ตอนที่ 52 อาหารภาคกลาง

เมนูที่ 6   สะเดาน้ำปลาหวานแนมด้วยปลานิลทอด







ถึงแม้ว่าสิเลยช่วงที่ผักกะเดาออกดอกออกใบมาแล้ว

แต่ยามบักอ้ายไปตลาดกะยังเห็นว่าพอมีผักกะเดาวางขายอยู่คือกัน

มื้อนี้ไปตลาดแล้วเห็นแนมเห็นยอดงามๆของผักกะเดาแม้

กะเลยอดใจบ่ได้ ซื้อมากำหนึ่ง



พอซื้อมาแล้วกะมานั่งคึดว่าสิเห็นแนวกินอีหยังดีน้อ

ตอนที่บักอ้ายเป็นเด็กน้อยอีแม่เลากะมักสิเอาใบอ่อนๆของมันมาปิ้งจ้ำป่นจ้ำแจ่ว

รสชาติมันกะสิขมๆกรอบๆ แซ่บดีอยู่ แต่คันสิเอามาปิ้งไฟแบบนั้น

แนมเบิ่งแล้วมันกะมีแต่ดอกเนาะสูบ่มีใบเด้ล่ะ อีกทั้งบักอ้าย

กะเฮ็ดป่นนำเสนอมาหลายเทื่อแล้ว ย่านคะเจ้าสิหน่ายแม้


“อยากกินสะเดาน้ำปลาหวาน”เสียงเอิ้นสั่งมาพอดิบพอดี

คันสั่นกะให้มันลงโตที่เมนูไทยๆ จั่ง “สะเดาน้ำปลาหวาน” นี่ล่ะเนาะ


ย่อนว่าเป็นเมนูแนวกินภาคกลาง ตอนนี้บักอ้ายกะสิขอเว้าภาษากลาง

แทนภาษาอีสานบ้านเฮา

ผิดตกขออภัย ผิดใจกะขออภัยคือเก่านั่นล่ะสู




ความจริงตั้งแต่แรกบักอ้ายกะตั้งใจว่าสิเฮ็ดแต่แนวกินอีสานบ้านเฮาอย่างเดียว

แต่ว่าแฟนบักอ้ายเพิ้นเป็นคนกรุงเทพ บักอ้ายกะเลยต้องเฮ็ดแนวกินภาคกลางแน่

ภาคอีสานแน่ ภาคเหนือจักหน่อย ภาคใต้จักน้อย ปนๆกันไป

คันมักภาคได๋กะเข้ามาอ่านภาคนั่นกะแล้วกันเนาะ



บัดที่นี้สิใช้ภาษากลางแล้วเด้  คันภาษาปะกิตเพิ้นกะสิถามเจ้าว่า Are you ready? แม่นบ่

แต่บักอ้ายสิถามเจ้าง่ายๆว่า เจ้าพร้อมแล้วไป่น้อ  คันพร้อมแล้วกะไปนำกันโลด




ส่วนผสมสะเดาน้ำปลาหวาน

สะเดา
           น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
           น้ำตาลมะพร้าว 3/4 ถ้วย
           น้ำปลา 1/4 ถ้วย
           หอมแดงซอย 6 หัว
พริกแห้ง 5 เม็ด
ปลานิล 2 ตัว
น้ำมันพืช สำหรับทอดปลา
น้ำแข็ง









ปกติทั่วไปสะเดาน้ำปลาหวานมักต้องทานเคียงหรือแนมกับปลาดุกย่าง

หากแต่วันนี้ ขออนุญาตทานคู่กับปลานิลทอดแทน ถามว่าความเข้ากัน

อย่างไหนดีกว่า ก็คงต้องตอบว่า แล้วแต่ความชอบส่วนตัว แต่ถ้าถาม

บักอ้ายว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน ก็ต้องตอบว่า ปลาดุกย่างอยู่แล้ว

แต่สาเหตุที่วันนี้เลือกเป็นปลานิลทอด ก็เพราะคุณเขาอยากทาน (เหตุผลง่ายมาก)

ถึงบักอ้ายจะเป็นคนเข้าครัว แต่ก็ยังต้องถือคติ


“ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน”

อยู่แล้ว เพราะอย่างไรบักอ้ายก็ยังเป็นคนไทย รักภาษาไทย และประเทศไทยที่สุด






วิธีทำก็ขอเริ่มจากวิธีลวกสะเดาก่อนเลย

ต้มน้ำด้วยไฟแรงจนน้ำเดือดพล่าน ใส่สะเดาลงไปต้ม (กดสะเดาให้จมน้ำ)

ต้มประมาณ 3 นาที แล้วจึงรีบตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นจัด (น้ำใส่น้ำแข็ง)

แล้วจึงตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้






ส่วนปลานิล หลังจากที่ทำปลาแล้ว ก็ล้างให้สะอาด ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ

ก่อนนำมาทอดในน้ำมัน ให้สุกเหลือง






หลังจากนั้นก็มาเริ่มทำน้ำปลาหวาน

เอาหอมแดงมาซอย แล้วนำไปเจียว พร้อมนำพริกแห้งไปทอดให้มีกลิ่นหอม

พักเอาไว้เช่นเดียวกัน





แล้วจึงนำน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา ตามสัดส่วนที่บักอ้ายบอกเอาไว้

ตอนต้นใส่ลงในกระทะ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนข้นและเหนียว จึงยกลงจากเตา

พักทิ้งไว้พออุ่น ตักใส่ถ้วย นำหอมแดงเจียว และพริกแห้งทอด มาโรย





จัดแต่งให้ดูสวยงามน่ารับประทาน   ทั้งน้ำปลาหวาน สะเดา และปลานิลทอด

หน้าตาของอาหารก็สำคัญไม่แพ้รสชาตินะครับ

นอกจากอิ่มท้องแล้วยังต้องอิ่มใจอีกด้วย

เมื่อจัดจานจนสวยงามถูกอกถูกใจแล้ว ก็นำไปเสิร์ฟได้เลยครับผม