จาก "เด็กพิเศษ" ไม่มาก จะกลับเข้าสู่ภาวะเด็กปกติ

สืบเนื่องจาก กระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/32396067 และ http://ppantip.com/topic/33263961

จากกระทู้ที่ 2 ก็ประมาณ ปีกว่า

วันนี้ผมจะมาเล่าต่อ

หลังจากพบคุณหมอ เมื่อเดือนเมษายน 2558 ที่ผ่านมา กับความเครียดที่ลูกจะต้องเข้า ป.1 ทำให้ผมต้องปรึกษาหมอหลายเรื่อง
โดยเฉพาะเรื่องของระบบการเรียนในโรงเรียนปกติ ซึ่งผมเองมีความกังวลใจมาก ว่าจะเรียนไดหรือไม่ เนื่องจาก น้องดูเหมือนเด็กปกติ
ซึ่ง โรงเรียนของลูกผม มีแค่ระดับชั้นอนุบาล และมันถือเป็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตหรือกิจวัตรประจำวันเลย ในการย้ายโรงเรียนไปในระดับที่สูงขึ้น
ซึ่งผมกังกลมากๆ ถึงมากที่สุด

ซึ่งหลังจากหมอ ทำสอบพัฒนาการแล้ว หมอก็แจ้งว่า เกณฑ์การพัฒนาค่อนมาในทางปกติ จะมีแค่บางเรื่อง ที่ยังไม่ได้มากนักแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เช่น เรื่อง การถามตอบ ในเชิง ต้องคิด หรือ ความเชื่อมโยง เช่น ฝนตก ต้อง ทำอะไร (กางร่ม หรือ เข้าบ้าน เป็นคำตอบของน้อง) ซึ่งคำถามประมาณนี้ น้องจะตอบ
ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ไม่เป็นประเด็น หมอ test ต่างๆ ก็ ดูเหมือนไม่มีอะไร
หมอถามมาคำหนึ่ง ซึ่งหมอ ก็ เป็นหมอพัฒนาการน่าจะดูรู้ พ่อดูเครียดนะครับ มีอะไรต้องการถามหมอเป็นพิเศษไหม

ผมก็บอกหมอว่า ผมกังวลเรื่องการเรียนของลูก เนื่องจากในระดับ อนุบาล โรงเรียนที่ลูกเรียนเป็นโรงเรียนบ้านๆ เขาดูแลดีครับ ให้ความใส่ใจ แต่
ทีนี้โรงเรียนนี้ มีแค่อนุบาล ทำให้ต้องหาโรงเรียนระดับประถมศึกษา ที่ มองไว้หลายที่  ซึ่งพอพูดมา
หมอก็บอกว่า หมอไม่กังวลว่า น้องจะเรียนโรงเรียนปกติไม่ได้ เพราะหมอมองว่าเรียนได้เลยหละครับ
แต่ ผมก็คิดในใจว่า หมอเจอน้องแค่ นี้ หมออจประเมินได้ ไม่มากนัก ก็เลยถามหมอว่า ถ้าจะเรียน แบบเด็กพิเศษ จะเป็นอย่างไร
หมอก็แจ้งว่า ถ้าเรียน แบบเด็กพิเศษ ต้อง ให้เด็กเน้นที่โรงเรียนที่เรียนรวม ทุก class อย่างแยก มิฉะนั้น น้องอาจถอยหลัง
ซึ่งก่อนกลับ ผมขอใบรับรองแพทย์ของหมอ เพื่อ กรณีเหตุฉุกเฉินในการสมัครเรียน สำหรับเด็กพิเศษของลูกผมจะได้ไม่มีปัญหา

หลังจากกลับมา ก็มานั่งครุ่นคิดว่าจะเรียนที่ไหนดี ก็ พาน้องไปดูหลายโรงเรียน หาโรงเรียนเอกชนก็เยอะ
ในส่วนของโรงเรียนเอกชน อาทิ โรงเรียนพันธะศึกษา โรงเรียนอุดมศึกษา ก็ได้ไปสอบถาม เขาก็บอกว่ารับ แต่ต้องขอดูน้องก่อน
ซึ่งเราไม่ได้พาน้องไป แค่ไปถามๆ ดู

