[CR] I "Leh" my love in Ladakh เที่ยวเลห์กันนะ Part 3

Part 1 -> http://ppantip.com/topic/35781322
Part 2 -> http://ppantip.com/topic/35781643

วันที่ 4 ก่อนออกทริป ลงรุปอาหารเช้าหน่อยละกัน เซทอาหารเช้าจะมีไข่ ขนมปัง เนยและแยม พร้อมชาร้อน บางวันก้อจะมีอาหารท้องถิ่นมาให้ลองชิมด้วย









วันนี้เราเก็บเสื้อผ้าและของจำเป็น เพราะเราจะไปค้างคืนที่ Nubra 1 คืน ระยะทางประมาณร้อยกว่ากิโล แต่เส้นทางนั้น ขึ้นเขา ขึ้นเขาและก้อขึ้นเขา เส้นทางที่เคยอ่านมาว่าแคบและสุงมากจะเป็นอย่างไร เด๋วรู้กันครับ

เราขับรถออกมาจากเมืองเรื่อยๆและเริ่มขึ้นเขาไต่ระดับไปเรื่อยๆ



จะเห้นถนนที่เราเพิ่งขับผ่านมาอยุ่ไกลๆด้านล่าง







ถนนที่ขึ้นเขาแคบมาก เหมือนรถวิ่งได้เลนเดียว นานๆก้อจะมีรถสวนผ่านมาซึ่งเราก้อจะหลบให้รถผ่าน ทางอาจจะดูหวาดเสียวบ้าง แต่จากที่นั่งมาหลายวัน เราเชื่อในความปลอดภัยของคนขับเลย



เราขับขึ้นถึงยอดเขาลุกนึง ซึ่งตอนแรกนึกว่าจะถึงยอดแล้ว เปล่าเลยครับ มันไปเริ่มต้นขึ้นไปอีกยอดเขานึง เป่นอย่างนี้เรื่อยๆจนเราเริ่มจะเห็นหิมะที่อยุ่ตามทางแล้ว





ไม่นานเราก้อถึงจุดแรก Khardungla Top ซึ่งเป็นถนนที่รถสามารถสัญจรผ่านได้ สูงที่สุดในโลก ( 5600 เมตรจากระดับน้ำทะเล )





อากาสข้างบนเบาบางมาก เราถ่ายรุปกันอยู่พักนึงก้อต้องกลับเข้ามาที่รถ



วิวด้านบนสวยมาก เลยขอซักรูปนึง อิอิ



วิวบนยอดเขา









ตอนก่อนลงจะเจอรถโกยหิมะกวาดอยู่เพื่อเคลียทางให้ รถทุกคันก้อจะจอดรอ แต่ไม่ได้มีคนมาบ่นอะไรเพราะทุกคนลงมาถ่ายรุปเล่น





จากนั้นเราก้อขับรถมุ่งไปสุ่ Nubra Valley ซึ่งระหว่างทางก้อยังมีวิวสวยๆให้ชมตลอด











ไม่นานเราก้อถึงร้านอาหารที่ Nubra โดยมีเจ้าถิ่นมานอนรอต้อนรับ



ทุกที่ของที่นี่จะมีธงติดอยู่ ซึ่งเป็นธง 5 สีเรียกว่า ธงมนต์ โดยแต่ละสีจะมีความหมายแตกต่างกันไป

สีแดง หมายถึงไฟ เป็นตัวแทนความกล้าหาญ
สีขาว หมายถึงเมฆ เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์
สีเขียว หมายถึงต้นไม้ เป็นตัวแทนของความสุภาพ
สีฟ้า หมายถึงท้องฟ้า เป็นตัวแทนของความฉลาด
สีเหลือง หมายถึงดิน เป็นตัวแทนของความเมตตา

ธงแต่ละผืนจะมีคำสวดหรือคำอธิษฐานเขียนไว้เต็มผืนซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเมื่อลมพัดธงปลิวไสว ก้อจะเหมือนกับการได้สวดมนต์ตลอดเวลา



จกนั้นก้อสั่งอาหารกันครับ อย่างแรกเป๋นหมี่ผัด



ต่อมาเป็นบะหมี่เรียกว่า แม๊กกี้ คล้ายๆมาม่าบ้านเรา แต่จะมีรสผงกะหรี่ติดปลายลิ้นตอนกิน



จากนั้นเป็นโมโม่แบบทอดครับ ไส้ไก่นะถ้าจำไม่ผิด



จากนั้นเราจะแวะไปวัด Diskit กันครับ ขับไปอรกประมาณชม.นึง

















จากนั้นเราก้อขับไป Hunder Sand Dunes ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เพื่อไปขี่อูฐกันครับ





ค่าขี่อูฐที่นี่ 200RS / 15 นาที คนจูงจะจูงออกไปที่ทะเลทรายแล้วเดินวนรอบ พอได้บรรยากาศ ผมว่าจะลองขี่ดูมั่ง เลยลองถามอูฐที่นั่นว่า เด๋วให้ 500 รูปีเลย ขอขี่หน่อยได้มั๊ย..... อูฐบอกว่า พันนึงตรูก้อไม่เอา เด๋วหลังหัก 5555



อารมเสียครับ...... เย็นเราไปพักกันที่โรงแรมในหมู่บ้านแห่งนึง ที่พักจะไม่มี heater นะครับแต่สามารถขอผ้าห่มเพิ่มได้









วันที่ 5 ไฮไลท์สวยๆของทริปนี้กับ Pangong Lake ทะเลสาบปันกองซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก ( 4300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ) ที่นี่มีทะเลสาบสีฟ้าที่เป็นสีฟ้าจริงๆ อยากจะบอกว่ากว่าจะมาที่นี่ได้ นั่งรถผ่านเส้นทางแบบสุดมหาโหดมาก ( ถามว่าโหดขนาดไหน นึกภาพเรามีข้าวยำเกาหลีแบบใส่ไว้ในกล่องครับ เชย่าจนแบบว่าพอไปถึงที่ทะเลสาบ คือข้าวยำคลุกกันได้ที่กินได้เลย 55 ) ลงรุปทะเลสาบกันดีกว่า ผมไม่ขอบรรยายว่าสวยแค่ไหนนะครับ ขอลงรูปอย่างเดียวรัวๆเลย ไปชมกันเองละกัน

































จากนั้นแวะกินข้าวกันร้านที่ทะเลสาปเลย อาหารตามนี้ครับ





อันนี้ข้าวผัดกระเที่ยมกับเนย หอมมากครับ กินกับแกงกะหรี่ที่มีเนยใส่มาด้วยเพิ่มความหอมมัน





จากนั้นเราขับรถกลับเลห์กัน ซึ่งทางผ่านก้อจะแวะ landmark อีกที่นึงคือ Changla Pass เส้นทางที่รถสัญจรได้ สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก









หลังจากถึงที่พัก ก้อออกไปหาอะไรกินมื้อเย็น วันนี้ขอลองร้าน Gismo ละกันครับ









ชื่อสินค้า:   LEH - INDIA
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่