เป็นลูกจ้างชั่วคราวของรัฐมา 15 ปี อยู่ๆถูกปรับเป็นจ้างเหมาบริการ ไม่เข้าใจว่า กรอบการเขียนทุกองค์กรต้องทำงานอย่างมีขวัญกำลังใจ แต่ว่าตัวผม ลาออกจากงาน เงินเดือน 11,000 เพื่อมารับเงินเดือน 4800 บาท เป็นเวลา 4 เดือนก่อนปรับเป็น 7,940 บาท เมื่อ ปี 2552 ในการทำงานที่มีระบบอินเทอร์เน็ต รร ไม่ค่อยดี ทำงานไไม่ทันก็โดนตำหนิ จนต้องซื้อ
1. เครื่องรับสัญญานอินเทอร์เน็ตเอง หรือเรียกว่าแอร์การ์ด ราคา 2,900 บาท ใช้อินเทอน็ตส่วนตัวเพราะ ทาง รร ก็ไม่มีให้เดือนละ 300 บาท
2. เครื่องปริ้นงานไม่เพียงพอต้องซื้อเอง 4,100 บาท เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน
3 เครื่องปริ้นพัง ต้องซ่อมเองแม้มาใช้งานให้หน่วยงานภาครัฐ ตลับสี 900 บาทต่อตลับ ขาวดำ 700 บาทต่อตลับ ซ่อมทั้งหมด 3 ครั้ง
4. คอมพิวเตอร์ช้า อืด ทั้งวันทำงานเอกสารได้ 2-3 หน้า อืดหมุนอยู่นั้นแหละ จนต้องออกโน๊ตบุ๊ครวมดอก 26,000 บาท
5 กิจกรรมพานักเรียนทำกิจกรรม หลายครั้งก็ออกค่าใช้จานเอง เพราะสงสารเด็กนักเรียน
6 นักเรียนก็อยากให้ได้ออกแข่งขัน ความเป็นเลิศทางวิชาการ ก็อยากให้นักเรียนดี นักเรียนเก่งเหมือน รร อื่นๆ จนได้รับรางวัลระดับภาค
7 ความเสียสละอื่น ซึ่งเชื่อว่า เราแม้เป็นลูกจ้างตำแหน่งเล็กๆ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษาขอองไทย ทำให้คนรุ่นหลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มุ่งมั่นร่วมกันกับข้าราชการครูท่านอื่น ที่ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นข้าราชการครูไปแล้ว ตลอดจนขนขวายใบประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้ได้เพื่อจะได้เป็นครู เพราะเมื่ออยู่กับรักเรียนยิ่งนานยิ่งรักอาชีพ รักองค์กร
ต่อมา ทางต้นสังกัดได้ห้ามตำแหน่งธุรการโรงเรียนไปเรียนประกาศนียบัตรบัณฑิต(วิชาชีพครู) ความก้าวหน้าของหลายๆ คนซึ่งจบเอกอื่นๆ แต่สามารถเทียบหน่วยกิตเพื่อเป็นหน่วยการเรียนรู้ที่สามารถเป็นครูได้ก็ดับลง แต่ยังรักในองค์กรการศึกษา อยู่ตั้งแต่สาววัยเอ๊าะจนแก่ชรา ศีรษะล้าน พุงโลเหมือนคนเป็นโรคตับ ภาครัฐก็เปลียนสัญญาจากลูกจ้างชั่วคราว ให้เป็นลูกจ้างเหมาบริการ ?!