ส่วนโรงเรียน รัฐบาล ก็ มีสมัคร สาธิต รามคำแหง (เด็กพิเศษ) ที่แรกเลย เนื่องจากมีโปรแกรมเด็กพิเศษ
ส่วน โรงเรียนพญาไท ก็มีการรับสมัคร เด็กพิเศษ แต่ อันนี้ แยกเรียนเป็นการเฉพาะ แต่ไม่ได้ไป

และก็พาไปดูโรงเรียนของพี่สาว พระาม 9 กาญจนภิเษก และโรงเรียนพระยาประเสริฐฯ
เรื่องโรงเรียนขอพักไว้ก่อน

มาต่อเรื่อง สาธิตราม เนื่องจากเป็นที่แรกที่เปิดก็พาน้องไปสมัคร พร้อมกับแนบใบรับรองแพทย์ เพื่อเข้าโครงการเด็กพิเศษ
ประกาศผู้มีสิทธิสอบ จำนวนไม่มาก มีประมาณไม่ถึง 20 คน แต่เอาประมาณ 9 คนได้มั้งครั้บ
วันที่สอบก็พาน้องไปส่งได้แค่หน้าประตูโรงเรียน เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้ไปสอบ ดินสอ ดินสอสี ปากกายางลบ ต่างๆ
พอประมาณ 11 โมงก็สอบเสร็จ ก็มารับลูกที่หน้าโรงเรียน
พอเห็นเสื้อลูกดำๆ ก็ถามว่า เมื่อเช้าหนูร้องไห้หรอครับ
ลูกตอบว่า ใช่ ถามต่อทำไมหละ  ก็หนูจะดูการ์ตูน แต่ครูมาเรียกให้ขึ้นห้อง หนูอยากดู
แลวหนูขึ้นห้องไหม เขาก็ตอบว่า ขึ้น

ปล ทั้ง เด็กปกติและเด็กพิเศษ เขาจะเปิด ตูน ให้ดู หากเรียกแล้วไม่ขึ้นห้อง ก็ ตก เลยครับ

ถามลูกว่า หนูสอบอะไร ลูกตอบมาว่า เขาให้หนูเรียนหนังสือ
แล้วมีอะไรอีก
เขาให้หนูเขียน ชื่อ ตัวเลข ก-ฮ และก็เรียนหนังสือ วาดรูป
แล้วหนูนั่งเรียนไหม
หนูนั่งเรียน แต่มีเพื่อนหนูลุกเดิน แต่ครูไม่ว่า
ผมก็เลย อนุมานเอาได้ว่า เขาจะเอาเด็กที่พอ control ได้ พอรู้เรื่อง (สำหรับเด็กพิเศษ) ครับ

ประกาศผลมาสอบติดครับ เหลือสัมภาษณ์ วันสัมภาษณ์
มา ก็ เข้าไปในห้องสัมภาษณ์ ผอ.โรงเรียน สัมภาษณ์เอง ซึ่งผมก็บอกลูกผมว่า ถ้าครูมาเรียก ให้ไปนะครับ ครูมีของให้เล่น 555
ถ้าเรียกแล้วเด็กต้องไป จากผู้ปกครอง (ถ้าเด็กไม่ไป หรือร้องไห้ก็ตก)
เข้าไปในห้อง ก็ คือ ถามเรืองทั่วไป ตอนแรกเขาจะให้เด็กนั่งกับ ผู้ปกครองก่อน
ซึ่งมีเก้าอี้ 3 ตัว พ่อ ลูก แม่ ต้องนั่งคนละตัว และวันสัมภาษณ์ต้องไปทั้งพ่อและแม่

น้องเข้าไปก็ จะนั่งกับแม่ ทาง ผอ.ก็บอกว่าไม่ได้ ต้องนั่งที่ของตัวเอง น้องก็ยอมนั่งนะครับ แต่นั่งแบบไม่เต็มใจ นั่งหันเฉียงๆ 555
พอสักพัก ก็ถาม ชื่อไร น้องก็ตอบ ...  ชื่อจริง นามสกุลอะไร ... ตอบชื่อจริง
ผอ. ไม่เอา เอานามสกุล น้องก็ ชื่อจริง นามสกุล  ถามชื่อเล่น ก็ตอบชื่อเล่น
ถามว่าอยากเรียนทีนี่ไหม ... น้องนิ่ง แต่ ผมกับแม่ได้ยินน้องก้มหน้า ตอบว่า ไม่ 5555
แล้วสักพักครูก็มาเอา ไป

