[CR] Julley!! Leh Ladakh เลห์ ลาดักห์ อินเดีย ฉบับ Nov 2022 หลังโควิด


ก่อนอื่นต้องกล่าวคำ Julley เพื่อนๆพันทิป หลังจากห่างหายจากการตั้งกระทู้รัวิวไปเที่ยว 3 ปีได้ อึดอัดสุดๆ คนเคยเที่ยวทุกปีอ่ะเนอะ สืบเนื่องจากทริปนี้เลห์ ดาลักห์ จขกท. ตั้งใจจะไปตั้งแต่ปี 2019 แล้ว แต่มาติดช่วงโควิด ไฟล์ทโดนยกเลิก แต่ก็ตั้งเป้าแล้วมายังไงก็ต้องไปให้ได้ พอปีนี้ 2022 เริ่มเดือนทางได้ก็ได้โอกาสจัดทริปอีกครั้งค่ะ ครั้งนี้เราไปกันทั้งหมด 8 คน  ช่วงเวลาเดินทาง Oct 2022 แพลนการเดินทางคร่าวๆตามนี้ค่ะ
Fri 7 Oct Day 00 BKK-Delhi 23.15-02.15 
Sat 8 Oct Day 01  Delhi-Leh 8.40-9.55
Sat 8 Oct Day 01 Arrival Airport pick up  .Transfer to the  hotel . Full day rest at the hotel to acclimitize. In the evening visit  leh market ,shanti stupa and leh palace.
Sun 9 Oct Day 02 Leh to lamayuru moonland ,alchi  magnetic hill, sangam point, gurudwara patthar sahib , Spituk monasteryand hall of fame 
Mon 10 Oct Day 03  Leh to nubra valley 160km via khardugla pass visit sumur sand dune ,panamik hot spring and samstaling monastery
Tue 11 Oct Day 04  Nubra to pangong lake via hundar and disket monastery .visit pangong lake. overnight stay at tangtse 
Wed 12 Oct Day 05  Tangtse to tsomoriri via tsagala .over night at tsomoriri
Thu 13 Oct Day 06  Tsomoriri to leh return .Enroute visit thiksey and Shay palace 
Fri 14 Oct Day 07  Tour Ends Transfer to the airport.

Fri 7 Oct Day 00 BKK-Delhi 23.15-02.15  เริ่มวันแรกกันเลยนะคะ เราไปสายการบินไทย ไปกลับประมาณ 12,000บาท นั่งสบาย ไม่ดีเลย์ ถือว่าโอเคตรงเวลาผ่าน

Sat 8 Oct Day 01  Delhi-Leh 8.40-9.55 เราเดินทางโดยสายการบิน Gofirst อันนี้ดี ไม่ดีเลย์ ผ่านเลยค่ะ ไม่ได้ซื้อที่นั่งเพิ่มเติม ได้วิวแค่นี้มาค่ะ จากบนเครื่อง

เรามาถึงสนามบินเลห์ เป็นสนามบินเล็กๆ สัมผัสแรกที่มาถึง อากาศเย็นๆค่ะ แต่แดดแรงมาก 


ตอนวันที่เราไปคือมีดนตรีมาเล่นโปรโมท Leh Ladakh Festival เทศกาลดนตรีกลางสวน 

ที่นี่เราติดต่อโรงแรมที่เลห์ไว้ เค้าก็จะจัดการรร. รถที่ใช้ตลอด 7 วันที่นี่ให้หมด สบายมากเลยค่ะ ใครสนใจติดต่อได้เลยค่ะ
Stanzin namgyal
Hotel yarab tso
532 Upper skara road
Leh 194101 UT Ladakh 
Phone number +919622820661
hotelyarabtso@gmail.com
วันแรก Stanzin เค้ามารับที่รร. ให้เราพักผ่อนร่างกายก่อน คืนนี้เราจะนอนกันที่ Leh Yarab tso นั่งรถพอถึงรร.ปุ๊ป รักเลย รร.สวยมาก ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นๆแล้วเค้าจะให้เรานอนปรับสภาพร่างกายก่อนค่ะ เพราะเราอยู่ในที่สูงกว่าระดับน้ำเลมาก ไม่งั้นจะเกิดอาการ Attitude sickness ค่ะ จขกท. ขนาดกินยาแล้ว ยังมีอาการเวียนหัว อาเจียนเลย ฉะนั้นวันแรกสำคัญจริงๆคือต้องทำอะไรช้าๆ แล้วนอนจริงๆ รอเวลาบ่ายสาม บ่ายสี่ ค่อยออกไปเที่ยวรอบเมืองกันค่ะ
หน้าโรงแรมค่ะ วิวสวยมาก เตียงก็นุ่ม นอนสบายมากเลย

เมื่อนอนพักกันเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางกันค่ะ เรา request รถ Tempo ค่ะ อยากนั่งสบายๆ เพดานสูงๆ ไม่อึดอัด 