คืออะไรครับท่าน งง ดิ ก็เพราะลูกจ้างชั่วคราวเวลาออกข่าว บอกไม่มีครูธุรการบ้างหละ ไม่มีนักการภารโรงบ้างหละ แต่ความสำคัญไม่มีเลย แม้กระทั่งการฉีกสัญญาจากลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งมีสิทธิขั้นพื้นฐานด้วยการลา มีประกันสังคมพอได้เป็นเงินสะสมเบี้ยยังชีพในยามชรา และสิทธิ์ในการรักษาสุขภาพ ตัดสิทธ์ที่พึงได้ ด้วยสามัญพื้นฐานของชนชาวไทย
กระนั้น เจ้านายหลายๆที่นรับปากอะไรแล้ว เหมือนตดที่ออกมาด้วยความจำเป็นที่มันกลั้นไม่ไหว แล้วไม่ใยดีต่อสภาพแวดล้อมหลังมันออกมาแล้ว แต่ความทุกข์ร้อนยังอยู่ในใจของผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งประเทศราวๆ 18,000 คน
ทุกอาชีพที่สุจริตดีเสมอ ทุกความอุตสาหะอยู่ในใจ แต่อะไรกันเล่า ถึงเปลี่ยนเราเหมือนคนไม่มีจิตใจ ไม่สร้างขวัญแล้วยังเหยียบย่ำพนักงานที่เป็นรากแก้วของพนักงานในสถานศึกษา
แต่ที่น่าสงสารยิ่งกว่าคือ นักการภารโรง อยู่มาเกิน 20 ปี ความดีคือตำแหน่งขยับลง ความมั่นคงไม่มี ขอบคุณนโยบายที่โคตรดีครับท่าน
#มาบ่นเพราะน้อยใจ
เป็นลูกจ้างชั่วคราวนานกว่า 15 ปี ปรับเป็นลูกจ้างเหมาบริการ
1. เครื่องรับสัญญานอินเทอร์เน็ตเอง หรือเรียกว่าแอร์การ์ด ราคา 2,900 บาท ใช้อินเทอน็ตส่วนตัวเพราะ ทาง รร ก็ไม่มีให้เดือนละ 300 บาท
2. เครื่องปริ้นงานไม่เพียงพอต้องซื้อเอง 4,100 บาท เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน
3 เครื่องปริ้นพัง ต้องซ่อมเองแม้มาใช้งานให้หน่วยงานภาครัฐ ตลับสี 900 บาทต่อตลับ ขาวดำ 700 บาทต่อตลับ ซ่อมทั้งหมด 3 ครั้ง
4. คอมพิวเตอร์ช้า อืด ทั้งวันทำงานเอกสารได้ 2-3 หน้า อืดหมุนอยู่นั้นแหละ จนต้องออกโน๊ตบุ๊ครวมดอก 26,000 บาท
5 กิจกรรมพานักเรียนทำกิจกรรม หลายครั้งก็ออกค่าใช้จานเอง เพราะสงสารเด็กนักเรียน
6 นักเรียนก็อยากให้ได้ออกแข่งขัน ความเป็นเลิศทางวิชาการ ก็อยากให้นักเรียนดี นักเรียนเก่งเหมือน รร อื่นๆ จนได้รับรางวัลระดับภาค
7 ความเสียสละอื่น ซึ่งเชื่อว่า เราแม้เป็นลูกจ้างตำแหน่งเล็กๆ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษาขอองไทย ทำให้คนรุ่นหลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มุ่งมั่นร่วมกันกับข้าราชการครูท่านอื่น ที่ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นข้าราชการครูไปแล้ว ตลอดจนขนขวายใบประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้ได้เพื่อจะได้เป็นครู เพราะเมื่ออยู่กับรักเรียนยิ่งนานยิ่งรักอาชีพ รักองค์กร
ต่อมา ทางต้นสังกัดได้ห้ามตำแหน่งธุรการโรงเรียนไปเรียนประกาศนียบัตรบัณฑิต(วิชาชีพครู) ความก้าวหน้าของหลายๆ คนซึ่งจบเอกอื่นๆ แต่สามารถเทียบหน่วยกิตเพื่อเป็นหน่วยการเรียนรู้ที่สามารถเป็นครูได้ก็ดับลง แต่ยังรักในองค์กรการศึกษา อยู่ตั้งแต่สาววัยเอ๊าะจนแก่ชรา ศีรษะล้าน พุงโลเหมือนคนเป็นโรคตับ ภาครัฐก็เปลียนสัญญาจากลูกจ้างชั่วคราว ให้เป็นลูกจ้างเหมาบริการ ?!
คืออะไรครับท่าน งง ดิ ก็เพราะลูกจ้างชั่วคราวเวลาออกข่าว บอกไม่มีครูธุรการบ้างหละ ไม่มีนักการภารโรงบ้างหละ แต่ความสำคัญไม่มีเลย แม้กระทั่งการฉีกสัญญาจากลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งมีสิทธิขั้นพื้นฐานด้วยการลา มีประกันสังคมพอได้เป็นเงินสะสมเบี้ยยังชีพในยามชรา และสิทธิ์ในการรักษาสุขภาพ ตัดสิทธ์ที่พึงได้ ด้วยสามัญพื้นฐานของชนชาวไทย
กระนั้น เจ้านายหลายๆที่นรับปากอะไรแล้ว เหมือนตดที่ออกมาด้วยความจำเป็นที่มันกลั้นไม่ไหว แล้วไม่ใยดีต่อสภาพแวดล้อมหลังมันออกมาแล้ว แต่ความทุกข์ร้อนยังอยู่ในใจของผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งประเทศราวๆ 18,000 คน
ทุกอาชีพที่สุจริตดีเสมอ ทุกความอุตสาหะอยู่ในใจ แต่อะไรกันเล่า ถึงเปลี่ยนเราเหมือนคนไม่มีจิตใจ ไม่สร้างขวัญแล้วยังเหยียบย่ำพนักงานที่เป็นรากแก้วของพนักงานในสถานศึกษา
แต่ที่น่าสงสารยิ่งกว่าคือ นักการภารโรง อยู่มาเกิน 20 ปี ความดีคือตำแหน่งขยับลง ความมั่นคงไม่มี ขอบคุณนโยบายที่โคตรดีครับท่าน
#มาบ่นเพราะน้อยใจ