ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงนี้หลายๆคนคงนึกถึงแม่พลอย 4 แผ่นดิน
เราก็เป็นอีกคนหนึ่งติดตามอยู่เหมือนกันทั้งๆที่ได้เคยได้อ่านหนังสือเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็พยายามหาอ่านตามอินเตอร์เน็ต จนได้มาเจอจดหมายฉบับหนึ่งจากคุณ Chakkrit Rachain Maneewan
เลยอยากจะเอามาให้หลายๆคนได้อ่าน เป็นจดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนได้ตรงใจและซึ้งในใจเรามาก
........
จดหมายถึงแม่พลอย
แม่พลอย ... ฉันยังคงรู้สึกคุ้นเคยกับแม่พลอยและสะดวกใจที่จะเรียกแม่พลอยว่า "แม่พลอย" และเรียกแทนตัวว่า "ฉัน" อยู่อย่างนี้เสมอ ขออย่าถือโทษโกรธเคืองฉันเลย แม้นับถึงวันนี้ แม่พลอยคงเป็นคนรุ่นทวดรุ่นเทียดของฉันแล้วก็ตาม
แม่พลอยอาจจะรู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นจดหมายฉบับนี้ เพราะมันเป็นวิธีการสื่อสารของคนในยุคของฉัน จดหมายฉบับนี้จึงไม่ต้องติดแสตมป์ ไม่ต้องมีบุรุษไปรษณีย์มาส่งให้ ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยใจสั่นรัว ในความรู้สึกนึกคิดของฉันมันตื้อมันตันไปหมด ถูกผิดอย่างไรขอให้เป็นคุณเป็นโทษแก่ฉันคนเดียวก็แล้วกัน
เรื่องราวของคน ๔ แผ่นดินอย่างแม่พลอยที่ได้ผ่านอะไรมานักต่อนักและยาวนาน ล้วนเป็นความชื่นชมและความประทับใจของทุกผู้ทุกคนมาโดยตลอด
แม่พลอยคงไม่รู้ว่านับแต่วันที่แม่พลอยสิ้นใจ เมื่อช่วงสายของวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ คนรุ่นหลังของแม่พลอยได้อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่อย่างปรกติสุขร่มเย็นมายาวนานกว่า ๗๐ ปี ไม่ต่างจากตลอดช่วงเวลา ๔ แผ่นดินของแม่พลอยเลย
แม่พลอย ... แม่พลอยผ่านชีวิตมาได้อย่างไรถึง ๔ แผ่นดิน ฉันเกิดและอยู่มาแผ่นดินเดียว ไม่เคยแม้แต่จะคิดสักเสี้ยวเวลาหนึ่งว่าจะถึงเวลานี้ เวลาที่ชีวิตของฉันผ่านแผ่นดินแรกแผ่นดินนี้ไปแล้ว มันไม่ใช่ความปราถนาของฉันและคนร่วมยุคร่วมสมัยกับฉันเลย แต่มันเกิดขึ้นแล้วตามธรรมดาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม่พลอย ตลอด ๒ - ๓ วันที่ผ่านมา บ้านเมืองของเราเป็นอะไรไปก็ไม่รู้ บรรยากาศมันหม่นหมองซึมเศร้าเสียเหลือเกิน ผู้คนก็หาความสุขความสบายกันไม่ได้ มองหน้าใครก็แฝงไปด้วยความกระวนกระวายกันถ้วนทั่ว จนกระทั่งวันนี้ แม้มีผู้คนขวักไขว่เต็มไปหมด แต่ทำไมในหัวใจของฉันมันถึงเงียบสงัดอย่างบอกไม่ถูก
วันนี้ พฤหัสบดี ที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นวันที่ฉันเข้าไปถึงหัวใจของแม่พลอย ... แต่แม่พลอยคงทำบุญมาดี ไม่ต้องมารับรู้มาสัมผัสความรู้สึกเช่นนี้ ถ้าแม่พลอยหยั่งถึงหัวใจของฉัน แม่พลอยก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
นี่เป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่ฉันได้เขียนในรัชกาลของพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐพระองค์นี้ และคงเป็นฉบับแรกในรัชกาลใหม่ เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ผู้มีอำนาจหน้าที่ก็จะไปรวมตัวกันเพื่อลงมติกราบบังคมทูลเชิญพระบรมวงศ์พระองค์หนึ่งขึ้นสืบพระราชสันตติวงศ์ดำรงพระราชสมบัติสืบต่อไป
แม่พลอย เวลานี้ฉันร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตา แต่ฉันมีสติสำนึกรู้ตัวดีทุกประการว่าสิ่งที่ฉันรับรู้คือความจริง ... พระเจ้าแผ่นดินเสด็จสวรรคตแล้ว ขอพระเจ้าแผ่นดินจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙
๑๙:๔๔ น.
