I left my heart in Leh…หลงรักเลห์เข้าไปเต็มๆ (Part 2/2)

ต่อเนื่องมาจาก Part 1 (https://ppantip.com/topic/37920739) นะคะ

DAY 5: YOGA – NUBRA VALLEY (VIA KHADUNGLA PASS) – HUNDAR SAND DUNES (พักที่ HUNDAR SARAI)

ทริปนี้ต้องบอกเลยว่าทำให้เราชอบเล่นโยคะขึ้นมาอีกที เคยเล่นอยู่เยอะๆเมื่อก่อน แต่ไม่ได้เล่นมา 5-6 ปีแล้ว พอดีที่โรงแรมเค้ามี Class Yoga ให้แขกโรงแรมได้เล่นทั้งเช้า 1 class และ เย็น 1 class ครูเป็นระดับ Yoga Master มาจาก New Delhi เลยทำให้พวกเราติดใจ มีโอกาสต้องรีบตื่นเช้ามาเข้าคลาสโยคะกัน

หลังจากเล่นโยคะเล่น เราก็เดินทางออกไปสู่ Nubra Valley โดยผ่านทาง Khadungla Pass (ที่เค้าว่ากันว่าเป็นถนนที่สูงที่สุดในโลกที่รถสามารถแล่นผ่านได้ ตั้งอยู่ที่ความสูง 18,380 FT. เหนือระดับน้ำทะเล) ตรงจุดนี้ก็อย่าพักถ่ายรูปนานเกินไป เนื่องจากระดับ Oxygen เบาบางมาก (เทียบกับ Everest Base Camp ซึ่งอยู่ที่ความสูง 17,600 FT. จากระดับน้ำทะเล)

ตรงจุดสูงสุดก็จะมีป้ายให้ถ่ายว่ามาถึงแล้ว ถนนที่สูงที่สุดในโลกที่ 18,380 FT.


พวกเราทำเวลาได้ไม่ดีนัก เพราะหยุดถ่ายรูปกันตลอดทาง ทำให้มาถึงโรงแรม Hundar Sarai เกือบๆ 5 โมงเย็นแล้ว เลยรีบเปลี่ยนชุดออกไปตรง Hundar Sand Dunes เนื่องจากมีอูฐให้นักท่องเที่ยวขี่ เนื่องจากตรงบริเวณนี้เคยเป็นเส้นทางสายไหม หรือ The Silk Road ในอดีต เลยมีพวกพ่อค้าเอาอูฐมาปล่อยไว้ใน Sand Dunes แถวนี้ตั้งแต่สมัยนั้น

อูฐที่ NUBRA VALLEY เป็นพันธุ์ BACTRIAN แบบมี 2 โหนกนิ่มๆ


เรากะจะขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกกัน แต่มาเห็นอูฐและ condition ที่พวกมันอยู่ เลยสงสาร ขี่ไม่ลง ชาวบ้านบอกว่าพวกคนเลี้ยงอูฐ เลี้ยงมันแบบไม่ดี ตอนหน้าหนาวก็ไม่ให้ข้าวกิน พวกเราเลยตักสินใจไม่ขี่มันดีกว่า

แต่เดินเล่นในบริเวณ Sand Dunes ก็ได้รูปสวยๆอยู่นะ






HUNDAR SARAI แคมป์ที่พวกเราพักค้างคืนที่ NUBRA VALLEY

DAY 6: DISKIT MONASTERY –  PANGONG LAKE แต่ไปไม่ได้เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกถนนถล่ม เลยต้องกลับ LEH – YOGA (พักที่ LADAKH SARAI)

ด้านในของ DISKIT MONASTERY


DISKIT MONASTERY ถ่ายจากวัดตรงข้าม

จริงๆแพลนวันนี้คือ หลังจากไป Diskit Monastery พวกเราจะตรงไปที่ Pangong Lake เลย (โดยที่ไม่ต้องขับกลับไปที่เลย์อีกครั้ง ใช้เส้นทาง Shayok River) แต่เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกหนัก และมีหินถล่มทางที่จะไป ทำให้พวกเราไปไม่ได้ เลยต้องถอยทับกลับมาตั้งหลักกันที่เลย์อีกคืนหนึ่ง หลังจากผ่านจุดสูงสุดของ Khadungla Pass มาได้สัก 10 นาที มีหินก้อนใหญ่ตกลงบนถนน อยู่หน้ารถพวกเราไปประมาณ 6-7 คัน ทหารเลยต้องมาระเบิดหิน แล้วเรารถเกลี่ยดิน เลยทำให้รถติดยาวไปไกล อยู่รอกันตรงนั้นประมาณเกือบชั่วโมงเหมือนกันค่ะ

