Sharbat Gula หรือ Afghan Girl
เจ้าของนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความหวาดวิตก
สาวน้อยอัฟกานิสถานวัย 12 ขวบที่ช่างภาพ Steve McCurry
ได้ถ่ายภาพเธอตอนอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่ปากีสถานในปี 1984
ภาพของเธอขึ้นบนหน้าปกนิตยสาร  National Geographic ในปี  1985
ดวงตาสีเขียวของเธอก่อให้เกิดความสะเทือนจิตใจผู้คนจำนวนมาก
กลายเป็นเสมือนส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ผู้ลี้ภัยนานาชาติ
และความไม่สงบทางการเมืองและสังคมในเขตภูมิภาค
ภาพของเธอมีการตีพิมพ์เผยแพร่กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก
ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ผู้คนจดจำมากที่สุด
แม้ว่าจะไม่ใช่ใบหน้าของคนมีชื่อเสียงทางสังคม




เมื่อวันพุธที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา
Sharbat Gula ถูกจับกุมตัวโดย Shahid Ilyas
ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนรัฐบาล
Federal Investigation Authority และได้ให้สัมภาษณ์ว่า

“ เราบุกเข้าไปในบ้านของเธอแล้วจับตัวเธอ
เราได้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับเธอ
พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนช่วยเหลือเธอกับบุตรชาย 2  คนของเธอ
ให้ได้รับบัตรประชาชนชาวปากีสถาน
เราได้รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว
และเรากำลังจะส่งตัวเธอไปดำเนินคดี

Sharbat Gula ได้รับบัตรประชาชนปากีสถานปลอมตั้งแต่ปี 1988
โดยใช้ชื่อในบัตรประชาชนว่า  Sharbat Bibi
แต่ฐานข้อมูลกลางในระบบสารสนเทศของประเทศในปี  2014
พบว่าในหนังสือเดินทางชั่วคราวของเธอระบุว่า  
เธอเป็นชาวอัฟกานิสถาน ในช่วงที่เธอขออนุญาตเดินทาง
ไปทำพิธีฮัจญ์กับญาติพี่น้องของเธอที่เมกกะ กับ เมดินา
ด้วยเงินทุนสนับสนุนจาก  National Geographic

Sharbat Gula จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป
และปรับตั้งแต่ 3,000 - 5,000 เหรียญสหรัฐ
ถ้าถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดจริงตามฟ้อง

ทั้งนี้หน่วยงานยังได้ทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่จำนวน  3 นาย
ที่ต้องสงสัยว่าจะได้ออกบัตรประชาชนดังกล่าวให้กับ Sharbat Gula
เพราะคนต่างด้าว/ผู้ลี้ภัยจะไม่มีสิทธิ์ได้รับบัตรประเภทดังกล่าวนี้
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนใน Peshawar ได้ถูกไล่ออกแล้ว
หลักจากถูกตั้งข้อหาเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน  
แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ระหว่างการประกันตัว
เพื่อการส่งฟ้องศาลในวันศุกร์ที่จะถึงนี้




Sharbat Gula ถูก Pakistan’s Federal Investigation Agency จับกุม
โดยเจ้าหน้าตำรวจบุกเข้าไปในบ้านเธอที่  Peshawar ทางตอนเหนือของ Pakistan
และจับกุมเธอพร้อมกับนำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ
ตามรายงานข่าวของนักหนังสือพิมพ์ Arshad Yusufzai
ที่ทำงานอยู่ใน Peshawar ผู้ซึ่งคุ้นเคยกับ Sharbatwho Gula
และทำหน้าที่เป็นล่าม/ผู้แปลข่าวให้กับ National Geographic

