Discrete Manufacturing VS Process Manufacturing และการหา ERP มาใช้ให้เหมาะกับอุตสาหกรรมการผลิตในแต่ละประเภท


วันนี้เรามีคำถาม ที่ทำให้คุณสามารถนำไปถามตัวคุณหรือองค์กรของคุณเองได้

1. โรงงานการผลิตของคุณ เป็นประเภทไหน?
โรงงานการผลิต หากแบ่งตามกระบวนการผลิตแล้ว สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

ประเภทที่ 1 Discrete Manufacturing การผลิตที่เป็นชิ้นส่วนต่างๆ แล้วมีการประกอบกัน เช่นอุตสาหกรรมประเภท Automotive, Electronic, Plastic, Flexible Packaging

ประเภทที่ 2 Process Manufacturing การผลิตแบบต่อเนื่อง มีการไหลตามท่อ หรือ แท้งค์ เน้นเรื่อง QC, QA, Costing เช่นอุตสาหกรรม อาหาร, เครื่องดื่ม, เคมีภัณฑ์, ยา

เหตุผลที่แยกออกเป็น 2 ประเภท เพราะขั้นตอนในกระบวนการผลิต ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ดังนั้นการทำงานในด้านของการผลิต ก็แตกต่างด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นหมายถึงว่าในการหาระบบการจัดการ ก็ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับกระบวนการหรือรูปแบบในการผลิตด้วย

2. แล้วระบบการจัดการ (ERP) ที่จะใช้ เกี่ยวข้องอย่างไร?
ลองมาดูคำจำกัดความของ คำว่า ERP ดูนะคะ
“ERP ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning หมายถึง การวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดของทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร”
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงควรรู้ว่า การผลิตของเราเรียกว่าการผลิตแบบไหน แตกต่างอย่างไร และ ERP จะเข้ามาช่วยเราได้อย่างไร
ในการเลือก ERP สิ่งที่ควรมอง คือ ERP นั้นๆ เชี่ยวชาญด้านไหน เพราะในเมื่อมนุษย์เรามีความถนัด ความเก่งแตกต่างกัน ระบบ ERP ที่ถูกสร้างมาด้วยฝีมือ มนุษย์ ก็เช่นเดียวกัน
และในทาง Technical การเขียน Coding หรือ Core Program สร้างมาแตกต่างกัน หากเราเลือก ERP ที่ตรงกับกระบวนการของเราแล้ว ระบบ ก็จะค่อนข้าง Fit กับอุตสาหกรรมของเรา ส่งผลให้ตรงกับขั้นตอนการทำงาน Customization น้อยและไม่บานปลาย

เหตุที่ยกเรื่องของประเภทของการผลิตขึ้นมานั้น เพราะได้ยินบ่อยๆว่า ERP ก็เหมือนๆกันนะ เท่าที่ดูก็คล้ายๆกันนะ…ลองดูใหม่ค่ะ ว่าที่มองแล้วเหมือนๆกัน หรือ คล้ายๆนั้น ความต่าง คืออะไร?

ERP แต่ละระบบ มีข้อดี ข้อด้อย ลดหลั่นกันไป ตามความถนัดของระบบ ลองหาหรือสอบถามตรงๆได้เลยค่ะว่า จุดเด่นของระบบที่เราดูอยู่ คือ อะไร และนั่นใช่จุดเด่นหรือความเชี่ยวชาญของระบบที่เราต้องการหรือเปล่า และหากเราลองถามความสามารถของระบบไปเรื่อยๆ พบข้อด้อย เรายอมรับจุดนั้นได้หรือไม่
เช่น ถ้าเราต้องการระบบที่มาช่วยวางแผนการผลิต แล้วเจอ ระบบที่เก่งด้านการผลิตมากๆ เรื่องบัญชีแค่พอทำได้ กับ อีกระบบที่ เก่งด้านบุญชีมากๆ แต่การผลิตแค่พอทำได้ เราควารเลือกอะไร?
ก็ลองย้อนกลับไปดูความต้องการภายในองค์กรนะคะว่า เราต้องการระบบที่มาช่วยเรื่องอะไร?


แล้วที่ยกตัวอย่างเรื่องของการผลิตขึ้นมานั้น ไม่ได้หมายความว่าเรื่องของบัญชีไม่สำคัญนะคะ แน่นอนว่าสำคัญมากๆเลยค่ะ นั่นถึงเป็นส่วนหนึ่งที่การันตีได้ว่า เราควรมองหาระบบที่ช่วยเรื่องของต้นน้ำในระบบการผลิต หากต้นน้ำมาแบบถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว แล้วนั้น ก็ย่อมส่งผลดี ต่อการทำบัญชีและ Costing ไปด้วยค่ะ

Credit : http://www.ppcc.co.th/discrete-manufacturing-vs-process-manufacturing/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่