พ่อแม่ก็นั่งคุบก็คุยเรื่องทั่วไป ลูกเปนยังไง ตอนนี้ฝึกแบบไหน ... ไปเรื่อยๆ
ที่คุณพ่อแม่ฝึกอยู่เรามีหมดหละ เราจะเสริมให้ด้วย
และ พ่อแม่ต้องมีเวลา เพราะเราทำตารางเรียน แบบ individual
พ่อแม่คุยเสร็จออกก่อน
ลูก test อยู่ หลังลูกออกมา ก็ถามว่า เขาให้ทำไร
เขียนเลข เขียน ก-ฮ วาดรูป เรียงบล๊อก

ผลสอบประกาศ ติดครับ แต่ เลือกที่จะไม่เรียน เพราะระบบการเรียนเป็นแบบแยกส่งเด็กขึ้นไปเรียนเฉพาะวิชาที่พร้อม
ไม่เหมือน พวกสาธิต จุฬา หรือ มศว ที่ส่งขึ้นไปรวมเลย ซึ่งผมกลัวถอยหลัง

น้องก็เรียนจนจบ อ.3 ได้ทำกิจกรรมกีฬาสี เป็นนักวิ่งผลัด
รับบัณฑิตน้อยได้โดยไม่มีปัญหา ระหว่างนั้นก็หาโรงเรียนต่างๆ

ทีนี้ไม่เอา สธ ราม  แล้วเอาที่ไหน หละ ก็พาไปหลายโรงเรียนนะครับ ถามจะเรียนโรงเรียนนี้ไหม
อุดมศึกษา ไม่เอา
ราชวินิต แบบปกติ ก็ ไม่เอา (พาไปสอบ eng pro ด้วย ไม่ได้คิดว่าต้องติด แต่ให้รู้วิธีการ และเรียนรู้เข้าสังคม ในวันไปสอบก็ต้องเข้าแถว ขึ้นห้องไปกับเพื่อนๆ เอง ไปนั่งสอบเอง ต้องรอสอบเสร็จ แล้วลงมา พ่อแม่รับ) และก็สมัครแบบปกติไว้ แต่มาจับสลากไม่ทัน จับวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน ผมเข้าใจว่า สพฐ คงกัน ผู้ปกครองวิ่งรอก
พระราม 9 กาญจนภิเษก ไม่เอา
พาไปพระยาประเสริฐ ป๊า หนูจะเรียนโรงเรียน นี้ ทำไมหละ หนูชอบ ผมหละ งง

โรงเรียนนี้ ไม่มีสอบ ครับ แต่มีจับสลาก เหมือนราชวินิต
ก็พาไปสมัคร ครับผม วันสมัคร ก็ รับสมัคร และมีการ test เด็กด้วย
โดยการแยกเด็กไป ให้เด็กปฏิบัติตามคำวั่ง และอ่านหนังสือ ซึ่งตรงนี้ไม่มีปัญหา

วันจับสลาก หุหุ เอาประมาณ 70 คน คนสมัครประมาณ 120 คน
โรงเรียนจับสลากโดยการ มอบโชค คือ ให้เพื่อน จับให้เพื่อน

คนแรก ผอ.จับ ได้เด็ก (คนแรกถือว่าได้) เด็กคนแรกจับ ได้คนที่สอง (คนที่สอบได้) คนที่สองจับ ส่งต่อไปเรื่อยๆ
น้องโวยวายเมื่อไรจะมีชื่อหนูอะป๊า เราก็บอกว่า ก็เพื่อนไม่จับชื่อหนูขึ้นมา
พอพูดยังไม่ทันขาดคำ เด็กชาย ... ป๊า ชื่อหนู เป็นคนที่ 11