" ผู้สันทัดกรณีบางคนกล่าวว่า
เธออาจจะไม่ได้รับโทษ
แต่บางคนกล่าวว่าเธออาจจะต้องโทษจำคุกระหว่าง 7 ถึง 12 ปี
แต่เธอสามารถยื่นคำร้องอุทธรณ์ได้ภายในเวลา 14 วัน
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทางการจะตัดสินใจว่า
ตั้งข้อหาคดีอาญากับเธอหรือไม่ "

National Geographic Society ได้ร่วมกันรณรงค์ด้วยวาทกรรม
เธอมีชีวิตอยู่ท่ามกลางอุปสรรคและโศกนาฎกรรมมาทั้งชีวิต
ทั้งยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทางการปากีสถาน
ปล่อยตัว Sharbat Gula ตามหลักมนุษยธรรม

Steve McCurry โพสต์ใน Instagram]https://goo.gl/xu992r]Instagram
เกี่ยวกับเรื่องราวการจับกุมของ Sharbat Gula

" ผมขอสาบานว่าจะทำทุกอย่างที่เป็นไปได้
เพื่อช่วยเหลือเธอหลังจากที่เธอถูกจับกุม
เราจะทำทุกอย่างเท่าที่เราสามารถจะรับข้อมูลข่าวสาร
จากการติดต่อเพื่อนร่วมงานและเพื่อน ๆ ของเราในพื้นที่
ผมมุ่งมั่นที่จะทำอะไรก็ได้และทำทุกอย่างที่เป็นไปได้
เพื่อให้มีการสนับสนุนทางกฎหมาย
และการเงินสำหรับเธอและครอบครัวของเธอ

ผมขอคัดค้านการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐแห่งนี้
ที่ลงมือปฏิบัติการจับกุมเธออย่างเคร่งครัด
เธอได้รับความเดือดร้อนมาตลอดทั้งชีวิต
และการจับกุมเธอ คือ การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแรง "




Sharbat Gula คือ สัญลักษณ์ผู้ลี้ภัยมาหลายสิบปีแล้ว
แต่ตอนนี้เธอคือใบหน้าผู้ลี้ภัยที่ไม่พึงประสงค์
เธอเป็นแม่หม้าย ต้องเลี้ยงดูลูกถึงสี่คนตามลำพัง
เธอคือตัวแทนของชายและหญิงผู้กล้าหาญ
ที่ยอมรับความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน
เพื่อปกป้องสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตคือ บรรดาลูก ๆ ของพวกเขา

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้
เราได้ติดต่อกับทนายความปากีสถาน
ที่เชี่ยวชาญมากในคดีด้านสิทธิมนุษยชน
เขายอมรับจะดูแลคดีของเธอ
เราขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกออกมาพูดในนามของเธอ
ที่เป็นตัวแทนคนอีกหลายล้านคนที่ต้องการมีชีวิตอยู่รอด
และสถานที่อยู่อาศัยโดยปราศจากความหวาดกลัว




เรารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งว่า Dr.Omar Zakhilwal
เอกอัครราชทูตอัฟกานิสถานประจำปากีสถาน
ให้สนใจเกี่ยวกับคดีของ Sharbat Gula
และได้แถลงการณ์เรื่องนี้ไว้ที่  https://www.facebook.com/Dr.Zakhilwal/




เราคาดว่าคดีของเธอที่จะเริ่มพิจารณาในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้เปล่งเสียง/ร่วมในการสนับสนุน
Sharbat Gula สตรีผู้กล้าแกร่งที่ได้รับภัยพิบัติจากสงคราม
ที่ระเบิดได้ฆ่าพ่อแม่ของเธอ
และการที่เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย
เธอสูญเสียสามีอันเป็นที่รัก
และเธอยังต้องสูญเสียลูกสาวที่แสนน่ารักและงดงาม




หมู่บ้านของเธอไม่ปลอดภัย

ผู้คนนับล้านต่างหลบหนีออกจากอัฟกานิสถาน
ในช่วงสงครามกับสหภาพโซเวียตในปี 1980
หลายคนยังตั้งรกรากอยู่ในประเทศปากีสถาน
จนถึงทุกวันนี้มีชาวอัฟกันประมาณ 2.5 ล้านคน

ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถานต่างไม่ได้รับการต้อนรับในประเทศนี้
และยังต้องเผชิญหน้ากับการเลือกปฏิบัติ
และความจงเกลียดจงชังจากชาวปากีสถานบางคน
รวมทั้งบรรดาพวกนักการเมืองที่หาเสียงจากเรื่องเหล่านี้

ในปี 2014 ปากีสถานประกาศแผนการที่จะส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศ
แต่แล้วกลับพบว่ามีบัตรประชาชนปลอมที่ถูกทำขึ้นมามากกว่า  60,675 ใบ
รัฐบาลปากีสถานกล่าวหาว่า  การปลอมแปลงครั้งนี้ทำโดยผู้ลี้ภัยในต่างประเทศ

ตามรายงานของสหประชาชาติระบุว่า
มีผู้ลี้ภัยอัฟกันมากกว่า 350,000 คน
ที่ถูกเนรเทศออกจากปากีสถาน
เพื่อส่งตัวกลับไปยังประเทศอัฟกานิสถาน
บ้านเกิดเมืองนอนเดิมของผู้ลี้ภัย

มีชาวอัฟกันหลายพันคนที่ถูกจับกุมเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว
ด้วยข้อหาสงสัยว่ามีเอกสารทางการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย




" Sharbat มีชื่อเสียงรู้จักกันทั่วไป
เรื่องจึงกลายเป็นข่าวดังทั่วโลก
เมื่อมีใครบางคนไปยุ่งกับชีวิตของเธอ

Gula ถูกกล่าวหาว่าจ่ายเงินสินบนราว 450 เหรียญสหรัฐ
เพื่อซื้อบัตรประชาชนปลอมใบนี้จากเจ้าหน้าที่รัฐ
เพราะบัตรใบนี้สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างมาก
สำหรับคนที่มีบัตรใช้ในการเดินทางและการประกอบธุรกิจ "
Arshad Yusufzai  ตั้งข้อสังเกต

The National Geographic Society's Carrasco ระบุว่า

" Gula ไม่เคยมีความประพฤติที่ไม่ดีแต่อย่างใดเลย
และเธอพยายามจะมีชีวิตที่อยู่รอดและช่วยเหลือครอบครัวของเธอ
ภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ ที่ไม่พึงประสงค์อย่างยิ่ง "

Emma Carrasco  หัวหน้าฝายการตลาดและการสื่อสารองค์กร
และรองประธานอาวุโสกลยุทธระดับโลก



Gula มาพักอาศัยอยู่ใน Peshawar
ในตอนที่ McCurry พบกับเธออีกครั้งในปี 2002
เธอมีลูก 5 คน แต่ลูกสาวคนหนึ่งเสียชีวิตขณะคลอดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในช่วงเวลาเดียวกันกับ Rahmat สามี Gula เสียชีวิตจากอาการเจ็บป่วย

"ลูก ๆ ของเธอต่างตกใจและร้องไห้
และพวกเธอยังกลัวถูกจับกุมด้วย
Gula ไม่ได้ต้องการจะกลับไปอัฟกานิสถาน
เพราะหมู่บ้านของเธอไม่ปลอดภัย "
Arshad Yusufzai  ให้สัมภาษณ์

Duniya Khan เจ้าหน้าที่  UN Refugee Agency (UNHCR)
ใน Afghanistan  ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า

" ถ้า Gula ได้ลงทะเบียนเป็นผู้ลี้ภัย
เธอมีสิทธิ์ขอรับความช่วยเหลือได้
แต่ Sharbat Gula ไม่ได้มีสถานะรายชื่อใน
กฎบัตรของผู้อพยพที่ไร้เอกสารสิทธิ์
UNHCR จึงไม่สามารถแทรกแซงเรื่องนี้ได้
เพราะเธอไม่ได้ลงทะเบียนว่าเป็นผู้ลี้ภัย "

