุญาติไหม เราเลยตกลง จากนั้นพ่อก็อยู่กับเครื่องช่วยหายใจ ไม่รู้สึกตัว พอผลสแกนสมองออกปรากฏว่า เส้นเลือดในสมองแตกเลือดออกเยอะมาก ประมานครึ่งหนึ่งของศีรษะเกิดจากความดันสูง พ่อเป็นมานานแล้ว แต่ไม่รู้ตัว เพราะไม่เคยเข้าโรงบาล ซึ่งหมอพิจารณาว่า อยู่ในภาวะอันตรายมากอาจจะทำให้เสียชีวิตทันทีหากไม่ผ่า แต่หมอตรวจพบอีกว่าเกร็ดเลือดพ่อต่ำ วัดได้ประมาน60,000-70,000ลูกบาศก์มิลลิเมตรซึ่งต้องมีถึง150,000ลูกบาศก์มิลลิเมตร ถึงสามารถผ่าได้ หมอพิจารณาให้เกร็ดเลือด แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนร่างกายพ่อไม่ตอบสนองกับเกร็ดเลือดที่ให้ไป หมอยอกไตพ่อไม่ทำงาน อวัยวะภายในอะไรบ้างไม่รู้ที่ผิดปกติ(เราไม่แน่ใจ)ทำให้ไรับเกร็ดเลือด และร่างกายก็ไม่สามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง ตอนนั้นหมอมีทางเลือกให้เรา 2 ทาง คือ1.ไม่ผ่า รอเกร็ดเลือดสร้างตัวเองซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ แล้วค่อยผ่า ถ้ารอนานก็สมองบวมผ่าไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งอาจจะเสียชีวิตเร็วๆนี้ หมอให้ชีวิตพ่อ5% 2.เสี่ยงผ่า ซึ่งหมอบอกว่าอาจจะเสียขณะผ่า หรืออาจจะรอดแต่เป็นเจ้าชายนิทราแน่นอน โอกาสจะฟื้นเป็น0 ให้คะแนนความรู้สึกพ่อ4เต็ม15 เราเลยตัดสินใจไม่ผ่า หมอเลยเอาเกร็ดเลือดมาให้อีก จากวันที่ 20-21ประมาน7ถุง แต่ร่างกายพ่อก็ยังไม่ตอบสนองหมอจึงหยุด ตอนเย็นวันที่21 หมอเข้าตรวจม่านตาพ่อ และบอกว่าม่านตาปิดแล้วนะ จะผ่าหรือไม่ผ่า ถ้าผ้ามีโอกาสเหมือนเดิม คือเจ้าชายนิทรา หรือเสียชีวิตขณะผ่า ถ้าไม่ผ่า หมอไม่รับประกันใดๆทั้งสิ้น เพราะเลือดไหลมาอีกซีกแล้ว ไหลลงตา เรากับแม่ปรึกษากัน แม่บอกไม่ผ่าเพราะพ่อจะทรมาน ปล่อยให้พ่อไปสบาย ไม่อนุญาติให้ปั้มหัวใจหากหัวใจเต้นอ่อนลง ไม่อนุญาติให้ยาเพิ่มความดันหากความดันลดลงอย่างรวดเร็ว คือแม่ปล่อยแล้วตอนนี้ ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ พ่อยังนอนใส่ท่อหายใจ ตาปูดและหลับไม่สนิท ไม่ตอบสนองใดๆ กระตุกบ้างตั้งแต่เมื่อคืน ร่างกายช่วงบนร้อนมาก ต้องเช็ดตัวตลอดเวลา ช่วงล่างตั้งแต่สะโพกลงมาเย็นเยือกและซีด เรากับแม่ทำใจกันแล้ว แม่เข้าใจและเข้มแข็ง ตอนนี้รอหมอมาตรวจอีกครั้งคาดว่าจะช่วงบ่าย แต่เรามีข้อสงสัยและได้ทราบอะไรบางอย่างจากหมอคนที่ใส่ท่อให้พ่อ ว่าพ่อได้เสียชีวิตตั้งแต่ตอนหายใจด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว แต่หมอใส่ท่อเข้าไป จึงอยู่ได้ถึงตอนนี้ คำถามเราคือ
1.หมอบอกม่านตาพ่อปิดนั่นแสดงว่าสมองพ่อเราตายแล้ว คือเสียชีวิตแล้วใช่ไหม
2.หากปล่อยให้พ่อนอนแบบนี้ ไม่ผ่า พ่อมีโอกาสที่จะดีขึ้นกว่านี้ อาจจะเป็นเจ้าชายนิทราไปตลอด หรือนอนรอเสียชีวิตอย่างเดียว