เสร็จสม ได้เรียนเป็นที่เรียบร้อย
ก็ไปปรับตัวเรียน summer (ไม่ได้บังคับเรียน แต่ผมต้องการให่ลูกได้ปรับตัวกับโรงเรียนใหม่) ก็เรียนได้ไม่มีปัญหาแต่ประการใด

พอเปิดเทอม ในวันแรก ผมไปส่งเอง ผมก็บอกเขาว่า มาถึงแล้วหนูก็เอากระเป๋าขึ้นไปบนห้อง
รอครู ส่งเรียบร้อย และบอกครูว่า ลูกผมพิเศษหน่อยนะครับ
วันนี้ ครูพาไปเข้าแถวที่สนาม
และก็สั่งว่า ตอนกลับ เดี๋ยวลุงหมอ (คนรถตู้ขึ้นมารับหนูนะ)

พอวันที่ 2 เขานั่งรถตู้ ที่ผมห่วง ก็ คือ การขึ้นรถ ปกติเด็กปกติเราก็ห่วงอยู่แล้ว ลูกเราเป็นแบบนี้ ยิ่งห่วงใหญ่
ก็แอบตามไปดูที่โรงเรียน พอเขามาถึงโรงเรียน ด้วย ความที่เขาไม่รู้ว่า เขาต้องไปไหน เขาก็ไปยืนดูบอร์ดอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็เหมือนไปไม่ถูก
เราก็รู้เรา เขาใช้ชีวิตไม่ได้ เลยเดินเข้าไป เขาเห็นก็ยิ้ม
เราก็บอกว่า หนูต้องเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้อง ถ้าหนูหิว หนูก็มาซื้อของกินที่โรงอาหาร (ผมให้เงินวันละ 20 บาท)  
และพอดีเพลงขึ้น เราก็บอกว่า ถ้าได้ยินเพลงหนูก็เตรียมตัวไปเข้าแถว เราบอกให้เอาขยะที่กินเหลือไปทิ้ง ปรากฎว่า หายไปเลย
เดินขึ้นไปที่ห้องก็ไม่มี เลยเดินไปดูที่สนาม ปรากฎว่า ไปรอที่โน่น เราก็เลยเรียกบอกว่า ทุกวันจะเข้แถวที่ห้อง ถ้ามีอะไรเดี๋ยวครูจะพาลงมาเอง
ผมกลับ ตอนเย็นแอบมาดู ขึ้นรถโรงเรียนกลับบ้าน ก็ปกติไม่มีอะไร

วันที่ 3 แอบไป ดู วันนี้ ก็ดู ลูกมา เอากระเป๋ามาวางที่โรงอาหาร แล้วก้วิ่งไปซื้อขนมหยิบ 2 อย่าง ตังส์ไม่พอ ก็ เลยคืนแม่ค้าไปอย่างหนึาง
ดันหันมาเห็น ถูกลูกจับได้ 555

วันที่ 4 แอบไปดู วันนี้ ก็เหมือนเมื่อวาน และเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ แอบตาม ขึ้นไปดูที่ห้อง ปรากฎว่า ok
ผมแอบมาดูตอนเย็น ด้วยก็ไม่มีไร

วันที่ 5 ตอนเย็นผมมา ถามครูบอกว่า  ลูกผมเป็นอย่างไร บ้าง ครูบอก ปกินะ เด็กที่บอกว่า ปกติ ยังซนกว่าเลย

หลังจากเปิดเทอมไม่นาน ผมมีนัดพบหมออีกครั้ง หมอ tset พร้อมกับบอกว่า
ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ คุณพ่อแม่ มีอะไรอยากใส่ให้เขาใส่ได้เลย

จนผ่านไป 1 เทอม งานที่มอบหมาย ลูกผมทำได้ ครบ อ่านออกเขียนได้ อย่างดี
แม้มีงอแงบ้างในบางครั้ง แต่ผมก็ถือว่า ผมมาไกลละ เขาเกือบสมบูรณ์ในแบบที่ควรจะเป็นละ

ในเดือนตุลาคม นี้เขาจะต้องพบแพทย์ อีกครั้งหนึ่ง ก็จะดูว่าหมอจะว่าอย่างไร

ขอบคุณทุกท่านที่อ่าน อยากแบ่งปัน ให้กับทุกท่าน ที่มีลูกแบบพิเศษ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่