ในเวลาเดียวกัน International Organization for Migration (IOM)
ที่ให้การช่วยเหลือผู้อพยพที่ไร้เอกสารสิทธิ์  กล่าวว่า

" ตามกฎหมายถ้าพิสูจน์ได้ว่าบัตรประชาชนปลอม
นั่นคือ หลักฐานเบื้องต้นที่จะมีการผลักดันให้ผู้ลี้ภัย
ชาวอัฟกันให้ออกจากปากีสถานเพื่อกลับภูมิลำเนาต่อไป
มันเป็นการส่งสัญญาณครั้งแรกของทางการปากีสถานว่า
ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะจัดการกับคนดังในยุคปี 80
คนดังที่เป็นที่รู้จักมากกว่าคนทั่ว ๆ ไป "
Nicholas Bishop เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนา IOM ในอัฟกานิสถาน

อนึ่งแนวทางแก้ไขปัญหาบัตรประชาชนปลอมของ Sharbat  Gula
ทางออกที่เป็นไปได้และเหมาะสมควรยึดตามพระราชดำรัส  
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

นอกจากยุติธรรมตามกฎหมาย  ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมด้วย


Human Rights Watch ได้แถลงการว่า

" ตั้งแต่ 1 กรกฏาคม ในปีนี้
ทางการปากีสถานได้ผลักดัน
ผู้ลี้ภัยอัฟกันจำนวน 370,000 คนกลับประเทศ
แม้ว่าจะมีผู้ลี้ภัยจำนวนกว่า 220,000 คน
ที่ได้ลงทะเบียนผู้ลี้ภัยไว้แล้วก็ตาม

พวกเขาจะต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของชาวอัฟกันนับล้านคน
ที่กลายเป็นคนพลัดถิ่นภายในประเทศของตนเอง
และกำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดภายในประเทศ
ที่ยังคงทนทุกข์ทรมานจากความยากจนค่นแค้น
และความขัดแย้งภายในประเทศที่ไม่จบไม่สิ้น "

ทาง CNN ได้สอบถามความคิดเห็นกับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย ปากีสถาน
สำหรับเรื่องบัตรประชาชนปลอมของ Sharbat Gula แต่ยังไม่ได้รับคำตอบในเรื่องนี้


การตามหา Afghan Girl

ในปี 2002 ความพยายามที่จะค้นหา Sharbat Gula อีกครั้ง
เป็นเรื่องยากมาก Steve McCurry  ต้องให้ผู้ลี้ภัยในปากีสถานจำนวนมาก
ดูภาพถ่ายของเธอ  จนกระทั่งชายคนหนึ่งจำหน้าของเธอได้
ระบุว่า เธอหนีไปหลบภัยที่แถบภูเขาของเมือง Tora Bora
3 วันต่อมาชายคนนั้นพา Gula กลับมายังค่ายผู้ลี้ภัย

" เธอเป็นเด็กสาวที่นัยน์ตาโดดเด่นมาก
ตอนที่ผมถ่ายภาพเธอเมื่อ 17 ปีที่แล้วมา "
Steve McCurry กล่าวในปี 2002

เธอไม่เคยคิดเลยว่า
มีคนนับล้านที่เห็นภาพของเธอ
และเธอได้สร้างแรงสะเทือนใจให้กับคนจำนวนมากมาย
จนเป็นแรงบันดาลใจให้มีคนจำนวนมาก
มาทำหน้าที่เป็นอาสาสมัคร
หรือบริจาคให้ความช่วยเหลือกับผู้ลี้ภัย




เรียบเรียง/ที่มา


https://goo.gl/RjTy8X
https://goo.gl/v9Z3y6
https://goo.gl/2yjBW8
https://goo.gl/PjDnVF