3.ถ้าเราตัดสินใจผ่าตั้งแต่แรก ยังไงก็เสียชีวิตใช่ไหม เพราะเกร็ดเลือดพ่อต่ำ เพราะตอนนี้พี่สาวพ่อยังคงอยากให้ผ่าแต่แม่เราปฏิเสธ
4.อาการกระตุก หายใจขัดๆกระตุกๆ ช่วงบนร้อน ช่วงล่างเย็น คือสัญญาณอะไร
ปล.ตอนนี้เรากับแม่ทำใจแล้ว รอแค่หมอเข้าตรวจ หากคำตอบหมอคือ0 แม่จะช่วยให้พ่อไปสบาย แกไม่อยากให้พ่อทรมาน และที่เราถามเพราะเราถามหมอเกี่ยวกับข้อสงสัยเราทั้งหมดแล้ว แต่หมอไม่ยอมตอบเราตรงๆพูดวกไปวนมา ไม่ยอมตอบ และพี่เราที่เป็นพยาบาลที่อื่น บอกว่ามันคือจรรญาบรรณแพทย์ หมอเขารู้ว่ายังไงก็ไม่รอด แต่ที่ต้องถามว่าผ่าไม่ผ่ามันเป็นสิทธิ์การตัดสินใจของญาติ
เรื่องนี้คือบทเรียนราคาแพงของครอบครัวเรา เพราะที่ผ่านมาพ่อดื่มเบียร์หนักจนแทนน้ำ ไม่เคยตรวจสุขภาพ ไม่ค่อยดูแลตัวเอง หากรู้ทันว่าพ่อความดันสูงเราสามารถป้องกันได้
ขอบคุณค่ะ
พ่อเส้นเลือดในสมองแตกอยากเล่าเหตุการณ์ และมีเรื่องที่สัยสัยรบกวนผู้รู้ค่ะ
เราลุกขึ้นมาเพราะอยากเข้าห้องน้ำ พอถึงหน้าห้องน้ำเจอพ่อ นอนตะแคงหลับตาอยู่ที่พื้นหน้าโถส้วม ที่เห็นเพราะเวลาแกฉี่จะไม่ปิดประตู เราจึงตะโกนถามว่าพ่อไปนอนอะไรตรงนั้น(ที่ถามก่อนเพราะแกเคยหลับในห้องน้ำ แกขี้เมา)แต่แกกลับตอบด้วยน้ำเสียงฟังไม่ชัด ปากเบี้ยว ตัวแข็ง ว่ามันชา มาฉี่แล้วมันชาลุกไม่ขึ้น เราเลยรีบเรียก แม่ แฟน น้องชายมาช่วยกันพยุง แกพูดแบบวนไปวนมา ว่ามันชา ซีกซ้ายทั้งตัว ปวดหัวมาก เอามือทุบหัวตัวเอง มีอาการเสลดพันคอ น้ำลายไหล ปากเบี้ยว กลืนไม่ได้ เลยรีบพาไปโรงบาล พยาบาลช่วยกันดูดเสลด พาไปเอ็กซเรย์ร่างกาย และแสกนสมอง ตอนที่เขาเข็นรถพ่อออกมาจากห้องฉุกเฉิน พ่อเราเริ่มเพ้อ เสียงพูดจับประเด็นไม่ได้ ไปเอ็กซเรย์ร่างกายก่อน พอจะเข้าอีกห้องเพื่อสแกนสมอง พ่อเริ่มไม่พูด ขาแขนข้างที่ยังใช้งานได้ส่ายไปมา พออกจากห้องสแกนสมอง พ่อนอนนิ่ง มีเสียงคล้ายเสียงกรนในลำคอ พยาบาล เข็นพ่อและวิ่งเข้าไปห้องฉุกเฉิน ซึ่งตอนนั้นเราเข้าใจว่าพ่อหลับ ซักพักหมอเรียกเราไปคุย และบอกว่าพ่อเราไม่สามารถหายใจด้วยตัวเอง ต้องใช้เครื่องช่วย เราจะอนุญาติไหม เราเลยตกลง จากนั้นพ่อก็อยู่กับเครื่องช่วยหายใจ ไม่รู้สึกตัว พอผลสแกนสมองออกปรากฏว่า เส้นเลือดในสมองแตกเลือดออกเยอะมาก ประมานครึ่งหนึ่งของศีรษะเกิดจากความดันสูง พ่อเป็นมานานแล้ว แต่ไม่รู้ตัว เพราะไม่เคยเข้าโรงบาล ซึ่งหมอพิจารณาว่า อยู่ในภาวะอันตรายมากอาจจะทำให้เสียชีวิตทันทีหากไม่ผ่า แต่หมอตรวจพบอีกว่าเกร็ดเลือดพ่อต่ำ วัดได้ประมาน60,000-70,000ลูกบาศก์มิลลิเมตรซึ่งต้องมีถึง150,000ลูกบาศก์มิลลิเมตร ถึงสามารถผ่าได้ หมอพิจารณาให้เกร็ดเลือด แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนร่างกายพ่อไม่ตอบสนองกับเกร็ดเลือดที่ให้ไป หมอยอกไตพ่อไม่ทำงาน อวัยวะภายในอะไรบ้างไม่รู้ที่ผิดปกติ(เราไม่แน่ใจ)ทำให้ไรับเกร็ดเลือด และร่างกายก็ไม่สามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง ตอนนั้นหมอมีทางเลือกให้เรา 2 ทาง คือ1.