1.พระโสดาบัน
คือผู้ไม่ตกนรกแน่นอน 100%
ละกิเลสเบื้องต้นได้3อย่าง
- ความยึดถือว่าตัวตนนี้เป็นของเรา
- ลังเล สงสัยในพระธรรม
คำสอนของพระพุทธเจ้า
- ความงมงาย
2.พระสกทาคามี
ผู้กลับมาเกิดอีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ก่อนจะบรรลุอรหันต์
ละกิเลสเบื้องต้นได้3อย่าง และ
ยังทำให้กิเลสอย่างกลางนั้นเบาลง คือ
- กามอารมณ์
- ความพยาบาท ความกระทบกระทั่งในใจ
3.พระอนาคามี
ผู้เกิดในพรหมโลกอีก
เพียงครั้งเดียวก่อนบรรลุอรหันต์
ละกิเลสเบื้องต้นและกลางได้แต่
- ยังพอใจในการเวียนว่ายตายเกิดอยู่
- ยังสนใจในความรู้อยู่
- สำคัญตนว่าเป็นพระอนาคามี
- ยังมีความฟุ้งซ่านในจิตใจ
มีสติอยู่ แต่ไม่ตลอดเวลา
- ยังมีอวิชา คือ ความไม่รู้แจ้งอยู่
4.พระอรหันต์
อะ แปลว่า ไม่
รหันต์ แปลว่า หมุนกลับ
รวมแล้วแปลว่าผู้ไม่หมุนกลับ คือไม่กลับมาเกิดอีก
ผู้ซึ่งละกิเลสทั้งปวงได้แล้ว และ มีสติอยู่ตลอดเวลา
ผู้แน่นอนว่าจะได้เป็นอรหันต์(อริยบุคคล4)
คือผู้ไม่ตกนรกแน่นอน 100%
ละกิเลสเบื้องต้นได้3อย่าง
- ความยึดถือว่าตัวตนนี้เป็นของเรา
- ลังเล สงสัยในพระธรรม
คำสอนของพระพุทธเจ้า
- ความงมงาย
2.พระสกทาคามี
ผู้กลับมาเกิดอีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ก่อนจะบรรลุอรหันต์
ละกิเลสเบื้องต้นได้3อย่าง และ
ยังทำให้กิเลสอย่างกลางนั้นเบาลง คือ
- กามอารมณ์
- ความพยาบาท ความกระทบกระทั่งในใจ
3.พระอนาคามี
ผู้เกิดในพรหมโลกอีก
เพียงครั้งเดียวก่อนบรรลุอรหันต์
ละกิเลสเบื้องต้นและกลางได้แต่
- ยังพอใจในการเวียนว่ายตายเกิดอยู่
- ยังสนใจในความรู้อยู่
- สำคัญตนว่าเป็นพระอนาคามี
- ยังมีความฟุ้งซ่านในจิตใจ
มีสติอยู่ แต่ไม่ตลอดเวลา
- ยังมีอวิชา คือ ความไม่รู้แจ้งอยู่
4.พระอรหันต์
อะ แปลว่า ไม่
รหันต์ แปลว่า หมุนกลับ
รวมแล้วแปลว่าผู้ไม่หมุนกลับ คือไม่กลับมาเกิดอีก
ผู้ซึ่งละกิเลสทั้งปวงได้แล้ว และ มีสติอยู่ตลอดเวลา