เจอบทความนี้มา ต่อไปเราจะโดนประเทศเพื่อนบ้านแซงถ้ายังมองว่าคนเราไม่เท่าเทียมกัน​

กระทู้สนทนา
ถือแถน ประสบโชค (พูดวิเคราะห์ดีมาก)

กรณีที่"นักพูดของพ่อ" โหนให้ตัวเองดูดีโดยการเหยียบย่ำคนอื่น และ เหยียบย่ำคนอีสาน และโดยพื้นเพของนักพูดเป็นคนใต้

หากเข้าใจพื้นเพ และเข้าใจสังคมคนใต้ เมื่อก่อนคนใต้มองคนอีสาน ไม่ต่างจากที่คนไทยมองลูกจ้างพม่า เขมร ลาว ในตอนนี้

เพราะคนอีสานเมื่อก่อนคือ ลูกจ้างรับกรีดยาง เป็นคนงานเหมือง และอีกสารพัดงานที่คนใต้ไม่ทำ

เลยเป็นความเชื่อปลูกฝังในสังคมบางส่วนที่มองว่า คนอีสานโง่ ทำได้แค่มาขายแรงงาน เคยมี สส.ประชาธิปัตย์ที่เป็นคนใต้เคยดูถูก คนเหนือ คนอีสานว่า เป็นได้แค่แม่บ้าน แค่เด็กปั๊ม แต่จำไม่ได้แล้วว่า ชื่ออะไร

คือเขาไม่เข้าใจว่า ที่เมื่อก่อนคนอีสานต้องไปขายแรงงานต่างถิ่นนั้น ไม่ใช่เขาโง่ หรือ ทำอย่างอื่นไม่ได้ หากแต่เขามีทรัพยากรที่ไม่สมบูรณ์เหมือนภาคอื่น และ เมื่อก่อนการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนากระจุกตัวอยู่แต่ในเมืองใหญ่ กับเมืองหลวง

คนอีสานเมื่อมีทรัพยากรอย่างอื่นที่จำกัด จึงใช้สิ่งที่ตนมี คือ แรงงาน และ ความอดทนต่อความยากลำบาก และการถูกเหยียดหยาม ไป"ค้ากำปั้น" ขายแรงแลกเงินเพื่อความอยู่รอดและเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

สิ่งที่ได้กลับมาพร้อมกับการขายแรงงานคือ ทักษะความชำนาญจากงานที่ตัวเองไปทำ ทุกวันนี้คนอีสานเป็นเจ้าของสวนยางพาราไม่ต่างจากคนใต้ จากกรรมกรก่อสร้างกลายเป็นผู้รับเหมา จากเด็กเสริฟท์กลายเป็นเชฟ และอีกสารพัด

แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ไม่หายไปก็คือการดูถูกและเหยียดคนอีสานของคนบางกลุ่ม ในบางภูมิภาคยังปรากฏอยู่เนืองๆ

ที่ผมพูดไม่ได้เหมารวมทั้งหมด เพราะการได้ออกมาเห็นโลก มาเห็นมาอยู่ที่อีสาน ทำให้คนในภูมิภาคที่ชอบดูถูกคนอีสานไม่อยากกลับบ้าน เพราะตอนนี้บอกตรงๆว่า อีสานเจริญกว่า ภูมิภาคของเขาในทุกๆด้าน

อยากฝากไปถึงนักพูดของพ่อ ที่พูดเรื่องพ่อเพื่อตัวเอง ว่า คนเลือกเกิดไม่ได้ว่าจะเกิดที่ไหน และชาติพันธุ์ไม่ได้บอกความเป็นมนุษย์ที่แตกต่าง

จิตใจและความนึกคิด มองคนเป็นคนที่เท่าเทียมต่างหากที่สะท้อนว่าตัวตนของเราเป็นคนเช่นไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่