ราเชนทร์
เครดิต : FB. Chakkrit Rachain Maneewan
ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9
วันนี้คือรัชกาลที่ 10
จดหมายถึงแม่พลอย 4 แผ่นดิน
เราก็เป็นอีกคนหนึ่งติดตามอยู่เหมือนกันทั้งๆที่ได้เคยได้อ่านหนังสือเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็พยายามหาอ่านตามอินเตอร์เน็ต จนได้มาเจอจดหมายฉบับหนึ่งจากคุณ Chakkrit Rachain Maneewan
เลยอยากจะเอามาให้หลายๆคนได้อ่าน เป็นจดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนได้ตรงใจและซึ้งในใจเรามาก
........
จดหมายถึงแม่พลอย
แม่พลอย ... ฉันยังคงรู้สึกคุ้นเคยกับแม่พลอยและสะดวกใจที่จะเรียกแม่พลอยว่า "แม่พลอย" และเรียกแทนตัวว่า "ฉัน" อยู่อย่างนี้เสมอ ขออย่าถือโทษโกรธเคืองฉันเลย แม้นับถึงวันนี้ แม่พลอยคงเป็นคนรุ่นทวดรุ่นเทียดของฉันแล้วก็ตาม
แม่พลอยอาจจะรู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นจดหมายฉบับนี้ เพราะมันเป็นวิธีการสื่อสารของคนในยุคของฉัน จดหมายฉบับนี้จึงไม่ต้องติดแสตมป์ ไม่ต้องมีบุรุษไปรษณีย์มาส่งให้ ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยใจสั่นรัว ในความรู้สึกนึกคิดของฉันมันตื้อมันตันไปหมด ถูกผิดอย่างไรขอให้เป็นคุณเป็นโทษแก่ฉันคนเดียวก็แล้วกัน
เรื่องราวของคน ๔ แผ่นดินอย่างแม่พลอยที่ได้ผ่านอะไรมานักต่อนักและยาวนาน ล้วนเป็นความชื่นชมและความประทับใจของทุกผู้ทุกคนมาโดยตลอด
แม่พลอยคงไม่รู้ว่านับแต่วันที่แม่พลอยสิ้นใจ เมื่อช่วงสายของวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ คนรุ่นหลังของแม่พลอยได้อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่อย่างปรกติสุขร่มเย็นมายาวนานกว่า ๗๐ ปี ไม่ต่างจากตลอดช่วงเวลา ๔ แผ่นดินของแม่พลอยเลย
แม่พลอย ... แม่พลอยผ่านชีวิตมาได้อย่างไรถึง ๔ แผ่นดิน ฉันเกิดและอยู่มาแผ่นดินเดียว ไม่เคยแม้แต่จะคิดสักเสี้ยวเวลาหนึ่งว่าจะถึงเวลานี้ เวลาที่ชีวิตของฉันผ่านแผ่นดินแรกแผ่นดินนี้ไปแล้ว มันไม่ใช่ความปราถนาของฉันและคนร่วมยุคร่วมสมัยกับฉันเลย แต่มันเกิดขึ้นแล้วตามธรรมดาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม่พลอย ตลอด ๒ - ๓ วันที่ผ่านมา บ้านเมืองของเราเป็นอะไรไปก็ไม่รู้ บรรยากาศมันหม่นหมองซึมเศร้าเสียเหลือเกิน ผู้คนก็หาความสุขความสบายกันไม่ได้ มองหน้าใครก็แฝงไปด้วยความกระวนกระวายกันถ้วนทั่ว จนกระทั่งวันนี้ แม้มีผู้คนขวักไขว่เต็มไปหมด แต่ทำไมในหัวใจของฉันมันถึงเงียบสงัดอย่างบอกไม่ถูก
วันนี้ พฤหัสบดี ที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นวันที่ฉันเข้าไปถึงหัวใจของแม่พลอย ... แต่แม่พลอยคงทำบุญมาดี ไม่ต้องมารับรู้มาสัมผัสความรู้สึกเช่นนี้ ถ้าแม่พลอยหยั่งถึงหัวใจของฉัน แม่พลอยก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
นี่เป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่ฉันได้เขียนในรัชกาลของพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐพระองค์นี้ และคงเป็นฉบับแรกในรัชกาลใหม่ เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ผู้มีอำนาจหน้าที่ก็จะไปรวมตัวกันเพื่อลงมติกราบบังคมทูลเชิญพระบรมวงศ์พระองค์หนึ่งขึ้นสืบพระราชสันตติวงศ์ดำรงพระราชสมบัติสืบต่อไป
แม่พลอย เวลานี้ฉันร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตา แต่ฉันมีสติสำนึกรู้ตัวดีทุกประการว่าสิ่งที่ฉันรับรู้คือความจริง ... พระเจ้าแผ่นดินเสด็จสวรรคตแล้ว ขอพระเจ้าแผ่นดินจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙
๑๙:๔๔ น.
ราเชนทร์
เครดิต : FB. Chakkrit Rachain Maneewan
ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9
วันนี้คือรัชกาลที่ 10