พระก็ยังต้องรอ

พวกเราเลยมาถึงเลย์ประมาณ 4.30pm. เลยจัดโยคะที่โรงแรมไปอีกสักรอบ เล่นตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกวิวสวยมากๆค่ะ

DAY 7: PANGONG LAKE (VIA CHANGLA PASS) (พักที่ THE HERMITAGE)

วันนี้เลยออกเดินทางไป Pangong Lake จากเลย์ โดยใช้เส้นทาง Changla Pass แทน ระยะทางประมาณ 220 กว่ากิโล (ไกลกว่าจากเลย์ไป Nubra Valley อีก) วิวข้างทางสวยเกือบตลอดทาง แต่ถนนโหดเหมือนเดิม พวกเราใช้เวลากันเกือบ 6 ชั่วโมงกว่าจะมาถึง


แต่แว๊ปแรกเมื่อเห็นทะเลสาบสีฟ้า ตัดกับภูเขารายล้อมเป็น Background ก็หายเหนื่อย หายเมื่อยไปเลย แถมเห็น Rainbow ที่สวยและชัดมากๆๆๆอีกด้วย (เดี๋ยวรีวีว Pangong Lake ฉบับเต็มในโอกาสต่อไปนะคะ)

PANGONG LAKE นั่งรถกี่ชั่วโมงก็หายเหนื่อย

DOUBLE RAINBOW! ชัดและเต็มมากๆค่ะ

THE HERMITAGE โรงแรมพวกเราที่ PANGONG LAKE ค่ะ


DAY 8: BACK TO LEH – HIKE STOK KANGRI TRAIL (พักที่ LADAKH SARAI)
วันนี้ขับรถกลับเลย์จาก Pangong Lake ค่ะ ทำเวลาดี มาถึงเลย์ประมาณบ่าย 2 เพื่อไปเดิน Hiking ที่ Stok Kangri Trail ค่ะ




Trail นี้สามารถเดินได้ตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมง จนถึงหลายๆวันเลยทีเดียวค่ะ พวกเรามีเวลาไม่เยอะเลย ได้เดินชิมลางไปประมาณ 3 ชั่วโมง แต่วิวนี่สวยสุดๆ มาคราวหน้าอยากจะเดินสัก 2 วัน ไปกางเต็นท์นอนในภูเขาสักคืนนึง

DAY 9: YOGA – SHOPPING AT LEH MARKET (พักที่ LADAKH SARAI)
วันสุดท้ายในเลย์แล้ว วันนี้เลยสบายๆ ตื่นมาโยคะครั้งสุดท้ายก่อนกลับ จากนั้นก็ไปเดินเล่น shopping ไปนั่งกินกาแฟในเมืองค่ะ

PRACTICE PRACTICE PRACTICE!


จิบกาแฟที่ระเบียงห้องนอน วิวเริ่ดมากๆค่ะ


DAY 10: LEH – DELHI – BANGKOK
อย่างที่เห็นจาก Itinerary กิ๊บว่ากิ๊บใช้โรงแรมที่เลย์เป็น Base ในการเที่ยว (เดี๋ยวจะมารีวิวโรงแรมที่เลย์ให้ในบล็อกต่อไปนะคะ) Plan จะไม่ได้ pack มากเนื่องจาก 2-3 วันแรกต้องมีการปรับระดับความสูงที่เลย์ด้วย และเป็นทริปยาวมีเวลาค่อนข้างเยอะ เลยเที่ยวแบบสบายๆไม่ได้รีบร้อนมากค่ะ

ทริปของกิ๊บครั้งนี้ให้ทางโรงแรม Ladakh Sarai เป็นคนจัดเตรียมให้ทุกอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรถ คนขับรถ โรงแรมที่พักในเมืองต่างๆ กิจกรรมทั้งหลาย เช่น Mountain biking และ Hiking ค่ะ สะดวกมากๆ เพราะเค้าสามารถปรับ Itinerary และกิจกรรมต่างๆตามที่เราต้องการได้เลยค่ะ

อ่านทริปเต็มและทริปอื่นๆได้ที่ www.fallenforadventure.com หรือ www.facebook.com/fallenforadventure นะคะ

ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์ กดแชร์กันด้วยนะคะ ยิ้ม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่