ไม่ผ่า รอเกร็ดเลือดสร้างตัวเองซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ แล้วค่อยผ่า ถ้ารอนานก็สมองบวมผ่าไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งอาจจะเสียชีวิตเร็วๆนี้ หมอให้ชีวิตพ่อ5% 2.เสี่ยงผ่า ซึ่งหมอบอกว่าอาจจะเสียขณะผ่า หรืออาจจะรอดแต่เป็นเจ้าชายนิทราแน่นอน โอกาสจะฟื้นเป็น0 ให้คะแนนความรู้สึกพ่อ4เต็ม15 เราเลยตัดสินใจไม่ผ่า หมอเลยเอาเกร็ดเลือดมาให้อีก จากวันที่ 20-21ประมาน7ถุง แต่ร่างกายพ่อก็ยังไม่ตอบสนองหมอจึงหยุด ตอนเย็นวันที่21 หมอเข้าตรวจม่านตาพ่อ และบอกว่าม่านตาปิดแล้วนะ จะผ่าหรือไม่ผ่า ถ้าผ้ามีโอกาสเหมือนเดิม คือเจ้าชายนิทรา หรือเสียชีวิตขณะผ่า ถ้าไม่ผ่า หมอไม่รับประกันใดๆทั้งสิ้น เพราะเลือดไหลมาอีกซีกแล้ว ไหลลงตา เรากับแม่ปรึกษากัน แม่บอกไม่ผ่าเพราะพ่อจะทรมาน ปล่อยให้พ่อไปสบาย ไม่อนุญาติให้ปั้มหัวใจหากหัวใจเต้นอ่อนลง ไม่อนุญาติให้ยาเพิ่มความดันหากความดันลดลงอย่างรวดเร็ว คือแม่ปล่อยแล้วตอนนี้ ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ พ่อยังนอนใส่ท่อหายใจ ตาปูดและหลับไม่สนิท ไม่ตอบสนองใดๆ กระตุกบ้างตั้งแต่เมื่อคืน ร่างกายช่วงบนร้อนมาก ต้องเช็ดตัวตลอดเวลา ช่วงล่างตั้งแต่สะโพกลงมาเย็นเยือกและซีด เรากับแม่ทำใจกันแล้ว แม่เข้าใจและเข้มแข็ง ตอนนี้รอหมอมาตรวจอีกครั้งคาดว่าจะช่วงบ่าย แต่เรามีข้อสงสัยและได้ทราบอะไรบางอย่างจากหมอคนที่ใส่ท่อให้พ่อ ว่าพ่อได้เสียชีวิตตั้งแต่ตอนหายใจด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว แต่หมอใส่ท่อเข้าไป จึงอยู่ได้ถึงตอนนี้ คำถามเราคือ
1.หมอบอกม่านตาพ่อปิดนั่นแสดงว่าสมองพ่อเราตายแล้ว คือเสียชีวิตแล้วใช่ไหม
2.หากปล่อยให้พ่อนอนแบบนี้ ไม่ผ่า พ่อมีโอกาสที่จะดีขึ้นกว่านี้ อาจจะเป็นเจ้าชายนิทราไปตลอด หรือนอนรอเสียชีวิตอย่างเดียว
3.ถ้าเราตัดสินใจผ่าตั้งแต่แรก ยังไงก็เสียชีวิตใช่ไหม เพราะเกร็ดเลือดพ่อต่ำ เพราะตอนนี้พี่สาวพ่อยังคงอยากให้ผ่าแต่แม่เราปฏิเสธ
4.อาการกระตุก หายใจขัดๆกระตุกๆ ช่วงบนร้อน ช่วงล่างเย็น คือสัญญาณอะไร
ปล.ตอนนี้เรากับแม่ทำใจแล้ว รอแค่หมอเข้าตรวจ หากคำตอบหมอคือ0 แม่จะช่วยให้พ่อไปสบาย แกไม่อยากให้พ่อทรมาน และที่เราถามเพราะเราถามหมอเกี่ยวกับข้อสงสัยเราทั้งหมดแล้ว แต่หมอไม่ยอมตอบเราตรงๆพูดวกไปวนมา ไม่ยอมตอบ และพี่เราที่เป็นพยาบาลที่อื่น บอกว่ามันคือจรรญาบรรณแพทย์ หมอเขารู้ว่ายังไงก็ไม่รอด แต่ที่ต้องถามว่าผ่าไม่ผ่ามันเป็นสิทธิ์การตัดสินใจของญาติ
เรื่องนี้คือบทเรียนราคาแพงของครอบครัวเรา เพราะที่ผ่านมาพ่อดื่มเบียร์หนักจนแทนน้ำ ไม่เคยตรวจสุขภาพ ไม่ค่อยดูแลตัวเอง หากรู้ทันว่าพ่อความดันสูงเราสามารถป้องกันได้
ขอบคุณค่ะ