ที่แรกที่เราไปวันนี้คือ Leh Palace เป็นพระราชวังเก่า ขึ้นไปมองลงมาจะเห็นวิวเลห์ทั้งเมือง แบบมุมกว้าง

ที่ต่อไป Shanti Stupa หรือเจดีย์สันติภาพ เป็นเจดีย์สีขาวทรงโดมตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้หมู่บ้าน Changspa ในเมือง Leh ที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและเป็นการฉลองครบรอบ 2,500 ปี ของศาสนาพุทธเลยก็ว่าได้ ขึ้นไปนึกว่าจะไม่หนาว ที่ไหนได้เล่นเอามือสั่น

คือมองเห็นดวงจันทร์แบบใกล้มาก ถ่ายรูปมาไม่เท่าสายตาจริงที่มองเลยค่ะ


เห็นภูเขาหิมะด้วย

เราถ่ายรูปกันจนค่ำๆ ก็ไปแวะที่ Leh market กันต่อ ที่นี่เหมือนเป็นศูนย์กลางเมืองเลห์มาก เดือนนี้ที่เราไปกันก็พอจะมีร้านเปิดอยู่ ส่วนมากเป็นร้านขายของที่ระลึก ขายเสื้อผ้า ช้อปปิ้งกันมันเลย




Sun 9 Oct Day 02 
วันที่2 วันนี้ตื่นมากินข้าวเช้าที่รร. กัน จิบกาแฟเก๋กันหน้ารร.ค่ะ อากาศหนาวมาก

อาหารเช้าวันนี้สไตล์อินเดีย

จุดหมายปลายทางของวันนี้คือ Leh to lamayuru moonland ,alchi  Magnetic Hill , sangam point, gurudwara patthar sahib , Spituk monasteryand hall of fame

ที่แรกของวันนี้ Magnetic Hill ตั้งอยู่บนทางหลวงเลห์ - คาร์กิล ห่างจากเมือง leh ออกมากประมาน 30 กม. เป็นถนนสายเล็ก ๆ ที่มีปรากฏการณ์แรงโน้มถ่วง…ซึ่งมีเนินเขาแม่เหล็กที่ดึงรถอยู่กับที่ให้ขึ้นเนินเองได้ ที่สำคัญข้างทางวิวดีฝุดๆ เหมือนหลุดออกมาจากนอกโลก



ห้องน้ำมินิมอลสไตล์ 


จุดต่อไป แพะเมืองผี เอ้ย ไม่ใช่ Lamayuru moonland ที่นี่ไม่มีอะไรมาก เป็นเหมือนที่ที่หินมีพื้นผิวเหมือนดวงจันทร์ เลยเรียกว่า Moonland นั่นเองค่ะ

ไปต่อค่ะ ส่วนตัวที่ชอบที่สุดของวันนี้คือที่นี่เลย Sangam Point "จุดบรรจบของแม่น้ำสองสายIndus(สินธุ)และZanskar" เห็นแม่น้ำสองสายตัดกันแบบลงตัว 

นั่งรถต่อกันมาอีกที่นึงของวันนี้ Lamayuru Monastery เป็นวัดทางพุทธศาสนาแบบทิเบตที่เก่าแก่มากใน เลห์ ลาดัก ถูกสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 หรือมีอายุประมาณราวๆ 1000 ปี ขลังจริงอะไรจริง วิวคือสวยฝุดๆ วัดข้างในเค้าไม่ให้ถ่ายภาพนะคะ

แชะภาพหมูสักหน่อย


Mon 10 Oct Day 03  Leh to nubra valley 160km via khardugla pass visit sumur sand dune ,panamik hot spring and samstaling monastery วันนี้เราต้องย้ายที่นอนกันแล้ว ต้องเริ่มออกนอกตัวเมืองกันค่ะ นั่งรถมาระยะนึง ก็ถึง Khardugla pass คนขับรถจอด ด้วยความที่นั่งหลับมาตลอดทางบ้างอะไรบ้าง ตื่นขึ้นมา พอลงรถเท่านั้นแหละ ได้เรื่อง ทั้งลม ทั้งความหนาวคือร่างกายปรับตัวไม่ทันเลยต้องขึ้นไปใส่ถึงมือ ผ้าพันคอกันเพิ่ม 

Khardugla pass กับความสูงประมาณ 5,300 ม. จากระดับน้ำทะเลและเป็นถนนที่รถสามารถวิ่งได้ที่สูงที่สุดในโลก อากาศนั้นไม่ต้องพูดถึงค่ะ -7 องศา ลมปะทะหน้าทีคือพักก่อน ชั้นบรรยากาศที่โครตจะเบาบาง ปวดหู ปวดตา สุดๆ แต่สวยแบบมากมาย กอไก่ล้านตัวได้สัมผัสหิมะแบบสะใจมาก สมใจเค้าล่ะ



ถ่ายรูปกับมุมมหาชนสักหน่อย หนาวก็หนาว รูปก็ต้องได้!! สู้เค้าลูก
ชื่อสินค้า:   เลห์ ดาลักห์ อินเดีย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่